EASTW : บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน)



หุ้นราคา Par 1 บาท , ทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 1,663,725,149 บาท

ฉะนั้น จำนวนที่หุ้นทั้งหมดของบริษัทคือ 1,663,725,149 / Par 1 บาท = 1,663,725,149 หุ้น
ผู้สอบบัญชี : PRICEWATERHOUSE COOPERS ABAS LIMITED



ด้านลักษณะธุรกิจ
“พัฒนาและบริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำสายหลัก ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก
โดยจำหน่ายน้ำดิบให้แก่นิคมอุตสาหกรรม โรงงานทั่วไป และกิจการประปา”

ในส่วนของทางด้านขวาของที่เป็นดอกจัน จะพบว่า หุ้น Eastw (เส้นสีน้ำเงิน) อยู่ในกลุ่มของพลังงาน
ซึ่งแนวโน้มที่ผ่านมา 1 ปี นั้นจะพบว่า ราคาค่อนข้างที่จะแพ้ Set(เส้นสีส้ม) และ กลุ่มของตัวเอง(เส้นสีฟ้า)

ซึ่งอาจตีความได้ว่า หากเวลาที่ กลุ่มพลังงาน(Energy) + Set มีแนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง
ตัวของ EastW เอง ก็ไม่อาจจะสามารถขึ้นตาม Set และกลุ่มของตัวเองได้

(หากสังเกตจะพบว่า มีการเปลี่ยนแปลงราคา Par จาก 10 บาทเหลือ 1 บาท ในปี 2548
จึงทำให้มีสภาพคล่องต่อหุ้นมากยิ่งขึ้น )



จุดเด่นของ EastW ก็ยังมีอยู่นะครับ
โดยในส่วนของผู้ถือหุ้นรายใหญ่นั้นจะเห็นว่ามี การประปาส่วนภูมิภาค + บ.ผลิตไฟฟ้า มหาชน (EGCO)

ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนที่สูง ซึ่งทั้ง 2 นี้มี Power ในการที่จะผลักดันให้หุ้น EastW สามารถเติบโตได้ในระยะยาวครับ
เพราะทั้ง 2 ต่างเป็นกิจการที่ใหญ่ สามารถเจรจาต่อรองได้ หากอนาคตมีแผนการลงทุนเพิ่มเติมครับ

ส่วนของ นโยบายการจ่ายเงินปันผล ก็อาจไม่ยังมากเท่าที่ควรครับ จ่ายเพียงร้อยละ 30%
ซึ่งสาเหตุที่จ่ายน้อย น้องสี่คิดว่า น่าจะเก็บเงินไว้ในบริษัทเพื่อนำไปลงทุนเพิ่มเติมครับผม



หากวิเคราะห์จากงบการเงินเบื้องต้น จะเห็นว่า
ในปี 53 รายได้ของ EastW มีประมาณ 4000 กว่าล้านบาท แต่มีกำไรเพียง 900 ล้านบาท ซึ่งหากเทียบกับในปีถัดๆ ไป


จะเห็นว่า รายได้ในปี 54 55 56 น้อยกว่าในปี 53 ค่อนข้างมาก แต่กำไรกลับ เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
เป็น 1000 1200 และ 1300 ล้านบาท โดยประมาณตามลำดับ


ซึ่งน้องสี่พยายามไปโหลดงบการเงินของปี 54 แต่หน้าเว็บเข้าไปโหลดไม่ได้อ่า T+T
น้องว่าจะไปอ่านตรงความเห็นของ Auditor ว่าสาเหตุว่า ทำไมรายได้ถึงหายไปเยอะมาก แต่กำไรกลับเพิ่มสูงขึ้น


( ปล. ตอนนี้ยังไม่มีงบการเงินปี 2554 เพราะโหลดยังไม่ได้ แต่น้องสี่คาดการณ์ว่า น่าจะเป็นกำไรพิเศษบางอย่าง
ซึ่งกำไรพิเศษนั้นเกิดขึ้นเพียงปีเดียว แต่ไม่กระทบต่อกำไรสุทธิของบริษัท อาจจะเป็นในเรื่องของมาตรฐานการบัญชีต่างๆ
ซึ่งเด่วยังไง น้องสี่ว่า เราต้องไปเจาะดูเหตุผลแล้วล่ะว่า ทำไมในปี 2554 นั้น รายได้ลดอย่างมาก แต่กำไรกลับเพิ่มขึ้น !!)


ในด้านของราคาหุ้นมีการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด !! อยู่ในช่วงปี 2554 ถึง 2555
จากราคาหุ้นเพียง 6.20 บาท ไปที่ประมาณ 12 บาทกว่าๆ (ราคาขึ้นเกือบเท่าตัว)


แปลว่า ผลที่ตามมาก็คือ P/E P/BV ย่อมสูงขึ้นตาม และ Dividend Yield ก็จะน้อยตามลงมาด้วย
โดย Dividend Yield จะเห็นได้จาก 6% กว่าๆ เหลือเพียง 3% นิดๆ
( ซึ่งเป็น % ที่ค่อนข้างน้อย หากไปเปรียบเทียบกับหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันที่ให้ปันผลอยู่ที่ 4 -5 % )

ข้อมูลสถานการณ์น้ำรายเดือน





(หน้าไม่ค่อยยิ้มเลย แปลว่า อาจจะดีหรือไม่ดีก็ได้ กลางๆ )




ปริมาณน้ำมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ โดยเปรียบเทียบระหว่างปี 2556 กับ 2557
ซึ่งหากมองว่าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นทุกปี ก็อาจจะเป็นไปได้
หรือมองในแง่ร้ายเรื่องภัยแล้งปีนี้จะกระทบหนักไหม ซึ่งคงต้องรอดูกันไปครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.eastwater.com/%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%88EWG/%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%81/%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%99.aspx



ในส่วนของกราฟ น้องสี่ขอวิเคราะห์โดยใช้ กราฟ Week นะครับ
จะเห็นว่าในช่วงที่ผ่านมา หุ้นมีลักษณะ Side Way Down ลงมาเรื่อยๆ

เส้น SMA ที่ใช้อยู่ก็ตัดลงทั้งหมด และเมื่อราคาเด้งขึ้นไปข้างบนก็ชนเส้น SMA 35 วันอีก
ซึ่งในมุมมองน้องสี่ มองว่าถ้าราคาหุ้น เด้งขึ้นแล้วไม่ผ่านเส้น SMA 35 วัน แสดงว่า ราคาหุ้นนั้นเป็นขาลงเกือบสมบูรณ์

แต่อย่างไรก็ตามหากมองไปที่ RSI จะพบว่าเมื่อไหร่ ที่ RSI ทำ Over Sold มากๆ (สามเปลี่ยมเขียวด้านล่าง)
ราคาก็จะเด้งมาพักหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถยืนต่อไปได้ อาจจะมีสาเหตุมาจาก กำไรในปีนี้อาจจะลดลงก็เป็นได้
( วงในรู้ข่าวก่อนหรือเปล่า? อันนี้ไม่ทราบ แต่น้องคิดว่า คงต้องจบตามอง กำไรใน Q1 และ Q ถัดๆ ไปครับ )

และที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ในช่วงเดือนมีนาคม จนถึง ปัจจุบัน Volume ค่อนข้างมาก ( เอนไปทางขาย )
แต่ราคาหุ้นก็ลงเพียงในกรอบแค่ๆ คือ ประมาณ 12 บาท ไปที่ 11 บาท
ซึ่งแน่นอนว่าในจำนวนปริมาณที่นี้ ราคาไม่ได้ลงแบบฮวบฮาบ ค่อยๆ ลดลงๆ คนที่ถืออยู่ก็ค่อนข้างจะลังเลว่าจะเอาอย่างไรดี

มุมมองน้องสี่ มองว่า EastW น่าจะอยู่ในช่วงของการปรับฐาน เพราจะเห็นว่า
ข้างต้นราคามันขึ้นมาจาก 6 บาท ไปที่ 12 บาทกว่าๆ ย่อมมีการปรับฐานลงมาบ้าง
ซึ่งการปรับฐานครั้งนี้จะลงมาที่เท่าไหร่ นั้นค่อนข้างประเมินยาก

แต่น้องสี่ มองว่า แนวรับ ถ้า 11 บาทเอาอยู่ ก็น่าสนใจในระดับหนึ่ง
ถ้าเอาแบบปลอดภัยขึ้นมาอีกหน่อย แนวรับประมาณ 9 – 10 บาท ก็น่าจะดีมากยิ่งขึ้น (ซึ่งน้องคิดว่า ไม่น่ามาถึง 9 บาทนะ)

ในด้านของ RSI

น้องสี่ใช้ RSI ประเมินในภาพ Week ซึ่งส่วนใหญ่แล้วนั้น ถ้า RSI ในภาพ Week แตะ Over Sold มากๆ
ราคาหุ้นย่อมมีเด้งขึ้น(เกือบแน่นอน) แต่!!!! ย้ำ!!!! ต้องเป็นหุ้นที่ดี มีปันผลนะ (สังเกตจากในหุ้น Set50 ได้ ลองดูนะ)

ตอนนี้ RSI ของหุ้น EastW ก็ทำ Over Sold ค่อนข้างมากแล้ว
หากพื้นฐานของกิจการไม่เปลี่ยน (คือกำไรไม่ได้ลดลง หรือลดลงเพียงชั่วคราว จังหวะนี้ก็อาจเป็นจังหวะที่เหมาะสมก็เป็นได้)

ข้อมูล NVDR Trading By Stock








มาดูทางด้านยอด NVDR จะพบว่า NVDR ยังขายต่อเนื่องในปริมาณที่มาก
ดังนั้น อาจมองได้ 2 ทางคือ รู้ข่าวบางอย่าง(วงใน)

หรืออาจมองได้ว่าเป็นเรื่องปกติของทุกปี
เพราะใน สัปดาห์หน้าจะขึ้น XD วันที่ 28/04/2557 ต่างชาติก็เลยทยอยขายออกมาก่อนกเป็นได้ครับ

Link : http://www.set.or.th/set/nvdrbystock.do

การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนและนักลงทุนควรหาความรู้และตัดสินใจให้ดีก่อนการลงทุนนะครับ