อิสรภาพ นกเขา

อิสรภาพนกเขา

ภาพพระภิกษุล่วงเลยวัยกลางคนรูปหนึ่ง นั่งเหม่อมองเพดานเลื่อนลอยเนิ่นนาน เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างเงียบๆ ไม่ได้ละเลยไปจากสายตาของหญิงทำความสะอาดคนหนึ่ง

ข้าวในจานที่จัดเตรียมให้ เพิ่งแหว่งไปเพียงนิดเดียว แต่พระภิกษุรูปนั้นก็ยังคงนั่งอยู่ในท่าเดิม ไม่มีทีท่าว่าจะใส่ใจกับข้าวในจาน

ร่วมเดือนมาแล้วที่เธอสังเกตเห็นอาการเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง จนชินตา แต่ด้วยความยำเกรง ต่อฐานะและยศศักดิ์ ทำให้เธอไม่กล้าที่จะเอ่ยปากถาม และไม่กล้าพูดกับใคร ระยะหลังยิ่งหนักมาก

กุก กุก จุ๊กกรู กุก กุก กุก

ผูก ผูกคอตาย

ผูก ผูกคอตาย

ผูก ผูกคอตาย

เสียงนกเขาในกรงที่เคยขับขานด้วยน้ำเสียงไพเราะจับใจ จนทำให้พระภิกษุในวัยกลางคนเคลิบเคล้ิม ลืมกิจสงฆ์ทุกประการในพระอาราม

วันนี้กลับเปลี่ยนไป กลายเป็นเสียงที่น่าสยดสยอง ชวนขนลุก ทำให้พระภิกษุรูปนั้นสะดุ้งจากภวังค์ มองไปที่กรงนกเขา

"เราเป็นถึงชั้นพรหม จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะหูฟาดฟั่นเฟือนไป" พระพรหมสุธีคิด พยายามสะกดใจเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ

ผูก ผูกคอตาย

ผูก ผูกคอตาย

ผูก ผูกคอตาย

แว่วเสียงนกเขา ยิ่งตั้งใจฟัง ยิ่งแจ่มชัดขึ้น

ทำไมนกเขาขันเช่นนี้ ก็เมื่อวานยังขัน "จุ๊กกรู กุก กุก กุก"

นานมากแล้วที่นกเขาเหล่านี้ถูกส่งมาจากทั่วสารทิศของประเทศไทย ภาคกลางบ้าง อีสานก็มาก เหนือก็มี แต่โดยมากมาจากปักใต้ อันเป็นกำนันจากพระครูชั้นเอกบ้าง ชั้นพิเศษบ้าง นกเขาไชยาร้องเพราะไม่แพ้นกเขานราธิวาส พัทลุง สงขลา ก็ใช่เบา บางตัวชมเบื่อ ฟังเบื่อแล้ว ก็จะส่งไปไว้ฟาร์มบ้านสามเรือน บางปะอิน มีคนคอยดูแล มีเงินเดือนให้ อยู่กันเป็นครอบครัว

เหลือนกเขาที่ท่านรักมากที่สุดไว้ที่กุฏิเพียงไม่กี่ตัว

หากวันไหนไม่มีกิจนิมนต์ไปข้างนอกแต่เช้ามืด ก็จะขลุกอยู่กับนกเขา ไม่ใส่ใจความเป็นไปของพระอาราม พระรูปไหนใครจะทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น ทำวัตรค่ำ ใครจะเทศน์วันพระวันเจ้า ก็สุดแต่จะทำจะว่ากันไป



ท่านมีความสุขอยู่กับสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า "นกเขา" วันหนึ่งๆ ก็หมดไป เงินก็มี อำนาจวาสนาก็มาก พระสงฆ์องคเจ้าก็ให้ความนับถือ ญาติโยมก็แหนแห่ ไม่รู้จะทำกิจสงฆ์ไปทำไมอีก

"นกเขา ยิ้มอะไรขันอย่างนั้น"

เสียงหญิงคนงานท่าทางงกเงิ่นคนเดิม บนแบบซื่อๆ ให้เพื่อนคนงานฟัง

"มันเป็น ยิ้มอะไรของมันก็ไม่รู้ อยู่ดีๆ ก็ร้องว่า ผูกคอตาย ผูกคอตาย "

เธอสำทับแบบอารมณ์เสีย

เธอเป็นคนงานเพียงคนเดียวที่เข้าออกทำความสะอาดเก็บกวาดในกุฏิพระพรหมสุธีได้

"พ่อบอกว่า หลายวันมานี่ นกเขามันขันแปลกๆ มันร้องว่า ผูกคอตาย ผูกคอตาย

พ่อเลยปล่อยมันไปหมด แต่ยังเหลือไว้ตัวหนึ่ง

กูถามท่านว่า ทำไมไม่ปล่อยให้หมดละพ่อ ท่านบอกว่า ตัวนี้มันไม่ร้องว่า ผูกคอตาย เหมือนตัวอื่นๆ เลยให้มันอยู่ไปก่อน

พ่อเราทำไมเหม่อมองเพดานนานๆ อย่างนั้นก็ไม่รู้ ข้าวปลาอาหารก็ไม่ใส่ใจ ฉันข้าวเหมือนแมวดม ปล่อยให้มดให้แมงตอมไต่จนน่าเวทนา ไม่รู้จะทำยังไง

ว่าแล้วเธอก็บ่นอุบอิบเดินจากเพื่อนไป.

ปล.อ่านตอนต่อไปได้ที่ เพจ ตีแผ่ความจริง คนไร้คุณธรรม ไร้ความเป็นผู้นำ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่