มิติฝันที่ไร้จุดจบ #horror #fantasy ep 1

กระทู้สนทนา
ในตอนนั้นฉันไม่เข้าใจถึงความหมายของความฝันที่ไร้จุดจบ ที่ราวกับจะดึงดูดและกัดกินเราไปทีละน้อยทีละน้อย
ความฝันสำหรับฉันเปรียบเสมือนกับฉากละครในยามที่เราหลับและม่านหมอกสีเทาจางในยามที่เราตื่น มันไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากมายกับชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริงนี้
ความฝันคืออะไร ถ้าไม่ใช่นิยามของ นามธรรมในความคิดของมนุษย์อย่างเราๆ ฉันเข้าใจถูกหรือเปล่า?

ฉันไม่ได้ยึดติดอะไรกับมันเลย จนกระทั่ง

ในบ่ายวันพุธที่ฉันผล็อยหลับบนรถโดยสารประจำทาง ตัวฝันตัวเล็กๆก็เริ่มออกมาสร้างฉากละครออกมาต้อนรับการกลับมาของฉัน

อาจจะเพราะอากาศที่น่านอนหลังฝนตก และฉันเองก็เหนื่อยกับการพรีเซนต์งานที่มหาวิทยาลัยพอดี

เมื่อจิตถูกปลดปล่อย สิ่งนั้นจึงได้เริ่มเรื่องของมัน
ในสำนึกห้วงคิด..
ฉันดำดิ่ง
ลึก
ลึกลงไป
เหมือนเจ้าเด็กอลิศที่ค่อยๆตกลงไปยังหลุมสุญญากาศในโพรงคุณกระต่าย
แต่ฉันแตกต่างกว่าหน่อยตรงที่…

ปลายทางของหลุมเล็กคับแคบที่น่าอึดอัดนั่น ...

ไม่ได้ไปโผล่ในโลกของความฝันสีลูกกวาดสวยงามเหมือนที่คาดไว้
ที่นั่น

มิติระดับที่สามแห่งฝัน



มิติสนิม...




มันไร้ซึ่งมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น
และปราศจากแสงสว่างที่เพียงพอ ทางตรงยาวเหมือนทางเดินในโรงแรมที่รกร้าง บานประตูไม้เล็กเหมือนสมัยยุค80ที่เปิดเรียงรายหลายบานยาวไปจนสุดลูกหูลูกตา มีเพียงตัวอักษรจีนโบราณสีแดงในกระดาษเก่าที่เขียนแปะไว้ตามห้อง ประตูพวกนั้นกินเนื้อที่มาถึงทางเดิน
กระทั่งฉันต้องคอยดันประตูทีละบาน ทีละบาน เพื่อก้าวไปข้างหน้า ไฟที่เปิดสว่างไม่สม่ำเสมอ บรรยากาศที่อับชื้นกับ อุณหภูมิที่ค่อนข้างร้อน ฉันเหมือนจะขาดอากาศในทุกวินาทีที่
ปลายเท้าย่างก้าวไป

ที่นี่ไม่เป็นมิตร มันไม่ใช่แค่สถานที่ทิ้งร้างธรรมดา มันเป็นที่ต้องห้าม ที่ๆไม่ควรจะเข้า ที่ๆราวกับจะเป็นจุดเชื่อมต่อของโลกวิญญาณ จุดก้นลึกแห่งฝันร้ายที่ไม่มีทางออก ที่ๆต้องรีบเร่งออกไปให้เร็วมากที่สุด เท่าที่จะทำได้
ฝีเท้าเร็วเท่าความคิด ฉันออกวิ่ง วิ่งโดยลงน้ำหนักที่ปลายเท้า ให้แผ่วเบาที่สุด เงียบเชียบที่สุด เหมือนโจรที่เขย่งปลายเท้าย่อง
เหมือนแมวที่ค่อยๆวิ่ง
เพราะมีเหตุผลเพียงอย่างเดียวก็คือ
ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเรา... และแน่นอนว่า เราจะปลอดภัยถ้าไม่มีใครรู้ว่าเราอยู่ที่นี่

ฉันไม่ใช่คนประเภทที่ชอบสู้ ฉันไม่ชอบความขัดแย้ง จำความได้ตั้งแต่สมัยประถมที่ฉันมักจะเป็นฝ่ายที่ยอมความไปก่อน (ถ้าไม่นับว่าฉันแอบไปเอาคืนแบบพวกขี้แพ้ชวนตีทีหลังละนะ) นั่นเพราะฉันเลือกที่จะจบปัญหาโดยที่ตัวฉันจะเซฟที่สุด เสียเปรียบน้อยที่สุด

และในชั่ววินาทีที่ฉันแวบไปคิดเรื่องอื่นนั้นเอง…


พรึบ!
พรึบ!!
พรึบ!!!

พรึบ!!!

เกิดอะไรขึ้น!?!

มีบางอย่างเริ่มผิดปกติที่ข้างหลังฉันแน่นอน
ฉันรับรู้ได้ถึงแสงที่ค่อยๆดับไล่ตามหลังฉัน มันเสียงดังเหมือนต้องสับคันโยกปิดอันใหญ่ เสียงเสียดสีของเหล็กก่อนไฟจะดับนั้นทำให้ฉันรู้สึกเหมือนความหวังที่จะพบทางออกนั่นริบหรี่ลงเรื่อยๆ

ใครบางคนอาจรู้การมานี้หรือ
ฉันไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมอง
ความกลัวเริ่มเข้าครอบงำฉันอย่างเงียบเชียบ
บางที ฉันควรจะหยุดวิ่ง…

เมื่อคิดดังนั้นแล้ว ฉันจึงหยุด…
….

ฉันขยับตัวเข้าไปในห้องหนึ่งที่อยู่ใกล้กับฉันทางซ้ายเบอร์ห้องขึ้นต้นด้วยเลข2หรืออย่างไรไม่แน่ใจ ก่อนเข้าฉันเห็นแสงที่สาดเข้าไปในห้องนี้ ฉันมั่นใจอยู่นิดหน่อยว่ามันเป็นห้องโล่งๆที่ไม่มีอะไรนอกจากตู้เก็บรองเท้า โต๊ะและเก้าอี้ตรงมุมห้องที่น่าจะเข้าไปซ่อนได้ ฉันเปิดประตูแง้มเอาไว้ ด้วยความคิดที่ว่า ถ้าฉันจะต้องซ่อน ฉันควรจะทำหน้าประตูให้เหมือนกับบานอื่นๆ เพื่อจะได้ไม่ผิดสงสัย
ไฟดับลงทันทีที่ฉันขยับเก้าอี้ไม้ตัวใหญ่มาบังร่างขณะที่พยายามแทรกตัวเข้าไปในใต้โต๊ะไม้ที่ฝุ่นเขรอะจับกันแน่นหลายชั้น หลังของฉันชิดติดจนแทบจะเข้าไปสิงในกำแพง ฉันสูดลมหายใจให้ได้มากที่สุดเพื่อจะกลั้นเอาไว้อย่างยากลำบาก
ฝุ่นผงนั่นกำลังจะทำให้ฉันจาม ฉันเอามือทั้งสองทาบปิดปากอย่างรุนแรงเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่เริ่มเร่งความเร็วเข้ามา….


มันเดินราวกับไม่ใช่คน!!

เสียงเล็บหรือส้นสูงฉันไม่แน่ใจ มันดังเร็วๆถี่ๆแสบแก้วหู
“ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก”
“ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อ“ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก” ต๊อก”“ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก”“ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก”“ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก กึก!
(อนิจจา)
เสียงที่หยุดอยู่หน้าห้องฝั่งตรงข้ามกับฉัน เสียงหยุดอยู่ตรงนั้น  เสียงมันหยุดลงที่ตรงนั้น…


ฉันรู้สึกได้ถึงกลิ่นลมหายใจที่เหม็นหืน กลิ่นเลือดที่คาวคลุ้ง  มันรุนแรงจนแทบทำลายระบบประสาทสัมผัส ฉันเหลือบตามองผ่านทางรูซีกไม้แคบๆที่แตกออก

แล้วฉันก็ต้องสติแตกอีกครั้ง ฉันเห็นแล้ว ฉันเห็นมัน “มัน”ที่ซึ่งไม่ใช่ทั้งสัตว์ สิ่งของ หรือสิ่งมีชีวิตที่ฉันรู้จักใดใดทั้งสิ้น

ฉันกลัวจนลืมการกรีดร้อง ฉันกลัวจนลืมเรื่องที่จะจามออกมา ราวกับร่างกายฉันกำลังสั่งการหยุดการเคลื่อนไหว การหายใจ  ยกเว้นก็แต่หัวใจเจ้ากรรม ที่เต้นราวกับจะทะลุพุ่งออกมานอกอก ฉันกลัวกระทั่งการที่มันจะได้ยินเสียงหัวใจของฉัน เป็นไปได้ฉันแทบอยากจะหยุดการเต้นของชีพจรเองซะเดี๋ยวนี้


สูง
สูงใหญ่

ร่างกายบิดเบี้ยวเหมือนซากศพที่โดนไฟเผาซ้ำๆ
ปากที่ห้อยย้อยถูกเย็บขึ้นให้ฉีกยิ้มตลอดเวลา

ตาสีขาวเหลืองที่ทะลักออกมานอกเบ้า ปูดโปนน่ากลัว

และหางที่ยาวกับเขาที่งอกจากหน้าผากของหน้า อีกหน้าราวกับสัตว์นรก…

หน้าอีกหน้า ? ฟังไม่ผิดหรอก

สิ่งมีชีวิตที่ฉันกำลังเห็นอยู่นี้
มีหน้าอยู่เป็นสิบๆตามตัว…




ที่นี่คือนรกหรือ และฉันตายไปแล้วใช่ไหม

ถ้ายังไม่ตาย ...


ช่วยฆ่าฉันให้ตายก่อนที่ปีศาจตัวนั้นจะมาพบฉันได้ไหม!?!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่