ตรัสไว้ว่า
(ปฏิจจฯ หน้า ๑๖๔ ในวงเล็บ ผมเพิ่มเองเพื่อฯ)

ฯลฯ
เป็นอันว่า การสำคัญเห็น (ด้วย สัญญาวิปลาส ด้วย สัญชานาติ)
ดังกล่าวมาแล้วข้างต้น  (ว่าด้วย สำคัญเห็น ขันธ์ทั้ง ๕ ว่า ฯลฯ) นี้ ย่อมมีด้วย
การถึงทับจับฉวย (อธิคตํ) ของภิกษุนั้น (เช่น สาติ เกวัฏฏบุตรมั๊ง) ว่า  "เรามีอยู่"  (ในรูป วิญญาณนี้เท่านั้น ที่ท่องเที่ยวไป)
ดังนี้ ก็มีด้วย (แล้วไซร้)


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เมื่อภิษุนั้น  ถึงทับจับฉวย (อธิคตํ) ว่า  "เรามีอยู่ (อสฺมีติ) " ดังนี้แล้ว

ลำดับนั้น
การก้าวลงแห่งอินทรีย์ทั้งหลาย  ๕ ประการ  ย่อมมีขึ้น ------------------ ดู ภาพฝรั่งประกอบฯ)
ได้แก่ อินทรีย์คือตา  (ตา มีก่อน แล้วจึงมีอินทรีย์ ใช่ไหม?)
อินทรีย์คือหู  อินทรีย์คือจมูก  อินทรีย์คือลิ้น  อินทรีย์คือกาย (แม้น สมอง ก็คือ กาย แบบหนึ่ง ใช่ไหม?)

(ไม่ตรัส อินทรีย์คือ มโน   หรือ มนินทรียฺ  แต่ตรัสว่า)

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
มโน มีอยู่  ธรรมทั้งหลาย มีอยู่  อวิชชาธาตุ มีอยู่

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เมื่อปุถุชนผู้ไม่ได้สดับแล้ว
เป็นผู้อ้น เวทนา อันเกิดจาก อวิชชาสัมผัสถูกต้องแล้ว  ความถึงทับจับฉวย ว่า   เรามีอยู่ (อสฺมีติ) ดังนี้บ้าง   ฯลฯ
ฯลฯ
ตัดตอน แค่นี้  -- แต่ ยังไงต้องพิจารณาต่อ ฯ
////////////////////////////////////////////////



ประเด็น
ภาพข้างบน

จะกำหนด  อินทรีย์คือ ตา   ที่ ตา อย่างไร?  ----ตามพระสูตรนี้ ที่ตรัสว่า ----
เมื่อภิษุนั้น  ถึงทับจับฉวย (อธิคตํ) ว่า  "เรามีอยู่ (อสฺมีติ) " ดังนี้แล้ว

ลำดับนั้น
การก้าวลงแห่งอินทรีย์ทั้งหลาย  ๕ ประการ  ย่อมมีขึ้น