อรรถกถาจารย์ ยืนยันว่า ฌาน นั่นแหละ ที่เป็นปัจจัยแก่ อุปบัติภพ

คนเรา ถ้าจะ เก้อยาก กันเสียแล้ว มันก็ แถกแถ กันไปได้เรื่อยๆ แบบไม่รู้จบ นะครับ
ล่าสุด ล็อกอิน คันโตนาซี ก็ยกพระสูตร ขึ้นมา "ตีความ" เข้าข้าง มิจฉาทิฐิของตนเอง เสีย "เละเทะ" ไปหมด(อย่างปราศจากความละอาย)



*****************************************************************************************

เรื่องที่ ๑ การอ้างว่า พระโพธิสัตว์ ก็เป็นผู้ที่เจริญฌานได้ในอดีตชาติ แต่พระองค์กลับไม่เคยเกิดใน สุทธาวาส
แล้วจึงสรุปความ ตามประสาโง่ ในทำนองว่า พรหมโลกชั้นสุทธาวาส ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับ ฌาน !

แต่ในความเป็นจริง ก็คือ เหตุผลที่พระโพธิสัตว์ ไม่สามารถไปเกิดใน สุทธาวาส ได้เลย ก็เพราะ สุทธาวาสนี้เฉพาะผู้เป็นอนาคามี
แต่พระโพธิสัตว์ มิได้เป็น อนาคามี ดังนั้นจึงไม่สามารถไปเกิดที่นี่ได้ เหตุผลที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ เมื่อไปเกิดใน สุทธาวาสแล้ว
ย่อมไม่สามารถมาเกิดในโลกแห่งกามาวจรได้อีก เพราะผู้มาเกิดในสุทธาวาส ก็คือ ผู้ที่ละ กามราคะได้อย่างเด็ดขาดแล้ว นั่นเอง



กล่าวโดยสรุป ก็คือ สุทธาวาส เป็นภพภูมิเฉพาะ มีเงื่อนไขคือ (๑) เป็นอนาคามี และ (๒) เป็นผู้ได้ฌาน
ซึ่งมีหลักฐานจากพระบาลีพุทธพจน์ รองรับอยู่มากมาย แต่สำหรับผู้ได้ฌาน แต่มิได้เป็นอนาคามี
ก็ไปเกิดในพรหมโลกชั้นอื่นๆ ตามความประณีตของฌาน โดยยกเว้น สุทธาวาส !



*****************************************************************************************

เรื่องที่ ๒ การยกสังโยชน์สูตรขึ้นอ้าง แล้วกล่าวตู่ว่าเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่า อนาคามีสามารถไปเกิดในพรหมโลกได้โดยไม่ต้องมีฌาน
ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย เนื่องจาก อรรถกถาจารย์ ได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้อย่างชัดเจนว่า ...........

(๑) ก็เพราะเหตุนี้ อันตราอุปบัติ(การเกิดในระหว่าง) ของพระอริยบุคคลผู้เป็น อันตราปรินิพพายี ไม่มี
(๒) แต่ท่านเข้าฌานใดในที่นั้น ฌานนั้นนับว่าเป็นปัจจัยแก่อุปบัติภพ ฯลฯ




กรุณาอ่านพุทธพจน์ให้ดีๆ นะครับ

(๑) อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี

ละสังโยชน์ ๕ ได้
ละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติ ไม่ได้
ละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพ ไม่ได้

(๒) อันตราปรินิพพายี

ละสังโยชน์ ๕ ได้
ละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติ ได้
ละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพ ไม่ได้

กล่าวโดยสรุป ก็คือ อนาคามีทั้ง ๒ พวกนี้ ละสังโยชน์ ๕ ได้ แต่ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยให้เกิดภพ ไม่ได้
แล้วมีตรงไหนไหมครับ ที่ตรัสว่า ไปเกิดในสุทธาวาส โดยไม่ต้องมีฌาน หรือ ไม่เกี่ยวกับฌาน ?

ความแตกต่างระหว่าง อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี กับ อันตราปรินิพพายี ก็คือ ........

อันตราปรินิพพายี ไปเกิดใน พรหมโลกชั้นสุทธาวาสเพียงครั้งเดียว ก็สามารถบรรลุมรรคผลได้ภายในระยะกึ่งกลางของอายุขัย
ส่วน อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี นั้น จุติจากอวิหาไปอตัปปา จุติจากอตัปปาไปสุทัสสา จุติจากสุทัสสาไปสุทัสสี จุติจากสุทัสสีไปอกนิฏฐา แล้วจึงดับรอบ

สรุปได้ว่า อันตราปรินิพพายี เกิดเพียงครั้งเดียวในสุทธาวาส แล้วดับรอบ เพราะสังโยชน์เหตุแห่งอุบัติ ไม่มี
ส่วน อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี เกิดดับอีกหลายครั้งใน สุทธาวาส แล้วจึงดับรอบใน อกนิฏฐา เพราะสังโยชน์เหตุแห่งอุบัติ ยังมีอยู่

แต่ต้องเข้าใจให้ดีๆ ว่า สังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพ ยังมีอยู่ด้วยกันทั้งคู่ ส่วนจะไปเกิดอย่างไรนั้น
อรรถกถาจารย์เป็นผู้กล่าวเอาไว้เองว่า ขึ้นอยู่กับ ระดับของ ฌาน !

มีข้อความในส่วนไหนหรือครับ ที่ทำให้เข้าใจได้ว่า ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ไม่เกี่ยวกับ ฌาน ?
ผมเห็นว่า ล็อกอิน คันโตนาซี มีปัญหาอย่างรุนแรง ในการศึกษา และ อ้างอิงพระสูตร แล้วนะครับ

ก็เอาเป็นว่า นับจนถึงบัดนี้ ผมยังไม่เห็นว่า ล็อกอิน คันโตนาซี จะสามารถ อ้างอิง พระสูตรใดๆ
เพื่อสนับสนุน อัตตโนมัติโง่ๆ ของตนเอง ได้สักพระสูตรเดียว เลยนะครับ

ทั้งหมดที่ ล็อกอิน คันโตนาซี แสดงออกมา ก็มีเพียงแค่ การกล่าวตู่ตีความเอาเองทั้งนั้น โดยที่มิได้มีส่วนแห่งการอ้างอิง
ตามลำดับชั้นของคัมภีร์ และ/หรือ การสอบสวนเทียบเคียงกับพระสูตรพระวินัย แต่อย่างใดทั้งสิ้น

อัตตโนมัติของคุณ ไม่สามารถนำมาใช้ได้ในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท นะครับ จนป่านนี้ ยังไม่เข้าใจ อีกหรือ ?

.
.
.

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ล็อกอิน คันโตนาซี จะสามารถเข้าใจถึง ธรรมเนียมความเป็นพุทธเถรวาท ได้สักที นะครับ

สวัสดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่