สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันทำงานวันแรกของสัปดาห์ครับ พี่ๆน้องๆ ชาว ขา S และ ขา L & ชาว Put Call ทุกๆท่าน
เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี SET index เคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบแคบๆ 1810 – 1818 จุด โดยตลอดทั้งสัปดาห์ก่อน ไร้ปัจจัยใหม่ๆ
เข้ามาหนุนนำขับเคลื่อนตลาด เนื่องจากตลาดยังคงรอความชัดเจนจากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ FOMC ในวันที่ 20-21 มีนาคม ที่จะถึงนี้
ว่าธนาคารกลางสหรัฐ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตามที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้หรือไม่ ดังนั้น ดัชนี SET index จึงปิดตัวไปที่ระดับ 1811 จุด -4.32 จุด
วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าดัชนีจะสามารถทะยานขึ้นไปปิดตัวเหนือ 1820 จุด ได้หรือไม่
Fundamental
"เอเชียเช้านี้" ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย เพื่อรอดูผลการประชุมนโยบายการ
เงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 20-21 มี.ค. ดัชนีฮั่งเส็งฮั่งเส็งเปิดร่วงลง 131.50 จุด หรือ -0.42% แตะที่ 31,370.47 จุด
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า
มีโอกาส 86% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในปีนี้ และมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในเดือนมิ.ย.
และครั้งที่ 3 ในเดือนก.ย.
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (16 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ.ที่ขยายตัวแข็งแกร่งสุดในรอบ 4 เดือน อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในสหรัฐและผลกระทบของสงครามการค้า ยังคงสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,946.51 จุด เพิ่มขึ้น 72.85 จุด หรือ +0.29%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,752.01 จุด เพิ่มขึ้น 4.68 จุด หรือ +0.17%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,481.99 จุด เพิ่มขึ้น 0.25 จุด หรือ +0.00%
ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงราว 1.5% ดัชนี S&P ลดลง 1.2% และดัชนี Nasdaq ลดลง 1%
ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อวันศุกร์ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยผลสำรวจของมหา
วิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 102 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2547 โดยสูงกว่าที่
นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 99.3 และสูงกว่าระดับ 99.9 ในเดือนก.พ. ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นที่พุ่งขึ้นในเดือนมี.ค.ได้แรงหนุนจากมุมมอง
เชิงบวกของผู้บริโภคต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ และฐานะการเงินส่วนบุคคล
ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐพุ่งขึ้น 1.1% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ
4 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.3% โดยได้แรงหนุนจากภาคก่อสร้าง, ภาคพลังงาน และเหมืองแร่
หุ้นวอลมาร์ท พุ่งขึ้น 1.2% ส่วนหุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ปรับตัวขึ้น 1% ขานรับความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.ของสหรัฐที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 14 ปี
หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ขยับขึ้น 0.5% หลังจากจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันได้รับข้อเสนอจากบริษัทพลาตินัม อิควิตี้ เพื่อซื้อธุรกิจ "ไลฟ์สแกน"
ซึ่งเป็นธุรกิจผลิตอุปกรณ์ตรวจน้ำตาลในเลือด ในวงเงิน 2.1 พันล้านดอลลาร์
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น โดยหุ้นอะโดบี ซิสเต็มส์ ดีดตัวขึ้น 3.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้และผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะ
ที่หุ้นไมครอน เทคโนโลยี พุ่งขึ้น 3% หลังจากนักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นไมครอน เทคโนโลยี สู่ระดับ 100 ดอลลาร์ ส่วนหุ้นเวสเทิร์น ดิจิทัล ทะยานขึ้น 4.1% หลังจากนักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเวสเทิร์น ดิจิทัล ขึ้นสู่ระดับ "outperform"
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ดีดตัวขึ้น 0.9% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี
พุ่งขึ้น 1.3% และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 1.3% เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐ หลังจากสื่อรายงานว่า ประธานา
ธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ได้ตัดสินใจปลดพลโท เฮอร์เบิร์ต เรย์มอนด์ แมคมาสเตอร์ ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ รวมทั้งอาจ
มีการปลดพล.อ.จอห์น เคลลี หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว ออกจากตำแหน่ง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศปลดนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ
อันเนื่องมาจากความขัดแย้งด้านนโยบายต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา โดยปธน.ทรัมป์ได้แต่งตั้งนายไมค์ ปอมเปโอ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรอง
กลางสหรัฐ (CIA) ให้เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศแทนนายทิลเลอร์สัน และให้นางจีน่า แฮสเปล รองผอ.CIA ขึ้นเป็นผอ.CIA คนใหม่
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดีดตัวขึ้นติดต่อกัน
เป็นวันที่ 2 รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสูด
ในรอบ 14 ปี
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 377.71 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,389.58 จุด เพิ่มขึ้น 44.02 จุด หรือ +0.36%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,164.14 จุด เพิ่มขึ้น 24.38 จุด หรือ +0.34%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,282.75 จุด เพิ่มขึ้น 15.49 จุด หรือ +0.29%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ รวมทั้งขานรับรับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
ของสหรัฐ โดยผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 102 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุด
นับตั้งแต่ปี 2547 โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 99.3 และสูงกว่าระดับ 99.9 ในเดือนก.พ.
ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐพุ่งขึ้น 1.1% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ
4 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.3% โดยได้แรงหนุนจากภาคก่อสร้าง, ภาคพลังงาน และเหมืองแร่ นอกจากนี้
การอ่อนค่าของสกุลเงินยูโรยังช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทส่งออกในยุโรป
หุ้น NEX Group ทะยานขึ้น 30% หลังจากบริษัทยอมรับข้อเสนอการเทคโอเวอร์จาก CME Group
หุ้นอัลทิส ซึ่งเป็นบริษัทเทเลคอม พุ่งขึ้น 2.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้เพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/2560 พร้อมกับปรับเพิ่มแนวโน้มทางธุรกิจ
ในตลาดฝรั่งเศส
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านร่วงลง โดยหุ้นเทเลอร์ วิมพีย์ ดิ่งลง 1.4% และหุ้นเพอร์ซิมมอน ร่วงลง 1.3% ส่วนหุ้นเบอร์เคลีย์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์
ร่วงลง 5.4%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขั้นสุดท้ายของยูโรโซนชะลอตัวลงสู่ระดับ 1.1% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี โดยลดลงจากตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 1.2% และลดลงจากระดับ 1.3% ในเดือนม.ค. ซึ่งการ
ชะลอตัวของดัชนี CPI ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของราคาอาหาร
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับหมวดพลังงานและอาหาร และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ให้ความสำคัญ ทรงตัวที่ระดับ 1.2%
ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี
ทั้งนี้ ดัชนี CPI ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของ ECB ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่ ECB คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 1.4%
ในปีนี้ และปีหน้า ก่อนที่จะพุ่งขึ้นแตะ 1.7% ในปี 2563
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF Day: ในภาพใหญ่ มองการเคลื่อนไหวของดัชนี Sideway อยู่ในกรอบ 1760 – 1850 จุด และในตลอดทั้งสัปดาห์ก่อน ดัชนีได้
ฟื้นตัวขึ้นมาได้เรื่อยๆ และได้เรียงตัวแท่งเทียนในรูปแบบ Advance Block จึงทำให้วันศุกร์ที่ผ่านมา เริ่มเห็นการย่อตัวลงมาเล็กน้อย ซึ่งถ้าหากวันนี้
ดัชนีไม่สามารถเคลียร์ต้าน 1820 ขึ้นไปได้ และ หลุดร่วง 1800 จุดลงมา ก็อาจจะกลายเป็น Pullback และมีโอกาสที่จะกลับลงไปทดสอบ 1760 จุด
ได้อีกครั้ง
S50H18 TF Day: ตลอดทั้งสัปดาห์ก่อน ดัชนีสามารถ Rebound ฟื้นตัวขึ้นมาปิด Gap ที่ระดับ 1201 จุด ได้สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า
ดัชนีจะหมดเรี่ยวแรงไปต่อ เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ย่อตัวลงมาเล็กน้อย และรูปแบบการเคลื่อนไหวของแท่งเทียนดูเหมือนว่าจะเป็น “Bearish
Breakaway” ซึ่งถ้าหากวันนี้ ดัชนีไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือ 1200 จุดได้ อาจจะมีการย่อตัวลงมาเคลื่อนไหวในโซน 1160-1180 จุด ก็เป็นได้
S50H18 TF 60min: เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีได้ Rebound ฟื้นตัวขึ้นมาปิด Gap 1201 จุด ได้สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตาม บริเวณ 1201 จุด เป็น
แนวต้านที่สำคัญ และดัชนีก็ไม่สามารถผ่านพ้นขึ้นไปได้ ยิ่งการเคลื่อนไหวของแท่งเทียน มีลักษณะโค้งมน หรือจะมองเป็น Rounding Top ก็ได้
ซึ่งทำให้มองว่า แนวโน้มวันนี้ หากดัชนีไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1200 จุด ได้อีกครั้ง และย่อตัวลงมา อาจจะทำให้กลายเป็น Pullback และ
ไถลลงมาทดสอบ 116x – 117x ก็เป็นได้ //แต่ถ้าหากผ่าน 1200 ขึ้นไป ก็ยืนยัน Throwback เตรียมทะยานสู่ดวงดาว อันไกลโพ้น
Resistance : 1195 1200 1205 / 1818 1825 1830
Support : 1185 1180 1175 / 1808 1800 1795
*EOD End of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ
กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call (19 Mar 18)
สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันทำงานวันแรกของสัปดาห์ครับ พี่ๆน้องๆ ชาว ขา S และ ขา L & ชาว Put Call ทุกๆท่าน
เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี SET index เคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบแคบๆ 1810 – 1818 จุด โดยตลอดทั้งสัปดาห์ก่อน ไร้ปัจจัยใหม่ๆ
เข้ามาหนุนนำขับเคลื่อนตลาด เนื่องจากตลาดยังคงรอความชัดเจนจากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ FOMC ในวันที่ 20-21 มีนาคม ที่จะถึงนี้
ว่าธนาคารกลางสหรัฐ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตามที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้หรือไม่ ดังนั้น ดัชนี SET index จึงปิดตัวไปที่ระดับ 1811 จุด -4.32 จุด
วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าดัชนีจะสามารถทะยานขึ้นไปปิดตัวเหนือ 1820 จุด ได้หรือไม่
Fundamental
"เอเชียเช้านี้" ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย เพื่อรอดูผลการประชุมนโยบายการ
เงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 20-21 มี.ค. ดัชนีฮั่งเส็งฮั่งเส็งเปิดร่วงลง 131.50 จุด หรือ -0.42% แตะที่ 31,370.47 จุด
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า
มีโอกาส 86% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในปีนี้ และมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในเดือนมิ.ย.
และครั้งที่ 3 ในเดือนก.ย.
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (16 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ.ที่ขยายตัวแข็งแกร่งสุดในรอบ 4 เดือน อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในสหรัฐและผลกระทบของสงครามการค้า ยังคงสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,946.51 จุด เพิ่มขึ้น 72.85 จุด หรือ +0.29%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,752.01 จุด เพิ่มขึ้น 4.68 จุด หรือ +0.17%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,481.99 จุด เพิ่มขึ้น 0.25 จุด หรือ +0.00%
ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงราว 1.5% ดัชนี S&P ลดลง 1.2% และดัชนี Nasdaq ลดลง 1%
ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อวันศุกร์ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยผลสำรวจของมหา
วิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 102 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2547 โดยสูงกว่าที่
นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 99.3 และสูงกว่าระดับ 99.9 ในเดือนก.พ. ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นที่พุ่งขึ้นในเดือนมี.ค.ได้แรงหนุนจากมุมมอง
เชิงบวกของผู้บริโภคต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ และฐานะการเงินส่วนบุคคล
ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐพุ่งขึ้น 1.1% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ
4 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.3% โดยได้แรงหนุนจากภาคก่อสร้าง, ภาคพลังงาน และเหมืองแร่
หุ้นวอลมาร์ท พุ่งขึ้น 1.2% ส่วนหุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ปรับตัวขึ้น 1% ขานรับความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.ของสหรัฐที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 14 ปี
หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ขยับขึ้น 0.5% หลังจากจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันได้รับข้อเสนอจากบริษัทพลาตินัม อิควิตี้ เพื่อซื้อธุรกิจ "ไลฟ์สแกน"
ซึ่งเป็นธุรกิจผลิตอุปกรณ์ตรวจน้ำตาลในเลือด ในวงเงิน 2.1 พันล้านดอลลาร์
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น โดยหุ้นอะโดบี ซิสเต็มส์ ดีดตัวขึ้น 3.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้และผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะ
ที่หุ้นไมครอน เทคโนโลยี พุ่งขึ้น 3% หลังจากนักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นไมครอน เทคโนโลยี สู่ระดับ 100 ดอลลาร์ ส่วนหุ้นเวสเทิร์น ดิจิทัล ทะยานขึ้น 4.1% หลังจากนักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเวสเทิร์น ดิจิทัล ขึ้นสู่ระดับ "outperform"
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ดีดตัวขึ้น 0.9% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี
พุ่งขึ้น 1.3% และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 1.3% เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐ หลังจากสื่อรายงานว่า ประธานา
ธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ได้ตัดสินใจปลดพลโท เฮอร์เบิร์ต เรย์มอนด์ แมคมาสเตอร์ ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ รวมทั้งอาจ
มีการปลดพล.อ.จอห์น เคลลี หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว ออกจากตำแหน่ง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศปลดนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ
อันเนื่องมาจากความขัดแย้งด้านนโยบายต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา โดยปธน.ทรัมป์ได้แต่งตั้งนายไมค์ ปอมเปโอ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรอง
กลางสหรัฐ (CIA) ให้เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศแทนนายทิลเลอร์สัน และให้นางจีน่า แฮสเปล รองผอ.CIA ขึ้นเป็นผอ.CIA คนใหม่
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดีดตัวขึ้นติดต่อกัน
เป็นวันที่ 2 รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสูด
ในรอบ 14 ปี
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 377.71 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,389.58 จุด เพิ่มขึ้น 44.02 จุด หรือ +0.36%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,164.14 จุด เพิ่มขึ้น 24.38 จุด หรือ +0.34%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,282.75 จุด เพิ่มขึ้น 15.49 จุด หรือ +0.29%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ รวมทั้งขานรับรับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
ของสหรัฐ โดยผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 102 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุด
นับตั้งแต่ปี 2547 โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 99.3 และสูงกว่าระดับ 99.9 ในเดือนก.พ.
ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐพุ่งขึ้น 1.1% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ
4 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.3% โดยได้แรงหนุนจากภาคก่อสร้าง, ภาคพลังงาน และเหมืองแร่ นอกจากนี้
การอ่อนค่าของสกุลเงินยูโรยังช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทส่งออกในยุโรป
หุ้น NEX Group ทะยานขึ้น 30% หลังจากบริษัทยอมรับข้อเสนอการเทคโอเวอร์จาก CME Group
หุ้นอัลทิส ซึ่งเป็นบริษัทเทเลคอม พุ่งขึ้น 2.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้เพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/2560 พร้อมกับปรับเพิ่มแนวโน้มทางธุรกิจ
ในตลาดฝรั่งเศส
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านร่วงลง โดยหุ้นเทเลอร์ วิมพีย์ ดิ่งลง 1.4% และหุ้นเพอร์ซิมมอน ร่วงลง 1.3% ส่วนหุ้นเบอร์เคลีย์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์
ร่วงลง 5.4%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขั้นสุดท้ายของยูโรโซนชะลอตัวลงสู่ระดับ 1.1% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี โดยลดลงจากตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 1.2% และลดลงจากระดับ 1.3% ในเดือนม.ค. ซึ่งการ
ชะลอตัวของดัชนี CPI ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของราคาอาหาร
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับหมวดพลังงานและอาหาร และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ให้ความสำคัญ ทรงตัวที่ระดับ 1.2%
ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี
ทั้งนี้ ดัชนี CPI ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของ ECB ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่ ECB คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 1.4%
ในปีนี้ และปีหน้า ก่อนที่จะพุ่งขึ้นแตะ 1.7% ในปี 2563
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF Day: ในภาพใหญ่ มองการเคลื่อนไหวของดัชนี Sideway อยู่ในกรอบ 1760 – 1850 จุด และในตลอดทั้งสัปดาห์ก่อน ดัชนีได้
ฟื้นตัวขึ้นมาได้เรื่อยๆ และได้เรียงตัวแท่งเทียนในรูปแบบ Advance Block จึงทำให้วันศุกร์ที่ผ่านมา เริ่มเห็นการย่อตัวลงมาเล็กน้อย ซึ่งถ้าหากวันนี้
ดัชนีไม่สามารถเคลียร์ต้าน 1820 ขึ้นไปได้ และ หลุดร่วง 1800 จุดลงมา ก็อาจจะกลายเป็น Pullback และมีโอกาสที่จะกลับลงไปทดสอบ 1760 จุด
ได้อีกครั้ง
S50H18 TF Day: ตลอดทั้งสัปดาห์ก่อน ดัชนีสามารถ Rebound ฟื้นตัวขึ้นมาปิด Gap ที่ระดับ 1201 จุด ได้สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า
ดัชนีจะหมดเรี่ยวแรงไปต่อ เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ย่อตัวลงมาเล็กน้อย และรูปแบบการเคลื่อนไหวของแท่งเทียนดูเหมือนว่าจะเป็น “Bearish
Breakaway” ซึ่งถ้าหากวันนี้ ดัชนีไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือ 1200 จุดได้ อาจจะมีการย่อตัวลงมาเคลื่อนไหวในโซน 1160-1180 จุด ก็เป็นได้
S50H18 TF 60min: เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีได้ Rebound ฟื้นตัวขึ้นมาปิด Gap 1201 จุด ได้สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตาม บริเวณ 1201 จุด เป็น
แนวต้านที่สำคัญ และดัชนีก็ไม่สามารถผ่านพ้นขึ้นไปได้ ยิ่งการเคลื่อนไหวของแท่งเทียน มีลักษณะโค้งมน หรือจะมองเป็น Rounding Top ก็ได้
ซึ่งทำให้มองว่า แนวโน้มวันนี้ หากดัชนีไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1200 จุด ได้อีกครั้ง และย่อตัวลงมา อาจจะทำให้กลายเป็น Pullback และ
ไถลลงมาทดสอบ 116x – 117x ก็เป็นได้ //แต่ถ้าหากผ่าน 1200 ขึ้นไป ก็ยืนยัน Throwback เตรียมทะยานสู่ดวงดาว อันไกลโพ้น
Resistance : 1195 1200 1205 / 1818 1825 1830
Support : 1185 1180 1175 / 1808 1800 1795
*EOD End of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ