คือเครียดมากเลยค่ะตอนนี้ แต่ออกแนวท้อมากกว่า
อายุ 23 ปี ค่ะ เดิมเป็นคนหนัก 80 สูง 164 ค่ะ
ต่อมาก็ลดน้ำหนัก โดยใช้อดอาหาร + ออกกำลังกายอย่างหนัก คือ กินอาหารเช้ามื้อเดียว ออกกำลังหายอีก 2-3 ชม. ทุกวัน เพราะเป็นคนลดยากมากๆ น้ำหนักลงมา ที่สุดเท่าที่ทำได้คือ 55 กิโล
ต่อมาก็หยุดออกกำลัง กินแต่ยา เช้า 1 เม็ด เที่ยงอีก 2 เม็ด กินอาหารตามปกติ น้ำหนักยังคุมได้ที่ 55-57 ค่ะ
ต่อมาคือหยุดยา โย่ค่ะ เพราะกินครบทุกมื้อ ไม่ได้ออกกำลังกาย พอมีแฟนก็เอาเวลาให้แฟนหมด น้ำหนักตอนนั้นไม่ได้ชั่งตลอดเวลา (รับความจริงไม่ได้) ประมาณเกือบ 70
ต่อมาทนเสียงคนคอมเมนท์ไม่ไหว เลยไปซื้อยาแบบเดิมมากิน คือกิน เช้า 1 เม็ด เที่ยง 2 เม็ดเหมือนเดิมค่ะ แต่คราวนี้มันลงไม่เยอะ ลงมาที่ 64-65 กิโล ยิ่งตอนเย็น แฟนพากินบุฟเฟต์เกือบทุกวัน กินๆๆๆๆ ค่ะ
ในที่สุดก็ทนไม่ไหวกับตัวเองค่ะ ตัดสินใจสมัครฟิตเนส หยุดยา คุมอาหาร คือตอนชั่งเริ่มแรก น้ำหนัก 63 ค่ะ ก็กินข้าวเช้า ข้าวเที่ยง ปกติ ออกกำลังกาย 2 ชม. ต่อวัน (วิ่ง + คาร์ดิโอ) แล้วตามด้วยมื้อเย็นกินสุกี้ (แห้ง/น้ำ) ผ่านไป 1 เดือน น้ำหนักขึ้นค่ะ 64.5 น้ำตาจะไหล เปิดๆอ่านพันทิป เห็นมีคนเป็นแบงนี้ ก็เลยอดทนรอ พยายามกินตอนเย็นให้น้อยลง น้ำหนักก็ไม่ลงค่ะ เราก็ยังคงให้กำลังใจตัวเอง
ต่อมาเมื่อต้นอาทิตย์ที่ผ่านมา เราเปลี่ยนการกิน กินข้าวเช้าเป็น สุกี้ ไม่ใส่เส้น เที่ยงกินส้มตำ + ลาบ ไม่งั้นก็โยเกิร์ต 1 ถ้วย ตอนเย็นกินแตงโม ออกกำลังกาย คาร์ดิโอ 30 นาที วิ่ง Elliptical อีก ประมาณ 40-60 นาที ทุกวัน น้ำหนักก็ยังไม่ลง ใส่กางเกงตัวเดิม คับเหมือนเดิม ทำอย่างนี้มาอาทิตย์นึงค่ะ (การกินพยายามไม่ให้เกิน 800-1,000 kcal ต่อวัน)
สิริรวมตั้งแต่ออกกำลังมาล่าสุด ก็ 2 เดือนแล้ว น้ำหนักไม่ลง กางเกงคับเหมือนเดิม ท้อมากจริงๆค่ะ คือมันแทบไม่ต่างกับตอนกินบุฟเฟ่ต์ทุกวันเลย น้ำตาจะไหล มันเครียด + ท้อน่ะค่ะ คือเราควรอดทนแล้วสู้ต่อ น้ำหนักเราจะลดมั๊ยคะ คืออยากให้ใครย้ำให้ฟังหน่อยว่า เราไม่ควรกลับไปกินยา เราควรออกกำลังแบบนี้ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็จะลด T*T
หรือควรเปลี่ยนอะไรยังไงดีคะ
ขอบพระคุณทุกคนล่วงหน้ามากค่ะ
ลดน้ำหนัก สองเดือน ไม่ลงเลยซักโล...ทำยังไงดี
อายุ 23 ปี ค่ะ เดิมเป็นคนหนัก 80 สูง 164 ค่ะ
ต่อมาก็ลดน้ำหนัก โดยใช้อดอาหาร + ออกกำลังกายอย่างหนัก คือ กินอาหารเช้ามื้อเดียว ออกกำลังหายอีก 2-3 ชม. ทุกวัน เพราะเป็นคนลดยากมากๆ น้ำหนักลงมา ที่สุดเท่าที่ทำได้คือ 55 กิโล
ต่อมาก็หยุดออกกำลัง กินแต่ยา เช้า 1 เม็ด เที่ยงอีก 2 เม็ด กินอาหารตามปกติ น้ำหนักยังคุมได้ที่ 55-57 ค่ะ
ต่อมาคือหยุดยา โย่ค่ะ เพราะกินครบทุกมื้อ ไม่ได้ออกกำลังกาย พอมีแฟนก็เอาเวลาให้แฟนหมด น้ำหนักตอนนั้นไม่ได้ชั่งตลอดเวลา (รับความจริงไม่ได้) ประมาณเกือบ 70
ต่อมาทนเสียงคนคอมเมนท์ไม่ไหว เลยไปซื้อยาแบบเดิมมากิน คือกิน เช้า 1 เม็ด เที่ยง 2 เม็ดเหมือนเดิมค่ะ แต่คราวนี้มันลงไม่เยอะ ลงมาที่ 64-65 กิโล ยิ่งตอนเย็น แฟนพากินบุฟเฟต์เกือบทุกวัน กินๆๆๆๆ ค่ะ
ในที่สุดก็ทนไม่ไหวกับตัวเองค่ะ ตัดสินใจสมัครฟิตเนส หยุดยา คุมอาหาร คือตอนชั่งเริ่มแรก น้ำหนัก 63 ค่ะ ก็กินข้าวเช้า ข้าวเที่ยง ปกติ ออกกำลังกาย 2 ชม. ต่อวัน (วิ่ง + คาร์ดิโอ) แล้วตามด้วยมื้อเย็นกินสุกี้ (แห้ง/น้ำ) ผ่านไป 1 เดือน น้ำหนักขึ้นค่ะ 64.5 น้ำตาจะไหล เปิดๆอ่านพันทิป เห็นมีคนเป็นแบงนี้ ก็เลยอดทนรอ พยายามกินตอนเย็นให้น้อยลง น้ำหนักก็ไม่ลงค่ะ เราก็ยังคงให้กำลังใจตัวเอง
ต่อมาเมื่อต้นอาทิตย์ที่ผ่านมา เราเปลี่ยนการกิน กินข้าวเช้าเป็น สุกี้ ไม่ใส่เส้น เที่ยงกินส้มตำ + ลาบ ไม่งั้นก็โยเกิร์ต 1 ถ้วย ตอนเย็นกินแตงโม ออกกำลังกาย คาร์ดิโอ 30 นาที วิ่ง Elliptical อีก ประมาณ 40-60 นาที ทุกวัน น้ำหนักก็ยังไม่ลง ใส่กางเกงตัวเดิม คับเหมือนเดิม ทำอย่างนี้มาอาทิตย์นึงค่ะ (การกินพยายามไม่ให้เกิน 800-1,000 kcal ต่อวัน)
สิริรวมตั้งแต่ออกกำลังมาล่าสุด ก็ 2 เดือนแล้ว น้ำหนักไม่ลง กางเกงคับเหมือนเดิม ท้อมากจริงๆค่ะ คือมันแทบไม่ต่างกับตอนกินบุฟเฟ่ต์ทุกวันเลย น้ำตาจะไหล มันเครียด + ท้อน่ะค่ะ คือเราควรอดทนแล้วสู้ต่อ น้ำหนักเราจะลดมั๊ยคะ คืออยากให้ใครย้ำให้ฟังหน่อยว่า เราไม่ควรกลับไปกินยา เราควรออกกำลังแบบนี้ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็จะลด T*T
ขอบพระคุณทุกคนล่วงหน้ามากค่ะ