-ศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมัน
มาจากการเลือกตั้งโดยรัฐสภา และ ผู้แทนมลรัฐ
แล มีความเชื่อมโยงกับประชาชน เพราะทั้ง 2 ส่วนที่เลือกศาล รธน.เยอรมันนั้น
ล้วนแล้วแต่มาจากการเลือกตั้งจากประชาชนชาวเยอรมันตามระบอบประชาธิปไตย
ด้วยความที่เคยผ่านความเจ็บปวด
ในยุคที่ "ฮิตเล่อร์" ครองเมือง และ ใช้อำนาจแบบไม่อยู่ในข้อของกฏหมาย
ศาลรัฐธรรมนูญเมืองเบียร์จึงต้องทำหน้าที่แบบระมัดระวังโดยจะไม่มีการมั่วซั่ว
หน้าที่หลักๆที่เป็นไพออริตี้ของ "ตลก.เมืองเบียร์"
คือ การวินิจฉัยข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ
และ พวกเขาไม่เคยแสดงภูมิรู้
ในเรื่องของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
เพราะมันเป็นเรื่องของ "ฝ่ายบริหาร" ที่จะขับเคลื่อนประเทศ
เยอรมันจึงมีออโต้บาห์นดีๆให้สัญจร
มีขนส่งระบบรางที่เชื่อมต่อกับเพื่อนบ้าน
ไปจนถึงมีสนามบินที่ทันสมัยอยู่ในลำดับต้นๆของยุโรป
-ศาลรัฐธรรมนูญของรัสเซีย
มีหน้าที่วินิจฉัยเรื่องของรัฐธรรมนูญที่ได้รับการร้องขอ
โดยที่คนที่มีสิทธิ์ยื่นร้องขอก็ต้องเป็นคนที่กฏหมายให้อำนาจไว้
เช่น ประธานาธิบดี , สส. , สว. , ฯลฯ
ไปจนถึงหน่วยงานที่ทำหน้าที่บริหารดินแดนที่รัสเซียปกครองอยู่
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าพวกเขาเป็น "สหพันธรัฐ" ที่มีเขตการปกครองมากมาย
แถมแต่ละแห่งก็ทะลึ่งมีสภานิติบัญญัติ
และ มีรัฐธรรมนูญเป็นของตนเองอีกต่างหาก
"ตลก.เมืองหมีขาว"
จะไม่มีทางที่จะทำงานมั่วซั่ว
ด้วยการปล่อยให้ "ผู้ตรวจการแผ่นดิน" มาตีมึนยื่นเรื่องให้วินิจฉัย
เพราะรัฐธรรมนูญของพวกหมีขาวกำหนดชัดเจนว่าใครคือคนที่ "มีสิทธิ์" ยื่นคำร้องได้
-ศาลรัฐธรรมนูญฝรั่งเศส
จะมีองค์คณะทั้งหมด 9 คน
และ ทั้ง 9 คนนี้จะมี "ที่มา" ที่ยึดโยงกับประชาชน
เพราะประธานาธิบดีจะเป็นคนเลือกมา 3 คน
ประธานสภาผู้แทนราษฏรก็จะเลือกมา 3 คน
ส่วนอีก 3 คนที่เหลือจะเป็นหน้าที่ของ ประธานวุฒิสภา
ทั้ง ปธน. , ปธ.วุฒิ และ ปธ.สภาฯของเมืองน้ำหอม
ขึ้นมาทำหน้าที่ได้ก็เพราะได้รับการ "เลือกตั้ง" จากประชาชน
ซึ่งนั่นก็หมายความว่าชนชาวน้ำหอมได้มอบฉันทามติผ่านทั้ง 3 คนนั้นในการเลือก "ตลก.เมืองน้ำหอม"
เพราะหลักการเบื้องต้นของประชาธิปไตย
ก็คือทุกคนมี 1 สิทธิ์เท่ากัน และ ควรที่จะได้ "ใช้สิทธิ์" นั้นโดยที่ไม่มีใครมา "คิดแทน"
-ศาลรัฐธรรมนูญออสเตรีย
จะมีองค์คณะทั้งหมดจำนวน 14 คน
ทั้ง 14 คนก็ไม่ได้มาจาก "มดลูกของ คมช.ออสเตรีย"
เพราะดินแดนของ "โมสาร์ท" แห่งนี้
ไม่ได้มีทหารนอกแถวอย่าง "ไอ้บัง" , "ไอ้ป๊อก" , "ไอ้พรั่ง" , "ไอ้เหล่"
แต่พวกเขามาด้วยอำนาจที่เชื่อมโยงกับประชาชนชาวออสเตรีย
เพราะ "รัฐบาลโมสาร์ท" จะเลือกมา 7 คน
และ "รัฐสภาโมสาร์ท" ก็จะเลือกมาอีก 7 คน
ทั้ง "รัฐบาล" และ "รัฐสภา"
ล้วนแล้วแต่มาจากการกาบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง
ของประชาชนที่เป็นลูกหลานของ "โวลฟ์กัง อมาเดอุส โมสาร์ท" กันทั้งนั้น
-ประเทศมะกันก็ไม่น้อยหน้า
เพราะรัฐธรรมนูญของ "ลุงแซม" ก็มีบัญญัติไว้
ว่าให้ผู้พิพากษาของ The Supreme Court ทำหน้าที่เป็นศาลรัฐธรรมนูญ
โดยให้คุณพี่ "โอบาม่า" ที่มาจากการเลือกตั้งของอเมริกันชนเป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้ง
แต่ทั้งนี้ก็ยังจะต้องผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา
ทั้งประธานาธิบดี
และ วุฒิสภาของพวกลุงแซม
ล้วนแล้วแต่มาตามระบอบประชาธิปไตย โดยเสียงของประชาชน
นับเป็นโชคดีของพวกมะกัน
ที่ไม่มีรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วย "ประธานาธิบดี มาตรา 7"
อีกทั้งวุฒิสภาของเขาก็ไม่ "หน้าด้าน" พอที่จะเปิดสภา
และ ดำเนินการเลือกประธานเถื่อนซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่นอกคำสั่งของ พรฏ.
อเมริกาก็เลยไม่มีทั้ง "ประธานาธิบดีเถื่อน" แบบ "ไอ้เทือก"
และ "ประธานวุฒิฯเถื่อน" แบบ "ไอ้เลี้ยง" ที่จ้องจะทำอะไรนอกรัฐธรรมนูญ
-ศาลรัฐธรรมนูญประเทศทุย
ตั้งขึ้นมาจากอำนาจเผด็จการ
ตามประกาศฉบับที่ 3 ลงวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2549
และ ไม่ได้มีอะไรที่ยึดโยงกับประชาชนเลยซักนิด !!!!!
ไม่ได้มาจากประชาชนยังไม่เท่าไร
มันยังใช้อำนาจวินิจฉัยแบบ "ขยายขอบเขต"
เพื่อให้อำนาจของพวกมันครอบคลุมไปยังอำนาจ "บริหาร" และ "นิติบัญญัติ"
มันรังเกียจ "เสียงข้างมาก" ของ "สภาฯ"
ทั้งๆที่ตอนมันวินิจฉัยคนอื่น มันเองก็ใช้ "เสียงข้างมาก" แบบที่มันรังเกียจนั่นแหละ !!!
ด้วยความที่มันมาจาก "เผด็จการ"
ที่ไม่ได้มีอะไรยึดโยงกับ "ประชาชน" เจ้าของสิทธิ์
และ ไม่เคยรับรู้ว่าการ "เลือกตั้ง" มันมีความเป็นประชาธิปไตยมากกว่าการ "ลากตั้ง"
+มันเลยแถลงคดีตอนเช้า และ ตัดสินตอนบ่าย
+มันเลยใช้ "พจนานุกรม" มาเปิดเพื่อไล่นายกฯที่ทำกับข้าวออกทีวี
+มันเลยวินิจฉัยคดีในแบบที่ใช้ "ข้อกฏหมายนำหน้า ข้อเท็จจริงตามหลัง"
+มันเลยทำเป็นลอยตัวไม่รู้ไม่ชี้ ที่เมียมันไปโกงคนอื่นจนเป็นคดีความ
+มันเลยแอบเอาข้อสอบไปให้ลูกหลานญาติพี่น้องของมันอ่านก่อนที่จะเข้าสอบ
+มันเลยไปนัดกินข้าวบ่าน "ไอ้หัวล้าน" ที่สุขุมวิมเพื่อวางแผนล้มรัฐบาลในปี 49
+มันเลยหน้าด้านปฏิบัติหน้าที่แบบไม่แคร์ ทั้งๆที่ตอนนั้นมีบางคนยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ
+มันเลยทำตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน และ วิเคราะห์ความคุ้มหรือไม่คุ้มของโครงการรัฐ
+มันเลยจ้างลูกชายเป็นเลขาฯ และ ให้ไปเรียนต่อต่างประเทศ โดยที่ให้รัฐจ่ายเงินเดือนตามปกติ
ถ้า "เกาหลีเหนือ" จะตั้งศาลรัฐธรรมนูญ
"คิม จอง อึน" อาจต้องส่งคนมาดูงานที่ประเทศทุยแน่ๆ
เพราะคงไม่มีที่ไหนอีกแล้ว ที่ "ตุลาการ" มาจาก "เผด็จการ" ที่ไปยึดอำนาจเขามา
และ แต่งตั้งกันมาทำหน้าที่โดยที่ไม่ได้เห็นหัวประขาชนเจ้าของประเทศเลยซักนิด
แบบนี้ท่าทางจะถูกจริต "คิม จอง อึน" แน่ๆ !!!!!!!
ขอบคุณคุณธรรมดาสามัญ ที่ให้ยืมอมยิ้มครับ
++++++++++ .......... อ า ย ช า ติ อื่ น เ ข า มั๊ ย ล่ ะ เ มิ งงงงงงงงงงงง !!!!!!!!!!!!!!!.......... ++++++++++
มาจากการเลือกตั้งโดยรัฐสภา และ ผู้แทนมลรัฐ
แล มีความเชื่อมโยงกับประชาชน เพราะทั้ง 2 ส่วนที่เลือกศาล รธน.เยอรมันนั้น
ล้วนแล้วแต่มาจากการเลือกตั้งจากประชาชนชาวเยอรมันตามระบอบประชาธิปไตย
ด้วยความที่เคยผ่านความเจ็บปวด
ในยุคที่ "ฮิตเล่อร์" ครองเมือง และ ใช้อำนาจแบบไม่อยู่ในข้อของกฏหมาย
ศาลรัฐธรรมนูญเมืองเบียร์จึงต้องทำหน้าที่แบบระมัดระวังโดยจะไม่มีการมั่วซั่ว
หน้าที่หลักๆที่เป็นไพออริตี้ของ "ตลก.เมืองเบียร์"
คือ การวินิจฉัยข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ
และ พวกเขาไม่เคยแสดงภูมิรู้
ในเรื่องของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
เพราะมันเป็นเรื่องของ "ฝ่ายบริหาร" ที่จะขับเคลื่อนประเทศ
เยอรมันจึงมีออโต้บาห์นดีๆให้สัญจร
มีขนส่งระบบรางที่เชื่อมต่อกับเพื่อนบ้าน
ไปจนถึงมีสนามบินที่ทันสมัยอยู่ในลำดับต้นๆของยุโรป
-ศาลรัฐธรรมนูญของรัสเซีย
มีหน้าที่วินิจฉัยเรื่องของรัฐธรรมนูญที่ได้รับการร้องขอ
โดยที่คนที่มีสิทธิ์ยื่นร้องขอก็ต้องเป็นคนที่กฏหมายให้อำนาจไว้
เช่น ประธานาธิบดี , สส. , สว. , ฯลฯ
ไปจนถึงหน่วยงานที่ทำหน้าที่บริหารดินแดนที่รัสเซียปกครองอยู่
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าพวกเขาเป็น "สหพันธรัฐ" ที่มีเขตการปกครองมากมาย
แถมแต่ละแห่งก็ทะลึ่งมีสภานิติบัญญัติ
และ มีรัฐธรรมนูญเป็นของตนเองอีกต่างหาก
"ตลก.เมืองหมีขาว"
จะไม่มีทางที่จะทำงานมั่วซั่ว
ด้วยการปล่อยให้ "ผู้ตรวจการแผ่นดิน" มาตีมึนยื่นเรื่องให้วินิจฉัย
เพราะรัฐธรรมนูญของพวกหมีขาวกำหนดชัดเจนว่าใครคือคนที่ "มีสิทธิ์" ยื่นคำร้องได้
-ศาลรัฐธรรมนูญฝรั่งเศส
จะมีองค์คณะทั้งหมด 9 คน
และ ทั้ง 9 คนนี้จะมี "ที่มา" ที่ยึดโยงกับประชาชน
เพราะประธานาธิบดีจะเป็นคนเลือกมา 3 คน
ประธานสภาผู้แทนราษฏรก็จะเลือกมา 3 คน
ส่วนอีก 3 คนที่เหลือจะเป็นหน้าที่ของ ประธานวุฒิสภา
ทั้ง ปธน. , ปธ.วุฒิ และ ปธ.สภาฯของเมืองน้ำหอม
ขึ้นมาทำหน้าที่ได้ก็เพราะได้รับการ "เลือกตั้ง" จากประชาชน
ซึ่งนั่นก็หมายความว่าชนชาวน้ำหอมได้มอบฉันทามติผ่านทั้ง 3 คนนั้นในการเลือก "ตลก.เมืองน้ำหอม"
เพราะหลักการเบื้องต้นของประชาธิปไตย
ก็คือทุกคนมี 1 สิทธิ์เท่ากัน และ ควรที่จะได้ "ใช้สิทธิ์" นั้นโดยที่ไม่มีใครมา "คิดแทน"
-ศาลรัฐธรรมนูญออสเตรีย
จะมีองค์คณะทั้งหมดจำนวน 14 คน
ทั้ง 14 คนก็ไม่ได้มาจาก "มดลูกของ คมช.ออสเตรีย"
เพราะดินแดนของ "โมสาร์ท" แห่งนี้
ไม่ได้มีทหารนอกแถวอย่าง "ไอ้บัง" , "ไอ้ป๊อก" , "ไอ้พรั่ง" , "ไอ้เหล่"
แต่พวกเขามาด้วยอำนาจที่เชื่อมโยงกับประชาชนชาวออสเตรีย
เพราะ "รัฐบาลโมสาร์ท" จะเลือกมา 7 คน
และ "รัฐสภาโมสาร์ท" ก็จะเลือกมาอีก 7 คน
ทั้ง "รัฐบาล" และ "รัฐสภา"
ล้วนแล้วแต่มาจากการกาบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง
ของประชาชนที่เป็นลูกหลานของ "โวลฟ์กัง อมาเดอุส โมสาร์ท" กันทั้งนั้น
-ประเทศมะกันก็ไม่น้อยหน้า
เพราะรัฐธรรมนูญของ "ลุงแซม" ก็มีบัญญัติไว้
ว่าให้ผู้พิพากษาของ The Supreme Court ทำหน้าที่เป็นศาลรัฐธรรมนูญ
โดยให้คุณพี่ "โอบาม่า" ที่มาจากการเลือกตั้งของอเมริกันชนเป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้ง
แต่ทั้งนี้ก็ยังจะต้องผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา
ทั้งประธานาธิบดี
และ วุฒิสภาของพวกลุงแซม
ล้วนแล้วแต่มาตามระบอบประชาธิปไตย โดยเสียงของประชาชน
นับเป็นโชคดีของพวกมะกัน
ที่ไม่มีรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วย "ประธานาธิบดี มาตรา 7"
อีกทั้งวุฒิสภาของเขาก็ไม่ "หน้าด้าน" พอที่จะเปิดสภา
และ ดำเนินการเลือกประธานเถื่อนซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่นอกคำสั่งของ พรฏ.
อเมริกาก็เลยไม่มีทั้ง "ประธานาธิบดีเถื่อน" แบบ "ไอ้เทือก"
และ "ประธานวุฒิฯเถื่อน" แบบ "ไอ้เลี้ยง" ที่จ้องจะทำอะไรนอกรัฐธรรมนูญ
-ศาลรัฐธรรมนูญประเทศทุย
ตั้งขึ้นมาจากอำนาจเผด็จการ
ตามประกาศฉบับที่ 3 ลงวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2549
และ ไม่ได้มีอะไรที่ยึดโยงกับประชาชนเลยซักนิด !!!!!
ไม่ได้มาจากประชาชนยังไม่เท่าไร
มันยังใช้อำนาจวินิจฉัยแบบ "ขยายขอบเขต"
เพื่อให้อำนาจของพวกมันครอบคลุมไปยังอำนาจ "บริหาร" และ "นิติบัญญัติ"
มันรังเกียจ "เสียงข้างมาก" ของ "สภาฯ"
ทั้งๆที่ตอนมันวินิจฉัยคนอื่น มันเองก็ใช้ "เสียงข้างมาก" แบบที่มันรังเกียจนั่นแหละ !!!
ด้วยความที่มันมาจาก "เผด็จการ"
ที่ไม่ได้มีอะไรยึดโยงกับ "ประชาชน" เจ้าของสิทธิ์
และ ไม่เคยรับรู้ว่าการ "เลือกตั้ง" มันมีความเป็นประชาธิปไตยมากกว่าการ "ลากตั้ง"
+มันเลยแถลงคดีตอนเช้า และ ตัดสินตอนบ่าย
+มันเลยใช้ "พจนานุกรม" มาเปิดเพื่อไล่นายกฯที่ทำกับข้าวออกทีวี
+มันเลยวินิจฉัยคดีในแบบที่ใช้ "ข้อกฏหมายนำหน้า ข้อเท็จจริงตามหลัง"
+มันเลยทำเป็นลอยตัวไม่รู้ไม่ชี้ ที่เมียมันไปโกงคนอื่นจนเป็นคดีความ
+มันเลยแอบเอาข้อสอบไปให้ลูกหลานญาติพี่น้องของมันอ่านก่อนที่จะเข้าสอบ
+มันเลยไปนัดกินข้าวบ่าน "ไอ้หัวล้าน" ที่สุขุมวิมเพื่อวางแผนล้มรัฐบาลในปี 49
+มันเลยหน้าด้านปฏิบัติหน้าที่แบบไม่แคร์ ทั้งๆที่ตอนนั้นมีบางคนยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ
+มันเลยทำตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน และ วิเคราะห์ความคุ้มหรือไม่คุ้มของโครงการรัฐ
+มันเลยจ้างลูกชายเป็นเลขาฯ และ ให้ไปเรียนต่อต่างประเทศ โดยที่ให้รัฐจ่ายเงินเดือนตามปกติ
ถ้า "เกาหลีเหนือ" จะตั้งศาลรัฐธรรมนูญ
"คิม จอง อึน" อาจต้องส่งคนมาดูงานที่ประเทศทุยแน่ๆ
เพราะคงไม่มีที่ไหนอีกแล้ว ที่ "ตุลาการ" มาจาก "เผด็จการ" ที่ไปยึดอำนาจเขามา
และ แต่งตั้งกันมาทำหน้าที่โดยที่ไม่ได้เห็นหัวประขาชนเจ้าของประเทศเลยซักนิด
แบบนี้ท่าทางจะถูกจริต "คิม จอง อึน" แน่ๆ !!!!!!!
ขอบคุณคุณธรรมดาสามัญ ที่ให้ยืมอมยิ้มครับ