ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:
ดาวโจนส์ปิดบวก 25.62 จุด รับเฟดเดินหน้าตรึงดบ.ต่ำ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ประกาศเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินด้วยการส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ที่ระดับ ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,947.08 จุด เพิ่มขึ้น 25.62 จุด หรือ +0.15% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,368.04 จุด เพิ่มขึ้น 8.71 จุด หรือ +0.20% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,962.87 จุด เพิ่มขึ้น 3.39 จุด หรือ +0.17%
ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1.4% และดัชนี NASDAQ ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1.3%
ทั้งนี้ เนื่องจากทางการสหรัฐไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันศุกร์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กจึงยังคงรับปัจจัยบวกจากการตัดสินใจของคณะกรรมการเฟดที่ระบุว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้ศูนย์ต่อไปอีก แม้ว่าโครงการซื้อพันธบัตรสิ้นสุดลงตามกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาก ตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวที่เฟดกำหนดไว้ที่ 2% ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเฟดช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกติดต่อกัน 6 วันทำการ โดยดัชนี S&P 500 และดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับ สูงสุด เป็นประวัติการณ์
ในการประชุมครั้งล่าสุดนี้ เฟดยังได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยกล่าวว่า "การขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันมีสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาด แรงงานยังคงฟื้นตัวขึ้น และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวขึ้นปานกลาง" นอกจากนี้ คณะกรรมการเฟดยังมีมติปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าปรับลด QE ไปจนจบโครงการในปีนี้
หุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มเฮลธ์แคร์ และกลุ่มผู้ผลิตวัสดุ ปรับตัวสูงขึ้นและเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นด้วย
หุ้นเน็ทฟลิกซ์ หุ้นเทลซา มอเตอร์ และหุ้นทริปแอดไวเซอร์ ต่างก็ปรับตัว ขึ้นอย่างน้อย 1.5% เพราะได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนยังคง มีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทเหล่านี้
หุ้นออราเคิล คอร์ปอเรชัน พุ่งขึ้น 3.98% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ต่อหุ้นในไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 80 เซนต์ และรายได้รวม 1.13 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ื
ข่าว LINE เช้านี้ 22/6/57
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:
ดาวโจนส์ปิดบวก 25.62 จุด รับเฟดเดินหน้าตรึงดบ.ต่ำ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ประกาศเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินด้วยการส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ที่ระดับ ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,947.08 จุด เพิ่มขึ้น 25.62 จุด หรือ +0.15% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,368.04 จุด เพิ่มขึ้น 8.71 จุด หรือ +0.20% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,962.87 จุด เพิ่มขึ้น 3.39 จุด หรือ +0.17%
ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1.4% และดัชนี NASDAQ ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1.3%
ทั้งนี้ เนื่องจากทางการสหรัฐไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันศุกร์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กจึงยังคงรับปัจจัยบวกจากการตัดสินใจของคณะกรรมการเฟดที่ระบุว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้ศูนย์ต่อไปอีก แม้ว่าโครงการซื้อพันธบัตรสิ้นสุดลงตามกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาก ตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวที่เฟดกำหนดไว้ที่ 2% ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเฟดช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกติดต่อกัน 6 วันทำการ โดยดัชนี S&P 500 และดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับ สูงสุด เป็นประวัติการณ์
ในการประชุมครั้งล่าสุดนี้ เฟดยังได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยกล่าวว่า "การขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันมีสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาด แรงงานยังคงฟื้นตัวขึ้น และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวขึ้นปานกลาง" นอกจากนี้ คณะกรรมการเฟดยังมีมติปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าปรับลด QE ไปจนจบโครงการในปีนี้
หุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มเฮลธ์แคร์ และกลุ่มผู้ผลิตวัสดุ ปรับตัวสูงขึ้นและเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นด้วย
หุ้นเน็ทฟลิกซ์ หุ้นเทลซา มอเตอร์ และหุ้นทริปแอดไวเซอร์ ต่างก็ปรับตัว ขึ้นอย่างน้อย 1.5% เพราะได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนยังคง มีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทเหล่านี้
หุ้นออราเคิล คอร์ปอเรชัน พุ่งขึ้น 3.98% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ต่อหุ้นในไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 80 เซนต์ และรายได้รวม 1.13 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ื