ตอนที่ 1
http://ppantip.com/topic/32581120
ตอนที่ 2
http://ppantip.com/topic/32585161
ตอนที่ 3
http://ppantip.com/topic/32588884
“สวัสดีทุกคน ฉัน จ่าอากาศเอก วิลม่า บิชอป แห่ง บริทาเนีย เครื่องประจำตัวคือ รุ่นสปิท ไฟร์ มาร์คทู ยินดีที่ได้รู้จัก”
หญิงสาวจากบริทาเนีย กล่าวทักทุกคนอย่างสดใส สร้างความประทับใจให้ทุกคนจนเผลอปรบมือตอนรับพร้อมกันแม้จะไม่มีใครบอก ท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นธรรมชาตินั้น ทำให้เมื่อเทียบกับบิวร์ลิ่งแล้ว ช่างดูไม่เหมือนเลยว่าสองคนนี้มาจากประเทศเดียวกัน
“จากรายงานของพวกเธอ ตอนนี้พวกนิวรอยได้ทำการวิวัฒนาการตัวเองขึ้น พวกมันเรียนรู้พวกเรา ทำให้กองกำลังต่อต้านนิวรอยทั่วโลกตื่นตัวกับเรื่องนี้อย่างมาก” วิลม่าพูดต่อ “แต่อย่างเดียวที่พวกมันไม่อาจจะเลียนแบบ หรือเข้าใจได้ คือทักษะเวทมนตร์ของวิทช์ ซึ่งตอนนี้เหล่าวิทช์ที่มีทักษะเวทมนตร์ระดับสูงตอนนี้ได้ไปประจำอยู่ที่แนวหน้าของ คาร์ลสแลนด์ บริทาเนีย กับ โรมัญญา ดังนั้นฉันจึงได้รับหน้าที่มาฝึกสอนทุกคนให้รู้จักและใช้ทักษะเวทได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์และความตั้งใจ มีใครมีคำถามอะไรไหม ?”
สิ้นคำถามก็มีมือข้างหนึ่งยกขึ้นแทบจะทันที ทว่าเจ้าของมือนั้นกลับไม่ใช่โทโมโกะ เอลม่า แต่กลับเป็น ฮารุกะ คนที่น่าจะสนใจเรื่องการรบน้อยที่สุดในฝูงบินอาสาอิสระแห่งซุโอมุสนี้
“คุณวิลม่า บิชอป มีความสัมพันธ์ กับ เรืออากาศโท บิวร์ลิ่งยังไงคะ”
“...”
เกิดความเงียบชั่วขณะขึ้นระหว่างที่ประชุม ถ้าตามปกติฮารุกะคงโดนโทโมโกะเขกหัวไปแล้วที่ถามอะไรไร้สาระแบบนี้ แต่ที่ไม่โดน คงเพราะโทโมโกะเองก็สนใจเหมือนกัน ไม่เพียงแค่นั้น ทุกคนในกองบินยกเว้นบิวร์ลิ่งก็แทบจะกลั่นใจรอฟังคำตอบ
“กับอลิซาเบธน่ะเหรอ“ วิลม่าสบตาบิวร์ลิ่งแว่บหนึ่ง “คงเป็นรักข้างเดียวล่ะมั้ง... ว่าไปนั่น... แฮะๆ”
วิลม่าพยายามหัวเราะกลบเกลื่อนพลางลูบหัวตัวเองเหมือนล้อเล่น แต่ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีจัดไปถึงใบหู สายตาของทุกคนหันกลับมายังบิวร์ลิ่ง และได้เห็นสิ่งน่าเหลือเชื่อ ซึ่งอาจจะเป็นปรากฏการณ์หายากที่พบเห็นได้เพียงไม่กี่ครั้งในช่วงชีวิต
บิวร์ลิ่งหันมองไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาทุกคน... เหมือนแอบเขินเล็กๆ
ตามปกติแล้วคนอย่างบิวร์ลิ่งต่อให้โทโมโกะเอาดาบมาจอคอหรือมีกระสุนพุ่งเฉียดหน้า เธอก็ยังสูบบุหรี่ต่อไปได้อย่างไม่ยี่หระด้วยซ้ำ แต่นี่กลับมีปฏิกริยาชัดเจนจนทำให้คนอื่นในฝูงบินมีอาการแตกต่างกันไป ฮารุกะ เซนจูพินา กับแคทเธอรีนมีอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตาม ขณะที่อุรซุล่านิ่งเฉย เอลม่ามีท่าทางซึมลงไปนิดหน่อย และโทโมโกะที่ดูเหมือนจะเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา
“เลิกคุยเรื่องไร้สาระกันได้แล้ว” โทโมโกะตบโต๊ะพร้อมกับลุกขึ้นยืน “จ่าบิชชอป คุณจะฝึกให้พวกเราได้เมื่อไหร่ ?”
“ถ้างั้นภายในครึ่งชัวโมง ขอให้ทุกคนสวมสไตร์คเกอร์แล้วออกไปเจอกันข้างนอก” วิลม่าตอบ ”ยกเว้นอลิซาเบธ...”
“เอ๋ ทำไมอ่ะ ทำไมบิวร์ลิ่งถึงไม่ได้ฝึกกับพวกเราล่ะ ?” แคทเธอรีนเอ่ยปากถามก่อนใครเพื่อน
“ก็เพราะว่าอลิซาเบธเขาใช้ทักษะเวทได้อยู่แล้วน่ะค่ะ” วิลม่าตอบ
“เอ๋ !?”
แทบจะทุกคนในกองบินอุทานขึ้นมา ไม่มีใครรู้เรื่องนี้มาก่อน และตั้งแต่รู้จักกันมา บิวร์ลิ่งก็ไม่เคยใช้สิ่งที่เรียกว่าทักษะเวทให้ดูเลยซักครั้ง”
“ฉันลืมไปหมดแล้วล่ะ... ของแบบนั้น...”
พูดจบสาวผมเงินจากบริทาเนียก็เดินกลับเข้าห้องพักโดยไม่พูดอะไรอีกเลย
ฐานทัพของกองร้อย 501 ประจำบริทาเนีย
ระหว่างที่พันตรีซาคาโมโตะ ยังไม่กลับจากจักรวรรดิ์ฟุโซ แทบทุกคนดูเหมือนจะย่อนย่านเรื่องการฝึกซ้อมลงไป โดย ชาร์ลอต เยเกอร์ กับ ฟรานเชสก้า ลุชชีนี่ ถึงกับนอนอาบแดดสบายใจอยู่หน้าฐาน (เหตุการณ์ในภาคหลัก ภาคแรกตอนแรก นาทีที่ 20) แต่ก็มีสองนายทหารจาก คาร์ลสแลนด์ ที่กำลังเตรียมตัวต้อนรับการกลับมาของพันตรีซาคาโมโตะ โดยการเก็บของทำความสะอาด แต่ที่ต้องทำจริงๆแล้ว มีแค่คนเดียวมากกว่า
“ฮาร์ทมันน์ รีบเก็บของของเธอเร็วๆเข้า วันนี้พันตรีซาคาโมโตะจะกลับมาแล้วนะ”
สาวผมดำผู้มีท่าท่างเคร่งครัดในระเบียบวินัยออกคำสั่ง กับเด็กสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นไพล็อท เอส แห่งคาร์ลสแลนด์ ที่ทำลายยานฆ่าศึกของนิวรอยได้มากที่สุดในโลก แต่น้อยคนนักจะรู้ว่าเบื้องหลังของ วิทช์ที่ได้ชื่อว่า ทำลายนิวรอยได้มากที่สุด จะเป็นคนขี้เบื่อ หย่อนยานเรื่องวินัย แถมห้องพักของเธอยังเละเป็นกองขยะเพราะแทบไม่เคยเก็บกวาดอีกต่างหาก
“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่นาทรูเดย์... พันตรีเขาไม่เข้ามาสนใจเรื่องส่วนตัวของพวกเราซักหน่อย”
“แต่ความเคร่งครัดมีวินัย คือหัวใจหลักทหารของคาร์ลสแลนด์อย่างพวกเรานะ”
“ค่า ค่า...”
เสียงตอบรับยานคางเหนื่อยหน่ายของหญิงสาวที่ชื่อฮาร์ทมันน์ ดูเหมือนจะกระตุ้นความหงุดหงิดของคนที่ออกคำสั่งขึ้นมา
ตุ้บ !
เสียงของชิ้นหนึ่ง ตกลงมาจากข้าวของที่เรียกอีกอย่างว่ากองขยะ เป็นรูปถ่ายของเด็กสาวสองคนที่มีหน้าตาน่ารักและใบหน้าของทั้งคู่แทบจะไม่ต่างกันเลย
“นั่นมันรูปของอุรซุล่าไม่ใช่เหรอ ? รูปของน้องสาวตัวเองหัดเก็บให้ดีๆหน่อยสิ ฮาร์ทมันน์”
“รู้แล้วน่า...”
“ว่าแต่น้องสาวของเธอตอนนี้ได้ข่าวว่าถูกย้ายออกจากคาร์ลสแลนด์ไปอยู่ที่ซุโอมุสแล้วนี่นา”
“ใช่... รู้สึกจะเข้ากองบินอาสา ที่รวมนักบินมากจากหลายๆประเทศ รู้สึกว่า อดีต “จิ้งจอกเงิน” แห่งบริทาเนียก็อยู่ในกองบินอาสานั้นด้วย”
“ว่าไงนะ !!!!!! ยัยบ้าระห่ำนั่นก็อยู่ด้วยงั้นเหรอ”
“ใช่ แต่ตั้งแต่เหตุการณ์นั้น ยัยนั้นก็สงบเสงี่ยมลงไปมากแล้วคงไปเป็นไรหรอก”
ฮาร์ทมันกับทรูเดย์ยังคงจำติดตา สมัยที่พวกเธอเข้าสู่สนามรบใหม่ๆ มีสองนักบินจากบริทาเนียที่บ้าระห่ำไล่ทำลายล้างพวกนิวรอยราวกับเป็นเรื่องสนุกสนาน หนึ่งคนเป็นวิทช์สาวผมแดง ที่ใช้สไตรเกอร์รู่นเฮอร์ริเคน นิสัยโผ่งผ่างพูดจาเสียงดัง และยังสูบบุหรี่จัด ส่วนอีกคนเป็นสาวเงียบขรึมผู้ได้สมญานามว่า “จิ้งจอกเงิน” ตามสีผมของเธอ
มีครั้งหนึ่งที่ทั้งคู่ไล่ตามนิวรอยไปจนติดอยู่แนวหลังของข้าศึก ซึ่งกว่าชั่วโมงกำลังเสริมถึงจะฝ่าเข้าไปช่วยได้ ตอนนั้นฮาร์ทมันน์กับทรูเดย์ก็อยู่ในกำลังเสริมนั้นด้วย และสิ่งที่ทั้งคู่ได้เห็นเมื่อไปถึง คือซากของนิวรอยนับร้อยลำที่กระจายเกลื่อนซากปรักหักพังของเมือง โดยใจกลางของซากนิวรอยทั้งหมดนั้น ปรากฏร่างของ จิ้งจอกเงินแห่งบริทาเนีย กำลังอุ้มร่างไร้วิญญาญ ของสหายร่วมรบไว้ในอ้อมกอด โดยคาบบุหรี่ที่เป็นของคนตายไว้ในปาก
“น่ากลัว...”
ฮาร์ทมันน์รู้สึกขนลุกทันทีเมื่อนึกภาพที่อยากลืมนั้น ซึ่งทรูเดย์เองก็มีท่าทางไม่ต่างกัน ในตอนนั้นเธอเองก็ยังคิดว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นใช้พวกเดียวกันจริงๆหรือไม่
“ถ้ายัยนั้นยังทำสถิติอยู่ คิดว่าเธอจะเอาชนะได้ไหม ฮาร์ทมันน์”
“พูดเป็นเล่น... ด้วยทักษะเวทของยัยนั่น ถ้ายังใช้อยู่ ป่านนี้คงจมนิวรอยได้เป็นพันลำแล้วมั้ง...”
ทันใดนั้นเองก็มีสัญญาญการบุกของนิวรอยดังขึ้น ทำให้ทรูเดย์ขอตัวออกไปรับมือข้าศึกพร้อมคนอื่นๆ โดยก่อนไปได้บอกกำชับ เพื่อนสนิทของเธอกว่าก่อนกลับมาห้องต้องจัดเสร็จเรียบร้อย ซึ่งแน่นอนว่า หลังจากเธอกลับมาสภาพความรกก็ยังอยู่เหมือนเดิม
STRIKE WITCHES กองบินส่วนเกินแห่งซุโอมุส [จิ้งจอกเงิน แห่งบริทาเนีย]
ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/32585161
ตอนที่ 3 http://ppantip.com/topic/32588884
“สวัสดีทุกคน ฉัน จ่าอากาศเอก วิลม่า บิชอป แห่ง บริทาเนีย เครื่องประจำตัวคือ รุ่นสปิท ไฟร์ มาร์คทู ยินดีที่ได้รู้จัก”
หญิงสาวจากบริทาเนีย กล่าวทักทุกคนอย่างสดใส สร้างความประทับใจให้ทุกคนจนเผลอปรบมือตอนรับพร้อมกันแม้จะไม่มีใครบอก ท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นธรรมชาตินั้น ทำให้เมื่อเทียบกับบิวร์ลิ่งแล้ว ช่างดูไม่เหมือนเลยว่าสองคนนี้มาจากประเทศเดียวกัน
“จากรายงานของพวกเธอ ตอนนี้พวกนิวรอยได้ทำการวิวัฒนาการตัวเองขึ้น พวกมันเรียนรู้พวกเรา ทำให้กองกำลังต่อต้านนิวรอยทั่วโลกตื่นตัวกับเรื่องนี้อย่างมาก” วิลม่าพูดต่อ “แต่อย่างเดียวที่พวกมันไม่อาจจะเลียนแบบ หรือเข้าใจได้ คือทักษะเวทมนตร์ของวิทช์ ซึ่งตอนนี้เหล่าวิทช์ที่มีทักษะเวทมนตร์ระดับสูงตอนนี้ได้ไปประจำอยู่ที่แนวหน้าของ คาร์ลสแลนด์ บริทาเนีย กับ โรมัญญา ดังนั้นฉันจึงได้รับหน้าที่มาฝึกสอนทุกคนให้รู้จักและใช้ทักษะเวทได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์และความตั้งใจ มีใครมีคำถามอะไรไหม ?”
สิ้นคำถามก็มีมือข้างหนึ่งยกขึ้นแทบจะทันที ทว่าเจ้าของมือนั้นกลับไม่ใช่โทโมโกะ เอลม่า แต่กลับเป็น ฮารุกะ คนที่น่าจะสนใจเรื่องการรบน้อยที่สุดในฝูงบินอาสาอิสระแห่งซุโอมุสนี้
“คุณวิลม่า บิชอป มีความสัมพันธ์ กับ เรืออากาศโท บิวร์ลิ่งยังไงคะ”
“...”
เกิดความเงียบชั่วขณะขึ้นระหว่างที่ประชุม ถ้าตามปกติฮารุกะคงโดนโทโมโกะเขกหัวไปแล้วที่ถามอะไรไร้สาระแบบนี้ แต่ที่ไม่โดน คงเพราะโทโมโกะเองก็สนใจเหมือนกัน ไม่เพียงแค่นั้น ทุกคนในกองบินยกเว้นบิวร์ลิ่งก็แทบจะกลั่นใจรอฟังคำตอบ
“กับอลิซาเบธน่ะเหรอ“ วิลม่าสบตาบิวร์ลิ่งแว่บหนึ่ง “คงเป็นรักข้างเดียวล่ะมั้ง... ว่าไปนั่น... แฮะๆ”
วิลม่าพยายามหัวเราะกลบเกลื่อนพลางลูบหัวตัวเองเหมือนล้อเล่น แต่ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีจัดไปถึงใบหู สายตาของทุกคนหันกลับมายังบิวร์ลิ่ง และได้เห็นสิ่งน่าเหลือเชื่อ ซึ่งอาจจะเป็นปรากฏการณ์หายากที่พบเห็นได้เพียงไม่กี่ครั้งในช่วงชีวิต
บิวร์ลิ่งหันมองไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาทุกคน... เหมือนแอบเขินเล็กๆ
ตามปกติแล้วคนอย่างบิวร์ลิ่งต่อให้โทโมโกะเอาดาบมาจอคอหรือมีกระสุนพุ่งเฉียดหน้า เธอก็ยังสูบบุหรี่ต่อไปได้อย่างไม่ยี่หระด้วยซ้ำ แต่นี่กลับมีปฏิกริยาชัดเจนจนทำให้คนอื่นในฝูงบินมีอาการแตกต่างกันไป ฮารุกะ เซนจูพินา กับแคทเธอรีนมีอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตาม ขณะที่อุรซุล่านิ่งเฉย เอลม่ามีท่าทางซึมลงไปนิดหน่อย และโทโมโกะที่ดูเหมือนจะเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา
“เลิกคุยเรื่องไร้สาระกันได้แล้ว” โทโมโกะตบโต๊ะพร้อมกับลุกขึ้นยืน “จ่าบิชชอป คุณจะฝึกให้พวกเราได้เมื่อไหร่ ?”
“ถ้างั้นภายในครึ่งชัวโมง ขอให้ทุกคนสวมสไตร์คเกอร์แล้วออกไปเจอกันข้างนอก” วิลม่าตอบ ”ยกเว้นอลิซาเบธ...”
“เอ๋ ทำไมอ่ะ ทำไมบิวร์ลิ่งถึงไม่ได้ฝึกกับพวกเราล่ะ ?” แคทเธอรีนเอ่ยปากถามก่อนใครเพื่อน
“ก็เพราะว่าอลิซาเบธเขาใช้ทักษะเวทได้อยู่แล้วน่ะค่ะ” วิลม่าตอบ
“เอ๋ !?”
แทบจะทุกคนในกองบินอุทานขึ้นมา ไม่มีใครรู้เรื่องนี้มาก่อน และตั้งแต่รู้จักกันมา บิวร์ลิ่งก็ไม่เคยใช้สิ่งที่เรียกว่าทักษะเวทให้ดูเลยซักครั้ง”
“ฉันลืมไปหมดแล้วล่ะ... ของแบบนั้น...”
พูดจบสาวผมเงินจากบริทาเนียก็เดินกลับเข้าห้องพักโดยไม่พูดอะไรอีกเลย
ฐานทัพของกองร้อย 501 ประจำบริทาเนีย
ระหว่างที่พันตรีซาคาโมโตะ ยังไม่กลับจากจักรวรรดิ์ฟุโซ แทบทุกคนดูเหมือนจะย่อนย่านเรื่องการฝึกซ้อมลงไป โดย ชาร์ลอต เยเกอร์ กับ ฟรานเชสก้า ลุชชีนี่ ถึงกับนอนอาบแดดสบายใจอยู่หน้าฐาน (เหตุการณ์ในภาคหลัก ภาคแรกตอนแรก นาทีที่ 20) แต่ก็มีสองนายทหารจาก คาร์ลสแลนด์ ที่กำลังเตรียมตัวต้อนรับการกลับมาของพันตรีซาคาโมโตะ โดยการเก็บของทำความสะอาด แต่ที่ต้องทำจริงๆแล้ว มีแค่คนเดียวมากกว่า
“ฮาร์ทมันน์ รีบเก็บของของเธอเร็วๆเข้า วันนี้พันตรีซาคาโมโตะจะกลับมาแล้วนะ”
สาวผมดำผู้มีท่าท่างเคร่งครัดในระเบียบวินัยออกคำสั่ง กับเด็กสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นไพล็อท เอส แห่งคาร์ลสแลนด์ ที่ทำลายยานฆ่าศึกของนิวรอยได้มากที่สุดในโลก แต่น้อยคนนักจะรู้ว่าเบื้องหลังของ วิทช์ที่ได้ชื่อว่า ทำลายนิวรอยได้มากที่สุด จะเป็นคนขี้เบื่อ หย่อนยานเรื่องวินัย แถมห้องพักของเธอยังเละเป็นกองขยะเพราะแทบไม่เคยเก็บกวาดอีกต่างหาก
“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่นาทรูเดย์... พันตรีเขาไม่เข้ามาสนใจเรื่องส่วนตัวของพวกเราซักหน่อย”
“แต่ความเคร่งครัดมีวินัย คือหัวใจหลักทหารของคาร์ลสแลนด์อย่างพวกเรานะ”
“ค่า ค่า...”
เสียงตอบรับยานคางเหนื่อยหน่ายของหญิงสาวที่ชื่อฮาร์ทมันน์ ดูเหมือนจะกระตุ้นความหงุดหงิดของคนที่ออกคำสั่งขึ้นมา
ตุ้บ !
เสียงของชิ้นหนึ่ง ตกลงมาจากข้าวของที่เรียกอีกอย่างว่ากองขยะ เป็นรูปถ่ายของเด็กสาวสองคนที่มีหน้าตาน่ารักและใบหน้าของทั้งคู่แทบจะไม่ต่างกันเลย
“นั่นมันรูปของอุรซุล่าไม่ใช่เหรอ ? รูปของน้องสาวตัวเองหัดเก็บให้ดีๆหน่อยสิ ฮาร์ทมันน์”
“รู้แล้วน่า...”
“ว่าแต่น้องสาวของเธอตอนนี้ได้ข่าวว่าถูกย้ายออกจากคาร์ลสแลนด์ไปอยู่ที่ซุโอมุสแล้วนี่นา”
“ใช่... รู้สึกจะเข้ากองบินอาสา ที่รวมนักบินมากจากหลายๆประเทศ รู้สึกว่า อดีต “จิ้งจอกเงิน” แห่งบริทาเนียก็อยู่ในกองบินอาสานั้นด้วย”
“ว่าไงนะ !!!!!! ยัยบ้าระห่ำนั่นก็อยู่ด้วยงั้นเหรอ”
“ใช่ แต่ตั้งแต่เหตุการณ์นั้น ยัยนั้นก็สงบเสงี่ยมลงไปมากแล้วคงไปเป็นไรหรอก”
ฮาร์ทมันกับทรูเดย์ยังคงจำติดตา สมัยที่พวกเธอเข้าสู่สนามรบใหม่ๆ มีสองนักบินจากบริทาเนียที่บ้าระห่ำไล่ทำลายล้างพวกนิวรอยราวกับเป็นเรื่องสนุกสนาน หนึ่งคนเป็นวิทช์สาวผมแดง ที่ใช้สไตรเกอร์รู่นเฮอร์ริเคน นิสัยโผ่งผ่างพูดจาเสียงดัง และยังสูบบุหรี่จัด ส่วนอีกคนเป็นสาวเงียบขรึมผู้ได้สมญานามว่า “จิ้งจอกเงิน” ตามสีผมของเธอ
มีครั้งหนึ่งที่ทั้งคู่ไล่ตามนิวรอยไปจนติดอยู่แนวหลังของข้าศึก ซึ่งกว่าชั่วโมงกำลังเสริมถึงจะฝ่าเข้าไปช่วยได้ ตอนนั้นฮาร์ทมันน์กับทรูเดย์ก็อยู่ในกำลังเสริมนั้นด้วย และสิ่งที่ทั้งคู่ได้เห็นเมื่อไปถึง คือซากของนิวรอยนับร้อยลำที่กระจายเกลื่อนซากปรักหักพังของเมือง โดยใจกลางของซากนิวรอยทั้งหมดนั้น ปรากฏร่างของ จิ้งจอกเงินแห่งบริทาเนีย กำลังอุ้มร่างไร้วิญญาญ ของสหายร่วมรบไว้ในอ้อมกอด โดยคาบบุหรี่ที่เป็นของคนตายไว้ในปาก
“น่ากลัว...”
ฮาร์ทมันน์รู้สึกขนลุกทันทีเมื่อนึกภาพที่อยากลืมนั้น ซึ่งทรูเดย์เองก็มีท่าทางไม่ต่างกัน ในตอนนั้นเธอเองก็ยังคิดว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นใช้พวกเดียวกันจริงๆหรือไม่
“ถ้ายัยนั้นยังทำสถิติอยู่ คิดว่าเธอจะเอาชนะได้ไหม ฮาร์ทมันน์”
“พูดเป็นเล่น... ด้วยทักษะเวทของยัยนั่น ถ้ายังใช้อยู่ ป่านนี้คงจมนิวรอยได้เป็นพันลำแล้วมั้ง...”
ทันใดนั้นเองก็มีสัญญาญการบุกของนิวรอยดังขึ้น ทำให้ทรูเดย์ขอตัวออกไปรับมือข้าศึกพร้อมคนอื่นๆ โดยก่อนไปได้บอกกำชับ เพื่อนสนิทของเธอกว่าก่อนกลับมาห้องต้องจัดเสร็จเรียบร้อย ซึ่งแน่นอนว่า หลังจากเธอกลับมาสภาพความรกก็ยังอยู่เหมือนเดิม