ลักษณะธุรกิจ
ให้เช่า (leasing) โดยเน้นลักษณะสัญญาเช่าดำเนินงาน (Operating Lease)
โดยมุ่งเน้นทรัพย์สินประเภทยานพาหนะเป็นหลัก อาทิ รถยนต์ เครื่องบิน เรือ
นอกจากนี้ยังให้เช่าทรัพย์สินประเภทอื่นๆ อาทิ เครื่องจักร คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ทั่วไป

1 Yr Price Performance (Adjusted Price) (กราฟด้านขวา)
จากกราฟด้านขวา จะเห็นว่าหุ้น PL ค่อนข้างสู้ตลาด Set ภาพรวม และของกลุ่มได้ไม่ดีเท่าที่ควรครับ
ซึ่งปัจจัยหลักๆ น่าจะเป็นเพราะ ผลประกอบการที่ผ่านมาไม่ค่อยสู้ดีนัก ราคาหุ้นจึงตอบสนองในเชิงลบเป็นส่วนใหญ่


ด้านผู้ถือรายใหญ่
หากดูในส่วนของผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับที่ 1 ก็คือ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
ซึ่งน่าจะประเมินศักยภาพได้ในระดับหนึ่ง ประกอบกับค่อนข้างเป็นมืออาชีพ จึงน่าจะมีการบริหารจัดการที่ดี

อัตราหมุนเวียนปริมาณการซื้อขาย
จะเห็นว่าในช่วงปี 2555 และ 2556 มีแนวโน้มการซื้อขายที่ค่อนข้างดีอยู่ที่ราวๆ 20% - 35%
ซึ่งหากวิเคราะห์ในภาวะตลาดช่วงนั้น ตลาดค่อนข้างคึกคักมากๆ ทำให้มีการซื้อขายในปริมาณที่สูง

แต่ทว่าหากดูในปี 2557 จะสังเกตเห็นได้ว่า ปริมาณการซื้อขายหุ้น จากช่วงต้นปี - ปัจจุบัน (Year to Date)
ปริมาณการซื้อ-ขาย หายไปอย่างมาก

อันเนื่องมาจาก การชะลอตัวของตลาดรถยนต์มือสองและราคาจำหน่ายรถยนต์มือสองภายในประเทศลดลง
จึงกำไรของทาง PL หายไปมากกว่าปกติ


งบการเงิน
น้องสี่นำหุ้นตัวนี้มาวิเคราะห์เพราะเห็นว่า PL มีค่า Financial Ratio ที่ดี + ไม่ดีประกอบกันอยู่ครับ

ในมุมมองด้านเชิงบวกจะพบว่า

1. P/E ค่อนข้างต่ำอยู่ที่ประมาณ 7 - 12 เท่า (อาจมีเหวี่ยงบ้างในบ้างปี)
2. P/BV ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ 0.95 เท่า แปลว่า ถ้าเราซื้อหุ้น ณ ตอนนี้ จะได้หุ้นในราคาที่ถูกกว่ากิจการ
( แต่ต้องขึ้นอยู่กับว่า กิจการนั้นๆ ต้องไม่เจ๊งนะ !! เพราะถ้าแนวโน้มกำไรลดลงอย่างถาวร + มีนัยยะสำคัญ
อันนี้ P/BV ยิ่งถูกลง เรื่อยๆ ก็ไม่ไหวเช่นกัน คงต้องประเมินในภาพอื่นต่อไป )
3. Dividend Yield ค่อนข้างสูง อยู่ที่ประมาณ  6% - 9% ต่อปี และในช่วงรที่ผ่านมา PL มีการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอครับ

ส่วนในมุมมองด้านลบจะพบว่า

RoA , RoE , Net Profit Margin มีแนวโน้มที่ไม่ดีเท่าที่ควร
โดยในปี 2553 จนถึงปี 2557 ค่า Ratio เหล่านี้มีแนวโน้มน้อยลงเรื่อยๆ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ


อย่างไรก็ตาม หากสังเกตในส่วนของ 59-2 รายงานการซื้อของผู้บริหาร
จะพบว่าในปีนี้ช่วงเดือนมีนาคม 2557 ผู้จัดทำได้ซื้อหุ้นตัวนี้เก็บเพิ่ม 1,000,000 หุ้น

ซึ่งก็อาจจะตีความได้อีกนัยหนึ่งว่า ทางผู้จัดทำ อาจเห็นอะไรบางอย่างที่ดีต่อหุ้นตัวนี้ก็เป็นไปได้ครับ

วิเคราะห์ด้านกราฟ

กราฟ Week

จะพบว่าแนวโน้มของ PL ยังคงเป็นขาลงอยู่ เนื่องจากราคายังอยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ยค่าเฉลี่ยครับ
แต่ ณ ปัจจุบัน จุดที่น่าสนใจและจับตามองจะอยู่ในช่วงของ ปลายเดือนที่ 5 และต้นเดือนที่ 6 ครับ

โดยน้องสี่ได้สังเกตเห็นว่า ในช่วงที่ราคาลงมาแรงๆ (ตรง Volume ที่วงกลมไว้)
เป็นช่วงที่เกิดเหตุการณ์รัฐประหารขึ้น ทำให้หุ้นโดนเทขายออกมาอย่างหนักครับ
แต่พอตั้งตัวได้ สักพักก็มีการดีดตัวกลับขึ้นไปใหม่ และเริ่มพักตัวออกแนวโน้ม Side Way ออกข้างครับ

จากนั้น หากมองในมุมมองของ MacD กับ Price จะพบว่า ราคาหุ้นลดลง แต่ MacD ยกตัวสูงขึ้น
ซึ่งจากที่น้องสี่สังเกตมาในหลายๆ ตัว ถ้าเข้าข่ายในลักษณะนี้ ราคามักจะมีโอกาสขึ้นรอบใหม่
(แต่ก็ไม่เสมอไปนะครับ เพราะบางครั้งก็เป็นสัญญาณหลอกเราได้เช่นกัน ต้องดูอย่างอื่นประกอบด้วยนะครับ)

ส่วนในด้านของ RSI พบว่า ในทุกๆ ครั้งที่ราคาหุ้นทำ Over Sold (ขายมากเกินไป) ราคาก็จะเด้งขึ้นเป็นเรื่องปกติครับ
แต่จะเด้งเปลี่ยนแนวโน้มจากขาลง เป็น ขาขึ้นนั้น ต้องดู Volume ประกอบครับ

โดยถ้า RSI ทำ Over Sold มากๆ แล้วดีดขึ้นปิดแท่งเขียวแรงๆ + มาพร้อม Volume
อันนี้น้องสี่เริ่มคาดการณ์ก่อนเลยว่า น่าจะมีโอกาสเป็นจุดขาขึ้นได้ครับ

ส่วนสุดท้ายหากดู Trend Line (แนวขวาง)
จะพบว่าราคาหุ้น PL ได้ Break แนวต้านมานิดนึงแล้ว ซึ่งจุดนี้อาจจะเป็นจุดเปลี่ยน Trend ขาลง เป็นขาขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ตามโดยหลักๆ แล้ว การจบแนวโน้มขาลงคือ ราคาหุ้นต้องไม่ทำ New Low แล้ว New Low อีก
ซึ่ง ณ ปัจจุบัน PL ได้ทำ New Low ครั้งล่าสุดที่ ราคา 4.26 บาท ครับ

ดังนั้น หากราคาไม่ทำ New Low ที่ 4.26 บาทอีก ก็อาจจะมองได้ว่า ขาขึ้นรอบใหม่อาจมาในไม่ช้า
ผนวกกับ ถ้าดัชนี Set ภาพรวมยังรักษาทรงให้เป็นขาขึ้นได้ + กับกำไรเริ่มฟื้นตัวบ้าง
หุ้น PL ก็น่าจะเป็นอีกหุ้นหนึ่งที่น่าจับตามองเช่นกันครับ

การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนและนักลงทุนควรหาความรู้และตัดสินใจให้ดีก่อนการลงทุนนะครับ

สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : "ฅนเล่นหุ้น" นะครับ

https://www.facebook.com/StockTrader.Club