(บางส่วน)
ดูกรอัคคิเวสสนะ
พระราชกุมารจะพึงได้ความข้อนั้นในภาษิตของเธอนี้แต่ที่ไหน
ข้อที่ความข้อนั้นเขารู้ เขาเห็น เขาบรรลุ เขาทำให้แจ้งกันได้ด้วยเนกขัมมะ
แต่พระราชกุมารชยเสนะ ยังอยู่ท่ามกลางกาม ยังบริโภคกาม ถูกกามวิตกกิน
ถูกความเร่าร้อนเพราะกามเผา ยังขวนขวายในการแสวงหากาม
จักทรงรู้ หรือจักทรงเห็น หรือจักทรงทำให้แจ้งความข้อนั้นได้ นั่นไม่ใช่ฐานะที่มีได้ ฯ
[๓๙๓] ดูกรอัคคิเวสสนะ
เปรียบเหมือนช้างที่ควรฝึก หรือม้าที่ควรฝึกหรือโคที่ควรฝึก คู่หนึ่งที่เขาฝึกดี หัดดีแล้ว
อีกคู่หนึ่งเขาไม่ได้ฝึก ไม่ได้หัดเลย
ดูกรอัคคิเวสสนะ
เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
ช้างที่ควรฝึก หรือม้าที่ควรฝึกหรือโคที่ควรฝึก คู่ที่เขาฝึกดี หัดดีแล้วนั้น อันเขาฝึกแล้ว
จึงเลียนเหตุการณ์ที่ฝึกแล้ว สำเร็จภูมิที่ฝึกแล้วได้ ใช่ไหม ฯ
อ. ใช่ พระพุทธเจ้าข้า ฯ
พ. ส่วนช้างที่ควรฝึก หรือม้าที่ควรฝึก หรือโคที่ควรฝึก คู่ที่เขา ไม่ได้ฝึก ไม่ได้หัด แล้วนั้น อันเขาไม่ได้ฝึกเลย
จะเลียนเหตุการณ์ที่ฝึกแล้ว สำเร็จภูมิที่ฝึกแล้ว เหมือนอย่างคู่ที่ฝึกดี หัดดีแล้วนั้น ได้ไหม ฯ
อ. ข้อนี้หามิได้เลย พระพุทธเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรอัคคิเวสสนะ
ฉันนั้นเหมือนกันแล ข้อที่ความข้อนั้นเขารู้ เขาเห็น เขาบรรลุ เขาทำให้แจ้งกันได้ด้วยเนกขัมมะ
แต่พระราชกุมารชยเสนะ ยังอยู่ท่ามกลางกาม ยังบริโภคกาม ถูกกามวิตกกิน ถูกความเร่าร้อนเพราะกามเผา
ยังขวนขวายในการแสวงหากาม จักทรงรู้ หรือจักทรงเห็น หรือจักทรงทำให้แจ้ง ความข้อนั้นได้ นั่นไม่ใช่ฐานะที่มีได้ ฯ
------------------
ตถาคตจึงแนะนำเธอให้ยิ่งขึ้นไปว่า...........
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทันตภูมิสูตร (๑๒๕)
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ บรรทัดที่ ๕๓๗๕ - ๕๖๐๘. หน้าที่ ๒๒๘ - ๒๓๗.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=14&A=5375&Z=5608&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=14&i=388
ถูกกามวิตกกิน ถูกความเร่าร้อนเพราะกามเผา ยังขวนขวายในการแสวงหากาม
ดูกรอัคคิเวสสนะ
พระราชกุมารจะพึงได้ความข้อนั้นในภาษิตของเธอนี้แต่ที่ไหน
ข้อที่ความข้อนั้นเขารู้ เขาเห็น เขาบรรลุ เขาทำให้แจ้งกันได้ด้วยเนกขัมมะ
แต่พระราชกุมารชยเสนะ ยังอยู่ท่ามกลางกาม ยังบริโภคกาม ถูกกามวิตกกิน
ถูกความเร่าร้อนเพราะกามเผา ยังขวนขวายในการแสวงหากาม
จักทรงรู้ หรือจักทรงเห็น หรือจักทรงทำให้แจ้งความข้อนั้นได้ นั่นไม่ใช่ฐานะที่มีได้ ฯ
[๓๙๓] ดูกรอัคคิเวสสนะ
เปรียบเหมือนช้างที่ควรฝึก หรือม้าที่ควรฝึกหรือโคที่ควรฝึก คู่หนึ่งที่เขาฝึกดี หัดดีแล้ว
อีกคู่หนึ่งเขาไม่ได้ฝึก ไม่ได้หัดเลย
ดูกรอัคคิเวสสนะ
เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
ช้างที่ควรฝึก หรือม้าที่ควรฝึกหรือโคที่ควรฝึก คู่ที่เขาฝึกดี หัดดีแล้วนั้น อันเขาฝึกแล้ว
จึงเลียนเหตุการณ์ที่ฝึกแล้ว สำเร็จภูมิที่ฝึกแล้วได้ ใช่ไหม ฯ
อ. ใช่ พระพุทธเจ้าข้า ฯ
พ. ส่วนช้างที่ควรฝึก หรือม้าที่ควรฝึก หรือโคที่ควรฝึก คู่ที่เขา ไม่ได้ฝึก ไม่ได้หัด แล้วนั้น อันเขาไม่ได้ฝึกเลย
จะเลียนเหตุการณ์ที่ฝึกแล้ว สำเร็จภูมิที่ฝึกแล้ว เหมือนอย่างคู่ที่ฝึกดี หัดดีแล้วนั้น ได้ไหม ฯ
อ. ข้อนี้หามิได้เลย พระพุทธเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรอัคคิเวสสนะ
ฉันนั้นเหมือนกันแล ข้อที่ความข้อนั้นเขารู้ เขาเห็น เขาบรรลุ เขาทำให้แจ้งกันได้ด้วยเนกขัมมะ
แต่พระราชกุมารชยเสนะ ยังอยู่ท่ามกลางกาม ยังบริโภคกาม ถูกกามวิตกกิน ถูกความเร่าร้อนเพราะกามเผา
ยังขวนขวายในการแสวงหากาม จักทรงรู้ หรือจักทรงเห็น หรือจักทรงทำให้แจ้ง ความข้อนั้นได้ นั่นไม่ใช่ฐานะที่มีได้ ฯ
------------------
ตถาคตจึงแนะนำเธอให้ยิ่งขึ้นไปว่า...........
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้