สวัสดีค่ะ...ครั้งที่ 2 แล้ว ที่อุ๊บอิ๊บได้มีโอกาสเข้ามาเขียนเล่าประสบการณ์เรื่องวิ่งให้ทุกคนได้อ่านกันในพันทิป
ครั้งแรกที่เขียนไว้คือ
“ฉันเป็นผู้หญิงที่วิ่ง 112.5 Km” ตามลิงค์นี้นะคะ
http://ppantip.com/topic/32221236
แต่สำหรับคราวนี้ อิ๊บจะเล่าถึงประสบการณ์การวิ่งไปจังหวัดอยุธยาเมื่อวันศุกร์(29 สค.)ที่ผ่านมา^^
แม้ระยะทางที่วิ่งไปถึงอยุธยานี้จะเพียง 65 KM ซึ่งต่างจากเรื่องแรกที่เขียนเกือบครึ่ง แต่การวิ่งทั้งสองครั้งนี้มีข้อแตกต่างกันค่ะ
-
วิ่ง 112.5 Km เป็นงานวิ่งที่ชื่อว่า Ocean to Ocean เป็นงานวิ่งจาก จ.ระนองไปชุมพร
งานนี้ทางเจ้าของงานบังคับให้ต้องมีรถที่คอย Service น้ำ+เกลือแร่+อาหาร+ยา+ฯลฯ แก่นักกีฬาเพื่อความสะดวกและปลอดภัย
ดังนั้นอิ๊บจะไม่ต้องพกอะไรติดตัวไปมาก เพียงแต่ต้องต่อสู้กับเส้นทางที่เป็นเนินอันโหดร้ายให้ได้บวกกับระยะที่มากมายเท่านั้น
-
วิ่งไปอยุธยา...อันนี้ว่างจัดค่ะ 5555 ไปวิ่งเองซะเลย ^^ สรรหาความทรมานให้ตัวเองซะงั้น
ดังนั้นการวิ่งครั้งนึ้จึงไม่มีรถที่จะคอย Service **ทุกอย่างเราจะต้อง”แบก”ไปเองตลอดเส้นทาง
แถมวิ่งตอนกลางวันอีกต่างหาก... คงไม่ต้องบรรยายถึงความร้อนแดดบ้านเราช่วงนี้กันนะคะ T^T
***เอาล่ะค่ะ ..ใครสนใจอยากลองเข้าใจการวิ่งอัลตร้า ( ระยะเกินมาราธอน ) ลองสละเวลาอ่านดูนะคะ บางทีคุณอาจจะอยากลองวิ่งแบบนี้ดูบ้างก็ได้นะ ^^
( ตามเดิมนะคะ ขออนุญาตเรียกแทนตัวเองว่า “ออ” ( อุ๊บอิ๊บ ) นะคะ เพื่อสะดวกในการพิมพ์ค่ะ ^^ )
## เตรียมตัว ##
ออ วิ่งอัลตร้ามาหลายครั้งพอสมควรค่ะ เลยพอจะเรียนรู้มาได้บ้างว่า ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนจะวิ่งจริง ( ความรู้ส่วนมาก ออ ได้มาจากโค้ชคนเก่งของ ออ และปัญหาที่ ออ ได้พบเองบ้างขณะวิ่ง )
*
เรื่องการซ้อมก็ทั่วไปค่ะ...ซ้อมวิ่งระยะยาว 20-30 K ให้ชิน ต่อๆกันไปเรื่อยๆได้ทุกวัน ( แต่ ออ ก็ทำไม่ได้ทุกวันนะ ก็เลยวิ่งอัลตร้าไม่ดีเท่าไหร่ แหะๆ ) อ้อ!! ไม่ใช่เพียงแค่การเทรนร่างกายนะคะ ต้องพยายามเทรนใจตัวเองไม่ให้เบื่อได้ด้วย ^^
*ส่วน
เรื่องอาหาร...อันนี้ถนัด 5555 ทุกที ออ จะชอบพก Energy gel ( ยี่ห้อ GU , Power Gel etc ) ติดตัวไปด้วย และจะทานทุกๆ 6-7 Km Gel พวกนี้จะทำเป็นซองๆค่ะ ( อันนี้นักกีฬาวิ่ง , ปั่น จะรู้จักกันดี เพราะเป็นแหล่งพลังงานที่ใช้ได้ทันทีของพวกเราเลย ) แต่จากประสบการณ์ เวลาทานเจลเยอะๆ ออ จะบวม ( 5555 ) เป็นเพราะเจลจะมีเกลือแร่อยู่ และเกลือนี่แหละ เป็นสาเหตุทำให้ร่างกายกักน้ำ วิ่งไปได้สักพัก หน้าจะอูมๆ ( ปกติก็อูมจะแย่แล้ว 555 ) มือ ออ จะบวมเลย ... เข้าเส้นชัยมา หมดสภาพค่ะ เหมือนขึ้นอืดมาจากไหน T^T หลังๆมาเลยลองเปลี่ยนเป็นทำแซนวิชพกติดตัวไป เป็นพวก แฮมชีส...พริกเผาหมูหยอง...ล่าสุดที่ไปอยุธยา ออ พกหมูปิ้งข้าวเหนียวไปกินระหว่างทางเลยค่ะ 5555
การเตรียมแซนวิชของ ออ เอง ^^
*อุปกรณ์ เป้น้ำ (เป้บรรจุน้ำสะพายหลัง มีสายยางต่อมาด้านหน้าเพื่อให้เราดูดน้ำได้ขณะวิ่ง )
ไฟฉายคาดหัว ( ออ ออกแต่เช้ามืดค่ะ มีไฟฉายไว้ส่องทางป้องกันอันตราย )
หมวก แว่นตา และขนมหวานๆนิดหน่อยเพื่อเพิ่มน้ำตาลขณะวิ่ง
สาระพัดยา ...ยาดม พลาสเตอร์ แอลกอฮอลแผ่น ยาพารา
เราไม่พกเสื้อผ้าไปเปลี่ยนค่ะ กะว่าจะไปหาซื้อที่นั่น ^^
***การวิ่งอัลตร้า เราต้องพกทุกอย่างใส่ในเป้ไปด้วย ดังนั้นอะไรที่ไม่จำเป็น เราจะพยายามตัดออกเพราะยิ่งมีมากเท่าไหร่ เราจะยิ่ง “หนัก”นะคะ
## วิ่งกันๆ ##
ก่อนจะเล่าเรื่องวิ่ง ออ ขอพูดถึงพี่ที่วิ่งไปด้วยกันกับ ออ หน่อยนะคะ
พี่รอน เป็นยอดมนุษย์ยิ่งกว่า ออ อีกค่ะ 5555
พี่วิ่งระยะอัลตร้ามานาน และวิ่งถนนรอบกรุงเทพเป็นชีวิตจิตใจตั้งแต่ปี 2011 แล้ว
ก่อนที่ ออ จะมาวิ่งอัลตร้า ออ ยังเป็นนักวิ่งกิ๊กก๊อก 10 โล 20 โลอยู่เลยค่ะ ^^
พี่รอนเป็นพี่ที่มาเปลี่ยนให้ ออ ชอบการวิ่งอัลตร้า พี่จะคอยสอนและให้คำแนะนำที่ดีๆกับ ออ เสมอ
เรียกว่าเป็นซุปเปอร์โค้ชของ ออ เลยก็ว่าได้ค่ะ
เราผ่านการวิ่ง 112.5 K มาด้วยกัน
และเวลา ออ จะวิ่งซ้อมหรือวิ่งเล่นในกรุงเทพ พี่รอนจะวิ่งเป็นเพื่อน ออ ค่ะ
พี่จะเป็นคนหาเส้นทางวิ่งสวยๆ ทำให้การวิ่งไม่น่าเบื่อ ให้โบนัสด้วยการหยุดถ่ายรูป และวิ่งไปสอนเทคนิคการวิ่งไป
พี่สอนไปแบบให้ ออ ค่อยๆซึมซับไปเรื่อยๆ ไม่มีแบบแผนอะไรตายตัว ... วิ่งไปคุยไปเพลินๆ บางทีก็เกิน 40 กิโลนะคะ ^^
ภาพจากงานวิ่ง 112.5 K ค่ะ
ตัวอย่างเส้นทาง
City Run ที่พี่รอนเป็นคนวางแผนเส้นทางให้ ออ วิ่ง
สนุกมากๆเลยค่ะ
ป่ะ...เล่าเรื่องวิ่งไปอยุธยาดีกว่า
เช้าเวลา 4:00 พี่รอนวิ่งมารับ ออ ที่หน้าบ้าน พร้อมออกเดินทางไปอยุธยากันค่ะ
พี่มาถึงเราก็ทำการเซตอุปกรณ์ ยืดเส้นก่อนวิ่ง ก่อนออกตัววิ่งจริงๆประมาณ 4:30
... ตอนนั้นฝนตกปรอยๆด้วยค่ะ แต่ ออ ชอบนะ เย็นดี ^^ การวิ่งกับสายฝน ไม่เป็นปัญหากับพวกเราเลย
การวิ่งครั้งนี้ทุกอย่างได้รับการวางแผนอย่างดีจากซุปเปอร์โค้ชรอนมาแล้วค่ะ
พี่รอนมีประสบการณ์ในการวิ่งสูงมาก พี่เก่งเรื่องวางแผน และชอบวางแผนการวิ่งยาวเอามากๆ ออ ชอบฟังแผนที่พี่วางไว้ บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่ ออ นึกไม่ถึง พี่บอกว่า พี่ผ่านอะไรมามาก กว่าพี่จะรู้ พี่ลองผิดลองถูกมาเยอะ
ออ โชคดีที่แทบจะไม่ต้องลองผิดลองถูกเลย เพราะสิ่งที่พี่คอยบอก ออ เป็นสิ่งที่พี่เลือกมาให้ดีที่สุดแล้ว
และสิ่งสำคัญที่พี่รอนจะบอก ออ เสมอคือ
การเป็นนักอัลตร้าที่แท้จริง คือ การที่เราต้องดูแลตัวเองได้ด้วยตัวของเราเองตลอดเส้นทาง พกอุปกรณ์ทุกอย่างเอง แก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง ไม่มีนักวิ่งอัลตร้าที่ไหนในโลกต้องมีคนคอยsupport ดังนั้นเราต้องพร้อม วางแผน และรอบคอบให้มากที่สุด
พี่เลือกเวลาออก Start .. พี่กำหนด Pace ( ระยะเวลาที่ใช้วิ่ง ต่อระยะทาง 1 Km ) ... พี่ตั้งเป้าหมายว่าเราควรใช้เวลากันเท่าไหร่ ... และจิปาถะอีกมากมายที่จะเป็นการดูแลกันไปเรื่อยๆให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
พี่รอนบอกว่า "
คราวนี้เราไม่ได้วิ่งกันเล่นๆนะ...พี่ไม่ได้พา ออ ออกมาวิ่งเล่นเพื่อความสนุกเพียงอย่างเดียว เธอต้องได้เรียนรู้อะไรจากการวิ่งด้วย"
... ทุกทีที่เราซ้อมวิ่งกันตามที่ต่างๆในกรุงเทพ บางทีเราก็วิ่งเล่นกันจนทำให้เวลาวิ่งเสีย หยุดเดิน ถ่ายรูปกันเพลิน
แต่คราวนี้พี่ตั้งใจจะให้ ออ ทดลองการวิ่งในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมอยู่ไม่น้อยในหมู่นักกีฬา นั่นคือ Run Walk Run ของ eff galloway
Run Walk Runเป็นการวิ่งสลับเดินค่ะ ... อาจจะวิ่ง 10 นาที เดิน 1 นาที หรือวิ่ง 9 นาที เดิน 1 นาทีก็แล้วแต่บุคคล
ใครสนใจเรื่อง Run Walk Runสามารถอ่านได้จาก link นี้นะคะ
http://www.jeffgalloway.com/training/run-walk/
พี่เคยทดสอบกับ ออ ที่สนามเทรลงานวิ่งที่หนองจอกกันมาแล้ว ...
ระหว่างเดินเร็วก้าวยาวๆในระยะ 7 Km กับการ Jog ช้าๆ 7 Km เวลาที่ใช้ต่างกันนิดเดียวเองค่ะ
เราอาจเสียเวลาเสี้ยวนึงให้กับการเดิน แต่เราจะไม่เสียเวลาในจุดให้น้ำนานเท่ากับการที่เรา Jog นะคะ
ดังนั้นเวลาเฉลี่ยจึงใกล้เคียงกันมากๆ
**การเดินระหว่างการวิ่ง ไม่ใช่เรื่องน่าเสียหายอะไร เดินบ้างในระยะนึง (อย่าเดินเยอะแบบที่ออกแนวออกแนวอู้นะ)
จะช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นและวิ่งต่อได้ดีขึ้น เราเสียเวลาไปไม่มากหรอกค่ะ แต่เราเฟรชกว่าเราวิ่งต่อเนื่องยาวๆอีกนะ
สำหรับการไปอยุธยาคราวนี้ พี่รอนเลือก “วิ่ง 9 นาที เดิน 1 นาที” ไปตลอดเส้นทางจนถึงอยุธยา
โอ้วววว....ออ จะทำได้มั้ยอ่ะ T^T ปกติวิ่งๆเล่นๆ คราวนี้มีจริงจังซะด้วย
แผนที่ 2 ของพี่ก็คือ เราจะไปแบบ
Green
เราจะไม่ใช้รถ เดินทางออกจากบ้านด้วยสองเท้า จนถึงอยุธยา ... และไปสถานีรถไฟ นั่งรถไฟกลับมากรุงเทพ ลงสถานีที่ใกล้บ้านแล้วเดินเข้าบ้านเลย ... โชคดีที่บ้าน ออ ตรงกับสถานีบางซื่อ ส่วนพี่รอนนั่ง MRT และ BTS ต่อจนถึงบ้านเลยค่ะ
หลังจากที่เรามีแผนในการวิ่งแล้ว หน้าที่ของเราก็คือการทำตามแผน ... ก็แค่นั้น
จาก กม.ที่ 1 -19 เป็นเส้นทางเลียบคลองประปา จากหน้าบ้าน ออ ไปจนสุดเส้นทางเลยค่ะ จากแรกๆเป็นทางวิ่งดีๆ วิ่งจากหน้าโลตัสประชาชื่น เรื่อยไปถึงแยกประชานุกูล ไล่ไปแยกเดอะมอล์งามวงศ์วาน ไปถึงเมืองทองธานี เส้นทางก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนเราสองคนเริ่มรู้สึกว่าเราออกมาชานเมืองมากแล้ว ( เส้นทางนี้นักปั่นที่ปั่นไปอยุธยาคงทราบดี ^^ )
ยิ่งวิ่งไปเท่าไหร่ ยิ่งมีต้นไม้มากขึ้นเท่านั้น และมีอีกอย่างที่มากขึ้นตามมาด้วยคือคุณสุนัขค่ะ เห่ากันสนุกสนาน วิ่งไปทำใจดีสู้หมาไป 5555 เทคนิคการไล่หมามีมากมายค่ะ ทั้งกรี๊ดใส่ วิ่งเข้าใส่ ฉีดน้ำ และทำหน้าตาใจดี 555 ได้ผลนะคะ ต้องดูว่าแต่ละตัวเข้ามาหาเราในลักษณะไหน ^^
ออ หยุดที่ กม. 20 แวะเติมน้ำในเป้น้ำ ซึ่งดูดจะหมดแล้ว แล้ววิ่งกันต่อไปเรื่อยๆด้วยสูตร วิ่ง 9 นาที เดิน 1 นาที ... ( อ้อ ... นาฬิกาที่เราใช้ จะส่งเสียงเตือนทุก 9 นาที และ 1 นาทีถัดมาค่ะ ทำให้เรารู้ว่าเราจะเริ่มวิ่งแล้วนะ ... เราจะได้หยุดเดินแล้วนะ ^^ )
วิ่งสูตรนี้ดีนะคะ ... วิ่ง 9 นาที เราวิ่งไม่ช้าและไม่เร็วมาก เพราะการวิ่งอัลตร้า คือการวิ่งเพื่อรักษาให้ร่างกายสามารถวิ่งไปได้ต่อเรื่อยๆในอีกหลายกิโลข้างหน้าโดยไม่หมดแรงไปเสียก่อน แล้วตามด้วยเดิน 1 นาที ... การเดินนี้ไม่ใช่การเดินแบบอ้อยอิ่งนะคะ เราจะก้าวยาวๆ ดื่มน้ำ ยืดๆนิดๆหน่อยๆ พอเป็นพิธี ก่อนจะไปตั้งหน้าตั้งตาวิ่งกันต่อ
พอวิ่งมาได้ถึงกม.ที่ 23-24 ก็ถึงเวลาที่เราต้องทานอาหารเช้ากันแล้วค่ะ ... พี่รอนถามว่าจะหยุดทานที่ร้านอาหารหรือจะเดินทาน
แต่เพื่อไม่ให้เสียเวลา ออ เลือกเดินทานไปเรื่อยๆดีกว่า... เราเอาแซนวิชแฮมชีสฝีมือ ออ ที่แพคมาเอง เดินทานกันไป ก่อนจะกลับเข้าสู่โหมด วิ่ง 9 เดิน 1 กันต่อ
** พี่บอกว่าการทานอาหารเป็นสิ่งสำคัญกับการวิ่งอัลตร้าค่ะ อย่าปล่อยให้ร่างกาย”หมด” ก่อนแล้วค่อยทาน เพราะร่างกายเราจะไม่ฟื้นแล้ว ดังนั้นอย่ารอให้หมด ทานไปเลย ยังไงเราก็ได้ใช้เป็นพลังงานอยู่แล้ว
เมื่อทานกันอิ่มพอประมาณ เราก็ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งกันต่อ
คราวนี้เห็นถนนแล้วจะเป็นลม...ถนนกำลังก่อสร้างค่ะ รถบรรทุกวิ่งไปมา ฝุ่นตลบเลย หัวขาว หน้าขาวกันหมด
พอผ่านเส้นนั้นมาได้(ซึ่งยาวพอสมควร)ดีใจสุดๆค่ะ
เราตั้งใจไว้ว่าหลังจากมื้อแรก เราจะวิ่งกันอีก 10 Km เพื่อทานมื้อที่ 2 นั่นก็คือ ที่ระยะ 35 Km
คราวนี้เป็นทีของ ข้าวเหนียวหมูปิ้งที่ ออ เตรียมมาอีกนั่นแหละ ^^ ออ เอามา 2 ชุดค่ะ 1ชุดมีหมูปิ้ง 5 ไม้ข้าวเหนียว 1 ห่อ ให้พี่ชุดนึง ออ ชุดนึง
ขอบอกเลยว่ามันคือสวรรค์สุดๆ หมูปิ้งอะไรหนออร่อยได้ขนาดนี้ 5555 ..นี่มันอร่อยหรือว่าเราหิวกันแน่ TvT
เดินกินหมูปิ้งกับข้าวเหนียวบนไหล่ทาง รถที่ขับผ่านมาเห็นเราสองคนคงแปลกใจไม่น้อย...แต่งตัวประหลาดๆเดินกินหมูปิ้งข้างถนน 5555
พอกินอิ่ม ปัญหาต่อไปก็คือ...
หนังท้องตึง หนังตาหย่อนค่ะ ออ ตาจะปิด วิ่งไปง่วงไป
“ ป๊า! ออ ง่วง” (บางที ออ ก็เรียกพี่รอนว่า ป๊า ค่ะ เพราะเวลาพี่สอนพี่ชอบดุ ดุกว่าพ่อ ออ อีก555 )
พี่บอกว่าพี่ก็ง่วง แต่เราต้องอดทน มันจะเป็นแค่ช่วงเดียวเท่านั้น
( มีต่อนะคะ )
ฉันพา 2 เท้า...วิ่งก้าว...ไปอยุธยา ( สร้างแรงบันดาลใจ ^^ )
สวัสดีค่ะ...ครั้งที่ 2 แล้ว ที่อุ๊บอิ๊บได้มีโอกาสเข้ามาเขียนเล่าประสบการณ์เรื่องวิ่งให้ทุกคนได้อ่านกันในพันทิป
ครั้งแรกที่เขียนไว้คือ “ฉันเป็นผู้หญิงที่วิ่ง 112.5 Km” ตามลิงค์นี้นะคะ
http://ppantip.com/topic/32221236
แต่สำหรับคราวนี้ อิ๊บจะเล่าถึงประสบการณ์การวิ่งไปจังหวัดอยุธยาเมื่อวันศุกร์(29 สค.)ที่ผ่านมา^^
แม้ระยะทางที่วิ่งไปถึงอยุธยานี้จะเพียง 65 KM ซึ่งต่างจากเรื่องแรกที่เขียนเกือบครึ่ง แต่การวิ่งทั้งสองครั้งนี้มีข้อแตกต่างกันค่ะ
-วิ่ง 112.5 Km เป็นงานวิ่งที่ชื่อว่า Ocean to Ocean เป็นงานวิ่งจาก จ.ระนองไปชุมพร
งานนี้ทางเจ้าของงานบังคับให้ต้องมีรถที่คอย Service น้ำ+เกลือแร่+อาหาร+ยา+ฯลฯ แก่นักกีฬาเพื่อความสะดวกและปลอดภัย
ดังนั้นอิ๊บจะไม่ต้องพกอะไรติดตัวไปมาก เพียงแต่ต้องต่อสู้กับเส้นทางที่เป็นเนินอันโหดร้ายให้ได้บวกกับระยะที่มากมายเท่านั้น
-วิ่งไปอยุธยา...อันนี้ว่างจัดค่ะ 5555 ไปวิ่งเองซะเลย ^^ สรรหาความทรมานให้ตัวเองซะงั้น
ดังนั้นการวิ่งครั้งนึ้จึงไม่มีรถที่จะคอย Service **ทุกอย่างเราจะต้อง”แบก”ไปเองตลอดเส้นทาง
แถมวิ่งตอนกลางวันอีกต่างหาก... คงไม่ต้องบรรยายถึงความร้อนแดดบ้านเราช่วงนี้กันนะคะ T^T
***เอาล่ะค่ะ ..ใครสนใจอยากลองเข้าใจการวิ่งอัลตร้า ( ระยะเกินมาราธอน ) ลองสละเวลาอ่านดูนะคะ บางทีคุณอาจจะอยากลองวิ่งแบบนี้ดูบ้างก็ได้นะ ^^
( ตามเดิมนะคะ ขออนุญาตเรียกแทนตัวเองว่า “ออ” ( อุ๊บอิ๊บ ) นะคะ เพื่อสะดวกในการพิมพ์ค่ะ ^^ )
## เตรียมตัว ##
ออ วิ่งอัลตร้ามาหลายครั้งพอสมควรค่ะ เลยพอจะเรียนรู้มาได้บ้างว่า ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนจะวิ่งจริง ( ความรู้ส่วนมาก ออ ได้มาจากโค้ชคนเก่งของ ออ และปัญหาที่ ออ ได้พบเองบ้างขณะวิ่ง )
*เรื่องการซ้อมก็ทั่วไปค่ะ...ซ้อมวิ่งระยะยาว 20-30 K ให้ชิน ต่อๆกันไปเรื่อยๆได้ทุกวัน ( แต่ ออ ก็ทำไม่ได้ทุกวันนะ ก็เลยวิ่งอัลตร้าไม่ดีเท่าไหร่ แหะๆ ) อ้อ!! ไม่ใช่เพียงแค่การเทรนร่างกายนะคะ ต้องพยายามเทรนใจตัวเองไม่ให้เบื่อได้ด้วย ^^
*ส่วนเรื่องอาหาร...อันนี้ถนัด 5555 ทุกที ออ จะชอบพก Energy gel ( ยี่ห้อ GU , Power Gel etc ) ติดตัวไปด้วย และจะทานทุกๆ 6-7 Km Gel พวกนี้จะทำเป็นซองๆค่ะ ( อันนี้นักกีฬาวิ่ง , ปั่น จะรู้จักกันดี เพราะเป็นแหล่งพลังงานที่ใช้ได้ทันทีของพวกเราเลย ) แต่จากประสบการณ์ เวลาทานเจลเยอะๆ ออ จะบวม ( 5555 ) เป็นเพราะเจลจะมีเกลือแร่อยู่ และเกลือนี่แหละ เป็นสาเหตุทำให้ร่างกายกักน้ำ วิ่งไปได้สักพัก หน้าจะอูมๆ ( ปกติก็อูมจะแย่แล้ว 555 ) มือ ออ จะบวมเลย ... เข้าเส้นชัยมา หมดสภาพค่ะ เหมือนขึ้นอืดมาจากไหน T^T หลังๆมาเลยลองเปลี่ยนเป็นทำแซนวิชพกติดตัวไป เป็นพวก แฮมชีส...พริกเผาหมูหยอง...ล่าสุดที่ไปอยุธยา ออ พกหมูปิ้งข้าวเหนียวไปกินระหว่างทางเลยค่ะ 5555
การเตรียมแซนวิชของ ออ เอง ^^
*อุปกรณ์ เป้น้ำ (เป้บรรจุน้ำสะพายหลัง มีสายยางต่อมาด้านหน้าเพื่อให้เราดูดน้ำได้ขณะวิ่ง )
ไฟฉายคาดหัว ( ออ ออกแต่เช้ามืดค่ะ มีไฟฉายไว้ส่องทางป้องกันอันตราย )
หมวก แว่นตา และขนมหวานๆนิดหน่อยเพื่อเพิ่มน้ำตาลขณะวิ่ง
สาระพัดยา ...ยาดม พลาสเตอร์ แอลกอฮอลแผ่น ยาพารา
เราไม่พกเสื้อผ้าไปเปลี่ยนค่ะ กะว่าจะไปหาซื้อที่นั่น ^^
***การวิ่งอัลตร้า เราต้องพกทุกอย่างใส่ในเป้ไปด้วย ดังนั้นอะไรที่ไม่จำเป็น เราจะพยายามตัดออกเพราะยิ่งมีมากเท่าไหร่ เราจะยิ่ง “หนัก”นะคะ
## วิ่งกันๆ ##
ก่อนจะเล่าเรื่องวิ่ง ออ ขอพูดถึงพี่ที่วิ่งไปด้วยกันกับ ออ หน่อยนะคะ
พี่รอน เป็นยอดมนุษย์ยิ่งกว่า ออ อีกค่ะ 5555
พี่วิ่งระยะอัลตร้ามานาน และวิ่งถนนรอบกรุงเทพเป็นชีวิตจิตใจตั้งแต่ปี 2011 แล้ว
ก่อนที่ ออ จะมาวิ่งอัลตร้า ออ ยังเป็นนักวิ่งกิ๊กก๊อก 10 โล 20 โลอยู่เลยค่ะ ^^
พี่รอนเป็นพี่ที่มาเปลี่ยนให้ ออ ชอบการวิ่งอัลตร้า พี่จะคอยสอนและให้คำแนะนำที่ดีๆกับ ออ เสมอ
เรียกว่าเป็นซุปเปอร์โค้ชของ ออ เลยก็ว่าได้ค่ะ
เราผ่านการวิ่ง 112.5 K มาด้วยกัน
และเวลา ออ จะวิ่งซ้อมหรือวิ่งเล่นในกรุงเทพ พี่รอนจะวิ่งเป็นเพื่อน ออ ค่ะ
พี่จะเป็นคนหาเส้นทางวิ่งสวยๆ ทำให้การวิ่งไม่น่าเบื่อ ให้โบนัสด้วยการหยุดถ่ายรูป และวิ่งไปสอนเทคนิคการวิ่งไป
พี่สอนไปแบบให้ ออ ค่อยๆซึมซับไปเรื่อยๆ ไม่มีแบบแผนอะไรตายตัว ... วิ่งไปคุยไปเพลินๆ บางทีก็เกิน 40 กิโลนะคะ ^^
ภาพจากงานวิ่ง 112.5 K ค่ะ
ตัวอย่างเส้นทาง City Run ที่พี่รอนเป็นคนวางแผนเส้นทางให้ ออ วิ่ง
สนุกมากๆเลยค่ะ
ป่ะ...เล่าเรื่องวิ่งไปอยุธยาดีกว่า
เช้าเวลา 4:00 พี่รอนวิ่งมารับ ออ ที่หน้าบ้าน พร้อมออกเดินทางไปอยุธยากันค่ะ
พี่มาถึงเราก็ทำการเซตอุปกรณ์ ยืดเส้นก่อนวิ่ง ก่อนออกตัววิ่งจริงๆประมาณ 4:30
... ตอนนั้นฝนตกปรอยๆด้วยค่ะ แต่ ออ ชอบนะ เย็นดี ^^ การวิ่งกับสายฝน ไม่เป็นปัญหากับพวกเราเลย
การวิ่งครั้งนี้ทุกอย่างได้รับการวางแผนอย่างดีจากซุปเปอร์โค้ชรอนมาแล้วค่ะ
พี่รอนมีประสบการณ์ในการวิ่งสูงมาก พี่เก่งเรื่องวางแผน และชอบวางแผนการวิ่งยาวเอามากๆ ออ ชอบฟังแผนที่พี่วางไว้ บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่ ออ นึกไม่ถึง พี่บอกว่า พี่ผ่านอะไรมามาก กว่าพี่จะรู้ พี่ลองผิดลองถูกมาเยอะ
ออ โชคดีที่แทบจะไม่ต้องลองผิดลองถูกเลย เพราะสิ่งที่พี่คอยบอก ออ เป็นสิ่งที่พี่เลือกมาให้ดีที่สุดแล้ว
และสิ่งสำคัญที่พี่รอนจะบอก ออ เสมอคือ
การเป็นนักอัลตร้าที่แท้จริง คือ การที่เราต้องดูแลตัวเองได้ด้วยตัวของเราเองตลอดเส้นทาง พกอุปกรณ์ทุกอย่างเอง แก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง ไม่มีนักวิ่งอัลตร้าที่ไหนในโลกต้องมีคนคอยsupport ดังนั้นเราต้องพร้อม วางแผน และรอบคอบให้มากที่สุด
พี่เลือกเวลาออก Start .. พี่กำหนด Pace ( ระยะเวลาที่ใช้วิ่ง ต่อระยะทาง 1 Km ) ... พี่ตั้งเป้าหมายว่าเราควรใช้เวลากันเท่าไหร่ ... และจิปาถะอีกมากมายที่จะเป็นการดูแลกันไปเรื่อยๆให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
พี่รอนบอกว่า "คราวนี้เราไม่ได้วิ่งกันเล่นๆนะ...พี่ไม่ได้พา ออ ออกมาวิ่งเล่นเพื่อความสนุกเพียงอย่างเดียว เธอต้องได้เรียนรู้อะไรจากการวิ่งด้วย"
... ทุกทีที่เราซ้อมวิ่งกันตามที่ต่างๆในกรุงเทพ บางทีเราก็วิ่งเล่นกันจนทำให้เวลาวิ่งเสีย หยุดเดิน ถ่ายรูปกันเพลิน แต่คราวนี้พี่ตั้งใจจะให้ ออ ทดลองการวิ่งในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมอยู่ไม่น้อยในหมู่นักกีฬา นั่นคือ Run Walk Run ของ eff galloway
Run Walk Runเป็นการวิ่งสลับเดินค่ะ ... อาจจะวิ่ง 10 นาที เดิน 1 นาที หรือวิ่ง 9 นาที เดิน 1 นาทีก็แล้วแต่บุคคล
ใครสนใจเรื่อง Run Walk Runสามารถอ่านได้จาก link นี้นะคะ
http://www.jeffgalloway.com/training/run-walk/
พี่เคยทดสอบกับ ออ ที่สนามเทรลงานวิ่งที่หนองจอกกันมาแล้ว ...
ระหว่างเดินเร็วก้าวยาวๆในระยะ 7 Km กับการ Jog ช้าๆ 7 Km เวลาที่ใช้ต่างกันนิดเดียวเองค่ะ
เราอาจเสียเวลาเสี้ยวนึงให้กับการเดิน แต่เราจะไม่เสียเวลาในจุดให้น้ำนานเท่ากับการที่เรา Jog นะคะ
ดังนั้นเวลาเฉลี่ยจึงใกล้เคียงกันมากๆ
**การเดินระหว่างการวิ่ง ไม่ใช่เรื่องน่าเสียหายอะไร เดินบ้างในระยะนึง (อย่าเดินเยอะแบบที่ออกแนวออกแนวอู้นะ)
จะช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นและวิ่งต่อได้ดีขึ้น เราเสียเวลาไปไม่มากหรอกค่ะ แต่เราเฟรชกว่าเราวิ่งต่อเนื่องยาวๆอีกนะ
สำหรับการไปอยุธยาคราวนี้ พี่รอนเลือก “วิ่ง 9 นาที เดิน 1 นาที” ไปตลอดเส้นทางจนถึงอยุธยา
โอ้วววว....ออ จะทำได้มั้ยอ่ะ T^T ปกติวิ่งๆเล่นๆ คราวนี้มีจริงจังซะด้วย
แผนที่ 2 ของพี่ก็คือ เราจะไปแบบ Green
เราจะไม่ใช้รถ เดินทางออกจากบ้านด้วยสองเท้า จนถึงอยุธยา ... และไปสถานีรถไฟ นั่งรถไฟกลับมากรุงเทพ ลงสถานีที่ใกล้บ้านแล้วเดินเข้าบ้านเลย ... โชคดีที่บ้าน ออ ตรงกับสถานีบางซื่อ ส่วนพี่รอนนั่ง MRT และ BTS ต่อจนถึงบ้านเลยค่ะ
หลังจากที่เรามีแผนในการวิ่งแล้ว หน้าที่ของเราก็คือการทำตามแผน ... ก็แค่นั้น
จาก กม.ที่ 1 -19 เป็นเส้นทางเลียบคลองประปา จากหน้าบ้าน ออ ไปจนสุดเส้นทางเลยค่ะ จากแรกๆเป็นทางวิ่งดีๆ วิ่งจากหน้าโลตัสประชาชื่น เรื่อยไปถึงแยกประชานุกูล ไล่ไปแยกเดอะมอล์งามวงศ์วาน ไปถึงเมืองทองธานี เส้นทางก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนเราสองคนเริ่มรู้สึกว่าเราออกมาชานเมืองมากแล้ว ( เส้นทางนี้นักปั่นที่ปั่นไปอยุธยาคงทราบดี ^^ )
ยิ่งวิ่งไปเท่าไหร่ ยิ่งมีต้นไม้มากขึ้นเท่านั้น และมีอีกอย่างที่มากขึ้นตามมาด้วยคือคุณสุนัขค่ะ เห่ากันสนุกสนาน วิ่งไปทำใจดีสู้หมาไป 5555 เทคนิคการไล่หมามีมากมายค่ะ ทั้งกรี๊ดใส่ วิ่งเข้าใส่ ฉีดน้ำ และทำหน้าตาใจดี 555 ได้ผลนะคะ ต้องดูว่าแต่ละตัวเข้ามาหาเราในลักษณะไหน ^^
ออ หยุดที่ กม. 20 แวะเติมน้ำในเป้น้ำ ซึ่งดูดจะหมดแล้ว แล้ววิ่งกันต่อไปเรื่อยๆด้วยสูตร วิ่ง 9 นาที เดิน 1 นาที ... ( อ้อ ... นาฬิกาที่เราใช้ จะส่งเสียงเตือนทุก 9 นาที และ 1 นาทีถัดมาค่ะ ทำให้เรารู้ว่าเราจะเริ่มวิ่งแล้วนะ ... เราจะได้หยุดเดินแล้วนะ ^^ )
วิ่งสูตรนี้ดีนะคะ ... วิ่ง 9 นาที เราวิ่งไม่ช้าและไม่เร็วมาก เพราะการวิ่งอัลตร้า คือการวิ่งเพื่อรักษาให้ร่างกายสามารถวิ่งไปได้ต่อเรื่อยๆในอีกหลายกิโลข้างหน้าโดยไม่หมดแรงไปเสียก่อน แล้วตามด้วยเดิน 1 นาที ... การเดินนี้ไม่ใช่การเดินแบบอ้อยอิ่งนะคะ เราจะก้าวยาวๆ ดื่มน้ำ ยืดๆนิดๆหน่อยๆ พอเป็นพิธี ก่อนจะไปตั้งหน้าตั้งตาวิ่งกันต่อ
พอวิ่งมาได้ถึงกม.ที่ 23-24 ก็ถึงเวลาที่เราต้องทานอาหารเช้ากันแล้วค่ะ ... พี่รอนถามว่าจะหยุดทานที่ร้านอาหารหรือจะเดินทาน
แต่เพื่อไม่ให้เสียเวลา ออ เลือกเดินทานไปเรื่อยๆดีกว่า... เราเอาแซนวิชแฮมชีสฝีมือ ออ ที่แพคมาเอง เดินทานกันไป ก่อนจะกลับเข้าสู่โหมด วิ่ง 9 เดิน 1 กันต่อ
** พี่บอกว่าการทานอาหารเป็นสิ่งสำคัญกับการวิ่งอัลตร้าค่ะ อย่าปล่อยให้ร่างกาย”หมด” ก่อนแล้วค่อยทาน เพราะร่างกายเราจะไม่ฟื้นแล้ว ดังนั้นอย่ารอให้หมด ทานไปเลย ยังไงเราก็ได้ใช้เป็นพลังงานอยู่แล้ว
เมื่อทานกันอิ่มพอประมาณ เราก็ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งกันต่อ
คราวนี้เห็นถนนแล้วจะเป็นลม...ถนนกำลังก่อสร้างค่ะ รถบรรทุกวิ่งไปมา ฝุ่นตลบเลย หัวขาว หน้าขาวกันหมด
พอผ่านเส้นนั้นมาได้(ซึ่งยาวพอสมควร)ดีใจสุดๆค่ะ
เราตั้งใจไว้ว่าหลังจากมื้อแรก เราจะวิ่งกันอีก 10 Km เพื่อทานมื้อที่ 2 นั่นก็คือ ที่ระยะ 35 Km
คราวนี้เป็นทีของ ข้าวเหนียวหมูปิ้งที่ ออ เตรียมมาอีกนั่นแหละ ^^ ออ เอามา 2 ชุดค่ะ 1ชุดมีหมูปิ้ง 5 ไม้ข้าวเหนียว 1 ห่อ ให้พี่ชุดนึง ออ ชุดนึงขอบอกเลยว่ามันคือสวรรค์สุดๆ หมูปิ้งอะไรหนออร่อยได้ขนาดนี้ 5555 ..นี่มันอร่อยหรือว่าเราหิวกันแน่ TvT
เดินกินหมูปิ้งกับข้าวเหนียวบนไหล่ทาง รถที่ขับผ่านมาเห็นเราสองคนคงแปลกใจไม่น้อย...แต่งตัวประหลาดๆเดินกินหมูปิ้งข้างถนน 5555
พอกินอิ่ม ปัญหาต่อไปก็คือ...หนังท้องตึง หนังตาหย่อนค่ะ ออ ตาจะปิด วิ่งไปง่วงไป
“ ป๊า! ออ ง่วง” (บางที ออ ก็เรียกพี่รอนว่า ป๊า ค่ะ เพราะเวลาพี่สอนพี่ชอบดุ ดุกว่าพ่อ ออ อีก555 )
พี่บอกว่าพี่ก็ง่วง แต่เราต้องอดทน มันจะเป็นแค่ช่วงเดียวเท่านั้น
( มีต่อนะคะ )