สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันทำงานวันแรกของสัปดาห์ ครับ พี่ๆน้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put, all ทุกๆท่าน
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนี SET index พุ่งทะยานขึ้นมาอย่า’9jvgonjv’ โดยรับอนิสงค์จากความชัดเจน คำสั่ง คสช ว่าด้วยคลายล๊อค พรรคการเมือง สามารถประชุมพรรค และ สรรหาสมาชิกได้ ซึ่งทำให้มองเห็นวี่แววการเลือกตั้ง ชัดเจนขึ้น นอกจากนั้นแล้ว ปัจจัยต่างประเทศ เมื่อกลางสัปดาห์
มีกระแสข่าว สหรัฐ จะเจรจาการค้ากับ จีน รอบใหม่ แม้ว่ายังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ แต่ตลาดก็ไม่ได้ วิตกกังวลแต่ประการใด จนมาถึงวันศุกร์
ที่ผ่านมา เริ่มเห็นแรงเทขายทำกำไรออกมา กดดันให้ดัชนีย่อตัวลงมาปิดไปที่ระดับ 1756 จุด +4.01 จุด วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าดัชนีจะสามารถพุ่งทะยานได้อย่างหวือหวา หรือไม่
Fundamental
เอเชียเช้านี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับตลาดหุ้นสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นซึ่งได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) เป็นสมัยที่ 3
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดพุ่งขึ้น 195.00 จุด หรือ 0.82% แตะที่ 23,869.93 จุด
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อวันศุกร์ (21 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุน
คลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงหุ้นบริษัทโบอิ้งซึ่งมีการลงทุน
จำนวนมากในจีนนั้น ยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดร่วงลงกว่า 0.5% หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,743.50 จุด เพิ่มขึ้น 86.52 จุด หรือ +0.32%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,929.67 จุด ลดลง 1.08 จุด หรือ -0.04%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,986.96 จุด ลดลง 41.28 จุด หรือ -0.51%
ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 2.2% ขณะที่ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.8% ส่วนดัชนี Nasdaq ลดลง 0.3%
ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์วันที่ 2 เมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า
หลังจากทั้งสหรัฐและจีนต่างก็เรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราที่ไม่มากเท่ากับที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ในอัตรา 10% ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้
ขณะที่รัฐบาลจีนเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตรา 5-10% วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะมีผลในวันที่ 24 ก.ย.เช่นกัน อย่างไรก็ตาม
อัตราภาษีของทั้งสหรัฐและจีนอยู่ในระดับต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมยังคงได้รับแรงหนุนจากการที่ตลาดคลายความกังวลข้อพิพาทการค้า โดยหุ้นโบอิ้งและแคทเธอร์พิลลาร์ซึ่งเป็นตัวชี้วัดการค้า
ของสหรัฐ เนื่องจากมีการลงทุนจำนวนมากในต่างประเทศนั้น พุ่งขึ้น 1.3% และ 0.9% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นอีตัน คอร์ป เพิ่มขึ้น 0.2% ส่วนหุ้น
ยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ เพิ่มขึ้น 0.2% และหุ้น 3M ปรับตัวขึ้น 0.5%
อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดร่วงลง หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 1.8% หุ้นแอปเปิล ลดลง 1.08%
หุ้นอเมซอน ร่วงลง 1.5% และหุ้นอัลฟาเบท ปรับตัวลง 1.6% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ลดลง 1.1% หุ้นไมโครอน เทคโนโลยีส์ ดิ่งลง 2.9% หุ้นอินเทล
ปรับตัวลง 1.4% หุ้นทวิตเตอร์ ดิ่งลง 4.5% หุ้นสแนป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสแนปแชท ลดลง 0.7%
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มการเงิน นอกจากนี้
ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนขานรับดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนี Stoxx Europe ปิดบวก 0.4% แตะที่ระดับ 384.29 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,490.23 จุด เพิ่มขึ้น 122.91 จุด หรือ +1.67%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,494.17 จุด เพิ่มขึ้น 42.58 จุด หรือ +0.78%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,430.88 จุด เพิ่มขึ้น 104.40 จุด หรือ +0.85%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยบวกจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อันเนื่องมาจากการที่นักลงทุน
มองว่า ผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจจะไม่มากเท่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากสหรัฐและจีนต่างก็เรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา
ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเอชเอสบีซี พุ่งขึ้น 2.2% ขณะที่หุ้นอัลลิอันซ์ ดีดตัวขึ้น 1.4%
ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นบีพี พุ่งขึ้น 2.1% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ เพิ่มขึ้น 2.2%
หุ้นจัสอีท ซึ่งเป็นผู้ให้บริการจัดส่งอาหารทางออนไลน์ ร่วงลง 4.8% หลังจากมีรายงาน อูเบอร์ เทคโนโลยีส์ ผู้ให้บริการเรียกรถโดยสารผ่านทางแอปพลิเคชัน กำลังเจรจาเพื่อซื้อกิจการบริษัทเดลิเวอรู ซึ่งเป็นผู้ให้บริการจัดส่งอาหาร
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุด ไอเอชเอส มาร์กิต ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของ
ยูโรโซน อยู่ที่ระดับ 54.2 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 54.5 ในเดือนส.ค.
ส่วนดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของเยอรมนี ปรับตัวลดลงแตะ 55.3 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ
55.6 ในเดือนส.ค. นอกจากนี้ มาร์กิตยังระบุว่า ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของฝรั่งเศส ปรับตัวลดลงแตะ 53.6 ในเดือนก.ย.
ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือน จากระดับ 54.9 ในเดือนส.ค.
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF Day: ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีพุ่งทะยานขึ้นมาได้อย่างร้อนแรง จนสามารถกลับมาทดสอบระดับ 1760 จุด ได้อีกครั้ง
แต่อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว ดัชนีไม่สามารถปิดตัวยืนเหนือได้ และเกิดรูปแบบแท่งเทียน Tri Star ซึ่งแนวโน้ววันนี้คาดว่า หากดัชนีไม่สามารถ
ยืนเหนือ 1760 ได้ ก็อาจจะมีพักฐาน // แต่ถ้าหากผ่านทะลุขึ้นได้ ก็มีแววที่จะได้เห็น 1800 อีกครั้ง ก็เป็นได้
S50U18 TF Day : ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีพุ่งทะยานขึ้นมาได้อย่างร้อนแรง จนสามารถทะลุกรอบ Sideways ได้สำเร็จ พร้อมกับแท่งเทียน Opening Marubozu แต่อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว ดัชนีไม่สามารถปิดตัวยืนเหนือได้ และเกิดรูปแบบแท่งเทียน Tri Star ซึ่งแนวโน้ววันนี้คาดว่า
หากดัชนีไม่สามารถยืนเหนือ 1170 ได้ ก็อาจจะมีพักฐาน // แต่ถ้าหากผ่านทะลุขึ้นได้ ก็มีแววที่จะได้เห็น 1200 อีกครั้ง ก็เป็นได้
S50U18 TF60 Min : มุมมองกว้างๆ การเคลื่อนไหวของดัชนี อยู่ในรูปแบบ Sideways up จากที่เคยร่วงลงไปแตะระดับ 1090 จุด ก็ฟื้นตัวดีด
ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง รุนแรง และกลับมาทดสอบระดับ 1170 จุด ดูเหมือนว่าดัชนีอ่อนกำลัง พร้อมกับมีสัญญาณ Bearish Divergence ตัวเล็กๆเกิดขึ้น
ซึ่งถ้าหากวันนี้ ดัชนีไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1170 จุดขึ้นไปได้ ก็อาจจะมีพักฐานลงมา // แต่ถ้าหากผ่านแนวต้าน 1170 จุด ขึ้นไปได้ ก็มีแวว
ที่จะได้เห็น 1200 อีกครั้ง ก็เป็นได้
Resistance : 1162 1166 1170 1175 / 1760 1766 1770 1777
Support : 1155 1150 1144 1140 / 1750 1744 1740 1735
*EOD End of Day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ
กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call (24 Sep 18)
สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันทำงานวันแรกของสัปดาห์ ครับ พี่ๆน้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put, all ทุกๆท่าน
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนี SET index พุ่งทะยานขึ้นมาอย่า’9jvgonjv’ โดยรับอนิสงค์จากความชัดเจน คำสั่ง คสช ว่าด้วยคลายล๊อค พรรคการเมือง สามารถประชุมพรรค และ สรรหาสมาชิกได้ ซึ่งทำให้มองเห็นวี่แววการเลือกตั้ง ชัดเจนขึ้น นอกจากนั้นแล้ว ปัจจัยต่างประเทศ เมื่อกลางสัปดาห์
มีกระแสข่าว สหรัฐ จะเจรจาการค้ากับ จีน รอบใหม่ แม้ว่ายังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ แต่ตลาดก็ไม่ได้ วิตกกังวลแต่ประการใด จนมาถึงวันศุกร์
ที่ผ่านมา เริ่มเห็นแรงเทขายทำกำไรออกมา กดดันให้ดัชนีย่อตัวลงมาปิดไปที่ระดับ 1756 จุด +4.01 จุด วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าดัชนีจะสามารถพุ่งทะยานได้อย่างหวือหวา หรือไม่
Fundamental
เอเชียเช้านี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับตลาดหุ้นสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นซึ่งได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) เป็นสมัยที่ 3
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดพุ่งขึ้น 195.00 จุด หรือ 0.82% แตะที่ 23,869.93 จุด
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อวันศุกร์ (21 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุน
คลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงหุ้นบริษัทโบอิ้งซึ่งมีการลงทุน
จำนวนมากในจีนนั้น ยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดร่วงลงกว่า 0.5% หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,743.50 จุด เพิ่มขึ้น 86.52 จุด หรือ +0.32%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,929.67 จุด ลดลง 1.08 จุด หรือ -0.04%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,986.96 จุด ลดลง 41.28 จุด หรือ -0.51%
ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 2.2% ขณะที่ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.8% ส่วนดัชนี Nasdaq ลดลง 0.3%
ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์วันที่ 2 เมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า
หลังจากทั้งสหรัฐและจีนต่างก็เรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราที่ไม่มากเท่ากับที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ในอัตรา 10% ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้
ขณะที่รัฐบาลจีนเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตรา 5-10% วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะมีผลในวันที่ 24 ก.ย.เช่นกัน อย่างไรก็ตาม
อัตราภาษีของทั้งสหรัฐและจีนอยู่ในระดับต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมยังคงได้รับแรงหนุนจากการที่ตลาดคลายความกังวลข้อพิพาทการค้า โดยหุ้นโบอิ้งและแคทเธอร์พิลลาร์ซึ่งเป็นตัวชี้วัดการค้า
ของสหรัฐ เนื่องจากมีการลงทุนจำนวนมากในต่างประเทศนั้น พุ่งขึ้น 1.3% และ 0.9% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นอีตัน คอร์ป เพิ่มขึ้น 0.2% ส่วนหุ้น
ยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ เพิ่มขึ้น 0.2% และหุ้น 3M ปรับตัวขึ้น 0.5%
อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดร่วงลง หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 1.8% หุ้นแอปเปิล ลดลง 1.08%
หุ้นอเมซอน ร่วงลง 1.5% และหุ้นอัลฟาเบท ปรับตัวลง 1.6% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ลดลง 1.1% หุ้นไมโครอน เทคโนโลยีส์ ดิ่งลง 2.9% หุ้นอินเทล
ปรับตัวลง 1.4% หุ้นทวิตเตอร์ ดิ่งลง 4.5% หุ้นสแนป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสแนปแชท ลดลง 0.7%
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มการเงิน นอกจากนี้
ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนขานรับดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนี Stoxx Europe ปิดบวก 0.4% แตะที่ระดับ 384.29 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,490.23 จุด เพิ่มขึ้น 122.91 จุด หรือ +1.67%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,494.17 จุด เพิ่มขึ้น 42.58 จุด หรือ +0.78%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,430.88 จุด เพิ่มขึ้น 104.40 จุด หรือ +0.85%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยบวกจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อันเนื่องมาจากการที่นักลงทุน
มองว่า ผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจจะไม่มากเท่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากสหรัฐและจีนต่างก็เรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา
ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเอชเอสบีซี พุ่งขึ้น 2.2% ขณะที่หุ้นอัลลิอันซ์ ดีดตัวขึ้น 1.4%
ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นบีพี พุ่งขึ้น 2.1% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ เพิ่มขึ้น 2.2%
หุ้นจัสอีท ซึ่งเป็นผู้ให้บริการจัดส่งอาหารทางออนไลน์ ร่วงลง 4.8% หลังจากมีรายงาน อูเบอร์ เทคโนโลยีส์ ผู้ให้บริการเรียกรถโดยสารผ่านทางแอปพลิเคชัน กำลังเจรจาเพื่อซื้อกิจการบริษัทเดลิเวอรู ซึ่งเป็นผู้ให้บริการจัดส่งอาหาร
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุด ไอเอชเอส มาร์กิต ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของ
ยูโรโซน อยู่ที่ระดับ 54.2 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 54.5 ในเดือนส.ค.
ส่วนดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของเยอรมนี ปรับตัวลดลงแตะ 55.3 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ
55.6 ในเดือนส.ค. นอกจากนี้ มาร์กิตยังระบุว่า ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของฝรั่งเศส ปรับตัวลดลงแตะ 53.6 ในเดือนก.ย.
ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือน จากระดับ 54.9 ในเดือนส.ค.
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF Day: ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีพุ่งทะยานขึ้นมาได้อย่างร้อนแรง จนสามารถกลับมาทดสอบระดับ 1760 จุด ได้อีกครั้ง
แต่อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว ดัชนีไม่สามารถปิดตัวยืนเหนือได้ และเกิดรูปแบบแท่งเทียน Tri Star ซึ่งแนวโน้ววันนี้คาดว่า หากดัชนีไม่สามารถ
ยืนเหนือ 1760 ได้ ก็อาจจะมีพักฐาน // แต่ถ้าหากผ่านทะลุขึ้นได้ ก็มีแววที่จะได้เห็น 1800 อีกครั้ง ก็เป็นได้
S50U18 TF Day : ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีพุ่งทะยานขึ้นมาได้อย่างร้อนแรง จนสามารถทะลุกรอบ Sideways ได้สำเร็จ พร้อมกับแท่งเทียน Opening Marubozu แต่อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว ดัชนีไม่สามารถปิดตัวยืนเหนือได้ และเกิดรูปแบบแท่งเทียน Tri Star ซึ่งแนวโน้ววันนี้คาดว่า
หากดัชนีไม่สามารถยืนเหนือ 1170 ได้ ก็อาจจะมีพักฐาน // แต่ถ้าหากผ่านทะลุขึ้นได้ ก็มีแววที่จะได้เห็น 1200 อีกครั้ง ก็เป็นได้
S50U18 TF60 Min : มุมมองกว้างๆ การเคลื่อนไหวของดัชนี อยู่ในรูปแบบ Sideways up จากที่เคยร่วงลงไปแตะระดับ 1090 จุด ก็ฟื้นตัวดีด
ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง รุนแรง และกลับมาทดสอบระดับ 1170 จุด ดูเหมือนว่าดัชนีอ่อนกำลัง พร้อมกับมีสัญญาณ Bearish Divergence ตัวเล็กๆเกิดขึ้น
ซึ่งถ้าหากวันนี้ ดัชนีไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1170 จุดขึ้นไปได้ ก็อาจจะมีพักฐานลงมา // แต่ถ้าหากผ่านแนวต้าน 1170 จุด ขึ้นไปได้ ก็มีแวว
ที่จะได้เห็น 1200 อีกครั้ง ก็เป็นได้
Resistance : 1162 1166 1170 1175 / 1760 1766 1770 1777
Support : 1155 1150 1144 1140 / 1750 1744 1740 1735
*EOD End of Day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ