ขอแบ่งปันประสบการณ์ลดน้ำหนัก จาก 88 กิโลกรัม เหลือ...

กระทู้สนทนา
เห็นหลายท่านแบ่งปันประสบการณ์ลดความอ้วนกัน ก่อนอื่น ต้องขอชื่นชมแและยินดีด้วยอย่างใจจริงค่ะ เพราะการลดความอ้วน ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ความมานะ พยายาม วินัย และใจล้วนๆ

จึงอยากแบ่งปันประสบการณ์ลดความอ้วนของตัวเองบ้าง เผื่อจะเป็นแนวทางใหม่ๆ ให้กับผู้สนใจ อาจจะยาวไปซักหน่อย หวังว่าคงจะทนอ่านกันจนจบนะคะ ^^

เมื่อก่อนนี้เคยพยายามจะลดความอ้วนอยู่หลายครั้ง โดยการหักดิบ คือ โยนขนมนมเนยทุกสิ่งอย่างทิ้งขยะไปให้หมด แต่ก็ทำได้แค่ 1-2 วัน แล้วก็กลับมากินเหมือนเดิม คราวนี้กินหนักขึ้นกว่าเก่าอีกค่ะ 555 เป็นอย่างนี้อยู่หลายปี จนเลิกพยายามไปแล้วก็กลับมามีความสุขกับการกินเหมือนเดิม

จนกระทั่งวันหนึ่ง บริษัทมีการจัดตรวจสุขภาพประจำปี ในเดือนกันยายน 2556 ตอนตรวจเค้าก็จะมีการวัดรอบเอว ส่วนสูง และก็ชั่งน้ำหนักตามปกติ ส่วนสูงที่ได้คือ 161 ซม. แต่รอบเอว 40 นิ้ว น้ำหนัก 88 กิโลกรัม โอ้แม่เจ้า! น้ำหนักจะ 100 กิโลแล้วเหรอเนี่ย ไม่เคยคิดว่าน้ำหนักจะเยอะมากขนาดนี้ จากนั้นก็ตรวจตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ จนถึงขั้นตอนของการพบแพทย์ ครั้งนี้ได้เจอคุณหมอผู้หญิงท่านหนึ่ง อายุประมาณ 70 ปี หน้าตาใจดี ประโยคแรกที่คุยกัน ท่านถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “น้ำหนักเพิ่มจากปีที่แล้วหรือเปล่าคะ” ก็ตอบกลับไปแบบอายๆ ว่า “ค่ะ เพราะอาหารการกินที่นี่ดี 555” แล้วคุณหมอท่านก็พูดด้วยน้ำเสียงห่วงใยกลับมาว่าอยากให้ลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพของตัวเอง แล้วท่านยังบอกอีกว่า “กว่าจะทำน้ำหนักมาได้ขนาดนี้ ต้องใช้เวลา ดังนั้น กว่าจะลดน้ำหนักได้ ก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน” เท่านั้นแหล่ะ น้ำตาซึมเลยค่ะ คิดว่าทำไมตัวเองถึงปล่อยตัวให้อ้วนได้ขนาดนี้ ทำไมไม่รักตัวเองเลย จึงตัดสินใจว่าครั้งนี้จะลดความอ้วนอย่างจริงจัง เลยมาคำนวณว่าเราควรจะลดลงให้เหลือกี่กิโลกรัมดี

เราสูง 161 ซม. ถ้าคำนวณตามมาตรฐานแล้ว ควรจะหนักแค่ 51 ซม. (ส่วนสูง – 110 ซม.) แต่ตั้งใจว่าจะลดน้ำหนักให้เหลือแค่ 55 กิโลกรัม เพื่อจะได้ไม่ดูผอมเกินไปนัก

คราวนี้ก็บอกคนรอบข้างว่าจะลดความอ้วนอย่างจริงจังแล้วนะ คนรอบข้างก็ตอบว่า จะคอยดูว่าจะทำได้สักกี่วัน 555

ได้ยินคำนี้ปุ๊บก็เกิดแรงฮึดเลยค่ะ จากนั้นก็พยายามศึกษาข้อมูลโภชนาการ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย ทางหนังสือและอินเตอร์เน็ต และเริ่มปฏิวัติชีวิตตัวเองใหม่ ดังนี้ค่ะ

1.       พยายามนับจำนวนแคลอรี่ในอาหารที่เรากินแต่ละอย่าง ซึ่งในอินเตอร์เน็ตจะมีบอกหมด โดยพยายามกินให้ได้ 1,500 กิโลแคลอรี่ต่อวัน

2.       ดื่มน้ำเปล่า 1-2 แก้ว ก่อนกินข้าวประมาณ 30 นาที น้ำเปล่าจะช่วยให้เรากินอาหารมื้อนั้นๆ ได้น้อยลง

3.       ลดแป้งและคาร์โบไฮเดรต โดยจะกินข้าวมื้อละ 1 ทัพพี (ยิ่งเป็นพวกข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง ข้าวไม่ขัดสี จะดีมากค่ะ) มื้อไหนที่มีแป้งอยู่ในอาหารแล้ว ก็ไม่ต้องทานข้าวนะคะ เพื่อจะได้ลดปริมาณแป้งลงค่ะ

4.       เน้นโปรตีนเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ เช่น อกไก่ ปลา ไข่ขาว

5.       เน้นผักและผลไม้ที่มีกากใยสูงเพื่อการขับถ่ายที่ดี เช่น แอปเปิ้ล ชมพู่ ฝรั่ง กีวี่ ผักใบเขียว

6.       รับประทานผักให้ครบ 5 สี เพื่อสุขภาพ

7.       ลดของหวานและของทอดให้ได้มากที่สุด ถ้าอยากทานก็สามารถทานได้ แต่ทานแค่พออยากและก็ต้องตัดใจทิ้งไป อย่าเสียดายเงิน เช่น เค้ก 1 ชิ้น ให้ทานแค่ 1 คำแล้วทิ้งไปซะ

8.       ให้ทานอาหารที่ อบ ย่าง ต้ม แทน เพราะอาหารพวกนี้ไม่ใช้น้ำมัน

9.       ขนมขบเคี้ยว สามารถทานได้ แต่ให้ดูตารางแคลอรี่ที่เรากินด้วย สามารถซื้อมาแล้วแบ่งทานได้หลายวัน อย่าทานครั้งเดียวหมดถุง

10.   ถ้าอยากทานพวกผัดผัก ผัดกระเพรา เวลาไปร้านอาหารตามสั่ง ให้บอกคนขายว่าช่วยใส่น้ำมันน้อยๆ เพื่อลดปริมาณไขมัน หรือถ้าอยากทานก๋วยเตี๋ยวแนะนำให้เป็นเส้นหมี่หรือวุ้นเส้นแทนค่ะ

11.   สำหรับท่านที่ชอบดื่มกาแฟสด เช่น คาปูชิโน่เย็น ลาเต้เย็น ในเครื่องดื่มพวกนี้ แคลอรี่และไขมันจะค่อนข้างสูง เนื่องจากจะมีนมข้นหวานและนมข้นจืดเป็นส่วนผสม ถ้าอยากดื่มกาแฟสด สามารถทำได้ โดยการใส่นมสดขาดมันเนยแทน และใส่น้ำตาลแค่ 1 ช้อนชา เพื่อลดปริมาณความหวาน เพียงเท่านี้คุณก็สามารถทานกาแฟสดได้โดยไม่มีไขมันและแคลอรี่ต่ำอีกต่างหาก

12.   งดน้ำอัดลมทุกชนิด ถ้าอยาก ให้ดื่มแค่อึกเดียวแล้วเทที่เหลือทิ้งซะ

13.   นมขาดมันเนยและโยเกิร์ตเป็นตัวช่วยที่ดีในการลดน้ำหนัก แต่ให้ดูแคลอรี่ข้างขวดด้วย พร้อมทั้งเลือกที่เป็น fat 0%

14.   ดื่มน้ำเปล่ามากๆ ให้ได้อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร

15.   อย่าอดอาหารโดยเด็ดขาด ยึดคำกล่าวที่ว่า เช้ากินอย่างราชา กลางวันกินอย่างคนธรรมดา เย็นกินอย่างยาจก ให้แบ่งทานเป็น 5 มื้อได้แก่

a.       มื้อเช้า ทานอาหารหลัก

b.      มื้อสาย ทานผลไม้ เช่น กล้วยหอม กับนม

c.       มื้อเที่ยง ทานอาหารหลัก

d.      มื้อบ่าย ทานผลไม้ เช่น ชมพู่

e.      มื้อเย็น พยายามทานอาหารที่ไม่มีแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต เช่น สลัดไก่ แกงจืด เป็นต้น

16.   อาหารเย็น ให้ทานให้เสร็จช้าสุดไม่เกิน 6 โมงเย็น เพราะเราต้องเผื่อเวลา 3-4 ชั่วโมงในการย่อยอาหารก่อนเข้านอน (ส่วนตัวทานเสร็จตอน 5 โมงครึ่งค่ะ ใช้เวลาเดินทางกลับบ้าน 2 ชั่วโมง กลับไปออกกำลังกายที่บ้านตอนทุ่มครึ่ง ออกเสร็จแล้วก็อาบน้ำนอน)

17.   ออกกำลังกายให้ได้สัปดาห์ละ 3-5 วัน อย่างน้อยครั้งละ 45 นาที - 1 ชั่วโมง เช่น เต้นแอโรบิค เล่นโยคะ

18.   อย่ามัวแต่รอเพื่อนไปออกกำลังกายด้วยกัน เพราะการรอกัน ทำให้ไม่ได้ออกกำลังกายซะที อยากออกกำลังกายก็สามารถเปิดคลิปตาม youtube และเต้นตามคนเดียวได้

19.   ต้องมีความตั้งใจจริง และมีวินัยในตัวเองทั้งการกินและการออกกำลังกาย

20.   นอนพักผ่อนให้เพียงพอ วันละ 8 ชั่วโมง ข้อนี้ สำหรับตัวเองทำได้ยากมากค่ะ เพราะปกตินอนแค่ 5-6 ชั่วโมงเอง แต่ถ้ามีเวลา ก็จะพยายามทำ

จากการปฏิวัติชีวิตในครั้งนี้ ทำให้น้ำหนักปัจจุบันเหลือ 54 กิโลกรัม  รอบเอวตอนนี้อยู่ที่ 27 นิ้ว ใช้เวลาประมาณ 1 ปี (ปัจจุบัน อายุ 34 ปีค่ะ)



รู้สึกเหมือนเป็นคนใหม่เลยค่ะ รูปร่างดีขึ้น แถมสุขภาพก็ดีขึ้นอีกต่างหาก คนที่เคยสบประมาทเรา ตอนนี้เงียบกริบ ส่วนคนที่เคยแซวเราว่าขึ้นลิฟท์แล้วลิฟท์ร้อง ตอนนี้ก็ไม่แซวอีกเลยค่ะ 555

ถึงแม้ว่าตอนนี้น้ำหนักจะได้ตามที่ต้องการแล้ว แต่ก็ยังออกกำลังกายเหมือนเดิมนะคะ แล้วก็กำลังพยายามกระชับรูปร่างให้ดีขึ้นด้วย อาจจะต้องใช้เวลา แต่ก็จะพยายามค่ะ

เรามาพยายามด้วยกันนะคะ เพื่อสุขภาพและรูปร่างที่ดีของตัวเองค่ะ ^^

หวังว่ากระทู้นี้คงจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ

หากท่านใดมีคำแนะนำเพิ่มเติม ยินดีรับฟังเป็นอย่างยิ่งค่ะ ขอบคุณค่ะ ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่