ไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมได้ตอบกระทู้หนึ่งที่ จขกท ไปทานราเมงมาในราคา 55 บาทแต่เห็นปริมาณแล้วตกใจครับ ด้วยความที่อยากรู้ว่าหากทำทานเองแบบอิ่มพุงกางมันจะใช้เงินทั้งหมดเท่าไร เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้นะครับ สำหรับสูตรเป็นของผู้ปกครองชาวญี่ปุ่นท่านหนึ่งที่รู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี อยู่เมืองไทยนานมากจนทานอาหารรสชาติไทยๆได้ โทรไปขอสูตรเพราะยังไม่เคยทำท่านก็กรุณาส่งมาให้โดยทันที ขอบพระคุณมา ณ ที่นี้นะครับ เริ่มกันเลยครับ
วัตถุดิบหลักๆที่ใช้ ตามภาพเลยนะครับ ทั้งปริมาณและราคา
เส้นราเมงราคาถุงละ 33 บาทและลูกชิ้นปลาราคาถุงละ 99 บาท
การหมักหมูชาชู
เรียงจากซ้ายไปขวานะครับ ต้นหอมญี่ปุ่นซอย 3 ต้น เชือกสำหรับมัดหมูชาชู เนื้อสันคอหมู น้ำตาล โชยุ หัวหอม 1 หัวผ่าเป็น 4 กลีบ ขิง 1 แง่งซอยแล้วทุบ กระเทียม 5 กลีบทุบทั้งเปลือก
เลือกด้านขวาสุด ใช้มีดเฉือนลงไปแต่อย่าให้ขาดจากกัน จากนั้น....
ค่อยๆเฉือนด้านข้างไปเรื่อยๆ (มีดขอให้คมมากๆเลยนะครับ)
จนสุดปลายอีกด้าน พยายามให้มีความหนาที่เท่ากันให้มากที่สุดแล้วผ่าครึ่งครับ
เอาส้อมจิ้มรัวๆ ให้พรุนแบบในรูปเพื่อให้น้ำซอสซึมเข้าเนื้อหมูให้มากที่สุดครับ
สูตรซอสหมักหมูชาชู
โชยุ 9 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 6 ช้อนโต๊ะ และผักต่างๆ ที่ซอยไว้
ขั้นตอนการหมักหมูชาชู
โรยน้ำตาลลงบนเนื้อหมูจากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน
เทโชยุลงไปแล้วคลุก นวดให้ส่วนผสมทั้งสองอย่างเข้ากัน น้ำตาลละลายหมดเมื่อไรก็หยุดนวดได้ครับ
ใส่ผักที่ซอยไว้ลงไปคลุกเบาๆให้เข้ากัน เอาผักบางส่วนใส่ในเนื้อหมูแล้วม้วนไว้ทั้งสองชิ้น...จากนั้น
นำทุกอย่างใส่ถุงพลาสติกไล่อากาศออกให้หมดแล้วมัดปากถุงให้แน่นนำไปเก็บไว้ช่องรองช่องแช่แข็ง 1 คืนครับ (ผมหมักหมูคืนวันเสาร์)
วันอาทิตย์เช้าครับ มาทำทานกันได้แล้ว
เครื่องปรุงน้ำซุป จากซ้ายนะครับ โชหยุ 5 ช้อนโต๊ะ มิริน 5 ช้อนโต๊ะ กระดูกสันหลังหมู หอมหัวใหญ่ 1 ลูก (ผ่า4) ต้นหอมญี่ปุ่น 2 ต้น เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมนี้สำหรับน้ำ 1 ลิตรครึ่งนะครับ
นำส่วนผสมทุกอย่างลงต้มในหม้อเร่งไฟแรงก่อนพอน้ำเดือดปรับลดเป็นไฟอ่อนๆ เคี่ยวไปเรื่อยๆครับ
วิธีปรุงหมูชาชู
นำหมูที่หมักไว้มาคลี่ออก เอาผักต่างๆแยกใส่ถุง
ม้วนเนื้อหมูแล้วมัดให้แน่นๆทีละเปลาะใช้เงื่อนตายนะครับ
เรียบร้อยแล้วครับ ทำครั้งแรกอาจไม่ค่อยสวยเท่าไรนะครับ
เปิดไฟกลาง นำหมูที่ม้วนแล้วใส่ลงไปไม่ต้องใช้น้ำมันนะครับ
พลิกไปมาจนแต่ละด้านเริ่มตึงๆพอสีของเนื้อหมูเริ่มเปลี่ยนดังรูป....
นำผักทั้งหมดที่อยู่ในถุงใส่ลงในกระทะ ผัดแป๊บเดียวแล้ว....
เติมน้ำ 1 ลิตรลงไปเลยครับ รอจนใกล้เดือดก็ย้ายลงหม้อนะครับ
ใช้ไฟกลางต้มไปเรื่อยๆหมั่นคนหน่อยก็ดีครับ เดี๋ยวเนื้อหมูจะไหม้ติดหม้อ
แอบชำเลืองมองหม้อซุป กลิ่นหอมใช้ได้เลยครับ
สองชั่วโมงกว่าๆ ผ่านไป หมูชาชูของผมหน้าตาใช้ได้เลยครับ จากหมูและน้ำซอสขลุกขลิกที่เห็น ผมเพิ่มความเข้มข้นของหมูชาชู โดยใช้โชยุ 5 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ กระเทียมทุบ 3 กลีบ และขิงทุบอีก 1 แง่ง ผสมน้ำ 1 ถ้วย เคี่ยวให้งวดแล้วเอาหมูชาชูลงคลุก ผมไปต้มไข่ก่อนนะครับ
ใช้เวลาต้ม 5 นาทีไม่ขาดไม่เกิน ปอกเปลือกแล้ว.....
นำไปหมักกับหมูชาชูและซอสที่เหลือจากการเคี่ยวครั้งล่าสุดครับ เพื่อความฟิน
กรองน้ำซุปที่เหลือจากการต้มหมูชาชู
ได้แค่นี้เองครับ แต่เข้มข้นมากๆ
กรองน้ำซุบที่ได้จากการต้มกระดูกสันหลังหมู หอม หวานนิดๆ เค็มครับ ถึงว่าต้องผสมซุปทั้งสองอย่างนี้พร้อมกัน ผมเข้าใจแล้วครับ
พร้อมแล้วครับ โชยุราเมงของผม เส้นราเมง ถั่วงอกต้ม ลูกชิ้นปลารูปดาว ไข่หมักซอสโชยุ หมูชาชูซอย ต้นหอมซอย และสาหร่ายแผ่น
ซอยหมูชาชูบางๆและหนาๆ ครับ
ต้มเส้นราเมง 2 ก้อน วิธีเดิมครับน้ำเส้นราเมงใส่ตะแกรงล้างแป้งออกก่อนแล้วต้มประมาณ 3-4 นาทีครับ
ขออวดหมูชาชูหน่อยนะครับ ภูมิใจมากๆกับการทำครั้งแรกครับ
อีกซักภาพครับ หมูชาชูรสกลมกล่อมมากครับ หวานเค็มกำลังดี หอมเครื่องเทศทุกชนิดที่ใส่ครับ เคี้ยวนุ่มละลายในปากเลยทีเดียว
เส้นที่ต้มไว้พร้อมแล้ว
น้ำต้มกระดูก 1 ทัพพีครึ่ง
น้ำต้มหมูชาชู 1 ทัพพี
ใส่เส้นราเมง 1 กำมือ
โรยหน้าด้วย หมูชาชูซอยบางๆ ไข่หมัก 1ฟอง และลูกชิ้นปลา
ตามด้วยต้นหอมญี่ปุ่นซอย สาหร่ายแผ่น ถั่วงอกต้มและงาขาวคั่วนิดหน่อยครับ
เสร็จแล้วครับ พ่อแม่พี่น้องชาวก้นครัวทุกท่าน มาชิม โชยุราเมงกันครับ
ซูมๆ อีกซักภาพนะครับ
น้ำซุปเข้มข้น หอมกลิ่น กระเทียม ขิง ต้นหอม และโชยุ รสชาติหวานกลมกล่อมพอดี
หมูชาชูนุ่มลิ้น รสชาติกำลังดี ละลายในปาก
ไข่ต้มหมักซอสหมูชาชู รสชาติละมุนลิ้น หอมกลิ่นเครื่องเทศและเครื่องปรุงนานาชนิด (ถ้าหมักข้ามคืนจะฟินสุดๆครับ)
เส้นราเมงชุ่มน้ำซุป ป้อนครับ อ้ามมมมมมมม
หนึ่งถ้วยเล็กๆสำหรับหลานชายสุดแสนจะน่ารัก
คอมโบเซ็ทของน้องเขย เข้มข้นสุดๆครับ
ซูมๆ ชามนี้น่าจะซัก 55 บาทได้นะครับ หากคำนวนตามต้นทุน
ชามนี้ของน้องสาวคนเล็กที่เดินทางมาจากขอนแก่นเพื่อการนี้โดยเฉพาะครับ
อีกชามของน้องสาวคนรอง ที่เพิ่งจะเป็นมือใหม่หัดทำเบเกอรี่นะครับ
ลากันด้วยภาพนี้ครับ หลานชายทานโชยุราเมงได้น่ารักมากๆครับ มีเสียงดูดเส้นซู้ดๆตามเป็นระยะๆ
ขอให้ทุกท่านมีความสุขในวันแม่แห่งชาตินะครับ
ปล ต้นทุนไม่ถึง 1,000 บาท แต่ทานกันแบบพุงกางเลย ยังเหลือหมูชาชูอีก 1 ท่อน ไข่อีก 1 ฟอง เส้นหมีอีก 3 ก้อน น้ำซุปอีกอย่างละนิดอย่างละหน่อย ส่วนลูกชิ้นปลากับสาหร่ายเหลือเต็มเลยครับ ผมสามารถทำทานได้อีก 2 - 3 มื้อ ทำทานเอง สะใจมากๆครับ
โชยุราเมง ถูกๆง่ายๆแต่อร่อยครับ
วัตถุดิบหลักๆที่ใช้ ตามภาพเลยนะครับ ทั้งปริมาณและราคา
เส้นราเมงราคาถุงละ 33 บาทและลูกชิ้นปลาราคาถุงละ 99 บาท
การหมักหมูชาชู
เรียงจากซ้ายไปขวานะครับ ต้นหอมญี่ปุ่นซอย 3 ต้น เชือกสำหรับมัดหมูชาชู เนื้อสันคอหมู น้ำตาล โชยุ หัวหอม 1 หัวผ่าเป็น 4 กลีบ ขิง 1 แง่งซอยแล้วทุบ กระเทียม 5 กลีบทุบทั้งเปลือก
เลือกด้านขวาสุด ใช้มีดเฉือนลงไปแต่อย่าให้ขาดจากกัน จากนั้น....
ค่อยๆเฉือนด้านข้างไปเรื่อยๆ (มีดขอให้คมมากๆเลยนะครับ)
จนสุดปลายอีกด้าน พยายามให้มีความหนาที่เท่ากันให้มากที่สุดแล้วผ่าครึ่งครับ
เอาส้อมจิ้มรัวๆ ให้พรุนแบบในรูปเพื่อให้น้ำซอสซึมเข้าเนื้อหมูให้มากที่สุดครับ
สูตรซอสหมักหมูชาชู
โชยุ 9 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 6 ช้อนโต๊ะ และผักต่างๆ ที่ซอยไว้
ขั้นตอนการหมักหมูชาชู
โรยน้ำตาลลงบนเนื้อหมูจากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน
เทโชยุลงไปแล้วคลุก นวดให้ส่วนผสมทั้งสองอย่างเข้ากัน น้ำตาลละลายหมดเมื่อไรก็หยุดนวดได้ครับ
ใส่ผักที่ซอยไว้ลงไปคลุกเบาๆให้เข้ากัน เอาผักบางส่วนใส่ในเนื้อหมูแล้วม้วนไว้ทั้งสองชิ้น...จากนั้น
นำทุกอย่างใส่ถุงพลาสติกไล่อากาศออกให้หมดแล้วมัดปากถุงให้แน่นนำไปเก็บไว้ช่องรองช่องแช่แข็ง 1 คืนครับ (ผมหมักหมูคืนวันเสาร์)
วันอาทิตย์เช้าครับ มาทำทานกันได้แล้ว
เครื่องปรุงน้ำซุป จากซ้ายนะครับ โชหยุ 5 ช้อนโต๊ะ มิริน 5 ช้อนโต๊ะ กระดูกสันหลังหมู หอมหัวใหญ่ 1 ลูก (ผ่า4) ต้นหอมญี่ปุ่น 2 ต้น เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมนี้สำหรับน้ำ 1 ลิตรครึ่งนะครับ
นำส่วนผสมทุกอย่างลงต้มในหม้อเร่งไฟแรงก่อนพอน้ำเดือดปรับลดเป็นไฟอ่อนๆ เคี่ยวไปเรื่อยๆครับ
วิธีปรุงหมูชาชู
นำหมูที่หมักไว้มาคลี่ออก เอาผักต่างๆแยกใส่ถุง
ม้วนเนื้อหมูแล้วมัดให้แน่นๆทีละเปลาะใช้เงื่อนตายนะครับ
เรียบร้อยแล้วครับ ทำครั้งแรกอาจไม่ค่อยสวยเท่าไรนะครับ
เปิดไฟกลาง นำหมูที่ม้วนแล้วใส่ลงไปไม่ต้องใช้น้ำมันนะครับ
พลิกไปมาจนแต่ละด้านเริ่มตึงๆพอสีของเนื้อหมูเริ่มเปลี่ยนดังรูป....
นำผักทั้งหมดที่อยู่ในถุงใส่ลงในกระทะ ผัดแป๊บเดียวแล้ว....
เติมน้ำ 1 ลิตรลงไปเลยครับ รอจนใกล้เดือดก็ย้ายลงหม้อนะครับ
ใช้ไฟกลางต้มไปเรื่อยๆหมั่นคนหน่อยก็ดีครับ เดี๋ยวเนื้อหมูจะไหม้ติดหม้อ
แอบชำเลืองมองหม้อซุป กลิ่นหอมใช้ได้เลยครับ
สองชั่วโมงกว่าๆ ผ่านไป หมูชาชูของผมหน้าตาใช้ได้เลยครับ จากหมูและน้ำซอสขลุกขลิกที่เห็น ผมเพิ่มความเข้มข้นของหมูชาชู โดยใช้โชยุ 5 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ กระเทียมทุบ 3 กลีบ และขิงทุบอีก 1 แง่ง ผสมน้ำ 1 ถ้วย เคี่ยวให้งวดแล้วเอาหมูชาชูลงคลุก ผมไปต้มไข่ก่อนนะครับ
ใช้เวลาต้ม 5 นาทีไม่ขาดไม่เกิน ปอกเปลือกแล้ว.....
นำไปหมักกับหมูชาชูและซอสที่เหลือจากการเคี่ยวครั้งล่าสุดครับ เพื่อความฟิน
กรองน้ำซุปที่เหลือจากการต้มหมูชาชู
ได้แค่นี้เองครับ แต่เข้มข้นมากๆ
กรองน้ำซุบที่ได้จากการต้มกระดูกสันหลังหมู หอม หวานนิดๆ เค็มครับ ถึงว่าต้องผสมซุปทั้งสองอย่างนี้พร้อมกัน ผมเข้าใจแล้วครับ
พร้อมแล้วครับ โชยุราเมงของผม เส้นราเมง ถั่วงอกต้ม ลูกชิ้นปลารูปดาว ไข่หมักซอสโชยุ หมูชาชูซอย ต้นหอมซอย และสาหร่ายแผ่น
ซอยหมูชาชูบางๆและหนาๆ ครับ
ต้มเส้นราเมง 2 ก้อน วิธีเดิมครับน้ำเส้นราเมงใส่ตะแกรงล้างแป้งออกก่อนแล้วต้มประมาณ 3-4 นาทีครับ
ขออวดหมูชาชูหน่อยนะครับ ภูมิใจมากๆกับการทำครั้งแรกครับ
อีกซักภาพครับ หมูชาชูรสกลมกล่อมมากครับ หวานเค็มกำลังดี หอมเครื่องเทศทุกชนิดที่ใส่ครับ เคี้ยวนุ่มละลายในปากเลยทีเดียว
เส้นที่ต้มไว้พร้อมแล้ว
น้ำต้มกระดูก 1 ทัพพีครึ่ง
น้ำต้มหมูชาชู 1 ทัพพี
ใส่เส้นราเมง 1 กำมือ
โรยหน้าด้วย หมูชาชูซอยบางๆ ไข่หมัก 1ฟอง และลูกชิ้นปลา
ตามด้วยต้นหอมญี่ปุ่นซอย สาหร่ายแผ่น ถั่วงอกต้มและงาขาวคั่วนิดหน่อยครับ
เสร็จแล้วครับ พ่อแม่พี่น้องชาวก้นครัวทุกท่าน มาชิม โชยุราเมงกันครับ
ซูมๆ อีกซักภาพนะครับ
น้ำซุปเข้มข้น หอมกลิ่น กระเทียม ขิง ต้นหอม และโชยุ รสชาติหวานกลมกล่อมพอดี
หมูชาชูนุ่มลิ้น รสชาติกำลังดี ละลายในปาก
ไข่ต้มหมักซอสหมูชาชู รสชาติละมุนลิ้น หอมกลิ่นเครื่องเทศและเครื่องปรุงนานาชนิด (ถ้าหมักข้ามคืนจะฟินสุดๆครับ)
เส้นราเมงชุ่มน้ำซุป ป้อนครับ อ้ามมมมมมมม
หนึ่งถ้วยเล็กๆสำหรับหลานชายสุดแสนจะน่ารัก
คอมโบเซ็ทของน้องเขย เข้มข้นสุดๆครับ
ซูมๆ ชามนี้น่าจะซัก 55 บาทได้นะครับ หากคำนวนตามต้นทุน
ชามนี้ของน้องสาวคนเล็กที่เดินทางมาจากขอนแก่นเพื่อการนี้โดยเฉพาะครับ
อีกชามของน้องสาวคนรอง ที่เพิ่งจะเป็นมือใหม่หัดทำเบเกอรี่นะครับ
ลากันด้วยภาพนี้ครับ หลานชายทานโชยุราเมงได้น่ารักมากๆครับ มีเสียงดูดเส้นซู้ดๆตามเป็นระยะๆ
ขอให้ทุกท่านมีความสุขในวันแม่แห่งชาตินะครับ
ปล ต้นทุนไม่ถึง 1,000 บาท แต่ทานกันแบบพุงกางเลย ยังเหลือหมูชาชูอีก 1 ท่อน ไข่อีก 1 ฟอง เส้นหมีอีก 3 ก้อน น้ำซุปอีกอย่างละนิดอย่างละหน่อย ส่วนลูกชิ้นปลากับสาหร่ายเหลือเต็มเลยครับ ผมสามารถทำทานได้อีก 2 - 3 มื้อ ทำทานเอง สะใจมากๆครับ