( 4.
สุด ๆ )
วันรุ่งขึ้นก็ถึงคิวของแบมกับออฟ ผมนัดแบมตอนเที่ยง นัดออฟตอนเย็น พอสาย ๆ ผมจัดแจงออกเดินทางไปที่นัดหมายกับแบมทันที
ผมไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวที่ห้างโลตัสรอแบม พอถึงเวลานัดก็โทรบอกเธอว่ามาถึงแล้ว เธอให้รอเพราะกำลังมาถึง ผมนั่งลุ้นอยู่ว่าตัวจริงจะสวยหรือเปล่า เทียบกับแจ๊สได้มั้ย เพราะรูปมันหลอกตามากขอบอก รับรองได้ ไอ้ที่ในรูปสวยนะ พวกหล่อนจะหน้าตางั้น ๆ ในรูปต้องสวยมาก พวกเธอถึงจะดูดีทีเดียวแต่ถ้าในรูปขี้เหร่นะ มันจะขี้เหร่มากกว่านั้นอีก
“พี่ทิป แบมมาถึงห้างโลตัสแล้ว พี่ทิปอยู่ไหนอ่ะ”
“ผมอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวตรงชั้นหนึ่งน่ะ เดินเข้ามามองทางซ้ายก็เห็นเลย”
“งั้นเดี๋ยวให้จอดรถเสร็จก่อนนะ” (โอ๊ะ มีรถด้วยวุ้ย สาวคนนี้ไม่เบา)
พอมาถึง แบมก็ทำท่าเขิน ๆ ผมไม่พูดพล่ามทำเพลงบอกให้เธอไปขึ้นรถผมเลย
“พี่จะไปไหน”
“คุณจะไปไหนผมก็ไปนั่นแหละ จะไปธุระที่เอ็มโพเรียม
ไม่ใช่เหรอ” เธอบอกผมก่อนหน้า ผมอาสาพาเธอไปอย่างสุภาพบุรุษ
เต็มตัว
“แล้วพี่ไม่ไปธุระของพี่เหรอ”
“ไม่มี วันนี้ผมไม่มีธุระอะไรทั้งนั้น วันนี้ให้เป็นวันของแบม
คนเดียว (อิอิ)”
แบมไปทำธุระอะไรของเธอก็ไม่รู้ บอกว่ามาอบรมอะไรสักอย่างแล้วจะมาเอาประกาศนียบัตร อ้อ อบรมไอ้พวกธุรกิจขายตรงน่ะ เธอยื่นโบรชัวร์ให้ผมดู (ยัยนี่จะขายของตรูแหง)
“ผมไม่ซื้อนะ”
“เอาให้ดู ไม่ได้ขาย ก็เพิ่งรับมาจากบริษัทเมื่อกี้ ให้พี่ดูเฉย ๆ”
อ้าว ใครจะไปรู้ล่ะ เล่นซะเราระแวงเลย ผมก็เจอบ่อยนะพวกที่แบบ แหมอยากหาชายหนุ่ม อยากเจอเพื่อน ๆ พอได้เจอกันแล้วมันบอกขายประกันเราเฉยเลย
เรากินข้าวกันตอนบ่าย ๆ ผมกะว่าสั่งอะไรที่มันกินน้อยที่สุด เพราะตอนเย็นต้องกินอีกแล้ว เมื่อวานก็ล่อทั้งบาร์บีคิวพลาซ่า ทั้งเซนเล่นเอาพุงปลิ้นไปแล้ววันนึง
แล้วก็มาถึงมุขเด็ด ชอบดูดวงมั้ย “เคยดู” ชอบดู ลายมือมั้ย “ชอบ” ผมดูให้เอามั้ย “เอา”
“แบมือมาดิ”
ผมจัดแจงหยิบมือของแบมไปบีบเบา ๆ ทันที อิอิ
ดูลายมือแล้วก็พูดอะไรไปตามเรื่อง พวกเธอไม่ได้สนใจจะฟังกันเท่าไหร่หรอก คิดว่าเราแกล้งทำเป็นจะดูลายมือเล่น ๆ ที่แท้ก็หลอกจับมือ แต่เกือบทุกคน มันก็ยอมให้จับ
“เนี่ย เดี๋ยวผมต้องรีบไปแล้วแหละ นัดแม่กินข้าวตอนเย็นน่ะ ผมอยู่คนละบ้านกับแม่ วันนี้คิดถึงแม่ก็นัดกันว่าจะไปเยี่ยมแล้วกินข้าวที่บ้าน นี่ใกล้เวลาละ ต้องไปส่งคุณก่อนแล้วขึ้นทางด่วนไปฝั่งธนหาแม่ที่บ้าน เดี๋ยวไปช้า แม่ต้องรอกินข้าวท้องกิ่ว”
ผม
สุด ๆ เพราะดูนาฬิกามันจะห้าโมงกว่าแล้วกว่าจะไปส่งแบมที่รถ กว่าจะไปหาออฟที่อโศก เดี๋ยวจะมืดค่ำเสียเวลานัด รู้จักกันแล้ว วันหน้าค่อยสานต่อไม่เห็นมีปัญหา
“โอ พี่ช่างเป็นลูกที่สุดแสนประเสริฐ พี่เป็นคนดีจังเลยแม่พี่คงจะภูมิใจที่มีลูกน่ารักอย่างนี้”
แบมชมผมด้วยแววตาอาโนเนะสุด ๆ ผมยิ้มให้เธอกับความ
สุดโคตรของตัวเอง
กว่าจะส่งเธอถึงรถได้ก็ล่อไปหกโมงเย็นแล้ว รถติดหายห่วง ตอนอยู่บนรถผมรีบปิดโทรศัพท์มือถือกลัวออฟโทรมาตามแล้วแผนจะแตกบรรลัยหมด ก็แหม
ไว้ว่าจะไปหาแม่เดี๋ยวก็จับได้หรอกว่าจะไปหาแม่คุณทูนหัว พอส่งแบมเสร็จสรรพก็รีบโทรไปหาออฟทันที
“รถติดมากเลย ไปช้าหน่อยนะ”
“เมื่อกี้ออฟโทรหาพี่ พี่ปิดเครื่องหนิ” (โห เป็นอย่างที่คาดไว้เลย)
“ไม่รู้ ก็เปิดเครื่องตลอด สัญญาณไม่ดีมั้ง” (ผม
กับเธอเรื่อยเปื่อย)
“เอางี้ เดี๋ยวใกล้ ๆ ถึงแล้วจะโทรหาอีกทีนะ”
“ได้ค่ะ”
รถมาติดตรงสี่แยกอโศกนี่แหละ ไม่เห็นมันจะไม่เคยติดเลย ผมจอดรอไฟแดงตรงนั้นตั้งสิบห้านาที พอรถวิ่งข้ามสี่แยกไปได้ ด้วยความดีใจผมรีบกดโทรศัพท์หาออฟด้วยมือเดียวมันเลยเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต
“ฮัลโหล ฮัลโหล นี่ข้ามแยกอโศกมาแล้วนะ”
“ค่ะ ว่าไงนะ ไม่เข้าใจ”
ผมใจหายวูบ ฉิบฯ ละทีนี้ นี่มันเสียงแบมนี่หว่า ผมเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ มันคือเบอร์แบม ไม่ใช่เบอร์ออฟ โอ้ย ยุ่งละทีนี้กดเบอร์ผิด เพราะผมใช้วิธีกดหาจากเบอร์ที่โทรออกไปแล้ว ไม่ทันมองแท้ ๆ เลยกลายเป็นเบอร์ของแบม นี่อุตส่าห์ทำแผนตลบกลบเกลื่อนซะดิบดี ดันมาตายเอาน้ำขุ่น ๆ ผมไม่รู้ทำไงเลยกดโทรศัพท์ทิ้งไปงั้นเอง ทำเป็นว่าสายมันพันกัน มีเสียงแทรก คิดว่าถ้าแบมโทรมาก็กะว่าไปตายเอาดาบหน้า หาเรื่องแก้ตัวไปเรื่อย แต่ปรากฏว่าเธอไม่ได้โทรกลับมาด้วยสาเหตุอะไร ผมก็คงไม่กล้าจะโทรกลับไปถามแบมหรอกนะ
“มาถึงตึกที่ออฟทำงานแล้วนะ ลงมาดิ”
“มาถึงแล้วเหรอ รอเดี๋ยวนะ”
ผมรีบควักโทรศัพท์ออกมาโทรหาออฟทันที ตอนนี้ต้อง
ละเอียดรอบคอบหน่อย ดูเบอร์ที่โทร กะชัวร์ว่าไม่ใช่เบอร์คนอื่น
แน่นอน
สักพักออฟเดินลงมามองหารถของผม ผมมองเธอผ่านกระจกหน้ารถ มีเวลาประมาณห้าถึงสิบวินาทีที่จะพินิจพิเคราะห์และตัดสินใจว่าจะกระพริบไฟบอกให้รู้ว่าผมอยู่นี่ หรือสตาร์ทรถ ขับหนีไปเลย
“โอ้โห โอ้โห โอ้โห” จำได้ว่าร้องยังงี้ตั้งสามหน เธอสวย
เธอขาวผุดผ่อง หน้าตาของเธอสดชื่นมีรอยยิ้มตลอดเวลา
เข้ามานั่งในรถได้ ออฟก็ยิ้มหวานให้ผม ผมมองเธออย่างชื่นชม (ชื่นชมตัวเองน่ะ ว่าวันนี้ได้เจอสาว ๆ สวย ๆ สมใจอยาก)
“อยากกินฟูจิ” ผมถามว่าเธออยากไปทำอะไรที่ไหน พอได้ยินผมแทบกระอัก (อาหารญี่ปุ่นอีกแล้ว เบื่อฉิบ)
“เอาสิ ไปที่ดิสคัฟเวอรี่แล้วกันนะ”
นั่งรถไปด้วยกันก็คุยกันไปสัพเพเหระ ดูเหมือนเธอสะดุดเพลงที่ผมเปิดในรถ
“พี่ฟังเพลงอะไรอ่ะ เพลงฝรั่งไม่เอา ออฟฟังไม่รู้เรื่อง เราคนไทยต้องฟังเพลงไทย”
เธอติเพลงที่ผมเปิดในรถ ผมเปลี่ยนซีดีใหม่อีกอันที่ตัวเองชอบฟัง
“เพลงอะไรก็ไม่รู้ไม่เห็นมีเสียงคนร้องเลย”
เธอติเสียงแซกโซโฟนของเคนนี่จี
“ไม่มีเลย พี่ไม่ค่อยฟังเพลงไทย”
“ก็เปิดวิทยุดิ” (เรื่องมากจังยัยนี่)
“ได้เลย ออฟอยากฟังเพลงอะไรจ๊ะ”
กว่าจะฝ่ารถติดไปถึงก็สองทุ่มกว่าแล้ว เหลืออีกห้านาทีครัวจะปิด เรานั่งรอกันนานมาก เพราะคนกินฟูจิกันเยอะเหลือเกิน มันใส่กัญชาผสมกับวาซาบิหรือยังไงวะ คนถึงได้ยอมมายืนรอต่อคิวกันเยอะแยะมากมายขนาดนี้
แต่วันนี้โชคดีจริง ๆ ไม่ต้องยืนรอต่อคิวนาน พอหาที่นั่งได้ ผมถือโอกาสเป็นหมอดูลายมืออีกหนึ่งกระเทือกทันทีก้อ...นะ รักษาสถิติ สาวแบให้ในเวลาไม่เกินห้านาที แต่พอคนเดินผ่านมาทีเธอก็รีบชักมือกลับที แหม รักนวลสงวนตัวด้วยนะน้องสาว
ตอนไปส่งออฟที่บ้านผมนึกในใจ อืม...ใช้ได้วันนี้ สนุกสนานตื่นเต้นมาก ไม่เสียเที่ยวเลย ดีกว่าที่ผ่าน ๆ มา วันก่อน ๆ มาก ทั้งสามสาวที่เจอ คุยกันถูกคอ หน้าตาดี หุ่นใช้ได้ บุคลิกลดหลั่นกันลงไปการศึกษาก็พอฟัดพอเหวี่ยงทุกคนผมไม่สนเรื่องความสวยอย่างเดียวหรอก ความสวยน่ะ หาเอาในซ่องก็ได้อาบอบนวดก็มีถมถืดไป
“พี่ฟังอะไรอ่ะ มีแต่เสียงกีต้าร์ ไม่เห็นน่าฟังเลย”
ออฟติเพลงกีต้าร์ลาตินที่ผมชอบฟังอีกแล้ว
“เอาสิ เปลี่ยนเป็นเพลงไทยที่ออฟชอบก็ได้” (แม๊..นังหูโลโซ ติเก่งจริงนะ)
รักใสๆ หัวใจใส่เน็ท ภาค 4
วันรุ่งขึ้นก็ถึงคิวของแบมกับออฟ ผมนัดแบมตอนเที่ยง นัดออฟตอนเย็น พอสาย ๆ ผมจัดแจงออกเดินทางไปที่นัดหมายกับแบมทันที
ผมไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวที่ห้างโลตัสรอแบม พอถึงเวลานัดก็โทรบอกเธอว่ามาถึงแล้ว เธอให้รอเพราะกำลังมาถึง ผมนั่งลุ้นอยู่ว่าตัวจริงจะสวยหรือเปล่า เทียบกับแจ๊สได้มั้ย เพราะรูปมันหลอกตามากขอบอก รับรองได้ ไอ้ที่ในรูปสวยนะ พวกหล่อนจะหน้าตางั้น ๆ ในรูปต้องสวยมาก พวกเธอถึงจะดูดีทีเดียวแต่ถ้าในรูปขี้เหร่นะ มันจะขี้เหร่มากกว่านั้นอีก
“พี่ทิป แบมมาถึงห้างโลตัสแล้ว พี่ทิปอยู่ไหนอ่ะ”
“ผมอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวตรงชั้นหนึ่งน่ะ เดินเข้ามามองทางซ้ายก็เห็นเลย”
“งั้นเดี๋ยวให้จอดรถเสร็จก่อนนะ” (โอ๊ะ มีรถด้วยวุ้ย สาวคนนี้ไม่เบา)
พอมาถึง แบมก็ทำท่าเขิน ๆ ผมไม่พูดพล่ามทำเพลงบอกให้เธอไปขึ้นรถผมเลย
“พี่จะไปไหน”
“คุณจะไปไหนผมก็ไปนั่นแหละ จะไปธุระที่เอ็มโพเรียม
ไม่ใช่เหรอ” เธอบอกผมก่อนหน้า ผมอาสาพาเธอไปอย่างสุภาพบุรุษ
เต็มตัว
“แล้วพี่ไม่ไปธุระของพี่เหรอ”
“ไม่มี วันนี้ผมไม่มีธุระอะไรทั้งนั้น วันนี้ให้เป็นวันของแบม
คนเดียว (อิอิ)”
แบมไปทำธุระอะไรของเธอก็ไม่รู้ บอกว่ามาอบรมอะไรสักอย่างแล้วจะมาเอาประกาศนียบัตร อ้อ อบรมไอ้พวกธุรกิจขายตรงน่ะ เธอยื่นโบรชัวร์ให้ผมดู (ยัยนี่จะขายของตรูแหง)
“ผมไม่ซื้อนะ”
“เอาให้ดู ไม่ได้ขาย ก็เพิ่งรับมาจากบริษัทเมื่อกี้ ให้พี่ดูเฉย ๆ”
อ้าว ใครจะไปรู้ล่ะ เล่นซะเราระแวงเลย ผมก็เจอบ่อยนะพวกที่แบบ แหมอยากหาชายหนุ่ม อยากเจอเพื่อน ๆ พอได้เจอกันแล้วมันบอกขายประกันเราเฉยเลย
เรากินข้าวกันตอนบ่าย ๆ ผมกะว่าสั่งอะไรที่มันกินน้อยที่สุด เพราะตอนเย็นต้องกินอีกแล้ว เมื่อวานก็ล่อทั้งบาร์บีคิวพลาซ่า ทั้งเซนเล่นเอาพุงปลิ้นไปแล้ววันนึง
แล้วก็มาถึงมุขเด็ด ชอบดูดวงมั้ย “เคยดู” ชอบดู ลายมือมั้ย “ชอบ” ผมดูให้เอามั้ย “เอา”
“แบมือมาดิ”
ผมจัดแจงหยิบมือของแบมไปบีบเบา ๆ ทันที อิอิ
ดูลายมือแล้วก็พูดอะไรไปตามเรื่อง พวกเธอไม่ได้สนใจจะฟังกันเท่าไหร่หรอก คิดว่าเราแกล้งทำเป็นจะดูลายมือเล่น ๆ ที่แท้ก็หลอกจับมือ แต่เกือบทุกคน มันก็ยอมให้จับ
“เนี่ย เดี๋ยวผมต้องรีบไปแล้วแหละ นัดแม่กินข้าวตอนเย็นน่ะ ผมอยู่คนละบ้านกับแม่ วันนี้คิดถึงแม่ก็นัดกันว่าจะไปเยี่ยมแล้วกินข้าวที่บ้าน นี่ใกล้เวลาละ ต้องไปส่งคุณก่อนแล้วขึ้นทางด่วนไปฝั่งธนหาแม่ที่บ้าน เดี๋ยวไปช้า แม่ต้องรอกินข้าวท้องกิ่ว”
ผมสุด ๆ เพราะดูนาฬิกามันจะห้าโมงกว่าแล้วกว่าจะไปส่งแบมที่รถ กว่าจะไปหาออฟที่อโศก เดี๋ยวจะมืดค่ำเสียเวลานัด รู้จักกันแล้ว วันหน้าค่อยสานต่อไม่เห็นมีปัญหา
“โอ พี่ช่างเป็นลูกที่สุดแสนประเสริฐ พี่เป็นคนดีจังเลยแม่พี่คงจะภูมิใจที่มีลูกน่ารักอย่างนี้”
แบมชมผมด้วยแววตาอาโนเนะสุด ๆ ผมยิ้มให้เธอกับความสุดโคตรของตัวเอง
กว่าจะส่งเธอถึงรถได้ก็ล่อไปหกโมงเย็นแล้ว รถติดหายห่วง ตอนอยู่บนรถผมรีบปิดโทรศัพท์มือถือกลัวออฟโทรมาตามแล้วแผนจะแตกบรรลัยหมด ก็แหม ไว้ว่าจะไปหาแม่เดี๋ยวก็จับได้หรอกว่าจะไปหาแม่คุณทูนหัว พอส่งแบมเสร็จสรรพก็รีบโทรไปหาออฟทันที
“รถติดมากเลย ไปช้าหน่อยนะ”
“เมื่อกี้ออฟโทรหาพี่ พี่ปิดเครื่องหนิ” (โห เป็นอย่างที่คาดไว้เลย)
“ไม่รู้ ก็เปิดเครื่องตลอด สัญญาณไม่ดีมั้ง” (ผมกับเธอเรื่อยเปื่อย)
“เอางี้ เดี๋ยวใกล้ ๆ ถึงแล้วจะโทรหาอีกทีนะ”
“ได้ค่ะ”
รถมาติดตรงสี่แยกอโศกนี่แหละ ไม่เห็นมันจะไม่เคยติดเลย ผมจอดรอไฟแดงตรงนั้นตั้งสิบห้านาที พอรถวิ่งข้ามสี่แยกไปได้ ด้วยความดีใจผมรีบกดโทรศัพท์หาออฟด้วยมือเดียวมันเลยเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต
“ฮัลโหล ฮัลโหล นี่ข้ามแยกอโศกมาแล้วนะ”
“ค่ะ ว่าไงนะ ไม่เข้าใจ”
ผมใจหายวูบ ฉิบฯ ละทีนี้ นี่มันเสียงแบมนี่หว่า ผมเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ มันคือเบอร์แบม ไม่ใช่เบอร์ออฟ โอ้ย ยุ่งละทีนี้กดเบอร์ผิด เพราะผมใช้วิธีกดหาจากเบอร์ที่โทรออกไปแล้ว ไม่ทันมองแท้ ๆ เลยกลายเป็นเบอร์ของแบม นี่อุตส่าห์ทำแผนตลบกลบเกลื่อนซะดิบดี ดันมาตายเอาน้ำขุ่น ๆ ผมไม่รู้ทำไงเลยกดโทรศัพท์ทิ้งไปงั้นเอง ทำเป็นว่าสายมันพันกัน มีเสียงแทรก คิดว่าถ้าแบมโทรมาก็กะว่าไปตายเอาดาบหน้า หาเรื่องแก้ตัวไปเรื่อย แต่ปรากฏว่าเธอไม่ได้โทรกลับมาด้วยสาเหตุอะไร ผมก็คงไม่กล้าจะโทรกลับไปถามแบมหรอกนะ
“มาถึงตึกที่ออฟทำงานแล้วนะ ลงมาดิ”
“มาถึงแล้วเหรอ รอเดี๋ยวนะ”
ผมรีบควักโทรศัพท์ออกมาโทรหาออฟทันที ตอนนี้ต้อง
ละเอียดรอบคอบหน่อย ดูเบอร์ที่โทร กะชัวร์ว่าไม่ใช่เบอร์คนอื่น
แน่นอน
สักพักออฟเดินลงมามองหารถของผม ผมมองเธอผ่านกระจกหน้ารถ มีเวลาประมาณห้าถึงสิบวินาทีที่จะพินิจพิเคราะห์และตัดสินใจว่าจะกระพริบไฟบอกให้รู้ว่าผมอยู่นี่ หรือสตาร์ทรถ ขับหนีไปเลย
“โอ้โห โอ้โห โอ้โห” จำได้ว่าร้องยังงี้ตั้งสามหน เธอสวย
เธอขาวผุดผ่อง หน้าตาของเธอสดชื่นมีรอยยิ้มตลอดเวลา
เข้ามานั่งในรถได้ ออฟก็ยิ้มหวานให้ผม ผมมองเธออย่างชื่นชม (ชื่นชมตัวเองน่ะ ว่าวันนี้ได้เจอสาว ๆ สวย ๆ สมใจอยาก)
“อยากกินฟูจิ” ผมถามว่าเธออยากไปทำอะไรที่ไหน พอได้ยินผมแทบกระอัก (อาหารญี่ปุ่นอีกแล้ว เบื่อฉิบ)
“เอาสิ ไปที่ดิสคัฟเวอรี่แล้วกันนะ”
นั่งรถไปด้วยกันก็คุยกันไปสัพเพเหระ ดูเหมือนเธอสะดุดเพลงที่ผมเปิดในรถ
“พี่ฟังเพลงอะไรอ่ะ เพลงฝรั่งไม่เอา ออฟฟังไม่รู้เรื่อง เราคนไทยต้องฟังเพลงไทย”
เธอติเพลงที่ผมเปิดในรถ ผมเปลี่ยนซีดีใหม่อีกอันที่ตัวเองชอบฟัง
“เพลงอะไรก็ไม่รู้ไม่เห็นมีเสียงคนร้องเลย”
เธอติเสียงแซกโซโฟนของเคนนี่จี
“ไม่มีเลย พี่ไม่ค่อยฟังเพลงไทย”
“ก็เปิดวิทยุดิ” (เรื่องมากจังยัยนี่)
“ได้เลย ออฟอยากฟังเพลงอะไรจ๊ะ”
กว่าจะฝ่ารถติดไปถึงก็สองทุ่มกว่าแล้ว เหลืออีกห้านาทีครัวจะปิด เรานั่งรอกันนานมาก เพราะคนกินฟูจิกันเยอะเหลือเกิน มันใส่กัญชาผสมกับวาซาบิหรือยังไงวะ คนถึงได้ยอมมายืนรอต่อคิวกันเยอะแยะมากมายขนาดนี้
แต่วันนี้โชคดีจริง ๆ ไม่ต้องยืนรอต่อคิวนาน พอหาที่นั่งได้ ผมถือโอกาสเป็นหมอดูลายมืออีกหนึ่งกระเทือกทันทีก้อ...นะ รักษาสถิติ สาวแบให้ในเวลาไม่เกินห้านาที แต่พอคนเดินผ่านมาทีเธอก็รีบชักมือกลับที แหม รักนวลสงวนตัวด้วยนะน้องสาว
ตอนไปส่งออฟที่บ้านผมนึกในใจ อืม...ใช้ได้วันนี้ สนุกสนานตื่นเต้นมาก ไม่เสียเที่ยวเลย ดีกว่าที่ผ่าน ๆ มา วันก่อน ๆ มาก ทั้งสามสาวที่เจอ คุยกันถูกคอ หน้าตาดี หุ่นใช้ได้ บุคลิกลดหลั่นกันลงไปการศึกษาก็พอฟัดพอเหวี่ยงทุกคนผมไม่สนเรื่องความสวยอย่างเดียวหรอก ความสวยน่ะ หาเอาในซ่องก็ได้อาบอบนวดก็มีถมถืดไป
“พี่ฟังอะไรอ่ะ มีแต่เสียงกีต้าร์ ไม่เห็นน่าฟังเลย”
ออฟติเพลงกีต้าร์ลาตินที่ผมชอบฟังอีกแล้ว
“เอาสิ เปลี่ยนเป็นเพลงไทยที่ออฟชอบก็ได้” (แม๊..นังหูโลโซ ติเก่งจริงนะ)