ประสบการณ์...แปลกๆ

กระทู้สนทนา
บอกก่อนว่าเป็นคน เชื่อเรื่องผี 50 50 บางเรื่องมันหาคำอธิบายได้ แต่บางเรื่องก็หาไม่ได้จริงๆ โตมา 20 กว่าปี ก็เจอเหตุการณ์หลายๆ อย่างมาเยอะ
จะว่า ผีก็ไม่ใช่ เรียกว่า เป็นประสบการณ์แปลกๆ ที่หาคำอธิบายไม่ได้แล้วกัน

1. ตอนเป็นเด็ก อายุหน้าจะประมาณ 4-5 ขวบ (มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยลืม) หลังบ้านเราเป็นแม่น้ำ ก็เป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีโอกาสได้ลงเล่นน้ำแน่ๆ
วันนั้น มีเรา ลูกพี่ลูกน้องอีก 2 คน และลุง ก็เล่นน้ำกันปกติ เท่าที่จำได้คืออยู่ดีๆ เราก็เห็นลุง กับลูกพี่ลูกน้องเรา ที่อยู่บนฝั่งกำลัง หาๆอะไรกันอยู่ซักอย่าง แต่เราเหมือนมองมาจากในแม่น้ำ มองเข้าไปที่ฝั่ง ซักพักก็เหมือนมองลงไปในน้ำที่มีผมลอยอยู่เป็นจุกๆ (เรามัดผมเป็นจุก) ตัดภาพไปอีกครั้ง คือภาพที่มองขึ้นมาจากในน้ำเห็นลุงกำลังยื่นมือลงมาในน้ำจับจุกของเรายกขึ้น หลังจากนั้นยังไงต่อไม่รู้ มันเหมือนวิญญาณเราออกจากร่างเลย


2.ตอนเด็กเหมือนกัน วันนั้นนั่งเล่นกับแม่อยู่ริมน้ำและเกิดอยากเล่นน้ำขึ้นมา แม่เลยบอกให้ไปขออนุญาติพ่อก่อน เราก็วิ่งมาหาพ่อที่บ้านยาย ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับบ้านเรา มีถนนกั้นกลาง ประตูทางเข้าบ้านจะมีต้นมะลิอยู่2 ฝั่ง ถัดๆไป จะเป็นลองลึกให้น้ำไหลผ่าน และถนนมันสูงกว่าตัวบ้าน ล่องน้ำมันเลยยิ่งลึกและมีต้นไม้ปลูกไว้ มันก็จะดูทึบๆหน่อย ตอนวิ่งไปขอพ่อก็ไม่มีเหตุการณ์อะไร แต่พอวิ่งลงมา ถึงหน้ารั่วเราต้องเบรคตัวอย่างแรง เพราะเราเห็นงู คือตัวใหญ่มาก ใหญ่จนไม่รู้จะบรรยายยังไง แต่ไม่เห็นหัวไม่เห็นหางนะ เห็นแค่ลำตัว กะๆดูจากพื้นขึ้นมา ก็คงไม่ต่ำกว่า 30 เซนเลย ซึ่งมันไม่มีทาง จะมีงูแบบนั้นอยู่แถวๆนี้ แถวๆบ้านเราไม่ได้เป็นป่าใหญ่ ก็เป็นชุมชนปกติ ที่มีบ้านติดๆกัน ไม่มีที่ว่างพอให้งูตัวนี้ไปหลบแน่ๆ  โดยไม่มีใครเคยเห็น เราตะลึงไปซักพักและรีบวิ่งกลับไปหาพ่อที่บ้านยายบอกไม่เล่นน้ำแล้ว แต่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังว่าทำไม
ทุกวันนี้ เราก็ยังไม่รู้ว่างูตัวนั้นคืออะไร และก็ไม่เคยเห็นอีกเลย เราคิดเอาเองนะ ว่าเขาอาจจะเป็นเจ้าที่ก็ได้


3.ตอนโตขึ้นมาอีกหน่อย ซัก 10 ขวบ บ้านยายเราจะเป็นบ้านไม้ ยายเลี้ยงหมาไว้ที่ชานบ้าน เวลามีเสียงไม้ลั่นเหมือนคนเดินคือไม่ได้ครั้งเดียว แต่ดังเหมือนกำลังเดินไปมา ยายก็จะบอกว่า หมามันเดิน เราก็ไม่รู้ว่าจริงไหม แต่ก็เห็นว่า มันมีเหตุผลนะ จนวันที่หมาตัวนั้นมันตาย แต่ในทุกๆคืน ก็ยังคงมีเสียงไม้ลั่นอยู่จนทุกวันนี้


4.ตอนประมาณ 8-9 ขวบ เราได้ไปร่วมงานศพญาติคนนึงฝ่ายพ่อ เขามีอู่ซ่อมรถเป็นของตัวเอง และทางที่จะไปบ้านเขาก็ต้องผ่านอู่ของเขาก่อน จะมีถนนใหญ่ตัดผ่านหน้าอู่ แต่ตัวอู่จะอยู่ห่างจากถนนไปอีก เกือบๆ 50 เมตร ตอนขับรถกลับก็ดึกมากแล้ว ตอนที่ขับผ่านอู่ มีพ่อ แม่ เรา มองเข้าที่อู่ ก็เห็นเงาดำๆ ร่างเป็น ผู้ชายยืนผิงต้นไม้อยู่ รูปร่างเหมือนญาติคนที่เราไปเผามาเลย ท่ายืนแบบเดียวกันด้วย และคนธรรมดาก็คงไม่ไปอยู่ในอู่มืดๆ ที่เจ้าของพึ่งตาย ยืนพิงต้นไม้ มองรถที่กำลังผ่านไปมา แน่ๆ


5.ตอนที่น้าเราเสีย ก็ประมาณ 10 ขวบนั้นแหละ งานจัดที่วัด มีพี่คนนึงที่สนิทกับน้ามากๆ เขามาร่วมงานจากกรุงเทพ แต่เขาไม่ได้นอนเฝ้าศพที่วัด เขากลับไปนอนบ้าน พ่อซักตี 5 ได้ อยู่ดีๆเขาก็รีบมาที่วัด มาบอกว่า น้าโทรไปหาเขา ประมาณตี 1 ได้มั้ง มันขึ้นเบอร์ว่าเป็นเบอร์น้า แต่พอรับก็ไม่มีใครพูด ซึ่งเค้าไม่ได้ฝัน หรือตาฝาดแน่ๆ แฟนเขาก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ก็นอนไม่ได้เลย ตอนแรกจะมาตอนเช้า ใจนึงก็กล้าๆกลัวๆ ก็เลยมาเลย เพราะก็นอนไม่ได้อยู่แล้ว มาขอดูมือถือน้าให้หายคล่องใจ ก็ไม่มีเบอร์ที่โทรออกขึ้น และในมือถือพี่ก็ไม่มีเบอร์น้าขึ้นเหมือนกัน พี่ก็เลยพูดขึ้นมา ว่าน้าคงอยากให้มานอนด้วยกัน



6. หลังจากที่น้าเราตาย ป้าเราก็ไปหาร่างทรงมา เพราะอยากคุยกับน้า อยากถามน้า ว่าเป็นยังไงบ้าง ตอนนั้นเราก็ยังเด็กยังไม่ได้อะไรมาก เขาก็ให้นั่งล้อมวงกันกลางบ้าน ร่างทรงนั่งตรงกลาง ซักพักเขาก็กระตุกๆ และก็เริ่มร้องไห้ ซึ่งมันเป็นการร้องไห้แบบเดียวกับที่น้าเราร้อง เรียกชื่อทุกคนได้หมด จำได้หมดว่าใครอะไรยังไง เล่าได้หมดเป็นฉากๆ พูดได้ทุกเรื่องราว ทั้งที่ร่างทรงคนนี้ไม่เคยเจอน้าเรามาก่อนแน่ๆ ถึงจะเคยเจอก็คงไม่เคยเห็นตอนน้าเราร้องไห้สะอึกสะอื้นขนาดนี้ หรือรู้เรื่องราวในบ้านเรามากมายขนาดนี้ ถือว่าเป็นเรื่องแปลกสุดๆในชีวิตเราตอนนั้นเลย เราไม่เคยคิดว่าจะมีใครเรียกวิญญาณคนตายมาเข้าร่างตัวเอง แล้วพูดจากันได้แบบนี้


7.มีร่างทรงบอกว่าน้าเราตายแบบผิดธรรมชาติ คือมีคนเอาน้าเราไป เพราะน้าเราไปทำเรื่องผิดกับเขาไว้ และเขาก็อยากได้เด็กผู้ชายไปด้วย แต่ตอนนั้นบ้านเราไม่มีเด็กผู้ชาย มีแต่เราที่เป็นเด็กผู้หญิง เราเพิ่งมารู้หลังจากที่ เราชอบพูด"ครับ" และมีแต่คนว่าเรา ว่าห้ามพูดครับ เราก็ไม่รู้ ว่าทำไมตัวเองถึงพูดครับ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น เราพูดค่ะ คะ จ๊ะ มาตลอด แต่หลังจากที่น้าเราตาย เรารู้สึกอายที่จะพูดคำแบบนั้น เราอยากพูด ครับมากกว่า เราโดนคนที่บ้าน ตี ด่า ว่า จนไม่รู้ว่าตัวเองเลิกพูด"ครับ" ไปตอนไหน ก็แปลกใจตัวเองมาจนทุกวันนี้ ว่าทำไมตอนนั้นถึงอายที่จะพูด คะ ค่ะ และไม่ชอบแต่งตัว แบบ ผู้หญิง ก่อนหน้านั้นไม่เป็นนะ กระโปรงบานๆ ฟูๆ เต็มตู้เลย แต่เราหันมาใส่กางเกงแบบเด็กผู้ชาย เสื้อแบบเด็กผู้ชาย ไม่มัดผม ไม่ติดโบว์ คนที่บ้านเราก็พยามจับเราแต่งตัวหวานๆ มัดผม ติดโบว์ คาดผมให้ จนอยู่ดีๆ อาการมันก็หายไปเอง


เท่าที่จำได้ตอนนี้ แต่ถ้านึกขึ้นมาได้อีก ก็จะมาเขียนให้อ่านอีกนะ
อยากฟังประสบการณ์จากเพื่อนๆ และข้อคิดเห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่