เรื่องเล่าจากสาวเอ๋อ :: Snoopy Boy ในที่สุดเราก็ได้เจอกัน (ฉบับเป็นเรื่องเป็นราว) ภาค2

กลับมาซะดึกเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ

กลับมาต่อกันด้วยเรื่องคอนเสิร์ตละกันเน้อ ยิ้ม

สำหรับคนที่ยังไมไ่ด้อ่านภาค1 นะคะ
http://ppantip.com/topic/32190274

เรื่องของเรื่อง จขกท อยู่โรงแรมเดียวกับแฟนของพี่สาวสนุปปี้ค่ะ ดังนั้น คืนนั้นหลังจากกลับจากออนเซนมาเรียบร้อยแล้ว เราก็นัดแนะกันเรียบร้อยว่าจะเจอกันราวๆเที่ยง เพื่อไปที่โรงละครแต่หัววัน ทั้งๆที่คอนเสิร์ตเริ่มช่วงห้าโมงครึ่ง เพราะว่าคุณแฟนพี่สาว (ต่อไป จขกท จะเรียกฮีว่าทอมมี่นะคะ) เพราะว่าทอมมี่ต้องไปถ่ายรูปตอนซ้อมใหญ่ก่อนแสดงจริง เนื่องจากในเวลาแสดงจริง นอกจากตากล้องที่จ้างมา ห้ามคนอื่นถ่ายรูปเด็ดขาดค่ะ (แม้กระทั่งญาติ หรือว่าที่ลูกเขยของเจ้าของสตูดิโอน่ะนะ)

เนื่องจากกลัวไม่สด จขกท ก็เลยเลือกที่จะปลีกตัวมานั่งอยู่แบคสเตจแทน นั่งดูเด็กๆ(รวมทั้งป้าๆ)วิ่งไปวิ่งมารันคิวการแสดง รวมทั้งเปลี่ยนชุดกัน จขกท ได้มุมที่มีโต๊ะเก้าอีกพร้อม อยู่ตรงข้างบันไดขึ้นตึก ตรงกับประตูทางเข้าเวทีพอดี ก็เลยนั่งปักหลักวาดรูป ขีดๆเขียนๆเล่นอย่างหนุกหนาน จนกระทั่งมีเด็กน้อยที่เจอกันตั้งแต่วันแรก เดินมาด้อมๆมองๆ ก้มหัวทักทายด้วยมารยาทอันแสนน่ารักของเด็กญี่ปุ่น และแอบปีนขึ้นไปที่บันไดเพื่อมองลงมาดูว่า จขกท วาดอะไร พอเห็นแบบนั้น จขกท ก็เลยชวนมานั่งด้วยกันซะเลย ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เพราะหนึ่งในกลุ่มเจ้าตัวเล็กๆนี้ มีอยู่คนนึงที่เดินผ่าน จขกท บ่อยๆ และทุกครั้งที่เดินผ่าน หนูน้อยก็จะหันมายิ้มกว้างให้ทุกครั้ง หน้าตาก็น่ารักน่าหยิกได้เรื่อง  ตีซี้ไว้ก็ไม่เสียหายเนอะ อิอิอิ

หลังจากนั่งวาดสักพัก ก็ถึงเวลาที่นักแสดงซ้อมเสร็จ ต้องพักเพื่อเตรียมตัวสำหรับการแสดงที่กำลังจะมาถึงในอีกชั่วโมงกว่าๆ เด็กน้อยทั้งหลายก็โดนพ่อแม่พาไปกินข้าว เหลือ จขกท ที่ยังนั่งวาดรุปอยู่ตรงนั้น จนกระทั่งมีคนขายาวๆมายืนอยู่ตรงหน้า เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นสนุปปี้ตอนแก่ เอ้ย ไม่ใช่ เห็นคุณพ่อของหนุ่มสนุปปี้มายืนอยูตรงหน้า แล้วบอก โอ้วววว สุโค่ยยยยยยย บิวตี้ฟูลลลลล (ชมรูปวาดก้ะ T^T) ก่อจะบอกว่า อีกชั่วโมงกว่าๆจะเริ่มแสดง ออกไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า (คือทั้งหมดที่พูดมานี่เดาเอาค่ะ เพราะคุณพ่อเล่นมาเป้นภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ แต่ดูจากหน้าตาท่าทาง และท่าตอนกวักมือเรียกให้เดินตามไปก็เดาได้อยู่ ยิ่งตอนที่เดินเข้าไปในคาเฟ่หน้าโรงละครนี่ยิ่งใช่ใหญ่เลย

ลืมบอกว่า ตอนออกมาจากโรงแรม ทอมมี่แวะซื้อดอกไม้ช่อใหญ่เบิ้มให้ท่านพี่ ซึ่ง จขกท ยืนดูกระเป๋าตังค์แฟบๆแล้วได้แต่ถอนใจ ขอโทษเน้อบักสนูปปี้ ไว้งวดหน้าเก๊าจะหาซื้อของขวัญมาให้เยอะๆน๊าาาาาาาา

ออกมาที่คาเฟ่ จขกท ผู้ไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่ตื่นนอนก็ท้องร้องโครกคราก แต่ก็ยังแอ๊บ อุ๊ยไม่เป็นไรค่ะ หนูไม่หิว สั่งแค่ชาเย็นมาจิบสวยๆ ทั้งๆที่ใจนี่นึกไปถึงบุฟเฟ่ต์หมูกระทะไปเรียบร้อยแล้ว แต่จะสั่งก็เกรงใจกระเป๋าตัวเองเหลือเกิน และถึงท่านพ่อจะเลี้ยง ก็เกรงใจท่านพ่ออีกเช่นกัน เอาน่ะ ทนหิวอีกหน่อย แล้วไปจัดมันในปาร์ตี้เลยละกัน กินให้คุ้ม กินให้คุ้มมมมมม

สักพัก ทอมมี่ก็ตามมาสมทบ คือจริงๆฮีก็คงกะจะมาหาอะไรกินเอง แต่พอดีเจอกัน ท่านพ่อก็เลยชวนมานั่งด้วยกันซะเลย ก็เลยกลายเป็นมีท่านพ่อ แฟนลุกสาว และแฟนลูกชาย นั่งร่วมโต๊ะกัน ครื้นนนนนนนเครงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง แต่นับว่าสวรรค์โปรดมากค่ะ เพราะท่านพ่อชวนเราคุยค่อนข้างจะเป็นภาษาญี่ปุ่นซะเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ดังนั้น เมื่อได้ตาทอมมี่ ซึ่งเป้นหนุ่มญี่ปุ่นที่เรียนอยู่อเมกา (และรู้สึกว่าจะมีบ้านอยู่ฮาวาย)เข้ามาคุยด้วย ทำให้เรามีล่ามชั้นเยี่ยมในทันที ทำให้การสื่อสารเป้นไปได้ง่ายขึ้นมากๆค่ะ

หลังจากคุยไปได้สองสามคำ ทอมมี่ก็เลยสั่งข้าวแกงกะหรี่มาจัดการ พร้อมถาม จขกท ว่า ไม่กินอะไรเรอะ เธอไม่ได้กินอะไรมาแต่เช้าแล้วนี่นา จขกท ก็ได้แต่บอกว่า ไม่เป็นไรค่าาา เก๊ายังไม่หิว (อุ๊ย กดท้องไว้ก่อน อย่าโครกครากออกมาตอนนี้เชียวนะแก!!)

ว่าแล้วก็นั่งคุยไป ดูเค้ากินไป สุดแสนจะมีความสุขเสียนี่กระไร ฮืออออออออออออออ

จนกระทั่งคอนเสิร์ตเริ่ม จขกท ได้ที่นั่งดีทีเดียวค่ะ แทบจะกลางโรงละครเลย (ก็สมควรล่ะนะเธอ แหม่ มากับสามีเจ้าของโรงเรียน ="=) เปิดตัวมาด้วยหนุ่มสนุปปี้แสดงเดี่ยวเลยทีเดียวเชียว แอร๊ยยยยย แฟนใครอะ ปลื้มจริง อะอ้าว...อย่าเซสิเพ่!!!!

ถ้าจะว่ากันตามตรง ในโปรดัคชั่นนี้มีผู้ชายอยู่สี่คนเท่านั้น หนึ่งในนั้นเป็นเบ่บี๋น่าจะอายุไม่เกินสี่ห้าขวบ อีกนเป็นเกสต์ซึ่งแสดงแค่เรื่องสุดท้าย (เป็นพระเอกฮ่ะ) ดังนั้น อีกสองคนที่เกลือคือหนุ่มนุปปี้และนักเรียนอีกคน เป้นเด็กหนุ่มๆหน้าตาน่ารักมากกกก (ย้ำว่ามากกกกกก) สูงร้อยเจ็ดสิบกว่า อายุเพิ่งจะสิบสี่เท่านั้นเอง เป็นผู้รับศึกหนักไปโดยปริยาย และถ้าคิดแบบไม่เข้าข้างใครทั้งนั้น สนุปปี้ของ จขกท ก็เป็นรองหนุ่มน้อยนั่นอยู่พอสมควรค่ะ คงเป็นเพราะว่า หนุ่มนุปปี้เริ่มเรียนบัลเล่ต์ตอนอายุ19เข้าไปแล้ว ในขณะที่หนุ่มน้อยนั่นน่าจะเรียนมาตั้งแต่เริ่มเดินได้นั่นเลยทีเดียว ดังนั้นก็แน่นอนว่าสกิลมันย่อมห่างกันอยู่พอสมควร แต่ไม่ว่าอะไรค่ะ ขึ้นเวทีแล้วเธอดูดี ฉันก็พอใจแล้ววว ฮิ้วววววววววววววววววว

เพลินไปเพลินมา คอนเสิร์ตนี่แบ่งเป็นสามพาร์ทค่ะ เริ่มจากพาร์ทแรกเป็นการแสดงเดี่ยว คู่ แยกกันไปคนละเพลง ไม่มีอะไรเชื่อมกัน แต่พาร์ทที่สอง เป็นเมดเลย์จาก The Little Mermaid ค่ะ และพาร์ทสุดท้ายเป้นเรื่องซินเดอเรลล่า ซึ่งคนเป้นนางเอกก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่สาวตานุปปี้นี่เอง ซึ่งเค้าก็อืม...เก่งจริงๆนั่นแหละ สมแล้วที่ไปแสดงกับคอมปะนีที่บอสตันมาแทบจะทุกปี

ส่วนนุปปี้ของแพนจัง...เล่นเป็นสมุนเจ้าชายค่ะ กร๊ากกกกกกกกกกกกก

จบคอนเสิร์ต ก็มาถึงอาฟเตอร์ปาร์ตี้กันล่ะ...ตอนนั้น จขกท นี่หิวจนหน้ามืด แทบจะกินช้างได้ทั้งตัวแหล่ววววววว

อ้อ จริงๆก็มารอหน้าทางเข้าฮอลล์เพื่อจะถ่ายรูปกับหนุ่มนุปปี้เหมือนนักแสดงคนอื่นนะคะ แต่รอแล้วรอเล่าฮีก็ไม่มา จนท่านแม่ลากไแนะนำตัวกะคนนั้นคนนี้พร้อมว่าที่ลูกเขยเค้า ฮีก็ยังไม่มา จนเราอดรนทนไม่ได้ เดินลุยเข้าไปหลังเวที เพื่อที่จะพบว่าฮีเปลี่ยนชุด ล้างเมคอัพ และกำลังเก็บของอยุ่เงียบๆไปตามเรื่องตามราว จขกท ก็เลยนั่งรอไป ช่วงเค้าเก็บของไป จนท่านแม่กะท่านพี่กลับมาเปลี่ยนชุด นังแพนก็สวมบทกุลีช่วยแบกของ ช่วยเก็บเสื้อผ้าชุดแสดงอย่างรวดเร็ว รีบไปกันเถอะค่ะแม่ขาาาาาาา หนูหิวจะตายแล้ววววววววววววววว!!! (คือจริงๆแล้วหล่อนไม่ได้เป็นคนดีสินะ หึๆๆ)

ปาร์ตี้ถูกจัดขึ้นไม่ไกลจากโรงแรมที่ จขกท พักอยู่เท่าไหร่ คือมันอยู่ที่สถานีเดียวกัน แต่แค่คนละฟากก็เท่านั้น ใช้เวลาเดินประมาณสิบห้านาทีจากที่ร้านค่ะ

ตอนที่มาถึง มีเด็กๆวัยรุ่นที่เป็นนักเรียนบัลเล่ต์มารอกันอยู่ล้วงหน้าสิบกว่าคนแล้ว เมื่อมาถึง จขกท ก็เข้าไปนั่งรวมกับเด็กๆข้างใ นปล่อยสนุปปี้อยู่กับแม่และผู้กำำับ แนะบรรดานักแสดงนำของเค้าอยู่อีกด้านนึง ซึ่งเมื่อเรานั่งหัวเดียวกระเทียมลีบ เราก็ต้องปฏิบัติการเมคเฟรนด์ทันที และโชคดี๊ โชคดี ที่เกือบทุกคนพูดภาษาอังกฤษได้ดีทีเดียวเชียวค่ะ เราก็เลยนั่งเม้าท์กันอย่างหนุกหนาน และแน่นอน คำถามยอดฮิตก็คือ เธอเจอกับนุปปี้ได้ยังไง เธอชอบเค้าตรงไหน และใครบอกรักใครก่อน ="=

สำหรับคนที่ยังไม่รู้ที่มาที่ไป สามารถย้อนอ่านได้จากกระทู้เก่าๆของเรานะคะ (พื้นที่โฆษณา)

ยิ่งดึก ยิ่งรั่ว สักพัก ก็ได้ฤกษ์แนะนำตัวกันอย่างเป็นทางการ ท่านแม่พาแพนจังและทอมมี่ออกมาแนะนำตัว จนเมื่อมาถึง จขกท ท่านแม่บอกว่าชีเป้นนักร้อง เอางี้ ร้องอะไรให้ฟังหน่อยสิ

ได้ผลค่ะ เงียบกริบทั้งร้าน...ทุกคนแบบ แพนจัง  ร้องเลย ร้องเลย!!

หันไปมองหน้าท่านแม่ จะให้ร้องอะไรล่ะก๊ะ ท่านแม่ยิ้มๆบอก Little Mermaid โอยยย เท่านั้นล่ะ แทบจะหราบขอบคุณงามๆ เพราะมันเป็นเพลงเสต็ปหากินของ จขกท มาแต่ไหนแต่ไร ร้องจบไปท่อนแรก ทุกคนปรบมือกันเกรียวกราว บอกว่า เฮ้ยยยย แพนจัง มันใช่อ้ะ!!! ผกก เดินออกมา บอก เอาอีกๆ ต่อให้จจบเพลงเลย แน่นอน ว่าทั้งร้านก็เงียบอีก แล้ว จขกท ก็ต้องจัดจนจบเพลงจนได้

แน่นอนว่า จบเพลงก็ย่อมมีรีเควสต์ต่อ มีสาวน้อยเดินกระมิดกระเมี้ยนเข้ามาถาม บอกว่า แพนจังงงงง ร้อง Let It Go ได้ไหมก๊ะ?

เอ่อ...ไอ้ได้มันก็ได้อยู่อะนะ แต่แบบว่า เก๊าเบื่อเพลงนี้จะตายอยู่แล้วววววววว TT^TT เชื่อว่าการ์ตูนเรื่องนี้คงดังเปรี้ยงปร้างที่ญี่ปุ่น เพราะเข้าช้ากว่าเค้าเพื่อน และได้ข่าวว่าจนตอนนี้ เด็กทุกคนก็ร้องเพลงนี้กันได้ทั้งนั้น

เอ้า ขอมาก็จัดไป...ครึ่งเพลงก็พอนะค้าาาาาาา

หลังจากร้องจบ ท่านแม่ก็ประกาศออกมาว่า คราวหน้าเรามาทำคอนเสิร์ตร้องกับบัลเล่ต์กันดีกว่า แพนจังร้องสด เต้นประกอบกันไปเล้ยยยยยยยยยยยยยยยยย

ทุกคนร้องเย้!!!!!!  เย้ก็เย้ ว่าแต่ออกค่าตั๋วให้หนูนะคะ 555555

ปาร์ตี้ผ่านไปด้วยดี ทุกคนยิงคำถามกันมาเป็นช่วงๆว่าแพนจังชอบนุปปี้บอยตรงไหน แพนจังจุ๊บกันรึยัง (ต๊ายยย ถามไรเนี่ย!!) รู้สึกเหมือนเป็นดาราโดนรุมสัมภาษณ์ไปหนึ่งวันเลยทีเดียว วะฮะฮ่า

โอ้ย เพิ่งเห็นนาฬิกา พรุ่งนี้ จขกท ต้องออกไปทำงานแต่เช้าค่ะ ยังไงขอจบภาค2ไว้แต่เพียงเท่านี้นะคะ แล้วจะมาเล่าต่อว่าหลังจากนั้นเราไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง อย่าเพิ่งทิ้งเค้าไปน๊าาาาาาาาาาาา


นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์นะค้า ^^


เต้นออกฉากไปเนียนๆ อิอิอิ

เม่าบัลเล่ต์เม่าบัลเล่ต์เม่าบัลเล่ต์เม่าบัลเล่ต์เม่าบัลเล่ต์
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่