การออกกำลังกายนั้นนอกจากจะช่วยให้เราร่างกายแข็งแรง เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ยังสามารถช่วยเพิ่มความสุข และทำให้จิตใจเราปลอดโปร่งได้อีกด้วย
“ออกกำลังกายวันละนิด จิตแจ่มใส”
เป็นประโยคที่ใครหลายๆ คนอาจจะได้ยินมาบ่อยๆ แต่รู้ไหมว่ามันการออกกำลังกายมันช่วยเพิ่มความสุขได้จริงหรือ และอย่างไร?
(1) เมื่อเราออกกำลังกาย ความดันในร่างกายและอัตราการเต้นของหัวใจจะเพิ่มสูงขึ้น ทำให้สมองคิดว่าเราอยู่ในภาวะเครียดหรือตกอยู่ในสถาณการณ์ที่อันตราย และเพื่อป้องกันตัวเราจากความเครียด สมองจึงสั่งการให้หลั่งโปรตีนที่มีชื่อว่า BDNF ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้อนกันและซ่อมแซมเซลล์ประสาทนิวรอนที่เกี่ยวข้องกับความทรงจำ ทำเหมือนกับการรีเซตสวิตช์นิวรอนใหม่ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมหลังออกกำลังกายเราจึงรู้สึกว่าสมองปลอดโปร่ง กระปรี้กระเปร่า
ในขณะเดียวกันฮอร์โมนเอ็นโดรฟินซึ่งเกี่ยวข้องกับความสุขและการต่อสู้กับความเครียดก็จะถูกหลั่งออกมาเช่นเดียวกัน ซึ่งพอมันหลั่งออกมาในระหว่างการออกกำลังกาย มันก็จะทำหน้าที่ในการลดความรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว เจ็บจากการออกกำลังกายไปนิดหน่อย และทำให้เรารู้สึกสบายขึ้น
(2) นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยพบอีกว่าผู้ที่ออกกำลังกายจะรู้สึกดีกับร่างกายของตัวเอง ถึงแม้จะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพอะไรมากนักก็ตาม ซึ่งนั่นก็เป็นข้อดีใช่มั้ยหละคับ
(3)
จากภาพด้านบนเป็นภาพเปรียบเทียบสแกนสมองหลังจาก ‘นั่งเฉยๆ 20 นาที’ กับ ‘เดินไปเรื่อยๆ 20 นาที’ ผลปรากฎว่าภาพสแกนสมองหลังจากการเดินนั้นมีการทำงานที่เยอะขึ้น โดยเฉพาะบริเวณสีเหลืองส้มคือ basal ganglia ซึ่งทำหน้าที่หลักเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว และยังมีบทบาทสำคัญต่อการเรียนรู้และความจำอีกด้วย
(4) และที่สำคัญ สำหรับคนที่ไม่ค่อยหรือไม่เคยจะได้ลุกมาออกกำลังกายเลยเป็นเดือนๆ แล้ว อันนี้ขอแนะนำว่าให้ลองลุกมายืดเส้นยืดสายออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นวิ่งก็ดี หรือตีแบต ว่ายน้ำ อะไรก็ตามอย่างน้อย 20 นาทีอย่างต่อเนื่อง ความสุขและความสดชื่นที่ได้กล่าวไปแล้วจากการออกกำลังกายจะมีผลต่อคุณอย่างมากจริงๆ หนังสือ ‘The first 20 minutes’ เค้าบอกไว้อย่างนั้น
ดังนั้นแล้ว มาออกกำลังกายกันเถอะครับ !
ที่มา:
http://goo.gl/T7s4wD
การออกกำลังกายมันช่วยเพิ่ม "ความสุข" ได้อย่างไร วิทยาศาสตร์มีคำตอบ
“ออกกำลังกายวันละนิด จิตแจ่มใส”
เป็นประโยคที่ใครหลายๆ คนอาจจะได้ยินมาบ่อยๆ แต่รู้ไหมว่ามันการออกกำลังกายมันช่วยเพิ่มความสุขได้จริงหรือ และอย่างไร?
(1) เมื่อเราออกกำลังกาย ความดันในร่างกายและอัตราการเต้นของหัวใจจะเพิ่มสูงขึ้น ทำให้สมองคิดว่าเราอยู่ในภาวะเครียดหรือตกอยู่ในสถาณการณ์ที่อันตราย และเพื่อป้องกันตัวเราจากความเครียด สมองจึงสั่งการให้หลั่งโปรตีนที่มีชื่อว่า BDNF ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้อนกันและซ่อมแซมเซลล์ประสาทนิวรอนที่เกี่ยวข้องกับความทรงจำ ทำเหมือนกับการรีเซตสวิตช์นิวรอนใหม่ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมหลังออกกำลังกายเราจึงรู้สึกว่าสมองปลอดโปร่ง กระปรี้กระเปร่า
ในขณะเดียวกันฮอร์โมนเอ็นโดรฟินซึ่งเกี่ยวข้องกับความสุขและการต่อสู้กับความเครียดก็จะถูกหลั่งออกมาเช่นเดียวกัน ซึ่งพอมันหลั่งออกมาในระหว่างการออกกำลังกาย มันก็จะทำหน้าที่ในการลดความรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว เจ็บจากการออกกำลังกายไปนิดหน่อย และทำให้เรารู้สึกสบายขึ้น
(2) นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยพบอีกว่าผู้ที่ออกกำลังกายจะรู้สึกดีกับร่างกายของตัวเอง ถึงแม้จะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพอะไรมากนักก็ตาม ซึ่งนั่นก็เป็นข้อดีใช่มั้ยหละคับ
(3)
จากภาพด้านบนเป็นภาพเปรียบเทียบสแกนสมองหลังจาก ‘นั่งเฉยๆ 20 นาที’ กับ ‘เดินไปเรื่อยๆ 20 นาที’ ผลปรากฎว่าภาพสแกนสมองหลังจากการเดินนั้นมีการทำงานที่เยอะขึ้น โดยเฉพาะบริเวณสีเหลืองส้มคือ basal ganglia ซึ่งทำหน้าที่หลักเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว และยังมีบทบาทสำคัญต่อการเรียนรู้และความจำอีกด้วย
(4) และที่สำคัญ สำหรับคนที่ไม่ค่อยหรือไม่เคยจะได้ลุกมาออกกำลังกายเลยเป็นเดือนๆ แล้ว อันนี้ขอแนะนำว่าให้ลองลุกมายืดเส้นยืดสายออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นวิ่งก็ดี หรือตีแบต ว่ายน้ำ อะไรก็ตามอย่างน้อย 20 นาทีอย่างต่อเนื่อง ความสุขและความสดชื่นที่ได้กล่าวไปแล้วจากการออกกำลังกายจะมีผลต่อคุณอย่างมากจริงๆ หนังสือ ‘The first 20 minutes’ เค้าบอกไว้อย่างนั้น
ดังนั้นแล้ว มาออกกำลังกายกันเถอะครับ !
ที่มา: http://goo.gl/T7s4wD