สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันแรก ของสัปดาห์การทำงานครับ พี่ๆ น้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call Option
เมื่อวานศุกร์ที่ผ่าน SET index แกว่งตัวในกรอบแคบๆ ( 1460-1468 จุด) เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ ยังคงชะลอการเข้าซื้อขาย
เพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาหนุนนำ ดังนั้นตลาดช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาจึงเงียบเหงา ซบเซา อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่ม
พลังงาน เพราะได้รับอนิสงค์ สถานการ์ความรุนแรงใน อิรัก ดังนั้น จึงช่วยหนุนส่ง ให้ SET index ปิดไปที่ระดับ 1467 จุด +5.38 จุด
วันนี้มาลุ้นกันต่อว่า จะสามารใต่ระดับขึ้นไปต่อ ได้หรือไม่
Fundamental
เอเชียเช้านี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้ที่ 15,419.47 จุด เพิ่มขึ้น 70.05 จุด หรือ +0.46% เพราะได้แรงหนุนจากการ
ปิดบวกของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ดัชนีดีดตัวขึ้น 25.62 จุด หรือ +0.15% เมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ประกาศเดินหน้าใช้นโยบาย
ผ่อนคลายการเงินด้วยการส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ที่ระดับต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด
ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (20 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ที่ประกาศเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินด้วยการส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ที่
ระดับต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,947.08 จุด เพิ่มขึ้น 25.62 จุด หรือ +0.15%
ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,368.04 จุด เพิ่มขึ้น 8.71 จุด หรือ +0.20%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,962.87 จุด เพิ่มขึ้น 3.39 จุด หรือ +0.17%
ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1.4% และดัชนี NASDAQ ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1.3%
ทั้งนี้ เนื่องจากทางการสหรัฐไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันศุกร์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กจึงยังคงรับปัจจัยบวกจากการตัดสินใจของ
คณะกรรมการเฟดที่ระบุว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้ศูนย์ต่อไปอีก แม้ว่าโครงการซื้อพันธบัตรสิ้นสุดลงตามกำหนด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวที่เฟดกำหนดไว้ที่ 2% ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเฟด
ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกติดต่อกัน 6 วันทำการ โดยดัชนี S&P 500 และดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ในการประชุมครั้งล่าสุดนี้ เฟดยังได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยกล่าวว่า "การขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันมีสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัวขึ้น และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวขึ้นปานกลาง"
นอกจากนี้ คณะกรรมการเฟดยังมีมติปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์
ต่อเดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าปรับลด QE ไปจนจบโครงการในปีนี้
- หุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มเฮลธ์แคร์ และกลุ่มผู้ผลิตวัสดุ ปรับตัวสูงขึ้นและเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นด้วย
- หุ้นเน็ทฟลิกซ์ หุ้นเทลซา มอเตอร์ และหุ้นทริปแอดไวเซอร์ ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 1.5% เพราะได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนยังคงมีมุมมอง
ที่เป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทเหล่านี้
- หุ้นออราเคิล คอร์ปอเรชัน พุ่งขึ้น 3.98% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ต่อหุ้นในไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 80 เซนต์ และรายได้รวม 1.13 หมื่นล้าน
ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัวเมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ซบเซา อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนใน
ระหว่างวันจากข่าวการควบรวมกิจการและซื้อกิจการของภาคเอกชนยุโรป
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลงน้อยกว่า 0.1% ปิดที่ 348.09 จุด ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 0.3%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,541.34 จุด ลดลง 21.70 จุด หรือ -0.48%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,987.24 จุด ลดลง 16.76 จุด หรือ -0.17%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,825.20 จุด เพิ่มขึ้น 17.09 จุด หรือ +0.25%
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากข่าวการควบรวมกิจการและซื้อกิจการของภาคเอกชนยุโรป และจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ส่งสัญญาณว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้ศูนย์ต่อไปอีก แม้ว่าโครงการซื้อพันธบัตรสิ้นสุดลงตามกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
หากตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวที่เฟดกำหนดไว้ที่ 2% อย่างไรก็ตาม ตลาดอ่อนแรงลงท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา
เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไร
- หุ้นไชร์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ พุ่งขึ้น 17% หลังจากมีรายงานว่าบริษัท AbbVie ได้เพิ่มข้อเสนอซื้อกิจการของไชร์ อย่างไรก็ตาม
คณะกรรมการบริหารของไชร์ได้ปฏิเสธข้อเสนอการเทคโอเวอร์ดังกล่าว
- หุ้นอัลสตอม ปรับขึ้น 1.1% หลังจากบริษัทซีเมนต์ส เอจี และมิตซูบิชิ เฮฟวี่ ได้เพิ่มข้อเสนอซื้อกิจการของอัลสตอมอีก 1.2 พันล้านยูโร
เป็น 8.2 พันล้านยูโร นอกจากนี้มีข่าวว่า เจนเนอรัล อิเล็กทริก ยังได้เสนอซื้อกิจการของอัลสตอมด้วย
- หุ้นเทเลคอม อิตาเลีย ร่วงลง 2.6% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทเทเลโฟนิกาได้ขายตราสารหนี้มูลค่า 103 ล้านยูโรเพื่อเตรียมเข้าซื้อหุ้นของเทเลคอม
อิตาเลีย
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF Day : เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา แก่วงตัวในกรอบแคบมากๆ ( 1460-1468 ) อาจจะเป็นเพราะ สัญญาณทางเทคนิค
Indicator หลายตัว อยู่ในภาวะ "Over Bought" มาหลายวัน จึงทำให้ Upside เหลือน้อย และ ปิดแท่งเทียนไปแบบ "Evening Star
"วันนี้ จึงมีโอกาสที่จะย่อตัวลงมาได้ / แต่ถ้าหากไม่ย่อตัวลงมา ก็ลุ้นให้ ทะลุ และกลับไปยืน 1480 ให้ได้ แล้วภาพรวมจะดูสวยงาม ยิ่งขึ้นกว่าเดิม
S50M14 TF Day : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ยืนยันการกลับตัวแบบ "In-Neck Pattern" ขึ้นมาได้สำเร็จ
และปิดแท่งเทียนสีเขียว ยาวๆ เต็มๆแท่ง อย่างสวยงาม จึงทำให้วันนี้มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นไปต่อ ลุ้นทะลุ High 993 ถ้าสามารถ
ผ่านขึ้นไปได้ ดัชนี 1000 จุด ก็ไกล้แค่เอื้อม / แต่ถ้าไม่สามารถไปต่อ ระวังอาจหลุด Neck line ของฟอร์ม "Broadening Formations,
Right-Angled and Ascending" ลงไปอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้ ภาพรวมดูแย่ อีกครั้ง
TF60 : ยังคง Sideway Up ขึ้นมาได้เรื่อยๆ จนเมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมา โดยเฉพาะแท่งเทียน แท่ง 4 โมงเย็น ที่สามารถพุ่งทะลุ
และกลับมายืน EMA25,75 วัน ได้สำเร็จ ทำให้สัญญาณกลับมาดูดี อีกครั้ง จึงทำให้มันนี้มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นไปต่อ ลุ้นทะลุ
High 993 ถ้าสามารถผ่านขึ้นไปได้ ดัชนีระดับ 1000 จุด ก็ไกล้แค่เอื้อม
Resistance 990 993 997 1000 / 1475 1480 1490
Support 980 975 970 / 1460 1450
*EOD End of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ
กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call (23 June 14)
สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันแรก ของสัปดาห์การทำงานครับ พี่ๆ น้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call Option
เมื่อวานศุกร์ที่ผ่าน SET index แกว่งตัวในกรอบแคบๆ ( 1460-1468 จุด) เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ ยังคงชะลอการเข้าซื้อขาย
เพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาหนุนนำ ดังนั้นตลาดช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาจึงเงียบเหงา ซบเซา อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่ม
พลังงาน เพราะได้รับอนิสงค์ สถานการ์ความรุนแรงใน อิรัก ดังนั้น จึงช่วยหนุนส่ง ให้ SET index ปิดไปที่ระดับ 1467 จุด +5.38 จุด
วันนี้มาลุ้นกันต่อว่า จะสามารใต่ระดับขึ้นไปต่อ ได้หรือไม่
Fundamental
เอเชียเช้านี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้ที่ 15,419.47 จุด เพิ่มขึ้น 70.05 จุด หรือ +0.46% เพราะได้แรงหนุนจากการ
ปิดบวกของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ดัชนีดีดตัวขึ้น 25.62 จุด หรือ +0.15% เมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ประกาศเดินหน้าใช้นโยบาย
ผ่อนคลายการเงินด้วยการส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ที่ระดับต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด
ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (20 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ที่ประกาศเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินด้วยการส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ที่
ระดับต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,947.08 จุด เพิ่มขึ้น 25.62 จุด หรือ +0.15%
ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,368.04 จุด เพิ่มขึ้น 8.71 จุด หรือ +0.20%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,962.87 จุด เพิ่มขึ้น 3.39 จุด หรือ +0.17%
ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1.4% และดัชนี NASDAQ ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1.3%
ทั้งนี้ เนื่องจากทางการสหรัฐไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันศุกร์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กจึงยังคงรับปัจจัยบวกจากการตัดสินใจของ
คณะกรรมการเฟดที่ระบุว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้ศูนย์ต่อไปอีก แม้ว่าโครงการซื้อพันธบัตรสิ้นสุดลงตามกำหนด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวที่เฟดกำหนดไว้ที่ 2% ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเฟด
ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกติดต่อกัน 6 วันทำการ โดยดัชนี S&P 500 และดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ในการประชุมครั้งล่าสุดนี้ เฟดยังได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยกล่าวว่า "การขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันมีสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัวขึ้น และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวขึ้นปานกลาง"
นอกจากนี้ คณะกรรมการเฟดยังมีมติปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์
ต่อเดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าปรับลด QE ไปจนจบโครงการในปีนี้
- หุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มเฮลธ์แคร์ และกลุ่มผู้ผลิตวัสดุ ปรับตัวสูงขึ้นและเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นด้วย
- หุ้นเน็ทฟลิกซ์ หุ้นเทลซา มอเตอร์ และหุ้นทริปแอดไวเซอร์ ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 1.5% เพราะได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนยังคงมีมุมมอง
ที่เป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทเหล่านี้
- หุ้นออราเคิล คอร์ปอเรชัน พุ่งขึ้น 3.98% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ต่อหุ้นในไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 80 เซนต์ และรายได้รวม 1.13 หมื่นล้าน
ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัวเมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ซบเซา อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนใน
ระหว่างวันจากข่าวการควบรวมกิจการและซื้อกิจการของภาคเอกชนยุโรป
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลงน้อยกว่า 0.1% ปิดที่ 348.09 จุด ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 0.3%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,541.34 จุด ลดลง 21.70 จุด หรือ -0.48%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,987.24 จุด ลดลง 16.76 จุด หรือ -0.17%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,825.20 จุด เพิ่มขึ้น 17.09 จุด หรือ +0.25%
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากข่าวการควบรวมกิจการและซื้อกิจการของภาคเอกชนยุโรป และจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ส่งสัญญาณว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้ศูนย์ต่อไปอีก แม้ว่าโครงการซื้อพันธบัตรสิ้นสุดลงตามกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
หากตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวที่เฟดกำหนดไว้ที่ 2% อย่างไรก็ตาม ตลาดอ่อนแรงลงท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา
เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไร
- หุ้นไชร์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ พุ่งขึ้น 17% หลังจากมีรายงานว่าบริษัท AbbVie ได้เพิ่มข้อเสนอซื้อกิจการของไชร์ อย่างไรก็ตาม
คณะกรรมการบริหารของไชร์ได้ปฏิเสธข้อเสนอการเทคโอเวอร์ดังกล่าว
- หุ้นอัลสตอม ปรับขึ้น 1.1% หลังจากบริษัทซีเมนต์ส เอจี และมิตซูบิชิ เฮฟวี่ ได้เพิ่มข้อเสนอซื้อกิจการของอัลสตอมอีก 1.2 พันล้านยูโร
เป็น 8.2 พันล้านยูโร นอกจากนี้มีข่าวว่า เจนเนอรัล อิเล็กทริก ยังได้เสนอซื้อกิจการของอัลสตอมด้วย
- หุ้นเทเลคอม อิตาเลีย ร่วงลง 2.6% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทเทเลโฟนิกาได้ขายตราสารหนี้มูลค่า 103 ล้านยูโรเพื่อเตรียมเข้าซื้อหุ้นของเทเลคอม
อิตาเลีย
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF Day : เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา แก่วงตัวในกรอบแคบมากๆ ( 1460-1468 ) อาจจะเป็นเพราะ สัญญาณทางเทคนิค
Indicator หลายตัว อยู่ในภาวะ "Over Bought" มาหลายวัน จึงทำให้ Upside เหลือน้อย และ ปิดแท่งเทียนไปแบบ "Evening Star
"วันนี้ จึงมีโอกาสที่จะย่อตัวลงมาได้ / แต่ถ้าหากไม่ย่อตัวลงมา ก็ลุ้นให้ ทะลุ และกลับไปยืน 1480 ให้ได้ แล้วภาพรวมจะดูสวยงาม ยิ่งขึ้นกว่าเดิม
S50M14 TF Day : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ยืนยันการกลับตัวแบบ "In-Neck Pattern" ขึ้นมาได้สำเร็จ
และปิดแท่งเทียนสีเขียว ยาวๆ เต็มๆแท่ง อย่างสวยงาม จึงทำให้วันนี้มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นไปต่อ ลุ้นทะลุ High 993 ถ้าสามารถ
ผ่านขึ้นไปได้ ดัชนี 1000 จุด ก็ไกล้แค่เอื้อม / แต่ถ้าไม่สามารถไปต่อ ระวังอาจหลุด Neck line ของฟอร์ม "Broadening Formations,
Right-Angled and Ascending" ลงไปอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้ ภาพรวมดูแย่ อีกครั้ง
TF60 : ยังคง Sideway Up ขึ้นมาได้เรื่อยๆ จนเมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมา โดยเฉพาะแท่งเทียน แท่ง 4 โมงเย็น ที่สามารถพุ่งทะลุ
และกลับมายืน EMA25,75 วัน ได้สำเร็จ ทำให้สัญญาณกลับมาดูดี อีกครั้ง จึงทำให้มันนี้มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นไปต่อ ลุ้นทะลุ
High 993 ถ้าสามารถผ่านขึ้นไปได้ ดัชนีระดับ 1000 จุด ก็ไกล้แค่เอื้อม
Resistance 990 993 997 1000 / 1475 1480 1490
Support 980 975 970 / 1460 1450
*EOD End of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ