ขออนุญาตใช้เป็นพื้นที่ระบาย
ขอโทษนะคะถ้าทำให้รก มองผ่านไปก็ได้ ขอโทษจริงๆ
จริงๆไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี
พิมพ์ ลบ...พิมพ์ ลบ...พิมพ์ แล้วก็ลบ
เวลานี้เรายิ่งกว่าอยู่ในอุโมงค์มืด
ยิ่งกว่าติดอยู่ในซอกเหว เราไม่มีทางเลือก ข้างล่างนั่นคือความตาย ส่วนข้างบนก็สูงเกินกว่าที่จะปีนขึ้นไป
ไม่มีกิ่งไม้ รากไม้ให้เกาะ อันที่จริงไม่มีแม้กระทั่งส่วนที่กร่อนและผุพังของร่องหินพอให้เราได้ปีนป่ายด้วยซ้ำ
เราไม่กล้าตะโกนเรียกคนที่อยู่ข้างบนให้ช่วย เราไม่รู้ว่าพวกเขาจะช่วยเราได้รึเปล่า
แล้วถ้าพวกเขามาช่วยเรา เขาจะบาดเจ็บไปกับเรามั้ย?
น่าแปลกที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน เรามีความสุขมาก เรายิ้ม เราหัวเราะ เราดีใจ วันนี้มันเป็นวันของเรา..จริงๆนะ
แต่เหมือนมีคนตบหน้าเรากลางฝูงชน เราชาไปทั้งตัว ที่รู้สึกได้มีแค่ความเจ็บแปลบๆที่ในอกข้างซ้าย
ความเจ็บในแบบที่มันมีมาเสมอ แต่วันนี้มันรุนแรงกว่าทุกครั้ง มือเราสั่น สมองเราไม่ว่าง มันเต็มไปด้วยความคิด คิดมาก
...มากจนไม่รู้ว่าเราควรทำยังไงก่อนดี...
ทำอะไรก็ไม่สนุก เราเป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอลโลก เคยเฮฮาเมื่อทีมโปรดทำประตูได้
ตอนนี้เราไม่มีความรู้สึกนั้น เสียงจากโทรทัศน์ฟังไม่ได้ศัพท์ มันอื้อไปหมด
เราพยายามหาเรื่องตลกดู หาอะไรที่ทำให้รู้สึกดีอ่าน อยากยิ้ม อยากหัวเราะกับมัน แต่เราทำไม่ได้
สิ่งที่ไม่เคยคิดกลับคิด สิ่งที่ไม่เคยอยากทำ แต่วันนี้มันเป็นสิ่งแรกที่เข้ามาทักทายในหัวของเรา
เป็นสิ่งที่เราเคยมองว่ามันโง่ มันบ้า มันสิ้นคิด เราไม่มีทางทำอย่างนั้นเด็ดขาด
สิ่งที่เราคิดว่ามันคือศัตรูของเรามาตลอด
วันนี้มันมาอย่างมิตรสหาย มันยิ้มให้เรา ยื่นข้อเสนอที่หอมหวานให้เรา
"เธอจะสบายนะ เธอจะไม่ต้องกังวลกับอะไรอีกต่อไปแล้ว
ไม่ต้องแคร์ว่าใครจะคิดยังไง ไม่ต้องสนว่าวันพรุ่งนี้จะเสียใจแค่ไหน ไม่ต้องทนร้องไห้
น่า...มันไม่ทรมานนานหรอก แค่แป๊ปเดียว..เดี๋ยวก็ได้สบายแล้วนะ"
มันพยายามบอกเราว่า
"คนที่ทำอย่างนั้น เขาไม่ใช่คนโง่ เขาไม่ใช่คนอ่อนแอ แต่เขาคือที่เข้มแข็งที่สุด เข้มแข็งเพื่อที่จะพบความสบายที่เขาต้องการ"
แต่แน่นอน..
ความคิดคนเราไม่ได้มีด้านเดียว อีกเสียงนึกในหัวดังขึ้นมาก่อนที่เราจะยื่นมือให้กับอีกฝั่ง..
"เธอแน่ใจนะว่าจะทำอย่างนี้ เธอสบาย แล้วคนที่อยู่ข้างหลังล่ะ
เธอจำได้มั้ยเธอเคยพูดอะไรไว้ จำได้มั้ยว่าเธอให้พวกเขาดูแลตัวเองจนกว่าจะถึงวันที่เธอประสบความสำเร็จ
จำได้มั้ยว่าเธออธิษฐานทุกคืนขอให้พวกเขาอยู่กับเธอนานๆ แล้ววันนี้...เธอกลับเป็นฝ่ายจะทิ้งพวกเขาไปงั้นหรอ
มันยุติธรรมแล้วงั้นสิ?"
น้ำอุ่นๆไหลออกมาจากตาเป็นครั้งแรกนับแต่เกิดเรื่อง..
เราก็เพิ่งสังเกตตัวเองเหมือนกันว่าเข้มแข็งขนาดนี้ หรือมันตื้อจนร้องไม่ออกก็ไม่รู้
จนถึงตอนนี้ เรายินดี และภูมิใจมากที่ไม่ตัดสินใจทำอะไรแบบนั้นลงไป
ถึงไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเราจะปีนขึ้นมาจากร่องเหวมืดๆนั่นได้มั้ย
ถึงไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ความคิดแบบเดิมจะกลับมาอีกมั้ย
แต่เราจะสู้..
"สู้" คือสิ่งเดียวที่เราทำได้ตอนนี้ เราจะทำมันให้เต็มที่และถึงที่สุดนะ
~ เกือบ ~
ขอโทษนะคะถ้าทำให้รก มองผ่านไปก็ได้ ขอโทษจริงๆ
จริงๆไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี
พิมพ์ ลบ...พิมพ์ ลบ...พิมพ์ แล้วก็ลบ
เวลานี้เรายิ่งกว่าอยู่ในอุโมงค์มืด
ยิ่งกว่าติดอยู่ในซอกเหว เราไม่มีทางเลือก ข้างล่างนั่นคือความตาย ส่วนข้างบนก็สูงเกินกว่าที่จะปีนขึ้นไป
ไม่มีกิ่งไม้ รากไม้ให้เกาะ อันที่จริงไม่มีแม้กระทั่งส่วนที่กร่อนและผุพังของร่องหินพอให้เราได้ปีนป่ายด้วยซ้ำ
เราไม่กล้าตะโกนเรียกคนที่อยู่ข้างบนให้ช่วย เราไม่รู้ว่าพวกเขาจะช่วยเราได้รึเปล่า
แล้วถ้าพวกเขามาช่วยเรา เขาจะบาดเจ็บไปกับเรามั้ย?
น่าแปลกที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน เรามีความสุขมาก เรายิ้ม เราหัวเราะ เราดีใจ วันนี้มันเป็นวันของเรา..จริงๆนะ
แต่เหมือนมีคนตบหน้าเรากลางฝูงชน เราชาไปทั้งตัว ที่รู้สึกได้มีแค่ความเจ็บแปลบๆที่ในอกข้างซ้าย
ความเจ็บในแบบที่มันมีมาเสมอ แต่วันนี้มันรุนแรงกว่าทุกครั้ง มือเราสั่น สมองเราไม่ว่าง มันเต็มไปด้วยความคิด คิดมาก
...มากจนไม่รู้ว่าเราควรทำยังไงก่อนดี...
ทำอะไรก็ไม่สนุก เราเป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอลโลก เคยเฮฮาเมื่อทีมโปรดทำประตูได้
ตอนนี้เราไม่มีความรู้สึกนั้น เสียงจากโทรทัศน์ฟังไม่ได้ศัพท์ มันอื้อไปหมด
เราพยายามหาเรื่องตลกดู หาอะไรที่ทำให้รู้สึกดีอ่าน อยากยิ้ม อยากหัวเราะกับมัน แต่เราทำไม่ได้
สิ่งที่ไม่เคยคิดกลับคิด สิ่งที่ไม่เคยอยากทำ แต่วันนี้มันเป็นสิ่งแรกที่เข้ามาทักทายในหัวของเรา
เป็นสิ่งที่เราเคยมองว่ามันโง่ มันบ้า มันสิ้นคิด เราไม่มีทางทำอย่างนั้นเด็ดขาด
สิ่งที่เราคิดว่ามันคือศัตรูของเรามาตลอด
วันนี้มันมาอย่างมิตรสหาย มันยิ้มให้เรา ยื่นข้อเสนอที่หอมหวานให้เรา
"เธอจะสบายนะ เธอจะไม่ต้องกังวลกับอะไรอีกต่อไปแล้ว
ไม่ต้องแคร์ว่าใครจะคิดยังไง ไม่ต้องสนว่าวันพรุ่งนี้จะเสียใจแค่ไหน ไม่ต้องทนร้องไห้
น่า...มันไม่ทรมานนานหรอก แค่แป๊ปเดียว..เดี๋ยวก็ได้สบายแล้วนะ"
มันพยายามบอกเราว่า
"คนที่ทำอย่างนั้น เขาไม่ใช่คนโง่ เขาไม่ใช่คนอ่อนแอ แต่เขาคือที่เข้มแข็งที่สุด เข้มแข็งเพื่อที่จะพบความสบายที่เขาต้องการ"
แต่แน่นอน..
ความคิดคนเราไม่ได้มีด้านเดียว อีกเสียงนึกในหัวดังขึ้นมาก่อนที่เราจะยื่นมือให้กับอีกฝั่ง..
"เธอแน่ใจนะว่าจะทำอย่างนี้ เธอสบาย แล้วคนที่อยู่ข้างหลังล่ะ
เธอจำได้มั้ยเธอเคยพูดอะไรไว้ จำได้มั้ยว่าเธอให้พวกเขาดูแลตัวเองจนกว่าจะถึงวันที่เธอประสบความสำเร็จ
จำได้มั้ยว่าเธออธิษฐานทุกคืนขอให้พวกเขาอยู่กับเธอนานๆ แล้ววันนี้...เธอกลับเป็นฝ่ายจะทิ้งพวกเขาไปงั้นหรอ
มันยุติธรรมแล้วงั้นสิ?"
น้ำอุ่นๆไหลออกมาจากตาเป็นครั้งแรกนับแต่เกิดเรื่อง..
เราก็เพิ่งสังเกตตัวเองเหมือนกันว่าเข้มแข็งขนาดนี้ หรือมันตื้อจนร้องไม่ออกก็ไม่รู้
จนถึงตอนนี้ เรายินดี และภูมิใจมากที่ไม่ตัดสินใจทำอะไรแบบนั้นลงไป
ถึงไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเราจะปีนขึ้นมาจากร่องเหวมืดๆนั่นได้มั้ย
ถึงไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ความคิดแบบเดิมจะกลับมาอีกมั้ย
แต่เราจะสู้..
"สู้" คือสิ่งเดียวที่เราทำได้ตอนนี้ เราจะทำมันให้เต็มที่และถึงที่สุดนะ