เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงเวลานี้เป็นช่วงสอบ แล้วเราเป็นคนที่มีอาการแพนิคและเป็นคนที่มีภาวะการหายใจเร็ว เวลาที่เกิดความเครียดหรือคิดมากๆ ซึ่งเราจะบอกก่อนว่าเราพักอยู่ที่หอในของมหาลัย แล้วกฎคือห้ามออกจากหอหลังเที่ยงคืน เว้นแต่มีเหตุจำเป็น ซึ่งเรารับทราบกฎมาตลอด แต่เรื่องมันเกิดคือเราอ่านหนังสือแล้วเกิดอาการเครียดขึ้นมา เราไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร แต่คือมันมีอาการเหนื่อยหอบ หายใจเร็ว แล้วมันหวิวๆคล้ายจะเป็นลม ซึ่ง 2-3 วันก่อนหน้านี้ เราเคยมีอาการแบบนี้แล้วหมดสติจึงต้องไปโรงพยาบาล ครั้งนี้เราเลยกลัวว่าจะเป็นแบบเดิมเราเลยบอกแฟน แฟนก็เลยมารับที่หอ แต่เหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นคือ มันเลยเวลาที่สามารถออกจากหอได้แล้ว ถ้าจะออกต้องหออนุญาต ซึ่งตอนที่แฟนเรามาถึงหน้าหอพักก็ได้ทำการบอกกับป้าที่ดูแลหน้าหอบอกว่าที่มารับตอนนี้เพราะอะไร เราเป็นอะไร จากนั้นป้าก็บอกว่าออกไม่ได้ค่ะ ถ้าจะออกต้องมีใบขออนุญาตมายื่น ซึ่งตอนนี้เราไม่มีเพราะเหตุการณ์มันฉุกเฉิน ซึ่งเราก็เข้าใจว่าเขาทำตามหน้าที่ จากนั้นป้าก็เลยตามพี่กรรมการหอพักมาคุยกับเรา พอพี่กรรมการหอพักมาคุยก็ถามว่าเราจะออกทำไม เรามียาไหม ใครมารับ ประมาณนี้ ซึ่งเราก็บอกไปว่าเรามีอาการยังไงแล้วก็เอายาให้ดู แล้วพี่เขาก็บอกว่าเออมันออกไม่ได้นะ เราก็เลยบอกว่าเราต้องการกลับบ้านจริงๆตอนนี้เราไม่โอเคจิตใจเรามันแย่มากตอนนั้นเราทั้งเหนื่อย ทั้งหายใจลำบากซึ่งน่าจะเกิดอาการแพนิค พี่กรรมการเลยบอกว่าขอคุยกับแม่เราได้ไหม ซึ่งเราก็โทรหาแม่แล้วเขาก็คุยกับแม่เราว่าเออรู้ไหมว่าเราเป็นอะไร แล้วให้ใครมารับ แม่เราก็บอกว่าแม่รู้ แม่อนุญาตให้แฟนมารับเรา เพราะจะได้ดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะกลัวว่าเราจะหมดสติหรือเป็นอะไรไปมากกว่านี้ หลังจากนั้นพี่เขาก็บอกขอเช็คประวัติแล้วก็ขอคุยกับอาจารย์หอพักก่อนว่าอนุญาตให้ออกไหม บอกให้เรารอ เราก็รอนานพอสมควร จากนั้นพี่เขาก็มาบอกว่าอาจารย์ไม่ให้ออกนะ เราก็ถามเหตุผลว่าทำไม เขาก็บอกเพราะมันเป็นกฎ ออกหลัง 00.00น.ไม่ได้ เราก็บอกว่าเราจะเป็นจริงๆนะคือตอนนี้เราเหมือนจะไม่ไหวแล้วคือ เรายืนไม่ไหวเพราะจะวูบ เขาก็ยังยืนยันว่าไม่ได้ ถ้าจะออกได้ต้องเป็นญาติในสายเลือดมารับเท่านั้น คือตอนนั้นเราไม่เข้าใจมากๆว่าทำไม เพราะเรามาเรียนต่างที่ แล้วพ่อแม่เราอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งที่นี่ก็มีแค่แฟนที่คอยดูแลเรา คอยรับส่ง ซึ่งหลังจากนั้นแม่เราก็เริ่มไม่โอเคเพราะอาการเราเริ่มหนักขึ้นแม่เราก็พยายามบอกว่าแม่อนุญาตเราแล้วไม่ต้องห่วงที่เราไปกับคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติ แต่พี่เขาก็ยังยืนยันว่าอาจารย์ไม่ให้ออก สุดท้ายแม่เลยขอคุยกับอาจารย์ แล้วอาจารย์ก็โทรไปหาแม่เราถามว่าเราเป็นแบบนี้จริงหรอแล้วรู้จักแฟนเราจริงใช่ไหมซึ่งแม่ก็พูดหมดว่ารู้ว่าเราเป็นแล้วเราก็รักษามาตลอด แล้วก็รู้จักแฟนเรา แม่เป็นคนฝากให้แฟนดูแลเราเอง แล้วแม่ก็เลยบอกว่าถ้าไม่ให้แฟนเรามารับไปหาหมอก็พาเราไปสิ ถ้าเราเป็นอะไรขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ จากนั้นอาจารย์ก็เลยลงมาคุยกับเราแล้วบอกว่าที่ทำแบบนี้เพราะเป็นห่วงนะไม่อยากให้ออกไปกับคนอื่น ซึ่งคนอื่นที่ว่าคือแฟนเราที่แม่เรารับรู้ เราก็เลยถามอาจารย์คุยกับแม่เราแล้วใช่ไหมแม่เราว่ายังไงบ้าง อาจารย์พูดออกมาว่าแม่ก็ไม่รู้ยังไง เราก็แบบห้ะทั้งๆที่เราอะคุยกับแม่ตลอดตอนที่แม่คุยกับอาจารย์ ซึ่งแม่ก็งงทำไมอาจารย์พูดแบบนี้หลังจากนั้นเหมือนว่าอาจารย์คุยอะไรกลับแม่เราสักอย่าง อาจารย์ก็เลยอนุญาตให้เราออกจากหอได้ หลังจากนั้นก็บอกเราว่าออกไปต้องไปหาหมอจริงๆนะ ขอใบรับรองแพทย์ด้วย ถ้าทีหลังมีปัญหาอะไรไม่ต้องให้คนนอกมารับให้บอกกรรมการหอ เดี๋ยวกรรมการหอพาไปเอง แล้วตอนนั้นทุกคนที่มาคุยกับเรามีท่าทีและอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีมากๆ แล้วป้าที่ดูแลหอก็พูดแซะเราด้วยว่าทำไมมาออกตอนนี้ ทำไมไม่ออกก่อนเที่ยงคืน หรือถ้าจะออกหลังเที่ยงคืนทำไมไม่ทำเรื่องไว้ ซึ่งเราเองก็ไม่รู้ว่าอาการมันจะมาเป็นตอนเที่ยงคืนกว่าๆ ประมาณ 00.20 ซึ่งตอนที่เรารอทางหอพักอนุญาต เรารอประมาณ 1 ชม. ได้เลย ตอนนี้เราคิดว่าเราควรอยู่หอต่อดีไหมเพราะเกิดเหตุการแบบนี้เราก็รู้สึกไม่ดี ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนที่เราเป็นไข้เลือดออกเราเคยแจ้งกรรมการหอพักว่าพาเราไปหาหมอได้ไหม หรือไม่ก็เรียกรถโรงพยาบาลให้หน่อยเพราะตอนนั้นเราแน่นหน้าอกหายใจลำบากแล้วก็เดินไม่ได้แล้วเพราะไม่มีแรง แต่สิ่งที่เราได้กลับมาคือกรรมการหอเรียกแท็กซี่ให้เราไปโรงพยาบาลเอง หลังจากเหตุการณ์นี้เราก็เลยไม่เคยขอความช่วยเหลือจากกรรมหออีกเลย
ถ้าเกิดเหตุการแบบนี้ทุกคนจะอยู่หอพักนี้ต่อไหม