สัตว์:..ผู้อริยสาวก-ผู้สกทาคามี..ตอนที่ 7 :..สกทาคามี...กับการละสังโยชน์ (อีกแบบหนึ่ง)

กระทู้คำถาม


https://etipitaka.com/read/thai/21/134/

 ปุคคลวรรคที่ ๔ 
[๑๓๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก
๔ จำพวกเป็นไฉน 

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
บุคคลบางคนในโลกนี้👈..(พระสกทาคามี)
- ยังละโอรัมภาคิยสังโยชน์..ไม่ได้
- ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติ...ไม่ได้
- ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพ...ไม่ได้

อนึ่ง บุคคลบางคนในโลกนี้👈.. (อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี)
- ละโอรัมภาคิยสังโยชน์..ได้
- แต่ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัย เพื่อให้ได้อุบัติ...ไม่ได้
- ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพ...ไม่ได้

อนึ่ง บุคคลบางคนในโลกนี้👈.. (อันตราปรินิพพายี)
- ละโอรัมภาคิยสังโยชน์...ได้
- ละสังโยชน์ อันเป็นปัจจัย เพื่อให้ได้อุบัติ...ได้
- แต่ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพ...ไม่ได้

อนึ่ง บุคคลบางคนในโลกนี้ 👈..(พระอรหันต์)
- ละโอรัมภาคิยสังโยชน์...ได้
- ละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อ ให้ได้อุบัติ...ได้
- ละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพ...ได้ ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลจำพวกไหน
- ยังละโอรัมภาคิยสังโยชน์...ไม่ได้
- ยังละสังโยชน์ อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติ...ไม่ได้
- ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพ...ไม่ได้

🌼🌼คือ พระสก ทาคามี🌼🌼
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลนี้แล
ยังละโอรัมภาคิยสังโยชน์ไม่ได้ ยังละสังโยชน์อันเป็น ปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติไม่ได้ ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพไม่ได้ ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลจำพวกไหน
- ละโอรัมภาคิยสังโยชน์...ได้
- แต่ยังละสังโยชน์ อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติ...ไม่ได้
- ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพ...ไม่ได้

🌼🌼คือ พระอนาคา มีผู้มีกระแสในเบื้องบน ไปสู่อกนิฏฐภพ 🌼🌼
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลนี้แล
ละโอรัมภาคิยสังโยชน์ได้ แต่ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติไม่ได้ ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพไม่ได้ ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลจำพวกไหน
- ละโอรัมภาคิยสังโยชน์ได้
- ละสังโยชน์อันเป็น ปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติ...ได้
- แต่ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพ...ไม่ได้

🌼🌼คือ พระอนาคามีผู้ อันตราปรินิพพายี 🌼🌼
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลนี้แล
ละโอรัมภาคิยสังโยชน์ได้ ละสังโยชน์อันเป็น ปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติได้แต่ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพไม่ได้ ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลจำพวกไหน
- ละโอรัมภาคิยสังโยชน์...ได้
- ละสังโยชน์อันเป็น ปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติ...ได้
- ละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพ...ได้

🌼🌼คือ พระอรหันตขีณาสพ 🌼🌼
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บุคคลนี้แล
ละโอรัมภาคิยสังโยชน์ได้ ละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติได้ ละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพได้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ ในโลก ฯ


สรุป..

1. ทำไมไม่กล่าวถึงพระโสดาบัน  แต่กลับกล่าวแค่พระสกทาคามี?
    เหตุผมมีอยู่  2 ประการ..คือ  
    - เพราะการแบ่งอริยบุคคลในที่นี้จะแบ่งตาม..สังโยชน์เบื้องต่ำ - การอุบัติสังโยชน์ - ภพสังโยชน์
      ไม่ำด้แบ่งตาม..สังโยชน์ 10..ตามที่คุ้นเคยกัน ในการจำแนกระดับของพระอริยบุคคล..
   - เป็นเพราะว่า.. พระสกทาคามี..และ..พระโสดาบัน  ทั้ง 2 บุคคลละสังโยชน์เบื้องต่ำได้เท่ากัน
     คือแค่ 3 ข้อ.. ซึ่งถือว่ายังไม่สามารถละ..โอรัมภาคิยสังโยชน์ได้ 
      และ...พระสกทาคามีก็คือ พระโสดาบันที่...มีราคะ-โทสะ-โมหะ..ที่เบาบางลง

      นี้จึงเป็นเหตุที่พระศาสดาท่านไม่กล่าวถึงพระโสดาบัน  แต่กลับกล่าวแค่พระสกทาคทมี..แทน

2.   อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี... ฺคือ...บุคคลที่เป็นพระอนาคามีทั้งตอนที่มีขีวิต..และ..ตอนที่กายกำลังแตกทำลาย
      แต่ท่านละโอรัมภาคิยสังโยชน์ได้  แต่อุทธัมภาคิยสังโยชน์ยังละไม่ได้  เมื่อกายแตกทำลาย....
      วิญญาณอันเนื่องจาดตัณหา..ก็จะนำไปสู่ภพใหม่ และเมื่อแตะภพ..ก็มีการอุบัติเป็นพรหม
      ซึ่งในกรณีนี้..นำไปสู่ " อกนิฏฐภพ "...คือสุทาวาสชั้นสุดท้ายเป็นพรหมอนาคามี...

3.  อันตราปรินิพพายี 👈... คือ..บุคคลผู้ที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์...หลังจากการแตกทำลายแห่งกาย
     คือผู้นี้ท่านเป็นอนาคามีก่อน... แล้วตอนที่ตาย...ท่านเป็นพระอรหันต์ในระหว่างการโน้มไปสู่ภพใหม่
     อันตราปรินิพพายี...คือ..บุคคลผูที่ปรินิพพานภายหลังจากการตาย.. มี 3 ระดับ  จากพระสูตรเรื่องสะเก็ดไฟ

     - ระดับแรก..คือหลังจากการตายทั้นที่..ก็ปรินิพพานเลย
        ☝..อันนี้พระองค์อุปมาเหมือนสะเก็ดไฟที่เกิดจากการตีเหล็ก.. คือเมื่อตีเหล็กสะเก็ดไฟปรากฏและดับทันที

     - ระดับที่ 2..คือหลังจากการตายทั้นที่..สักพักหนึ่งกำลังโน้มไปสู่ภพใหม่..ก็ปรินิพพานในระหว่าง
        ☝..อันนี้พระองค์อุปมาเหมือนสะเก็ดไฟที่เกิดจากการตีเหล็ก..
              คือเมื่อตีเหล็กสะเก็ดไฟปรากฏลอยไปในอากาศแล้วจึงดับ

      - ระดับที่ 2..คือหลังจากการตายทั้นที่..สักพักหนึ่งกำลังโน้มไปสู่ภพใหม่กำลังก่อนจะแตะภพใหม่..ก็ปรินิพพานในระหว่าง
         ☝..อันนี้พระองค์อุปมาเหมือนสะเก็ดไฟที่เกิดจากการตีเหล็ก..
              คือเมื่อตีเหล็กสะเก็ดไฟปรากฏลอยไปในอากาศแล้วลงลงมาก่อนจะถึงพื้น..แล้วจึงดับ

4. สำหรับพระอรหันต์...ตอนที่กายแตกทำลาย..หรือ..ที่เรียกว่าตาย
    สังโยชน์ที่จะนำไปภพไม่มี...เพราะว่า " ไม่มีตัณหา "...การอุบึติอีกก็จะไม่มี
    ท่านจึงไม่มีการโน้มไป  เมื่อแม้นการโน้มไปไม่มี,. ก็ไม่ต้องไปพูดถึงการแตะภพ...ไม่มีทางเลย,.
    ท่านหลุดพ้นไปแล้วจาก...ขันธ์๕...ตั้งแต่ขันธ์๕(กาย)..ยังไม่แตกทำลาย(ตาย)...
   

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่