น้ำมันมวย vs สเปรย์พ่นเย็น

กระทู้สนทนา
ในขณะปั่นระยะทางใกลจนกล้ามเนื้อล้า ควรใช้อะไรดีครับ

แล้วถ้าจะบรรเทาอาการบาดเจ็บ เช่นเป็นตะคริว ใช้แบบพ่นเย็นนะช่วยได้ใช่ใหมครับ

พอดีค้นไปเจอวิธีใช้น้ำมันมวยมา เลยเอามาให้อ่านกันครับ Cr.ชมรมบางขุนเทียน

ต้องทราบไว้ก่อนว่า...ครีมนวดนั้นทำให้เกิดอะไรขึ้นกับกล้ามเนื้อ

คำตอบในเรื่องนี้....หากดูตามฉลากยาก็จะมีข้อความว่า.....

ช่วยบรรเทาความปวดเมื่อย หลังเล่นกิฬา ช่วยผ่อนคลายความตึงของกล้ามเนื้อ ฯลฯ

จึงควรทราบว่า..น้ำมันนวด ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวลง
ความหมายก็คือ...ลดแรงดึงของกล้ามเนื้อ

แล้วแรงดึงมันเกิดขึ้นได้อย่างไร ? เรามาทำความเข้าใจสักนิด

เรื่องนี้ต้องเข้าใจให้ดีว่า....กล้ามเนื้อทำงานในจึงหวะ หดตัว อย่างเดียว
เมื่อจะยืดตัว.....ก็ต้องอาศัยกล้ามเนื้อชุดตรงข้ามดึงให้ยืดออก

เวลาเราวิ่ง....กล้ามเนื้อจะมีเป็นชุดทำงาน ผลัดกันหดตัว

ชุดหนึ่งจะหดตัวสร้างแรงวิ่ง ขณะเดียวกัน ก็ไปยืดกล้ามเนื้อที่หดแล้ว

จังหวะถัดไปกล้ามเนื้อที่ยืดแล้วจะหดตัว...สร้างแรงวิ่งและยืดกล้ามเนื้อที่หดแล้ว

กล้ามเนื้อจึงทำงานในลักษณะ ยืด...หด...ยืด...หด...ยืด...หด...ฯลฯ ตลอดเวลาที่เราวิ่งอยู่

เมื่อวิ่งไปนานๆความปวดเมื่อยเกิดขึ้นคือ....
หดแล้วยืดกลับน้อยกว่า
กล้ามเนื้อจึงสั้นลงเรื่อยๆ..จนเราวิ่งไม่ได้

วิธีแก้ก็คือ....เราต้องหยุดวิ่ง แล้วบริหารให้กล้ามเนื้อยืดออก
นี่คือวิธีที่นักวิ่งในสนามทำกัน....คือใช้ท่ายืดเส้น

แต่ในสนามก็มีหน่วยพยาบาล...รู้ว่าใช้ยาก็ช่วยให้กล้ามเนื้อยืดได้...คือผ่อนคลายได้

การบริการทายานวด..จึงกะไว้ที่ระยะนักวิ่งกำลังแย่ อาจเป็น กม.ที่ 20 - 35


ผลของการใช้ยาทาที่กล้ามเนื้อ...กล้ามเนื้อจะอ่อนตัวลง
ทาแล้ว...วิ่งต่อเลยนั้นไม่ได้

เราต้องยืดเส้นยืดกล้ามเนื้อประกอบทายาด้วย..เพราะ
กล้ามเนื้อจะยืดได้..ต้องโดนดึง

ดังนั้นเมื่อทายานวดแล้ว....ต้องทำท่ายืดเส้นด้วย..
หลายคน..ทายาแล้ว..ออกวิ่งต่อเลย นี่คือความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
ต้องเข้าใจว่า...
ยาอย่างเดียวใช้ไม่ได้ ต้องยืดเส้นด้วย
ส่วนยืดเส้นอย่างเดียวทำได้ ไม่ต้องใช้ยา
ถ้าใช้ยา + ท่ายืดเส้น..... ใช้ได้
จะเห็นว่าการใช้ยา..ต้องบวกด้วยการทำท่ายืดเส้นด้วย

วิธีแบบนี้...พวกหมอนวดรู้ดี
เวลาคุณไปให้หมอเขานวด....เขาจะเริ่มด้วยการทายา
เขาจะทายานวดก่อน...แล้วค่อยๆนวดให้กล้ามเนื้อคลายตัว
ถ้าไปเจอหมอนวดที่นวดก่อนแล้วทายาตอนจบ...คือกลับทิศ


การที่กล้ามเนื้อหดตัวค้าง..เป็นความทุกข์ทรมานของนักวิ่ง
การยืดเส้น...เป็นการลดความทรมานลง...แต่

นักวิ่งต้องเข้าใจใจให้ดีว่า...
กล้ามเนื้อที่หดค้างอยู่นั้น...จะยืดได้ต้องกระทำแบบนิ่มนวล
อย่าคิดว่า...ดึง..ๆ..ๆ...ๆ...ๆ..ให้ยืดเร็วๆกูจะวิ่งทำเวลา ระวังจะชอกช้ำ หรือกล้ามเนื้อฉีกขาดได้

การยืดเส้นจึง..ต้องกระทำแบบใจเย็น ช้าๆ..นานๆ...และค้างไว้


ส่วนเวลาเริ่มจะวิ่ง....นักวิ่งก็ทายานวดให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายได้
โดยไม่รู้ว่า...กล้ามเนื้อมันยังไม่อยู่ในสภาพหดตัวค้าง...
การทายานวดจึง...ช่วยให้เกิดความรู้สึกว่า ได้วอร์ม คือรู้สึกร้อนเพราะ สารในยา

เราอาจใช้การบริหาร..แทนการทายาก็ได้
เราอาจใช้การนวดก่อนแข่งขัน...ก็ได้
หากเราใช้ยาทานวนดก่อนออกวิ่ง....ก็จะติดเป็นนิสัยคือ
ได้กลิ่นยานวดแล้ว..จิตใจมันจะคึกคัก...ทั้งที่ยังไม่จำเป็นเท่าไรนัก

เมื่อถามว่า..."ก่อนวิ่งนวดด้วยครีมหรือน้ำมันมวยดีหรือโทษครับ"

ตอบว่า..ดีครับ แต่ไม่มาก
มีโทษก็ไม่มาก...จ่ายเงินก็นิดเดียว

การทายานวนด สิ่งนี้ไม่สำคัญเท่ากับการฝึกซ้อมที่ผ่านมา !!!

ถ้าเอาไว้สร้างความรู้สึกอยากวิ่ง...ก็หัดไว้ ก็จะได้ความรู้สึก "ถูกกระตุ้นจากกลิ่นยา"

เราอาจสรุปว่า...ใช้ก็ได้...ไม่ใช้ก็ได้

ที่สำคัญคือ...ก่อนวิ่งต้องยืดเส้น...เพราะมันจะหดสั้นลงแน่นอน

เรื่องนี้...นักวิ่งเก๋าๆ...เขารู้ดี
เขาจึงไม่ค่อยยอมจ่ายตัง.....
แต่พวกที่ติดยา...ก็ไม่ได้เสียดายอะไรนักหนา
ยิ่งเป็น "น้ำมันมวย" เอามาบริการฟรีจนนักวิ่งติดอกติดใจ แต่ไม่รู้ตัวว่า...ชอบ"น้ำมันมวย"เสียแล้ว

คือถ้าไม่ได้กลิ่น....มันจะวิ่งไม่ออก..อิ..อิ...

นี่ไงเขาจึงจัดมาให้ติดใจกัน

ผมเอง...มีอยู่หลายหลอด...ใช้ก่อนวิ่งประจำ
บางทีลืมไป...ก็วิ่งได้ปกติเหมือนเดิม

ถ้าคุณจะเอาถ้วย....สร้างความคึกคักด้วยยานวดก็ไม่เลว

มองตรงไหนก็ไม่เห็นโทษ...นอกจากเสียตังนิดหน่อย

พกไปกับตัว...เอาไว้สร้างมิตรภาพก็ยังได้
เหมือนคนสูบบุหรี่..ยื่นให้คนที่เจอกัน
ก็สร้างมิตรภาพได้...ยานวดมันก็มีดีแบบนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่