หลายกระทู้ถามว่า ความคิดที่ไม่ดีต่างๆ เกิดจากอะไร ทำให้ว้าวุ่นใจ รู้สึกผิด และถามหาวิธีแก้

กระทู้คำถาม
หลายกระทู้ถามว่า ความคิดที่ไม่ดีต่างๆ เกิดจากอะไร ทำให้ว้าวุ่นใจ และถามหาวิธีแก้

งานนี้ต้องลงทุนเรียนรู้ และฝึก อยู่เฉยๆแล้วบ่นๆอยากๆ ก็แก้อะไรไม่ได้

จาก สนิทานสูตร พบว่า สังกัปปะความดำริใน กาม พยาบาท เบียดเบียน
มี กามสัญญา พยาบาทสัญญา วิหิงสาสัญญา เป็นปัจจัย
กามสัญญา พยาบาทสัญญา วิหิงสาสัญญา มี กามธาตุ พยาบาทธาตุ วิหิงสาธาตุ เป็นปัจจัย
พระศาสดาทรงสอนให้พยายามละ บรรเทา ทำให้ไม่มีอีกซึ่งอกุศลสัญญา
เห็นว่าความไม่ประมาทในอินทรียสังวร คือ ทางละ บรรเทา ทำให้หมดไปซึ่งอกุศลสัญญา

อินทรียสังวร หนังสือ
http://download.watnapahpong.org/data/static_media/%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%99_8_%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%A3_8.pdf

อินทรียสังวร เสียงอ่าน
http://watnapp.com/audio/view_category/49

๒. สนิทานสูตร
ว่าด้วยธรรมที่เป็นต้นเหตุ
             [๙๖] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ... เขตกรุงสาวัตถี ณ ที่นั้น พระผู้มีพระภาค ...
             “ภิกษุทั้งหลาย
กามวิตกมีเหตุจึงเกิดขึ้น ไม่มีเหตุไม่เกิดขึ้น
พยาบาทวิตกมีเหตุจึงเกิดขึ้น ไม่มีเหตุไม่เกิดขึ้น
วิหิงสาวิตกมีเหตุจึงเกิดขึ้น ไม่มีเหตุไม่เกิดขึ้น
กามวิตกมีเหตุจึงเกิดขึ้น ไม่มีเหตุไม่เกิดขึ้น
พยาบาทวิตกมีเหตุจึงเกิดขึ้น ไม่มีเหตุไม่เกิดขึ้น
วิหิงสาวิตกมีเหตุจึงเกิดขึ้น ไม่มีเหตุไม่เกิดขึ้น    เป็นอย่างไร

กามสัญญา(ความหมายรู้กาม) เกิดขึ้นเพราะอาศัยกามธาตุ
กามสังกัปปะ(ความดำริในกาม) เกิดขึ้นเพราะอาศัยกามสัญญา
กามฉันทะ(ความพอใจในกาม) เกิดขึ้นเพราะอาศัยกามสังกัปปะ
กามปริฬาหะ(ความเร่าร้อนเพราะกาม) เกิดขึ้นเพราะอาศัยกามฉันทะ
กามปริเยสนา(การแสวงหากาม) เกิดขึ้นเพราะอาศัยกามปริฬาหะ
ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ เมื่อแสวงหากามปริเยสนา ย่อมปฏิบัติผิด ๓ ทาง
คือ ทางกาย ทางวาจา ทางใจ

พยาบาทสัญญา(ความหมายรู้พยาบาท) เกิดขึ้นเพราะอาศัยพยาบาทธาตุ
พยาบาทสังกัปปะ(ความดำริในพยาบาท) เกิดขึ้นเพราะอาศัยพยาบาทสัญญา ...
พยาบาทฉันทะ(ความพอใจในพยาบาท) ...
พยาบาทปริฬาหะ(ความเร่าร้อนเพราะพยาบาท) ...
พยาบาทปริเยสนา (การแสวงหาพยาบาท) ...
ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ เมื่อแสวงหาพยาบาทปริเยสนา ย่อมปฏิบัติผิด ๓ ทาง คือ
ทางกาย ทางวาจา ทางใจ

วิหิงสาสัญญา (ความหมายรู้ความเบียดเบียน) เกิดขึ้นเพราะอาศัยวิหิงสาธาตุ
วิหิงสาสังกัปปะ(ความดำริในความเบียดเบียน) เกิดขึ้นเพราะอาศัยวิหิงสาสัญญา ...
วิหิงสาฉันทะ (ความพอใจในความเบียดเบียน) ...
วิหิงสาปริฬาหะ (ความเร่าร้อนเพราะความเบียดเบียน) ...
วิหิงสาปริเยสนา (การแสวงหาความเบียดเบียน) ...
ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ เมื่อแสวงหาวิหิงสาปริเยสนา ย่อมปฏิบัติผิด ๓ ทาง คือ
ทางกาย ทางวาจา ทางใจ

             ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษวางคบหญ้าที่ไฟติดแล้วในป่าหญ้าแห้ง
หากเขาไม่รีบดับด้วยมือและด้วยเท้า เมื่อเป็นเช่นนี้ บรรดาสัตว์มีชีวิตที่อาศัยหญ้า
และไม้อยู่ พึงถึงความพินาศย่อยยับ อุปมานี้ฉันใด อุปไมยก็ฉันนั้น สมณะหรือ
พราหมณ์คนใดคนหนึ่ง ไม่รีบละ บรรเทา ทำให้สิ้นไป ให้ถึงความไม่มีอีกซึ่งอกุศล-
สัญญาที่เกิดขึ้นไม่สม่ำเสมอ สมณะหรือพราหมณ์นั้นย่อมอยู่เป็นทุกข์ มีความ
อึดอัด ความคับแค้น ความเร่าร้อน ในปัจจุบัน หลังจากตายแล้วพึงหวังทุคติได้

             เนกขัมมวิตก(ความตรึกในการออกบวช) มีเหตุจึงเกิดขึ้น ไม่มีเหตุไม่เกิดขึ้น
อพยาบาทวิตก(ความตรึกในความไม่พยาบาท) มีเหตุจึงเกิดขึ้น ไม่มีเหตุไม่เกิดขึ้น
อวิหิงสาวิตก(ความตรึกในความไม่เบียดเบียน)มีเหตุจึงเกิดขึ้น ไม่มีเหตุไม่เกิดขึ้น
เนกขัมมวิตกมีเหตุจึงเกิดขึ้น ไม่มีเหตุไม่เกิดขึ้น
อพยาบาทวิตกมีเหตุจึงเกิดขึ้น ไม่มีเหตุไม่เกิดขึ้น
อวิหิงสาวิตกมีเหตุจึงเกิดขึ้น ไม่มีเหตุไม่เกิดขึ้น     เป็นอย่างไร

คือ เนกขัมมสัญญาเกิดขึ้นเพราะอาศัยเนกขัมมธาตุ
เนกขัมมสังกัปปะเกิดขึ้นเพราะอาศัยเนกขัมมสัญญา
เนกขัมมฉันทะเกิดขึ้นเพราะอาศัยเนกขัมมสังกัปปะ
เนกขัมมปริฬาหะเกิดขึ้นเพราะอาศัยเนกขัมมฉันทะ
เนกขัมมปริเยสนาเกิดขึ้นเพราะอาศัยเนกขัมมปริฬาหะ
อริยสาวกผู้ได้สดับ เมื่อแสวงหาเนกขัมมปริเยสนา
ย่อมปฏิบัติชอบ ๓ ทาง คือ ทางกาย ทางวาจา ทางใจ

อพยาบาทสัญญาเกิดขึ้นเพราะอาศัยอพยาบาทธาตุ
อพยาบาทสังกัปปะเกิดขึ้นเพราะอาศัยอพยาบาทสัญญา ...
อพยาบาทฉันทะ ...
อพยาบาทปริฬาหะ ...
อพยาบาทปริเยสนา ...
อริยสาวกผู้ได้สดับ เมื่อแสวงหาอพยาบาทปริเยสนา ย่อมปฏิบัติชอบ ๓ ทาง
คือ ทางกาย ทางวาจา ทางใจ

อวิหิงสาสัญญาเกิดขึ้นเพราะอาศัยอวิหิงสาธาตุ
อวิหิงสาสังกัปปะเกิดขึ้นเพราะอาศัยอวิหิงสาสัญญา
อวิหิงสาฉันทะเกิดขึ้นเพราะอาศัยอวิหิงสาสังกัปปะ
อวิหิงสาปริฬาหะเกิดขึ้นเพราะอาศัยอวิหิงสาฉันทะ
อวิหิงสาปริเยสนาเกิดขึ้นเพราะอาศัยอวิหิงสาปริฬาหะ
อริยสาวกผู้ได้สดับ เมื่อแสวงหาอวิหิงสาปริเยสนา ย่อม
ปฏิบัติชอบ ๓ ทาง คือ ทางกาย ทางวาจา ทางใจ

             ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษวางคบหญ้าที่ไฟติดแล้วในป่าหญ้าแห้ง
เขารีบดับคบหญ้านั้นด้วยมือและด้วยเท้า เมื่อเป็นเช่นนี้ บรรดาสัตว์มีชีวิตที่อาศัย
หญ้าและไม้อยู่ จึงไม่ถึงความพินาศย่อยยับ อุปมานี้ฉันใด อุปไมยก็ฉันนั้น สมณะ
หรือพราหมณ์คนใดคนหนึ่ง รีบละ บรรเทา ทำให้สิ้นไป ให้ถึงความไม่มีอีกซึ่ง
อกุศลสัญญาที่เกิดขึ้นไม่สม่ำเสมอ สมณะหรือพราหมณ์นั้นย่อมอยู่เป็นสุข ไม่มี
ความอึดอัด ความคับแค้น ความเร่าร้อน ในปัจจุบัน หลังจากตายแล้วพึงหวัง
สุคติได้”

สนิทานสูตรที่ ๒ จบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่