รายการ พบหมอศิริราช ตอน กำจัดยุงลาย ป้องกันไข้เลือดออก

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

เรื่อง:
กำจัดยุงลาย ป้องกันไข้เลือดออก
บทคัดย่อ:
         ฝนเริ่มมาแล้ว อากาศจะเย็นและมีความชื้นสูง บางพื้นที่มีน้ำขัง สิ่งที่ต้องระวัง คือ ยุงลาย ซึ่งเป็นสาเหตุของไข้เลือดออก รศ.พญ.ณสิกาญจน์ อังคเศกวินัย ภาควิชาอายุรศาสตร์ จะมาบอกวิธีป้องกันและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย

กำจัดยุงลาย ป้องกันไข้เลือดออก
 
ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
          ยุงลาย ซึ่งเป็นสาเหตุของไข้เลือดออก  มารู้จักวิธีป้องกัน และกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เพื่อป้องกันไข้เลือดออกกัน
ทำไมยุงลายจึงเป็นสาเหตุของไข้เลือดออก
          เนื่องจากยุงลายเป็นพาหะของเชื้อไวรัสเดงกี่  ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคไข้เลือดออก  โดยหลังจากที่ถูกยุงลายที่มีเชื้อกัด ประมาณ 7-10 วัน ก็จะเริ่มมีอาการของไข้เลือดออก  อีกทั้งในหน้าฝนก็จะมีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีแหล่งน้ำขังก็จะยิ่งมีโอกาสที่จะทำให้เกิดไข้เลือดออกมากขึ้น
วิธีป้องกัน ไม่ให้ยุงลายกัด และกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์
          โดยทั่วไปแล้วยุงลายมักชอบกัดในเวลากลางวัน  วิธีการป้องกันที่ดีที่สุด ก็คือ การป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัด  จึงควรใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด  
          ส่วนการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายมีวิธีที่หลากหลาย  เช่น ทางด้านกายภาพ  เนื่องจากยุงลายมักจะชอบวางไข่ ในน้ำนิ่ง ๆ  ในที่มีน้ำขัง  ดังนั้นจึงควรสำรวจแหล่งน้ำในบ้าน เช่น  โอ่งน้ำที่มีการเปิดฝาทิ้งไว้ว่ามียุงลายหรือไม่  ภาชนะที่ใช้รองขาตู้ ถาดรองกระถางต้นไม้ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ควรปิดฝาให้มิดชิด หรือจับคว่ำไม่ให้มีน้ำขัง  หรือ การใช้วิธีทางชีวภาพ  เช่น การเลี้ยงปลากินลูกน้ำ  เป็นต้น  
          นอกจากนั้น เราอาจจะใช้สารเคมีกำจัดลูกน้ำ เช่น  ใช้ทรายอะเบท  เกลือแกง  ผงซักฟอก หรือน้ำส้มสายชู  ส่วนช่วงที่มีการระบาด เราอาจจะต้องใช้วิธีกำจัดยุงลายโดยตรง  โดยใช้เครื่องพ่นฝอยละออง  นอกจากนั้นควรจะมีการรักษาบ้านและสิ่งแวดล้อมให้ถูกสุขลักษณะ โดยใช้นโยบาย 3 เก็บ + 5 ส ประกอบด้วย  เก็บบ้านให้ปลอดโปร่ง ไม่ให้ยุงลายเกาะพัก เก็บขยะเศษภาชนะ ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เก็บน้ำปิดให้มิดชิด ไม่ให้ยุงลายวางไข่ รวมทั้งทำกิจกรรม 5 ส สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ สร้างนิสัย เพื่อเป็นการป้องกันมิให้ยุงลายกัด  
สังเกตอย่างไรว่าเป็นไข้เลือดออก ถ้าเป็นแล้วควรทำอย่างไร
          อาการของไข้เลือดออก  โดยทั่วไปผู้ป่วยจะมาด้วยอาการมีไข้สูง  คลื่นไส้หรืออาเจียน  มีหน้าแดงเล็กน้อย  ไม่มีอาการของไข้หวัด  หากท่านสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก  ในช่วงแรกที่เป็นไข้  ส่วนใหญ่จะยังไม่ทำอะไรเพิ่มเติม  เพียงแต่ให้รับประทานยาพาราเซตามอลแก้ไข้ได้  ห้ามรับประทานยาแอสไพริน  และถ้าหากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้องมาก คลื่นไส้ อาเจียนมาก  รับประทานอาหารไม่ได้  มีจุดเลือดออกตามตัว  มีเลือดออกตามไรฟัน หรือมีเลือดออกที่ใดที่หนึ่ง  หรือลุกขึ้นแล้วมีอาการหน้ามืด ก็ควรจะมาพบแพทย์โดยด่วน
       โรคไข้เลือดออกจะหมดไป หากพวกเราช่วยกันกำจัดยุงลายด้วยการเก็บบ้าน   เก็บขยะเศษภาชนะ  เก็บน้ำให้มิดชิด ร่วมกับกิจกรรม  5 ส  สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ สร้างนิสัย

เคยประสบปัญหาโรคไข้เลือดออก จากยุ่ง ท่านสมาชิกชาวพันทิป มีคำแนะนำหรือไม่ครับ ?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่