วันนี้มีสามสาเหตุสำคัญที่ทำให้เรารู้สึกว่าอีโบล่ายังเป็นเรื่องไกลตัว คือ
1.เราไม่ค่อยตระหนักว่าวันนี้มีคนจาก กีนี ไนจีเรีย เซียร่ารีโอน ไลบีเลีย เดินทางเข้ามาเดือนละเท่าไหร่
ซึ่งถ้าไปเดินย่านโบ้เบ๊ หลังสวน หรือ ตลาดพลอยจันทบุรี เราอาจตระหนักมากขึ้น
2.เรามองอีโบล่าในฐานะโรคเพียงโรคเดียว ซึ่งความเสี่ยงที่แท้จริงคือความอ่อนแอของประเทศ
ในการรับมือกับโรคอุบัติใหม่ทั้งหมด
3.เราไม่ค่อยตระหนักว่าระบบควบคุมโรคที่เรามี สามารถรองรับได้แค่กลุ่มโรคระดับ Bio Safety Level 3 (BSL 3) เท่านั้น
แต่โรคระบาดระดับ Bio Safety Level 4 (BSL 4) นั้นเรายังไม่มีความพร้อม
ดังนั้นวันนี้จึงมีหลายคำถามที่เราต้องช่วยกันรณรงค์เพื่อหาคำตอบ เช่น
1.ในระยะสั้นเราพร้อมรับมือกับโรคระดับ BSL 4 ตรงหน้าคือ อีโบลารึยัง
ทำยังไงเราถึงจะพร้อม
จะตรวจระบุโรคได้อุปกรณ์ตรวจ 300 ชุด มาถึงรึยัง
มีการอบรมให้คนที่ทำงานใน 17 ท่าเรือ 5 สนามบินรึยัง
ชายแดนมีมาตรการรึยัง พื้นที่เสี่ยงมีมาตรการรึยัง
แล้วตกลงจะให้คนตรวจใส่อะไรไปตรวจ
ชุดปฏิบัติการะดับ BSL4 ไม่มีแน่ๆ แล้วมี BSL 3 กี่ชุด
ใครจะตรวจสอบขั้นตอนการทำงาน เพื่อป้องการการหลุดรั่วเหมือนที่กำลังเกิดในประเทศอื่น
2.ในระยะยาว ในฐานะประเทศเขตร้อนที่เป็นศูนย์การคมนาคมของภูมิภาค
เราได้เตรียมความพร้อมในการรับมือโรคระบาดระดับ 4 แค่ไหน
หากเราได้ข้อสรุปว่าจำเป็นต้องมี BSL4
ความท้าทายที่ตามมาคือทำยังไงเราถึงจะมีการพัฒนาผู้เชี่ยวชาญระดับ 4
และ การควบคุมความเสี่ยงจากตัวระบบ BSL4 เอง
วันนี้มีการวาง 5 ยุทธศาตร์ในการป้องกันโรคอุบัติใหม่
ประชาชนได้ตื่นตัวในการติดตามให้แผนงานเกิดขึ้นจริงแค่ไหน
หรือมันจะกลายเป็นแค่แผ่นกระดาษเหมือนยุทธศาสตรืด้านอื่นๆ
เรื่อง BSL4 สำหรับประเทศเขตร้อนที่เป็นศูนย์กลางการเดินทางของภูมิภาค
ผมยังคิดว่าการผลักดันให้มี BSL4 lab ในไทย
เป็นเรื่องที่จำเป็นต่อความมั่นคงของคนไทยในอนาคต
มันไม่ใช่แค่เพื่อป้องกันอีโบลาที่อาจมาถึงหรือไม่มาก็ได้
แต่มันยังจำเป็นต่อการศึกษาและป้องกันโรคอุบัติใหม่ที่เป็น BSL4 4 ทั้งหมด
หากเกิดการระบาดโดยที่เรายังไม่พร้อม
คงไม่มีอยากเห็นวันที่ชาติยุโรปต้องขน BSL3 EMlab มาตั้งในเมืองไทย
ก่อนที่ไทยจะสามารถมี BSL4 ของตัวเอง
ถึงแม้บางท่านอาจเสียศรัทธาต่อระบบการบริหารจัดการที่ผ่านมาของประเทศเราไปแล้ว
และหวาดกลัวความเสี่ยงความล้มเหลวในการควบคุม BSL4 ในอนาคต
จนมองว่ามันไม่ต่างกับการผลักดันให้ตั้งโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์
แต่ผมก็ยังอยากเห็นคนไทยสู้เพื่อดูแลกันและกันอย่างถึงที่สุด มากกว่าแพ้โดยไม่สู้อะไรเลย
ของแถม
ผมกำลังรวบรวมเรื่องราวของ เหล่าHERO ที่ต่อสู้กับ Ebola ไว้ที่นี่
(เพิ่งเขียนไปท่านเดียว จะเพิ่มเรื่อยๆ)
http://inspirecorner.blogspot.com/2014/08/hero-ebola.html
ขอบคุณที่ทนอ่านนะครับ
คำถามเรื่องอีโบลา สำหรับประเทศเขตร้อนที่เป็นศูนย์การคมนาคมของภูมิภาค
1.เราไม่ค่อยตระหนักว่าวันนี้มีคนจาก กีนี ไนจีเรีย เซียร่ารีโอน ไลบีเลีย เดินทางเข้ามาเดือนละเท่าไหร่
ซึ่งถ้าไปเดินย่านโบ้เบ๊ หลังสวน หรือ ตลาดพลอยจันทบุรี เราอาจตระหนักมากขึ้น
2.เรามองอีโบล่าในฐานะโรคเพียงโรคเดียว ซึ่งความเสี่ยงที่แท้จริงคือความอ่อนแอของประเทศ
ในการรับมือกับโรคอุบัติใหม่ทั้งหมด
3.เราไม่ค่อยตระหนักว่าระบบควบคุมโรคที่เรามี สามารถรองรับได้แค่กลุ่มโรคระดับ Bio Safety Level 3 (BSL 3) เท่านั้น
แต่โรคระบาดระดับ Bio Safety Level 4 (BSL 4) นั้นเรายังไม่มีความพร้อม
ดังนั้นวันนี้จึงมีหลายคำถามที่เราต้องช่วยกันรณรงค์เพื่อหาคำตอบ เช่น
1.ในระยะสั้นเราพร้อมรับมือกับโรคระดับ BSL 4 ตรงหน้าคือ อีโบลารึยัง
ทำยังไงเราถึงจะพร้อม
จะตรวจระบุโรคได้อุปกรณ์ตรวจ 300 ชุด มาถึงรึยัง
มีการอบรมให้คนที่ทำงานใน 17 ท่าเรือ 5 สนามบินรึยัง
ชายแดนมีมาตรการรึยัง พื้นที่เสี่ยงมีมาตรการรึยัง
แล้วตกลงจะให้คนตรวจใส่อะไรไปตรวจ
ชุดปฏิบัติการะดับ BSL4 ไม่มีแน่ๆ แล้วมี BSL 3 กี่ชุด
ใครจะตรวจสอบขั้นตอนการทำงาน เพื่อป้องการการหลุดรั่วเหมือนที่กำลังเกิดในประเทศอื่น
2.ในระยะยาว ในฐานะประเทศเขตร้อนที่เป็นศูนย์การคมนาคมของภูมิภาค
เราได้เตรียมความพร้อมในการรับมือโรคระบาดระดับ 4 แค่ไหน
หากเราได้ข้อสรุปว่าจำเป็นต้องมี BSL4
ความท้าทายที่ตามมาคือทำยังไงเราถึงจะมีการพัฒนาผู้เชี่ยวชาญระดับ 4
และ การควบคุมความเสี่ยงจากตัวระบบ BSL4 เอง
วันนี้มีการวาง 5 ยุทธศาตร์ในการป้องกันโรคอุบัติใหม่
ประชาชนได้ตื่นตัวในการติดตามให้แผนงานเกิดขึ้นจริงแค่ไหน
หรือมันจะกลายเป็นแค่แผ่นกระดาษเหมือนยุทธศาสตรืด้านอื่นๆ
เรื่อง BSL4 สำหรับประเทศเขตร้อนที่เป็นศูนย์กลางการเดินทางของภูมิภาค
ผมยังคิดว่าการผลักดันให้มี BSL4 lab ในไทย
เป็นเรื่องที่จำเป็นต่อความมั่นคงของคนไทยในอนาคต
มันไม่ใช่แค่เพื่อป้องกันอีโบลาที่อาจมาถึงหรือไม่มาก็ได้
แต่มันยังจำเป็นต่อการศึกษาและป้องกันโรคอุบัติใหม่ที่เป็น BSL4 4 ทั้งหมด
หากเกิดการระบาดโดยที่เรายังไม่พร้อม
คงไม่มีอยากเห็นวันที่ชาติยุโรปต้องขน BSL3 EMlab มาตั้งในเมืองไทย
ก่อนที่ไทยจะสามารถมี BSL4 ของตัวเอง
ถึงแม้บางท่านอาจเสียศรัทธาต่อระบบการบริหารจัดการที่ผ่านมาของประเทศเราไปแล้ว
และหวาดกลัวความเสี่ยงความล้มเหลวในการควบคุม BSL4 ในอนาคต
จนมองว่ามันไม่ต่างกับการผลักดันให้ตั้งโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์
แต่ผมก็ยังอยากเห็นคนไทยสู้เพื่อดูแลกันและกันอย่างถึงที่สุด มากกว่าแพ้โดยไม่สู้อะไรเลย
ของแถม
ผมกำลังรวบรวมเรื่องราวของ เหล่าHERO ที่ต่อสู้กับ Ebola ไว้ที่นี่
(เพิ่งเขียนไปท่านเดียว จะเพิ่มเรื่อยๆ)
http://inspirecorner.blogspot.com/2014/08/hero-ebola.html
ขอบคุณที่ทนอ่านนะครับ