สวัสดีค่า คุณพ่อคุณแม่ๆทุกท่าน จำไม่ได้แล้วว่าไม่ได้เข้ามาตั้งกระทู้ในพันทิปนานแค่ไหนแล้ว ทั้งที่แต่ก่อนก็เข้าเปิดท้ายชานเรือน เข้ามาโพสรูปลูก เข้ามาแชร์ และเข้ามาหาความรู้ ในนี้ประจำ
จริงๆแล้วไม่เคยคิดเลยว่าในชีวิตลูกจะป่วยหนักมากขนาดนี้ ไม่เคยคิดว่าโรคร้ายแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวเรา โดยเฉพาะลูกสาวเรา !!
เหตุที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาแค่อยากแชร์ อยากเล่าให้ฟัง อยากระบาย อยากให้ดูสังเกตลูกเราอยู่เสมอ
คนเป็นพ่อเป็นแม่นั้นอยู่ใกล้ชิดลูกที่สุดเพราะฉะนั้นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับลูกหรือเมื่อใดที่มีความผิดปกติอะไรขึ้นมาเราควรจะเป็นผู้ที่สังเกตเห็นได้เป็นคนแรก หรือถ้ามีอะไรที่เราคิดว่ามันไม่ปกติ ควรรีบปรึกษาหมอโดยเร็วที่สุด สมัยนี้สังคมอยู่กันยากขึ้น โรคภัยไข้เจ็บมีมากมายทั้งโรคที่รู้จักและไม่รู้จัก และเป็นกันง่าย บางทีก็เป็นแล้วหายยาก หรือเป็นแล้วเป็นอีก บ้านไหนที่ลูกสุขภาพแข็งแรงคือว่าโชคดีมากๆเลยค่า
เริ่มเรื่องเลยคือ เมื่อวันเสาร์ที่ 19 /4/57 ตอนเช้าตอนใส่เสื้อผ้าให้ลูกก็สังเกตที่ต้นแขนด้านในข้างขวาของน้องมีมี่ มีแผลเป็นจุดเล็กเลยถามสามี ว่าเมื่อวานมีไหม เค้าว่าไม่มี ก็เลยงงว่าแพ้อะไรหรือเปล่าหรือโดนอะไรกัด ก็ถ่ายรูปไว้ เพราะรู้สึกมันแปลกๆ ตอนบ่ายมาดูอีกเลยเห็นว่ามันใหญ่ขึ้น ถ่ายรูปไว้อีก และเริ่มไม่สบายใจละ เลยคุยกะสามีว่าจะพาไปหาหมอดูดีกว่า จะได้ปรึกษาเรื่องซีดด้วย (พอดีอากงอาม่าที่บ้านมีพูดมาสักพักละตั้งแต่ช่วงก่อนสงกรานต์ว่ามีมี่ดูซีด) เลยพาไปหาหมอที่ รพ เอกชนแถวบ้าน พอดีวันนี้หมอประจำมีมี่ไม่อยู่เลยตรวจกับท่านอื่นแทน หมอว่าไม่ได้อักเสบอะไร เราเอารูปให้หมอดูเปรียบเทียบตอนเช้ากะบ่ายด้วย และถามว่าต้องทายาอะไรไหม หมอว่าไม่ต้อง ทาหรือไม่ทาก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ และเราถามหมอว่าน้องดูซีดมาสักพัก ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ หมอก็บอกว่าเท่าที่ดูไม่ได้ซีดมาก และก็บอกว่าหมอไม่ใช่หมอประจำน้องไม่แน่ใจว่าตอนปกติต่างกับตอนนี้มากไหม ถ้าคุณแม่ไม่สบายใจจะพามาหาหมอประจำพรุ่งนี้ก็ได้ และหมอก็จัดยาแก้อักเสบมาให้และกลับบ้าน
ส่วนตัวเราคุยกับหมอแล้วรู้สึกไม่คลิก เลยตั้งใจว่าวันอาทิตย์หมอประจำเข้าเลยจะพาไปหาใหม่แน่นอน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ลืมถ่ายรูปแผลที่แขนด้วย ตอนเช้าตกใจเหมือนกันนะมันใหญ่ขึ้น พองขึ้น ถ่ายรูปไว้ (คือเราติดนิสัยถ่ายรูปลูก โดยเฉพาะอาการต่างๆเนื่องจากลูกเราแพ้อาหาร และก็เป็นผิวหนังอักเสบ atopic dermatitis บางทีจะอธิบายลักษณะผื่นให้หมอฟังมันสู้เอารูปให้ดูเลยไม่ได้)
ใครจะคิดว่าลูกสาววัย 3.6 ขวบของฉันจะเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว T_T
จริงๆแล้วไม่เคยคิดเลยว่าในชีวิตลูกจะป่วยหนักมากขนาดนี้ ไม่เคยคิดว่าโรคร้ายแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวเรา โดยเฉพาะลูกสาวเรา !!
เหตุที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาแค่อยากแชร์ อยากเล่าให้ฟัง อยากระบาย อยากให้ดูสังเกตลูกเราอยู่เสมอ
คนเป็นพ่อเป็นแม่นั้นอยู่ใกล้ชิดลูกที่สุดเพราะฉะนั้นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับลูกหรือเมื่อใดที่มีความผิดปกติอะไรขึ้นมาเราควรจะเป็นผู้ที่สังเกตเห็นได้เป็นคนแรก หรือถ้ามีอะไรที่เราคิดว่ามันไม่ปกติ ควรรีบปรึกษาหมอโดยเร็วที่สุด สมัยนี้สังคมอยู่กันยากขึ้น โรคภัยไข้เจ็บมีมากมายทั้งโรคที่รู้จักและไม่รู้จัก และเป็นกันง่าย บางทีก็เป็นแล้วหายยาก หรือเป็นแล้วเป็นอีก บ้านไหนที่ลูกสุขภาพแข็งแรงคือว่าโชคดีมากๆเลยค่า
เริ่มเรื่องเลยคือ เมื่อวันเสาร์ที่ 19 /4/57 ตอนเช้าตอนใส่เสื้อผ้าให้ลูกก็สังเกตที่ต้นแขนด้านในข้างขวาของน้องมีมี่ มีแผลเป็นจุดเล็กเลยถามสามี ว่าเมื่อวานมีไหม เค้าว่าไม่มี ก็เลยงงว่าแพ้อะไรหรือเปล่าหรือโดนอะไรกัด ก็ถ่ายรูปไว้ เพราะรู้สึกมันแปลกๆ ตอนบ่ายมาดูอีกเลยเห็นว่ามันใหญ่ขึ้น ถ่ายรูปไว้อีก และเริ่มไม่สบายใจละ เลยคุยกะสามีว่าจะพาไปหาหมอดูดีกว่า จะได้ปรึกษาเรื่องซีดด้วย (พอดีอากงอาม่าที่บ้านมีพูดมาสักพักละตั้งแต่ช่วงก่อนสงกรานต์ว่ามีมี่ดูซีด) เลยพาไปหาหมอที่ รพ เอกชนแถวบ้าน พอดีวันนี้หมอประจำมีมี่ไม่อยู่เลยตรวจกับท่านอื่นแทน หมอว่าไม่ได้อักเสบอะไร เราเอารูปให้หมอดูเปรียบเทียบตอนเช้ากะบ่ายด้วย และถามว่าต้องทายาอะไรไหม หมอว่าไม่ต้อง ทาหรือไม่ทาก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ และเราถามหมอว่าน้องดูซีดมาสักพัก ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ หมอก็บอกว่าเท่าที่ดูไม่ได้ซีดมาก และก็บอกว่าหมอไม่ใช่หมอประจำน้องไม่แน่ใจว่าตอนปกติต่างกับตอนนี้มากไหม ถ้าคุณแม่ไม่สบายใจจะพามาหาหมอประจำพรุ่งนี้ก็ได้ และหมอก็จัดยาแก้อักเสบมาให้และกลับบ้าน
ส่วนตัวเราคุยกับหมอแล้วรู้สึกไม่คลิก เลยตั้งใจว่าวันอาทิตย์หมอประจำเข้าเลยจะพาไปหาใหม่แน่นอน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ลืมถ่ายรูปแผลที่แขนด้วย ตอนเช้าตกใจเหมือนกันนะมันใหญ่ขึ้น พองขึ้น ถ่ายรูปไว้ (คือเราติดนิสัยถ่ายรูปลูก โดยเฉพาะอาการต่างๆเนื่องจากลูกเราแพ้อาหาร และก็เป็นผิวหนังอักเสบ atopic dermatitis บางทีจะอธิบายลักษณะผื่นให้หมอฟังมันสู้เอารูปให้ดูเลยไม่ได้)