T25 เหมาะกับใครคะ

ยอมรับว่าไม่ได้หาข้อมูล เพราะโดยส่วนตัวถ้าอ่านข้อมูลออกกำลังกายเยอะๆ มันเกิดอาการท้อเพราะข้อมูล หาจุดบอด และพาลไม่ออกกำลังกายก่อนแน่นอน
เลยขอตั้งเป็นกระทู้ถามทางลัดหน่อยค่ะ.  

T25 เหมาะกับเราไหม
เราเนื้อเยอะค่ะ.  จุดประสงค์คือต้องการรีดเนื้อรีดไขมันออก.  แต่ไม่ได้ต้องการเปลี่ยนเนื้อเป็นกล้ามนะคะ.  ต้องการรีดส่วนเกินออกจากตัวก่อนแล้วถึงจุดที่พอใจค่อยคุยเรื่องกล้ามเนื้อเนอะ
แอบลัดขั้นตอนไปดูyoutube  day 1,2,3 beta มาคิดว่าทำได้น่ะ!!!!   แต่กลัวเป็นการสร้างกล้ามก่อน


หรือว่าเราควรออกแบบไหน ที่อาจจะใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงต่อวัน ขี้เกียจ. อมยิ้ม34

อมยิ้ม17อมยิ้ม17อมยิ้ม17


เข้ามาเพิ่มข้อความก่อน กล้ามของเรา เราไม่ได้หมายถึงกล้ามซิกแพค ทูแพคนะคะ.  เราหมายถึงกระดูกที่จะท่อนใหญ่ขึ้นอย่างรู้สึกได้ชัด เราเพิ่มความเห็นเราไว้ที่ #2 และ #3-1 ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
เอาใหม่นะคะ

1. ไขมันไม่มีทางเปลี่ยนเป็นกล้ามเนื้อได้ค่ะ
ตามนิยามของคุณ เนื้อเหลวๆ คือไขมัน และเนื้อแข็งๆ คือกล้ามเนื้อนะคะ และเนื้อแข็งๆไม่ได้เป็นจุดเริ่มของกล้ามนะคะ เพราะตัวมันเองคือกล้ามเนื้อค่ะ ซึ่งทุกคนต้องมีอยู่แล้ว ถ้าไม่มีก็เป็นโปลิโอนะคะ อันนี้ไม่ได้จิกกัดนะคะ แค่ยกตัวอย่างให้เข้าใจค่ะ
ทีนี้กล้ามเนื้อคือกล้ามเนื้อ ไขมันคือไขมัน เนื้อเยื้อคนละชนิด กล้ามเนื้อเปลี่ยนเป็นไขมันไม่ได้ และไขมันก็เปลี่ยนเป็นกล้ามไม่ได้ค่ะ

ลองนึกถึงหมูสามชั้นนะคะ  ชั้นบนสุดติดหนังคือไขมัน ชั้นถัดลงไปเป็นเนื้อแดง(กล้ามเนื้อ) ถ้าตอนนี้คุณลองหยิบเนื้อที่ต้นแขนส่วนที่กระเพื่อมของคุณดู หยิบขึ้นมาได้ นั่นคือไขมัน คุณต้องการให้ส่วนนี้หายไป เมื่อคุณออกกำลังกายจนส่วนไขมันหายไป ถ้าเทียบกับหมูสามชั้น ชั้นไขมันบนสุดหายไปหรือลดลง หนังก็จะมาติดเนื้อแดง หรือก็คือกล้ามเนื้อ กล้ามที่มีอยู่แล้วแต่เดิมตั้งแต่เกิดมา ใช้มันในชีวิตประจำวัน การลดไขมันได้ขนาดนี้ จนเหลือแต่เนื้อเน้นๆ(กล้ามเนื้อ) คุณว่าแขนคุณจะเล็กลงไหมคะ ซึ่งมันทำยาก เรียกว่าลีน คุณพอมองเห็นภาพอะไรไหมคะ ต้นแขนคุณเปรียบกับหมูสามชั้น พอลีนเอาไขมันออกไป ก็จะเหลือเนื้อ(กล้ามเนื้อ) แล้วจะไปกล้วมันทำไมคะ ดีกว่าแขนที่มีแต่ไขมันนะคะ

2. เมื่อลดไขมันจนลีนแล้ว ยังไงก็ต้องเห็นรูปทรงของกล้ามเนื้อที่มนุษย์พึงมีค่ะ คุณต้องทำใจและยอมรับจุดนี้ อย่าไปกังวลมันเลยค่ะ ถ้าคุณไม่นั่งเบ่งกล้ามตลอดเวลา กล้ามมันไม่บูดออกมาหรอกค่ะ

3.กล้ามเนื้อไม่ได้ขึ้นง่ายสำหรับผู้หญิงค่ะ คุณอาจจะเถียงว่า "ไม่จริงหรอกย่ะ น่องชั้นใหญ่เพราะกล้ามนะ มันแข็งมากเลย ยิ่งเวลาเกร็งนะ กล้ามชัดๆ" ค่ะ น่องคุณมีกล้ามค่ะ เพราะคุณไม่ได้เป็นโปลิโอ คุณเดินทุกวันก็ต้องใช้กล้ามน่องกล้ามขาอยู่แล้ว แต่น่องที่ใหญ่ของคุณนั้น เป็นเพราะไขมันพอกอยู่หนาค่ะ ไม่เชื่อคุณลองหยิบเนื้อน่องด้านหลังดูนะคะ หยิบขึ้นไหมคะ ถ้าหยิบไม่ขึ้นแสดงว่าไขมันหนามาก แต่ถ้าหยิบขึ้นแล้วความหนาของเนื้อที่หยิบได้น้อยกว่า 1 ซม. แล้วค่อยมาพูดค่ะ ว่าน่องใหญ่เพราะกล้าม (มีภาพวิธีหยิบเนื้อวัดชั้นไขมันใส่ให้ด้านล่างค่ะ) ดังนั้นออกๆไปเถอะคะ ออกกำลังให้ไขมันมันลดลง น่องก็เล็กลงเอง  ไม่ต้องไปสนว่ามันจะเป็นกล้ามไหม ก็กล้ามมันมีอยู่ข้างในอยู่แล้ว แต่ไขมันมันบังอยู่ พอกอยู่ มันเลยดูใหญ่  พอลดไขมันไปเจอกล้ามที่มีอยู่เดิมแต่เราไม่เคยเห็น ก็กังวลว่ากล้ามชัดขึ้น ก็แน่ล่ะ ไขมันลดก็เห็นกล้ามสิ จะให้เห็นไร  แต่เชื่อเหอะค่ะ พอถึงตอนที่คุณลดไขมันไปได้  คุณจะไม่สนกล้ามเลย ก็แน่ล่ะ ก็น่องเล็กแล้วหนิ

4.ออกกำลังกายเพื่อลดเฉพาะส่วน ทำไม่ได้ค่ะ "ออกท่านี้เพื่อลดต้นขา ออกท่านั้นเพื่อลดหน้าท้อง" ทำไม่ได้ค่ะ คุณจำมาผิด
การออกกำลังกาย ไขมันลดลงทั้งตัว ไม่สามารถบังคับให้ร่างกายลดเฉพาะส่วนจุดนั้นจุดนี้ได้  และการออกกำลังกายเฉพาะส่วนไม่ได้ช่วยลดไขมันส่วนนั้นได้ แต่ช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นแข็งแรงขึ้น กระชับ เฟิร์ม เช่น การ crunch (คล้ายซิทอัพแต่เน้นกว่า) ไม่ได้ช่วยให้หน้าท้องลด แต่ช่วยให้กล้ามท้องแข็งแรงขึ้น ช่วยพยุงหน้าท้องไม่ให้ย้อย แต่ถ้าจะให้หน้าท้องลด ต้องเบิร์นไขมันออก โดยการวิ่ง กระโดดเชือก ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน บลาๆ (ทั้งหมดนี้เรียก คาร์ดิโอ้) ซึ่งก็กำหนดไม่ได้อีกเช่นกันว่าให้ร่างกายเบิร์นเฉพาะหน้าท้อง ร่ายกายคุณจะเบิร์นไขมันทั้งตัว รวมทั้งหน้าอกด้วย ไม่เว้น

5. กล้ามเนื้อเพิ่ม ทำให้ระบบเผาผลาญเพิ่ม คุณบอกคุณไม่มีความเชื่อว่า "เผาผลาญเพิ่ม = กล้ามเพิ่ม" จริงค่ะที่การเผาผลาญทำได้จากหลายทาง คุณบอกว่าคุณเดินก็เผาผลาญได้ เอวลดลง แต่คุณเข้าใจสิ่งที่เราจะสื่อผิดค่ะ  การที่คุณเดินจากเพิ่มการเผาผลาญให้คุณ แต่ถ้าวันไหนคุณไม่ได้เดินล่ะ ร่างกายคุณจะไม่เผาเพิ่มใช่ไหม  **แต่ถ้าคุณเพิ่มกล้ามเนื้อ ร่างกายคุณจะเผาเพิ่มโดยคุณไม่ต้องเดิน และจะเผาเพิ่มตลอดเวลาด้วยค่ะ

อธิบายได้ดังนี้

สมมุติตอนนี้คุณมี BMR = 1300 kcal  นี่คือพลังงานที่คุณต้องใช้ต่อวัน โดยไม่ได้ทำอะไรเลย หายใจอยู่เฉยๆ ถูกไหมคะ และคุณมี TDEE = 200 kcal คือกิจกรรมที่คุณทำแต่ละวันใช้พลังงานเท่านี้ เช่น อาบน้ำ กินข้าว กวาดบ้าน ถ้าคนที่ออกกำลังกาย ค่าตัวนี้ก็จะเพิ่มขึ้นค่ะ

รวมพลังงานที่คุณใช้ต่อวัน ก็จะเป็น 1500 kcalต่อวันนะคะ ถ้าคุณกินอาหาร ที่ให้พลังงานเกิน1500kcal ต่อวัน พลังงานที่เกินมาจะเหลือแล้วถูกเก็บสะสมเป็นไขมัน แต่ถ้าคุณกินน้อยกว่านี้ไขมันและกล้ามเนื้อจะถูกสลายเป็นพลังงานให้พอใช้ในวันหนึ่งๆ ทำให้คุณผอมลง (วิธีนี้คนส่วนมากนิยมที่สุด แต่ไม่ยั้งยืนและสวยงามค่ะ)

แต่ถ้าคุณออกกำลังกาย โดยเดิน คุณก็จะมีค่า TDEE เพิ่มขึ้น สมมุติว่าคุณเดิน 1 ชั่วโมง ใช้พลังงาน 100 kcal  ทำให้โดยรวมพลังงานที่คุณต้องการต่อวันเพิ่มขึ้นเป็น 1600kcal  โดยที่คุณกินแค่ 1500kcal ผลก็คือ น้ำหนักคุณจะลดลงทีละนิดๆ **แต่ถ้าวันไหนคุณไม่เดินหรือออกกำลังกายเพิ่ม  ร่างกายก็จะเผาผลาญเท่าเดิม คือ 1500kcal ถูกไหมคะ

ทีนี้ ถ้าคุณสร้างกล้ามเนื้อเพิ่มล่ะ  สิ่งที่เกิดขึ้นคือ BMR และ TDEE คุณจะเพิ่มด้วย จากที่คุณใช้ 1500kcal มันจะเพิ่มขึ้นตามปริมาณกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้น  สมมุติว่าเพิ่มมา 100kcal เป็น  1600kcal

แล้วมันเพิ่มได้ไงล่ะ  ยกตัวอย่างให้เห็นภาพนะคะ เช่น มีผู้ชาย 2 คน คนนึงหุ่นเหมือนพี่ตูนบอดี้สแลม อีกคนหุ่นเหมือนเดอะร็อก ล่ำมาก คุณคิดว่าถ้าให้สองคนนี้วิ่งจ็อกกิ้งด้วยระยะทาง ความเร็ว ที่เท่ากัน ใครจะใช้พลังงานในการวิ่งมากกว่ากันคะ  และถ้าให้ทั้งคู่กินกล้วยหอม 2 ผล เป็นอาหารกลางวัน คุณคิดว่าเดอะร็อกจะได้รับพลังงานเพียงพอไหมคะ
กลับมาดูที่คุณ เมื่อคุณเพิ่มกล้ามเนื้อ พลังงานที่คุณต้องการต่อวันเพิ่มขึ้นเป็น 1600kcal จะเห็นว่าเท่ากับตอนที่คุณยังไม่มีกล้ามแล้วเดิน 1 ชั่วโมง เท่ากันโดยที่คุณยังไม่ต้องออกแรงเลย

แต่ถ้าคุณตอนมีกล้ามเพิ่มไปเดิน 1 ชั่วโมง เหมือนตอนก่อนเพิ่มกล้ามล่ะ แน่นอนว่าคุณใช้พลังงานในการเดินมากกว่าด้วยระยะทางและความเร็วที่เท่ากัน เป็น 120kcal (จาก 100) ต่างไม่มากเพราะแค่เดิน  

เรื่องการกิน ก่อนเพิ่มกล้าม คุณกิน 1500kcal  มีกล้ามกินได้เพิ่มเป็น 1600kcal ดีจะตายไป ไม่ต้องอดๆอยากๆ ถ้าคุณกินได้เท่าเดิม 1500kcal ก็เท่ากับคุณจะผอมลงเร็วขึ้นอีกไง

6. ถ้าคุณอ้วน แต่อยากลดแต่ไขมัน ไม่เพิ่มกล้าม ให้เตรียมใจไว้เลยนะคะ ว่าเนื้ออาจจะย้วย ห้อย แบบคุณลูก-กที่ไปตัดหนังมาอ่ะค่ะ  ต้นแขนที่กระพือได้ของคุณก็อาจจะเป็นปีกอยู่อย่างนั้น แต่อาจจะปีกแห้งลงจากปีกอวบๆ ถ้าไม่อยากเสี่ยงเนื้อย้อย มีทางเดียวคือ เล่นเวทเท่านั้นค่ะ หรือไม่ก็ปล่อยให้ย้วยแล้วไปตัดหนังเอาทั้งตัว แบบคุณลูก-กอ่ะคะ

ปล. นี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ไม่อิงหลักวิทยาศาสตร์ใดๆทั้งสิ้นค่ะ
ปล.2 ไม่เข้าใจตรงไหน ถามได้นะคะ  



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่