ใครที่อยู่กับพ่อแม่คงไม่รู้หรอกว่าการที่เราต้องอาศัยอยู่กับญาติๆนั้นเป็นอย่างไร อาจจะไม่ใช่ทุกครอบครัวที่เป็นแบบเรา เเต่ระวังไว้เถอะว่าหากคุณคิดจะเอาลูกไปฝากไว้ที่ใคร ไม่ว่าจะญาติหรืออะไรก็ตาม อาจจะสร้างรอยแผลในใจให้ลูกของคุณตลอดชีวิต
บอกก่อนว่าเราอายุ 21 ปี มีน้องสาวหนึ่งคน ตอนเด็กครอบครัวเรามีความสุขมากเลย พ่อ แม่ ลูก พร้อมหน้าพร้อมตา ทานอาหาร มีเงินใช้ไม่ขาดมือ
พ่อเราทำงานร้านเค้กชื่อดัง ซึ่งเป็นร้านของน้องสาวพ่อ แม่เราขายยำมาม่า ยำวุ้นเส้น อยู่หน้าร้านโดยตั้งรถเข็นขาย มาถึงตอนเราอายุ 11 ปี ก็มีเรื่องราวที่เปลี่ยนชีวิตของเรานั่นก็คือ พ่อเราเสียชีวิต หลังจากพ่อเสียแม่ไม่สามารถเลี้ยงดูทั้งเราและน้องได้ทั้งสองคน (เราเข้าใจและไม่เคยโกรธแม่) แม่จึงต้องฝากเราไว้กับญาติฝ่ายพ่อ ซึ่งมีร้านเค้กที่มีชื่อเสียง ถือว่าร่ำรวย โดยพวกญาติฝ่านพ่อบอกว่า จะส่งเสียเราเรียนเอง อยากเรียนจะให้เรียนจนถึงที่สุด เราคิดว่าโชคดีจังถึงพ่อจะเสียแต่ก็มีญาติดี
และเรื่องมันก็เริ่มตรงนี้แหละคะ
เราย้ายเข้าบ้านของอาซึ่งมีพี่น้องพ่อหลายคน มีป้าสองคน และอาหนึ่งคน ขอเรียกป้าหนึ่งกับป้าสองนะคะ เรานอนห้องเดียวกับป้าสอง ป้าสองไม่มีลูกเลยเลี้ยงเรากับหลานอีกคนพ่อตายเหมือนเราขอเรียกว่า ฟิมนะคะ ป้าสองเลี้ยงเด็กคนนั้นมาตั้งแต่เกิด จึงรักมาก ต่างจากเราที่เพิ่งเข้ามา ไม่ว่าเราจะทำอะไรเหมือนเป็นขี้ข้าของฟิม กินข้าวด้วยกันเราต้องล้างจานให้ฟิมด้วย คอมมีเครื่องเดียวใช้ทำงานทำอะไรก็ต้องแบ่งกันโดยที่เราไม่มีสิทธิ์เล่นหรือแย่งเพราะทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของฟิม ไม่ว่าจะทำอะไรเราจะผิดเสมอไม่ว่าจะเรื่องอะไร แต่ยังดีที่ฟิมอยุ่โรงเรียนประจำจะกลับบ้านเสาอาทิตเท่านั้น ตอนม.1 ฟิม มีแฟนและเริ่มไม่อยากเข้าหอวันจันเพราะเอาโทรศัพท์ไปคุยไม่ได้ ป้าสองโมโหเลยปาโทรศัพท์ฟิมทิ้ง แล้วก็ปาของเราด้วยทั้งๆที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด ป้าสองบอกว่าเดี๋ยวฟิมจะเสียใจ ต้องเท่าเทียม ทีอย่างนี้ละเท่าเทียม ยังไม่หมดแค่นั้น ป้าสองไปพูดกับอาเจ้าของบ้านว่า เราเป็นคนแนะนำ ผช ให้ฟิม เพราะฟิมอยู่โรงเรียนประจำจะรู้จักใครได้ยังไง เราไม่ได้ทำคะ เเต่เราพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ ทุกคนในบ้านมองเราไม่ดีเป็นเด็กใจเเตก ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด ต่อมาไม่นาน เรจะใช้คอมทำงาน พอเปิดกับต้องใส่รหัส เราก็บอกป้าสองว่า ป้าสองหนูจะให้คอมทำงานขอรหัสจากฟิมให้หน่อย ป้าสองก็พูดกับเราว่า ป้าช่วยอะไรไม่ได้นะ คอมของเค้าถ้าเค้าไม่อยากให้เล่นป้าก็พูดอะไรไม่ได้ วันนั้นเราจึงต้องเดินไปร้านคอมคนเดียวตอนสามทุ่มเพื่อทำรายงาน ตลอดเวลาที่อยู่ป้าสองจะว่าเราตลอดว่าเรามึนไม่เหมือนฟิม ฟิมดี เรียนเก่ง เรียนโรงเรียนอินเตอร์ เราเด็กบ้านนอกจะไปรุ้อะไร ใครจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ช่าง แต่เราเจ็บ เจ็บที่ถูกเปรียบเทียบที่ไม่ได้รับความยุติธรรม
ยาวคะยังไม่จบถ้ามีใครอ่านบอกด้วยนะคะจะต่อ
ชีวิตเด็กกำพร้าคนหนึ่งที่ต้องอดทน
บอกก่อนว่าเราอายุ 21 ปี มีน้องสาวหนึ่งคน ตอนเด็กครอบครัวเรามีความสุขมากเลย พ่อ แม่ ลูก พร้อมหน้าพร้อมตา ทานอาหาร มีเงินใช้ไม่ขาดมือ
พ่อเราทำงานร้านเค้กชื่อดัง ซึ่งเป็นร้านของน้องสาวพ่อ แม่เราขายยำมาม่า ยำวุ้นเส้น อยู่หน้าร้านโดยตั้งรถเข็นขาย มาถึงตอนเราอายุ 11 ปี ก็มีเรื่องราวที่เปลี่ยนชีวิตของเรานั่นก็คือ พ่อเราเสียชีวิต หลังจากพ่อเสียแม่ไม่สามารถเลี้ยงดูทั้งเราและน้องได้ทั้งสองคน (เราเข้าใจและไม่เคยโกรธแม่) แม่จึงต้องฝากเราไว้กับญาติฝ่ายพ่อ ซึ่งมีร้านเค้กที่มีชื่อเสียง ถือว่าร่ำรวย โดยพวกญาติฝ่านพ่อบอกว่า จะส่งเสียเราเรียนเอง อยากเรียนจะให้เรียนจนถึงที่สุด เราคิดว่าโชคดีจังถึงพ่อจะเสียแต่ก็มีญาติดี
และเรื่องมันก็เริ่มตรงนี้แหละคะ
เราย้ายเข้าบ้านของอาซึ่งมีพี่น้องพ่อหลายคน มีป้าสองคน และอาหนึ่งคน ขอเรียกป้าหนึ่งกับป้าสองนะคะ เรานอนห้องเดียวกับป้าสอง ป้าสองไม่มีลูกเลยเลี้ยงเรากับหลานอีกคนพ่อตายเหมือนเราขอเรียกว่า ฟิมนะคะ ป้าสองเลี้ยงเด็กคนนั้นมาตั้งแต่เกิด จึงรักมาก ต่างจากเราที่เพิ่งเข้ามา ไม่ว่าเราจะทำอะไรเหมือนเป็นขี้ข้าของฟิม กินข้าวด้วยกันเราต้องล้างจานให้ฟิมด้วย คอมมีเครื่องเดียวใช้ทำงานทำอะไรก็ต้องแบ่งกันโดยที่เราไม่มีสิทธิ์เล่นหรือแย่งเพราะทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของฟิม ไม่ว่าจะทำอะไรเราจะผิดเสมอไม่ว่าจะเรื่องอะไร แต่ยังดีที่ฟิมอยุ่โรงเรียนประจำจะกลับบ้านเสาอาทิตเท่านั้น ตอนม.1 ฟิม มีแฟนและเริ่มไม่อยากเข้าหอวันจันเพราะเอาโทรศัพท์ไปคุยไม่ได้ ป้าสองโมโหเลยปาโทรศัพท์ฟิมทิ้ง แล้วก็ปาของเราด้วยทั้งๆที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด ป้าสองบอกว่าเดี๋ยวฟิมจะเสียใจ ต้องเท่าเทียม ทีอย่างนี้ละเท่าเทียม ยังไม่หมดแค่นั้น ป้าสองไปพูดกับอาเจ้าของบ้านว่า เราเป็นคนแนะนำ ผช ให้ฟิม เพราะฟิมอยู่โรงเรียนประจำจะรู้จักใครได้ยังไง เราไม่ได้ทำคะ เเต่เราพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ ทุกคนในบ้านมองเราไม่ดีเป็นเด็กใจเเตก ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด ต่อมาไม่นาน เรจะใช้คอมทำงาน พอเปิดกับต้องใส่รหัส เราก็บอกป้าสองว่า ป้าสองหนูจะให้คอมทำงานขอรหัสจากฟิมให้หน่อย ป้าสองก็พูดกับเราว่า ป้าช่วยอะไรไม่ได้นะ คอมของเค้าถ้าเค้าไม่อยากให้เล่นป้าก็พูดอะไรไม่ได้ วันนั้นเราจึงต้องเดินไปร้านคอมคนเดียวตอนสามทุ่มเพื่อทำรายงาน ตลอดเวลาที่อยู่ป้าสองจะว่าเราตลอดว่าเรามึนไม่เหมือนฟิม ฟิมดี เรียนเก่ง เรียนโรงเรียนอินเตอร์ เราเด็กบ้านนอกจะไปรุ้อะไร ใครจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ช่าง แต่เราเจ็บ เจ็บที่ถูกเปรียบเทียบที่ไม่ได้รับความยุติธรรม
ยาวคะยังไม่จบถ้ามีใครอ่านบอกด้วยนะคะจะต่อ