จากที่คนพวกนี้ เคยแสดงตนในช่วงแรกๆ ว่า ร๊ากกกกกกกกกกกกก อรรถกถาจารย์ เหลือเกิน
แต่ในช่วงหลังๆ ดูเหมือนจะไม่ค่อย "แฮปปี้" กับหลักฐานชั้นอรรถกถา กันสักเท่าไรเลย นะครับ
เหตุผลก็มีเพียงประการเดียว กล่าวคือ หลักฐานชั้นอรรถกถา ดันไปขัดแย้ง กับ อัตตโนมัติของพวกมัน น่ะสิ !
ดังเช่นในกรณีที่ อรรถกถาจารย์ระบุอย่างชัดเจนว่า อนาคามี ที่จะไปเกิดใน พรหมโลกชั้นสุทธาวาสได้ จะต้องเป็นผู้ที่เจริญ "ฌาน ๔" แล้วเท่านั้น
ซึ่งขัดกับ อัตตโนมัติ ของคนพวกนี้ ที่ดื้อด้าน และ ดึงดันมาโดยตลอดว่า อนาคามี ไม่ต้องมีฌาน ไม่ต้องได้ฌาน ก็ไปสุทธาวาสได้
แต่ครั้นจะปฏิเสธอรรถกถาจารย์ ตรงๆ ก็กลัวจะเสีย "ภาพลักษณ์" ที่อุตส่าห์สร้างสมกันมานาน
คราวนี้ "หวย" ก็เลยมาตกอยู่ที่ ผู้แปล แบบเต็มๆ ด้วยข้อหา ...... แปลเกิน ! (กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกก)
*****************************************************************************************
ก็ขออนุญาต "บอก" เอาไว้เสียตรงนี้เลยว่า ผู้แปล เขาไม่ได้ แปลผิด หรือ แปลเกิน อะไรหรอกนะครับ
อรรถกถาจารย์ ท่านกล่าวเอาไว้อย่างนั้นจริงๆ เรื่องนี้ ท่านปยุตโต สามารถ "ยืนยัน" ได้
ท่าน ปยุตโต ได้กล่าวอธิบายถึงเรื่องนี้ เอาไว้ว่า ...............
(๑) คัมภีร์ฝ่ายอภิธรรม กล่าวว่า อนาคามี สิ้นชีพ จะไปเกิดใน สุทธาวาส
(๒) โดยในชั้นฏีกา ระบุว่า เกิดตรงกับภูมิแห่งฌานที่ตนได้ และจัก สุทธาวาสว่าเป็นภพระดับจตุตถฌาน(ฌาน ๔)
.
.
.
แต่ประเด็นปัญหา ก็คือ แล้ว อนาคามีที่เป็นพวกวิปัสสนายานิก ซึ่งไม่ได้ฌาน ๔ หากตายจะไปเกิดในสุทธาวาสได้อย่างไร ?
ฎีกาของสังคหะ อธิบายว่า เมื่อถึงเวลาตาย สมาบัติ(หมายถึง ฌาน ๔) จะเกิดขึ้นได้เอง !
.
.
.
ถามว่า มติของฎีกาจารย์ พอรับฟังได้ไหม ?
ตอบว่า ฟังไม่ขึ้น เพราะว่ามติดังกล่าวไปขัดกับ พุทธพจน์จาก ฌานสูตร ซึ่งพระพุทธเจ้า ตรัสว่า อนาคามี ผู้ได้ฌาน ๑ ๒ ๓ และ ๔
จึงจะไปเกิดในสุทธาวาสได้ และที่สำคัญ ก็คือ ท่านปยุตโต อธิบายต่อไปอีกว่า ในกรณีนี้นี่เอง ที่อรรถกถาจารย์ ระบุว่า ........
"พระอนาคามีเหล่านั้นเจริญจตุตฌานได้แล้ว จึงอุบัติ"
.
.
.
กล่าวโดยสรุป ก็คือ อรรถกถาจารย์ กล่าวอย่างนี้จริงๆ ว่า ...........
"บุคคลผู้ดำรงอยู่ในชั้นสุทธาวาสนั้น ต้องเจริญจตุตถฌานแล้ว จึงจะเกิดขึ้น"
ดังนั้น กรณีนี้ จึงไม่มีการแปลผิด ไม่มีการแปลเกิน และไม่มีการ "เพิ่มเติมเข้ามา" โดยผู้แปล(ไทย) ตามที่นายนั่น กล่าวหา นะครับ !
*****************************************************************************************
ที่นี้ จะเอาอย่างไรดีครับ ?
(๑) ตามคำอธิบายของท่านปยุตโต ก็คือ ถ้าถือเอาพระบาลีพุทธพจน์เป็นหลัก หลักฐาน ก็ชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง กล่าวคือ
พระพุทธเจ้าตรัสว่า อนาคามี ผู้ได้ ฌาน ๑ - ๔ ตายไปแล้วจึงไปเกิดในพรหมโลกชั้นสุทธาวาส
(๒) แต่หลักฐานในชั้นอรรถกถา กล่าวแย้งว่า ต้องเจริญ ฌาน ๔ จึงจะไปเกิดได้
ชาวพุทธเถรวาท จะเชื่ออรรถกถาจารย์ ไหมล่ะ ?
(๓) ที่นี้ ปัญหา ของนายล็อกอินตัวเลข คนนี้ ก็คือ แล้วโยคาวจรฝ่ายวิปัสสนายานิก จะได้ ฌาน ๔ ในขณะกำลังจะตาย ได้อย่างไร ?
พระพุทธศาสนา เป็นคำสอนที่มุ่งแสดงเหตุผล ด้วยปัญญาว่า เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี ฯลฯ แต่อัตตโนมัติของนายคนนี้ และ ฎีกาจารย์
กลับกล่าวในทางตรงข้ามว่า มีบางสิ่งบางอย่าง เช่น ฌาน ๔ สามารถเกิดขึ้นได้ "ลอยๆ" โดยไม่ต้องมีเหตุปัจจัยอะไร
อัตตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นของนายคนนี้ หรือ ของฎีกาจารย์ ก็ตาม หากปรากฏว่า ขัด หรือ แย้ง กับพระบาลีพุทธพจน์
แล้วเราในฐานะที่เป็นชาวพุทธเถรวาท จะรับเชื่อไปได้อย่างไรกันครับ ?
จนแม้แต่มติของอรรถกถาจรย์เอง ก็เถิด ถ้าหากปรากฏว่าขัดแย้งกับพุทธพจน์ ขึ้นมา
ก็เป็นตัวของท่านเองนั่นแหละ ที่กล่าวอย่างชัดเจนว่า .......
(๑) สุตตะ ใครๆ คัดค้านไม่ได้
(๒) เมื่อคัดค้านสุตตะนั้น ก็เท่ากับคัดค้าน พระพุทธเจ้า ด้วย !
ยังมีผู้ที่อวดอ้างตนว่าเป็น ชาวพุทธเถรวาท คิดจะคัดค้าน "สุตตะ" ในกรณีนี้ อยู่อีกหรือไม่ครับ ?
อรรถกถาจารย์อธิบายผิด หรือ ผู้แปลไทย เฟ้อเกิน ?
แต่ในช่วงหลังๆ ดูเหมือนจะไม่ค่อย "แฮปปี้" กับหลักฐานชั้นอรรถกถา กันสักเท่าไรเลย นะครับ
เหตุผลก็มีเพียงประการเดียว กล่าวคือ หลักฐานชั้นอรรถกถา ดันไปขัดแย้ง กับ อัตตโนมัติของพวกมัน น่ะสิ !
ดังเช่นในกรณีที่ อรรถกถาจารย์ระบุอย่างชัดเจนว่า อนาคามี ที่จะไปเกิดใน พรหมโลกชั้นสุทธาวาสได้ จะต้องเป็นผู้ที่เจริญ "ฌาน ๔" แล้วเท่านั้น
ซึ่งขัดกับ อัตตโนมัติ ของคนพวกนี้ ที่ดื้อด้าน และ ดึงดันมาโดยตลอดว่า อนาคามี ไม่ต้องมีฌาน ไม่ต้องได้ฌาน ก็ไปสุทธาวาสได้
แต่ครั้นจะปฏิเสธอรรถกถาจารย์ ตรงๆ ก็กลัวจะเสีย "ภาพลักษณ์" ที่อุตส่าห์สร้างสมกันมานาน
คราวนี้ "หวย" ก็เลยมาตกอยู่ที่ ผู้แปล แบบเต็มๆ ด้วยข้อหา ...... แปลเกิน ! (กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกก)
*****************************************************************************************
ก็ขออนุญาต "บอก" เอาไว้เสียตรงนี้เลยว่า ผู้แปล เขาไม่ได้ แปลผิด หรือ แปลเกิน อะไรหรอกนะครับ
อรรถกถาจารย์ ท่านกล่าวเอาไว้อย่างนั้นจริงๆ เรื่องนี้ ท่านปยุตโต สามารถ "ยืนยัน" ได้
ท่าน ปยุตโต ได้กล่าวอธิบายถึงเรื่องนี้ เอาไว้ว่า ...............
(๑) คัมภีร์ฝ่ายอภิธรรม กล่าวว่า อนาคามี สิ้นชีพ จะไปเกิดใน สุทธาวาส
(๒) โดยในชั้นฏีกา ระบุว่า เกิดตรงกับภูมิแห่งฌานที่ตนได้ และจัก สุทธาวาสว่าเป็นภพระดับจตุตถฌาน(ฌาน ๔)
.
.
.
แต่ประเด็นปัญหา ก็คือ แล้ว อนาคามีที่เป็นพวกวิปัสสนายานิก ซึ่งไม่ได้ฌาน ๔ หากตายจะไปเกิดในสุทธาวาสได้อย่างไร ?
ฎีกาของสังคหะ อธิบายว่า เมื่อถึงเวลาตาย สมาบัติ(หมายถึง ฌาน ๔) จะเกิดขึ้นได้เอง !
.
.
.
ถามว่า มติของฎีกาจารย์ พอรับฟังได้ไหม ?
ตอบว่า ฟังไม่ขึ้น เพราะว่ามติดังกล่าวไปขัดกับ พุทธพจน์จาก ฌานสูตร ซึ่งพระพุทธเจ้า ตรัสว่า อนาคามี ผู้ได้ฌาน ๑ ๒ ๓ และ ๔
จึงจะไปเกิดในสุทธาวาสได้ และที่สำคัญ ก็คือ ท่านปยุตโต อธิบายต่อไปอีกว่า ในกรณีนี้นี่เอง ที่อรรถกถาจารย์ ระบุว่า ........
"พระอนาคามีเหล่านั้นเจริญจตุตฌานได้แล้ว จึงอุบัติ"
.
.
.
กล่าวโดยสรุป ก็คือ อรรถกถาจารย์ กล่าวอย่างนี้จริงๆ ว่า ...........
"บุคคลผู้ดำรงอยู่ในชั้นสุทธาวาสนั้น ต้องเจริญจตุตถฌานแล้ว จึงจะเกิดขึ้น"
ดังนั้น กรณีนี้ จึงไม่มีการแปลผิด ไม่มีการแปลเกิน และไม่มีการ "เพิ่มเติมเข้ามา" โดยผู้แปล(ไทย) ตามที่นายนั่น กล่าวหา นะครับ !
*****************************************************************************************
ที่นี้ จะเอาอย่างไรดีครับ ?
(๑) ตามคำอธิบายของท่านปยุตโต ก็คือ ถ้าถือเอาพระบาลีพุทธพจน์เป็นหลัก หลักฐาน ก็ชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง กล่าวคือ
พระพุทธเจ้าตรัสว่า อนาคามี ผู้ได้ ฌาน ๑ - ๔ ตายไปแล้วจึงไปเกิดในพรหมโลกชั้นสุทธาวาส
(๒) แต่หลักฐานในชั้นอรรถกถา กล่าวแย้งว่า ต้องเจริญ ฌาน ๔ จึงจะไปเกิดได้
ชาวพุทธเถรวาท จะเชื่ออรรถกถาจารย์ ไหมล่ะ ?
(๓) ที่นี้ ปัญหา ของนายล็อกอินตัวเลข คนนี้ ก็คือ แล้วโยคาวจรฝ่ายวิปัสสนายานิก จะได้ ฌาน ๔ ในขณะกำลังจะตาย ได้อย่างไร ?
พระพุทธศาสนา เป็นคำสอนที่มุ่งแสดงเหตุผล ด้วยปัญญาว่า เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี ฯลฯ แต่อัตตโนมัติของนายคนนี้ และ ฎีกาจารย์
กลับกล่าวในทางตรงข้ามว่า มีบางสิ่งบางอย่าง เช่น ฌาน ๔ สามารถเกิดขึ้นได้ "ลอยๆ" โดยไม่ต้องมีเหตุปัจจัยอะไร
อัตตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นของนายคนนี้ หรือ ของฎีกาจารย์ ก็ตาม หากปรากฏว่า ขัด หรือ แย้ง กับพระบาลีพุทธพจน์
แล้วเราในฐานะที่เป็นชาวพุทธเถรวาท จะรับเชื่อไปได้อย่างไรกันครับ ?
จนแม้แต่มติของอรรถกถาจรย์เอง ก็เถิด ถ้าหากปรากฏว่าขัดแย้งกับพุทธพจน์ ขึ้นมา
ก็เป็นตัวของท่านเองนั่นแหละ ที่กล่าวอย่างชัดเจนว่า .......
(๑) สุตตะ ใครๆ คัดค้านไม่ได้
(๒) เมื่อคัดค้านสุตตะนั้น ก็เท่ากับคัดค้าน พระพุทธเจ้า ด้วย !
ยังมีผู้ที่อวดอ้างตนว่าเป็น ชาวพุทธเถรวาท คิดจะคัดค้าน "สุตตะ" ในกรณีนี้ อยู่อีกหรือไม่ครับ ?