จากประสบการณ์ตรงเลยครับ (จริง ๆ ศูนย์นี้ขึ้นชื่อมากเรื่อง Sale บริการไม่ดี ข้อมูลไม่แน่น ขาด Smile Service)

วันนี้ผมเจอสิ่งที่แย่มากอีกสิ่งหนึ่งจากประสบการณ์ตรงเลยทีเดียว และทำให้ภาพพจน์ของ HONDA แย่มากมากครับ

          เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ในวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมาได้นำรถไปเช็คระยะ 40,000 โล ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เข้ามารับบริการที่ศูนย์แห่งนี้ (ครั้งแรกมาเช็คระยะ 30,000 โล ซึ่งเจอแต่ปัญหาเดิม ๆ ในการบริการของ Sale เรื่องเดิมที่ยังไม่มีการปรับปรุง) เหตุการณ์วันนี้ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไร พนักงานแจ้งว่าได้รับรถประมาณ 12.00-13.00 น. ผมก็นั่งรออยู่ที่นั่น โดยเดินไปดูโชว์รูมข้างบน แต่ไม่ได้สนใจอะไรเซล์เพราะเรารู้อยู๋แล้วว่าต้องเจออะไร ก็เลยขอเดินดูเองโดยไม่ต้องการ Sale ประมาณ 20 นาทีก็ลงมาที่ห้องรับรอง เดินไปในส่วนของบริการ Internet (ถ้าใครเคยไปศูนย์นี้จะทราบว่า เป็นส่วนที่ติดกระจก ส่วนด้านหน้าเลย เป็นจุดที่สามารถมองเห็นรถเข้า-ออก และรถที่จอดรอลูกค้ามารับ)

          สักพักก็เหลือบไปเห็นรถ CRV สีดำ ก็นึกในใจว่า รถเราเหรอ 20 นาทีเนี่ยนะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเร็วจัง เลยลุกขึ้นไปดูเพื่อความแน่ใจ ปรากฏว่าใช่รถผมจริง ๆ ครับ ... แต่ .... สิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจคือ หน้ารถฝากกระโปรงเปิดอยู่ และมีเหมือนสายพ่วงแบตจั้มไฟอยู่ ผมจึงเดินออกไปดู และก็เป็นอย่างที่คิดไว้จริง ๆ ครับ พนักงานเอารถที่ลูกค้านำมาเข้ารับบริการมาจั๊มไฟ พ่วงแบตกับรถคันอื่น และเหยียบคันเร่ง ช้าเร็ว อย่างเมามันส์ราวกับเทสรถ ผมจึงเข้าไปถามว่าทำอะไรครับ พนักงานตอบว่า "จั๊มไฟครับ รถสตาร์ทไม่ติด" ผมจึงแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของรถ พนักงานจึงขอโทษ 1 ครั้ง และมองหน้าผมแบบไม่เต็มใจนัก
          ผมจึงกลับมาที่รับรอง และขอพบกับผู้จัดการศูนย์ แต่ได้รับทราบว่าไม่อยู่ จึงส่งหัวหน้าฝ่ายมาพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งข้อเท็จจริงคือ ทุกศูนย์จะมีตู้แบตเตอรี่เคลื่อนที่ ใช้ในกรณีรถลูกค้าเกิดสตาร์ทไม่ติดแบบนี้ แต่ปัญหาคือมันค่อนข้างหนัก จึงต้องใช้ความมักง่ายแบบนี้ และทางหัวหน้าฝ่ายได้กล่าวตักเตือนพนักงานและทำหนังสือเป็นเรื่องราว ชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว (จริงรึปล่าวก็ไม่มีใครทราบได้) ซึ่งทางหัวหน้าฝ่ายก็ได้ขอโทษ และยื่นข้อเสนอ มอบส่วนลดให้ 10% ผมจึงตอบไปว่า "ขอโทษนะครับ ผมไม่รับ" เพราะผมมารับบริการ ผมเอาเงินมาให้เพื่อแลกกับการบริการที่ดี ไม่ได้มาเพื่อเจอเรื่องราวแบบนี้ แล้วสุดท้ายก็จบลงที่มอบส่วนลดให้ลูกค้าเป็นเคส เคสไป เอาส่วนลด 10% ของคุณไปแลกกับการอบรมพนักงาน เพื่อคราวต่อไปจะได้ไม่แสดงอาการ "มักง่าย" แบบนี้กับลูกค้าจะดีกว่าครับ
          ท่าน ๆ ลองคิดดูว่า ตามที่ผมได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า ณ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สถานที่ค่อนข้างโล่ง และสามารถมองมาได้จากทุกมุม พนักงานยังไม่มีทีท่าจะเกรงกลัวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำเหมือนเป็นเรื่องปกติที่พนักงานสามารถทำแบบนี้กับรถลูกค้าได้ทุกคัน แล้วถ้าส่วนหลังบ้านที่ลูกค้าไม่สามารถมองอะไรเห็นได้เลยว่าพนักงานทำอะไรกับรถลูกค้าบ้าง ลองคิดดูแล้วกันครับ ทุกครั้งที่เข้ามารับบริการ แล้วให้กุญแจรถกับพนักงานไป สงสัยต้องทำใจแล้วว่าจะโชคดี หรือ โชคร้าย เพราะรถอยู่ในมือพนักงานแล้ว ???
          ผมจึงขอยกเลิกเอารถออก และไม่ขอรับบริการ ทางหัวหน้าฝ่ายแจ้งว่า รถได้เข้าทำการเปลี่ยนถ่ายแล้ว และตอนนี้ล้างรถอยู่ ผมจึงต้องยอมรับการบริการไปโดยดุษฎี แล้วรถผมก็แล้วเสร็จประมาณ 12.00 น. ตรงตามหมายกำหนดการเป๊ะเช๊ะ ผมจึงจ่ายเงินและนำรถออกไป ...

          ถึงตรงนี้ ทุกท่านที่อ่านมาอาจจะคิดว่าจบแล้วนิก็เคลียกันไป ปล่าวครับยังไม่จบแค่นั้น เพราะเมื่อผมกลับมาถึงบ้าน ก็มองเห็นรอยขูดไปมาตรงบริเวณมือเปิดประตู ซึ่งไม่ต้องสังเกตุมาก ถ้าแสงสว่างเพียงพอก็พอจะเห็นได้ชัดเจน หลายเส้นพอสมควรแต่เส้นยาวมาก คล้ายกับเอาของมีคม ขีดวนไปมาแบบไม่เป็นเส้นตรง มาถึงจุดนี้ผมพยายามคิดในทางบวก เพราะผมอยากจบเรื่องราวอุบาดเหล่านี้แล้ว หรือบางคนอาจจะมีคำถามว่า 1. รอยขีดข่วนกิ่งไม้รึปล่าว 2. รอยเกิดขึ้นก่อนนำรถเข้าบริการรึปล่าว 3. แล้วทำไมไม่ดูก่อนที่จะนำรถออกมา
          คำตอบคือ 1. เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกิดจากรอยของกิ่งไม้ข่วนเพราะ ลักษณะรอยไม่ได้เป็นเส้นยาว เหมือนธรรมชาติของกิ่งไม้ลากไปเวลารถเข้าไปเฉี่ยว แต่เป็นลักษณะขีดวน ๆ หลาย ๆ เส้น เหมือนเด็กน้อยทดลองศิลปะ 2. ผมเป็นคนนึงที่ล้างรถด้วยตัวเอง และล้างประจำ ยิ่งหน้าฝนนี่ล้างแข่งกับฝนตก ฉะนั้นรอยทุกรอยรอบรถ จะรู้หมดว่ามีรอยไหนรอยใหม่ รอยไหนรอยเก่า ท่านที่ล้างรถเองจะทราบดี ยิ่งจุดที่เป็นตรงมือเปิดประตูแล้วยิ่งสังเกตุไม่ยากเลยครับ 3. ข้อนี้ผมยอมรับว่าสะเพร่าเองที่ไม่ยอมดูให้ดีรอบคัน ก่อนนำรถออกมา เหตุผลเพราะผมไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้เกิดขึ้นกับรถผม และรอยแบบนี้แสงไฟจากศูนย์ไม่พอที่จะสังเกตุได้ครับ มีสองทางที่จะเห็นได้คือ หนึ่งนำไฟฉายมาส่องรอบคัน และสองนำรถออกมาเพื่อดูจากแสงของดวงอาทิตย์จึงจะเห็นรอยได้ เพราะถ้าดูจากแสงนีออนจากศูนย์แล้ว มันกระทบกับสีรถขึ้นเงา รอยเหล่านี้จะดูแทบไม่เห็นเลยครับแม้จะเดินดูรอบคันแล้วก็ตาม
          ในความเป็นจริงแล้วตัวผมเองก็มีความรักใน Brand Honda มี Brand Royalty ที่เรียกว่ายี่ห้ออื่นก็มาอยู่ในใจยาก แต่ด้วยการบริการที่มาจากผู้ประกอบการทำให้มาตรฐานการบริการเหล่านี้ด้อยลงไป ส่งผลถึงภาพพจน์ของ Brand HONDA ผมเองก็คงไม่ดีใจไปกับเหตุการณ์เหล่านี้ เพียงเพื่อต้องการให้มีการปรับปรุงอยากให้มันดีขึ้น เพราะจริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดจากตัวพนักงานควรจะควบคุมได้ดีกว่านี้ หากมีการอบรมที่ดีพอ
          สุดท้ายนี้ที่ท่าน ๆ อ่านมายืดยาว ก็เพียงต้องการแชร์ประสบการณ์ตรงที่เจอมากับตัวเอง เพื่อเป็นข้อคิดของหลาย ๆ ท่านที่รักรถ ที่ผ่อนรถด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง สังเกตุและศึกษาให้ดีก่อนเข้าศูนย์รับบริการในแต่ล่ะที่ รวมถึงเช็คสภาพรถให้แน่นอนว่าอยู่ในสภาพดีก่อนนำรถออกมาจากศูนย์ทุกครั้ง "รถเรา ไม่ใช่รถเค้า" เพราะอย่าลืมว่า เมื่อล้อเริ่มหมุนออกจากศูนย์บริการแล้ว หากเกิดอะไรขึ้นกับรถคุณ คงไม่มีใครออกมารับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแน่นอน