จากที่ดูที่แถลงข่าวมา ถามว่าแอนติบอตี้นั้นรักษาได้ไหม ตอบคือโอกาสได้มีมาก(ยังสรุปไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นเพราะต้องทำต่อตามกระบวนการวิทยาศาสตร์) แต่ถามว่าแอนติบอดี้ที่ศิริราชพบป้องกันอีโบลาได้ไหม ตอบคือไม่ได้
สรุปคือ
เหมือนเป็นการรักษาให้สำหรับผู้ที่ติดเชื้อแล้วเท่านั้น
คนที่ยังไม่ติดเชื้อคือป้องกันกันไม่ได้ แต่คงมีการคิดค้นวัคซีนเพื่อป้องกันต่อไป
สิ่งที่ต่างกันกับซีแมพของอเมริกาคือ แอนติบอดี้นี้ให้ผลที่ดีกว่า เพราะซีแมพมันไปป้องกันได้เฉพาะเชื้อที่ยังไม่ได้เข้าไปในเซลล์ แต่ของศิริราชสามารถไปบล็อกเชื้อให้ไม่ให้ออกลูกออกหลานมาได้ถึงแม้เชื้อจะเข้าไปภาพในเซลล์แล้วก็ตาม
สรุปคือ ไปยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อนั่นเอง แล้วถามว่าอีโบลาที่เข้าในเซลล์มันโดนบล็อกแล้วมันจะตายรึปล่าว ตอบคือ ตาย โดยกระบวนการกำจัดสิ่งแปลกปลอมภายในเซลล์โดยธรรมชาติของเซลล์นั่นเอง
ปล.หมอไทยเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก

ส่วนตัวเข้าใจว่ายังไม่เคยมีวิกฤตเกี่ยวกับเชื้ออีโบล่าในประเทศไทย เลยทำให้ไม่มีการวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีน

พอมีวิกฤตการณ์ระบาดของเชื้ออีโบล่า ประเทศไทยจึงวิจัยและค้นพบแอนติบอดี้ที่สามารถนำไปพัฒนาเป็นวัคซีนได้ครั้งแรก

อ่านแล้วเศร้าใจเน๊อะ แทนที่จะยินดีว่าประเทศไทยไม่นิ่งนอนใจกับปัญหาที่ประเทศตัวเองยังไม่เกิด กลับมาพูดออกแนวดูถูกกันเอง

ผมเชื่อแล้วว่าทำไมประเทศไทยไม่เคยทำอะไรได้เลยนอกจากซื้อจากต่างประเทศ พอซื้อจากต่างประเทศก็ด่าอีกแล้วทำไมไม่ทำเอง

เอาใจยากแท้เน้อคนไทย