คลิปคุณพิชัย จาวาลา(เจ้าของทฤษฎีผลประโยชน์) พูดถึงเรื่องการลงทุนแนว VI และธุรกิจอสังหาฯ ในปัจจุบัน

กระทู้คำถาม
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เรื่องธุรกิจอสังหาฯ
- ธุรกิจอสังหาฯ เริ่มฟื้นตัวหลังจากพีคไปเมื่อกลางปีที่แล้ว(เป็นฟองสบู่) ช่วงนี้เป็นการปรับตัวลง(เพื่อเข้าหาสมดุล)เพราะ over supply จากปีก่อน
- กลไลของระบบทุนนิยม ทำให้ราคาอสังหาฯ (ซึ่งคนรวยถืออยู่)เพิ่มในสัดส่วนที่เยอะกว่า ค่าแรง(ของคนจน) อยู่แล้ว ทำให้อสังหาฯ ดีในระยะยาวอยู่แล้ว
ในโลกนี้ไม่มีใเพราะซื้อคอนโดฯ มาแล้วปล่อยเช่า อะไรที่ได้มาง่ายๆ มักจะมาพร้อมความเสี่ยงที่สูง เช่นเดียวกับคอนโดฯ ที่จะเป็นกลุ่มที่ over supply ก่อนเพื่อนเลย
- การจะเล่นในเกมส์ที่ง่าย เราต้อง work hard ให้หนักขึ้น ต้องคำนึงถึงว่าถ้าทุกอย่างไม่เป็นไปตามคาด เราจะเป็นยังไง ใครจะกำไรหรือขาดทุน วัดกันตอนที่เศรษฐกิจขาลงต่างหาก
- ความคิดที่ว่าต้องรวยก่อนถึงจะลงทุนด้านอสังหาฯ เป็นความคิดที่กลับด้าน เราควรศึกษาหาความรู้ก่อน อย่างไปคิดเรื่องเงินมากนัก ยิ่งขยันก็ยิ่งมีโอกาสมากขึ้น

มุมมองเรื่องตลาดหุ้น
- ตลาดหุ้นอยู่ในช่วงกลางๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาส่วนใหญ่ของตลาด เพราะถ้าเป็นช่วงที่คนกล้ามากๆ ต้องมีข่าวดีเยอะกว่านี้ จุดนี้ไม่น่าจะใช่จุดสูงสุดของตลาด

การลงทุนแนว VI
- การเลือกหุ้นมองปัจจัยยิ่งยาวยิ่งดี เพราะบางทีปัจจัยที่เกี่ยวข้องกันตรงๆ มันก็ยังใช้เวลานานก็จะสะท้อนออกมาในราคา การมองยาวเท่าไร ยิ่งปลอดภัยเท่านั้น ให้ดูที่ความสามารถนิสัยของผู้บริหาร มองธุรกิจให้ขาด(ในระยะยาว)
- VI มักจะชอบตอนที่หุ้นถูกลง(เพราะได้ซื้อเพิ่ม) ไม่ชอบตอนหุ้นขึ้น
- VI ไม่เล่นกับวงจรธุรกิจ ไม่เล่นกับความผันผวน และจังหวะ แต่ต้องทนกับเรื่องพวกนี้ให้ได้
- ทุกสภาวะของเศรษฐกิจมีทั้งข้อดีข้อเสีย
      ช่วงขาลง ซื้อของดีได้ในราคาที่ถูกลง แต่หาผู้ซื้อได้น้อย แต่ถ้าเราอดทนผ่านช่วงเวลานี้ได้ เราก็จะได้กำไรเต็มเม็ดเต็มหน่วย
      ช่วงขาขึ้น ราคาขึ้นเร็ว หยิบจับอะไรก็เป็นเงิน แต่ข้อเสียก็คือทำให้เราพลาดง่าย หลงไปกับกระแส
      ที่ดีที่สุดคือ ใจต้องนิ่ง แล้วตั้งอยู่บนพื้นฐาน
- การจะกะเก็งให้ได้ทั้งวงจรระยะยาว/วงจรระยะสั้นพร้อมกันเป็นไปได้ยาก เช่น คนที่มีหุ้นจาก 1 บาท ไป 10 บาท เค้าจะเสียค่าเสียโอกาสในวงจรระยะสั้นเสมอ คนที่เล่นในวงจรระยะสั้นก็จะเสียในวงจรระยะยาวเสมอ
- วอร์เรน บัฟเฟตต์ ตอนหลังแกจะไม่ขายในช่วงเวลาที่คนอื่นกล้าล่ะ เพราะในระยะยาว 10 ปี หุ้นที่แพงแล้ว ก็ยังมีแพงกว่าอีก ตราบใดที่พื้นฐานกิจการไม่เปลี่ยน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ลงทุนแบบนี้ได้ก็คือเราต้องยึดที่เงินปันผล ในไทยก็มีให้เห็นหุ้นที่ P/E ขึ้นไปยืนเกิน 20-30 เท่า แล้วไม่ลงเลย

เกี่ยวกับชีวิตแก
- ส่วนตัวลงทุนหุ้นไม่ถึง 5% ของพอร์ต เป็นการลงทุนเพื่อทดสอบทฤษฎีระบบผลประโยชน์ ในภาคเศรษฐกิจจริง(หมายถึงธุรกิจอสังหาฯ ของแก)เป็น VI
เรื่องหุ้นเป็นเรื่องง่าย แต่ทำยาก แต่อสังหาฯ ดูเหมือนยากแต่ทำง่าย

กระทิงเริงร่า

มีเรื่องที่แกพูดอื่นๆ อีกเยอะครับ ไปตามต่อในคลิปล่ะกัน

ปล. ผมว่าแกพูดเรื่อง VI จับต้องได้ง่ายกว่าดร.นิเวศ อีกนะเนี่ย แนะนำให้ดูทุกคนครับ
ปล.2 แถมคลิป ดร.นิเวศพูดเรื่องแก้วสามประการที่แกเขียนลง blog วันก่อน
http://www.youtube.com/watch?v=cujw7YeCQlo
ปล.3 ท่านใดสนใจเรื่องการลงทุนในหุ้น ไปดู clip ที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ playlist ของผมครับ

http://www.youtube.com/playlist?list=PLkyv5IZ8waChQDmgrG5Q6INNlwMG9uERB
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่