ของเก่าเล่าใหม่ คุณแม่ชีเกณฑ์ วัดป่าเจดีย์เทวธรรม จ.ร้อยเอ็ด ต.ค. 57

กระทู้สนทนา
"หนูจะเดินปัญญายังไงค่ะ คุณแม่ชี" 

เวลาคุณนั่งตัวก้มตัวเงย คุณมีสติรู้ตัวอยู่ตลอดมั้ย หูได้ยินเสียงคุณมีสติรู้มั้ยว่าเสียงเข้ามา พอเสียงมากระทบแล้วคุณยินดียินร้ายมั้ย คุณเกลียด คุณชัง คุณโกรธมั้ย พอใจไม่พอใจคุณมีมั้ย 

ขณะคุณกำลังนั่งสมถะ คุณลองปิดพัดลม ไปที่ธรรมชาติๆ อากาศร้อนๆคุณหงุดหงิดมั้ย คุณทำใจเป็นกลางได้มั้ย ขณะที่อากาศร้อนใจทุรนทุรายมั้ย ใจมันทนได้มั้ย ดีซะอีกให้เรามีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเพราะมันจะไม่สงบ ไม่เงียบ ไม่เย็น อากาศมันร้อนทางกาย ใจมันจะร้อนด้วยรึเปล่า เราต้องแยกแยะตรงนี้ 

ถ้าคุณอยากเข้าสู่ปัญญา ขณะร้อนพอมีลมพัดโชยมา คุณรู้มั้ย ให้คุณรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง อารมณ์ที่มาสัมผัส หูได้ยินเสียง จมูกคุณได้กลิ่น นั่งสมาธิหายใจเข้าพุท หายใจออกโธ ได้กลิ่นอาหาร กลิ่นอะไรเข้ามาคุณรู้สึกมั้ย คุณรู้มั้ยตอนลิ้นสัมผัสอาหาร คุณสังเกตว่ารสอาหารมันอยู่เฉพาะลิ้น หรือกลืนลงไปในลำคอมันยังมีรสอยู่ หรือไม่มีรส คุณพิจารณานี่ ยกปัญญาขึ้นมา ว่ารู้เท่าทันสิ่งเหล่านี้มั้ย 

เวลาคุณมีอารมณ์มาสัมผัสทางหูได้ยิน ที่อารมณ์ไม่พอใจถูกตำหนิติเตียน ถูกเขาว่า ถูกเขานินทา ดูสิว่าคุณโกรธมั้ย มันมาจากไหนล่ะ ก็มาจากมันมีตัวกู เขาว่าให้เรานี่นา แล้วตัวเราอยู่ตรงไหนละ ค้นหาสิ ค้นหาสิว่าตัวอยู่ตรงไหน มีแข้งมีขามีหู มีตาแยกออกเป็นอย่างๆ แต่อย่าเพิ่งแยก ให้คุณกำหนดรู้ไป ปัญญาคุณเกิดเมื่อไหร่เดี๋ยวเขาก็จะบอกเอง ขอให้ปฏิบัติ ให้รู้เท่าทันอารมณ์ เดี๋ยวปัญญาเขาเกิด 

ตอนที่เฉย คุณดีใจในอารมณ์ที่เฉย ที่นิ่งที่เย็นมั้ย มีความรู้สึกว่าเสพอารมณ์ในใจมั้ย อารมณ์สุข มีความพอใจอยู่ลึกๆมั้ย คุณจะปล่อยวางตัวตนได้ คุณต้องรู้ว่ามันมีพิษมีภัยยังไง คุณต้องเข้ามาเรียนรู้ใจของคุณ ทุกขณะที่อารมณ์มากระทบว่าคุณเป็นยังไง

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่