ขอสวัสดีพ่อ แม่ พี่ น้อง ทั่วประเทศอย่างเป็นทางการ ขอแนะนำตัวก่อนละกันครับ ผมชื่อหมี เห้ยย ชื่อไอซ์ครับ (หมีเป็นฉายาที่เพื่อนร่วมงานตั้งให้ ดูเหมือนจะโหด
เพราะอะไรที่เป็นหมีมันโหดมากสำหรับความคิดผม แต่ถ้าเรียกเต็มๆคือ หมีพูห์ สัสสส
)
เอาละมาเข้าเรื่องกันก่อนครับ ก่อนอื่นบอกไว้เลยว่าแรกเริ่มเดิมที ผมน้ำหนักอยู่ที่ราวๆ 120+ มีพลัสด้วยแสดงว่าไม่ธรรมดา ฮ่าๆ เหตุผลจริงๆที่ลดความอ้วนก็เพราะตอนที่อ้วนนั้นเป็นความดันโลหิตสูงครับ ตายละครับอายุไม่เท่าไหร่เป็นความดันโลหิตสูง ในใจตอนนั้นคิดว่าถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ตลอดไป อีกหน่อยตายก่อนแก่แน่ๆ นี่จึงเป็นเหตุผลเริ่มแรกที่ผมตั้งใจจริง และแน่วแน่มากครับในการลดความอ้วน
*** มาดูรูปก่อนที่จะเริ่มกัน หึ่บ หึ่บ ฮ่าๆ
เป็นไงละครับ อ้วน อุบาท เหอะๆ เกินคำบรรยาย
ก่อนจะเริ่มลดน้ำหนักผมศึกษาเรื่องการลดน้ำหนักอย่างมาก อ่าน แล้วก็อ่าน อ่านทุกอย่างที่เป็นความรู้เรื่องการออกกำลังกาย การลดน้ำหนัก และอย่างนึงที่ผมได้จากการอ่านคือ การเข้าใจร่างกายของมนุษย์มากขึ้น ....เอ๊ะ ยังไงละ มาฟังกันครับ
เคยได้ยินโหมดการเอาตัวรอดของคนมั้ยครับ หรือที่ฝรั่งเค้าเรียกกันว่า Starvation mode นี่เป็นความรู้พื้นฐานเลยในการลดน้ำหนัก หลายต่อหลายคนเข้าใจการลดน้ำหนักผิดมาตลอด คือ ...งดอาหารเย็น ไม่กินอาหารเย็นเลย งดข้าว กินน้ำผลไม้แทน ซึ่งนั้นมันก็ดีครับในการกินผักผลไม้ แต่กลับกัน ร่างกายไม่ได้คิดแบบเราคิดครับ ในขณะที่เราอดอาหารเย็น 2 สัปดาห์แรกน้ำหนักจะลง หวบๆเลยครับ เป็นเพราะร่างกายขาดสารอาหาร แต่พอเข้าสัปดาห์ที่ 3 ร่างกายจะเปิดกลไกการป้องกันตนเองเพื่อให้ร่างกายอยู่รอด จะเกิดขึ้นเมื่อเราอดอาหาร ทำให้ร่างกายของเราก็จะไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ซึ่งทำให้ร่างกายเราเข้าใจว่า "เราอยู่ในภาวะการขาดสารอาหาร"
แล้วพอตกอยู่ในสภาวะไกล้ตาย ฮ่าๆ ร่างกายก็จะปรับตัวโดยการ ลดการหลั่งฮอร์โมนไทร็อกซินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย เพื่อจะได้มีพลังงานเก็บเอาไว้ใช้ และเพิ่มการสะสมไขมันให้มากขึ้นเพื่อจะได้สะสมในร่างกายง่ายขึ้น พอกลับมาทานอาหารตามปกติ ร่างกายที่เคยเผาผลาญพลังงานต่ำมาก กลับได้รับพลังงานเพียบ ก็ยิ่งสะสมไขมันมากกว่าเดิม สิ่งที่ตามมาก็คือ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือ ที่เรียกว่า "โยโย่ เอฟเฟค"
ซวยแล้วสิครับ จากผอมลงมา กลายเป็นมาอ้วนกว่าเดิม แล้วช้านนควรจะทำยังไง
- สิ่งแรกที่ควรปรับคือ ลดปริมาณการกินในแต่ละมื้อให้น้อยลง จาก 4 ส่วน เหลือลดลงเหลือ 2/4 หรือ 3/4 ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ทนได้มากก็ปรับเหลือ 2/4 แต่รู้สึกไม่ไหวปรับเหลือ 3/4 แบบนี้รับรอง ยังไงก็ลงครับ
***เอาละ นี้คือรูปหลังจากผมเริ่มลดความอ้วนได้สักระยะนึง อั่นแน่ แอบมีซากซิกแพ็คให้เห็นนิดๆ ฮ่าๆ
แล้วหลังจากนี้แหละครับเป็นจุดเปลี่ยน ที่ผมคิดว่า เห้ยย เราลดความอ้วนมาได้ระดับนึงละ จากที่เคยคิดว่าแค่อยากผอมลงมาหน่อย ตอนนี้ความคิดไปไกลครับ อยากมีกล้ามด้วย นั้นก็ทำให้อ่านแล้วก็อ่านอีกละครับ ข้อมูลทุกอย่างที่หาได้ จากแรกเริ่มเดิมทีลดความอ้วนด้วยการคุมอาหารเพียงอย่างเดียว ***คุมอาหารอย่างเดียวนะครับ*** แต่พอลดมาได้ระดับนึงเริ่มมีการออกกำลังกายพ่วงไปด้วย เพราะจะให้ไปวิ่งตอนน้ำหนักเป็นร้อยคงจะไม่ไหวมั่ง เข่าจะพังซะก่อน กลายเป็นว่าตอนนี้ผมติดวิ่งไปโดยปริยาย วิ่งทุกเช้า ครั้งละประมาณ 10 กิโล บางวันก็เช้าเย็นไปเลย แต่ตอนนี้ผมจะเล่นเวทไปด้วย แต่สไตล์การเล่นเวทของผมไม่ได้เน้นใหญ่ บึกบัก ตัวยังกะ the Hulk แต่จะเน้นความถึก ความคล่องตัวเป็นหลัก ถ้าเป็นเกมส์ก็ไปทางสาย Agi+Vit ฮ่าๆ พูดมามากละไปดูรูปกันดีกว่า
*** ตอนนี้น้ำหนัก 72 ครับ ***
*** ส่วนสองรูปสุดท้ายรีดไขมันอยู่ครับ ตอนนี้น้ำหนัก ณ ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 66 ***
ความจริงมีอะไรอีกเยอะเกี่ยวกับข้อมูลการออกกำลังกาย แต่จะให้มานั่งพิมพ์ยาวๆหลายคนคงขี้เกียจอ่าน
***สุดท้ายก็เป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังคิดจะลดความอ้วน และกำลังพยายามอยู่ ไม่มีอะไรที่สายเกินไปครับ ทุกคนล้ม แต่สามารถลุกขึ้นมาใหม่ได้ ตอนนี้โรคความดันที่เคยเป็นมันกระเด็นไปไหนไม่รู้แล้วครับ สุขภาพแข็งแรงดี ความดันก็ปกติ จากที่เคยกินยาความดันคุมมาตลอด ตอนนี้เลิกกินไปหลายปีละครับ ***มีอะไรอยากปรึกษาเรื่องการลดน้ำหนัก หรืออยากคุยเรื่องการออกกำลังกาย ฟิตเน็ต มาคุยกันได้ครับผม ยินดีตอบคำถามให้ครับ ***
มาอัพเดทให้ครับ รูปปัจจุบัน xx/08/57
อัพเดท : กินยังไง ความคิดเห็นที่ 103 ครับ
อัพเดท : ออกกำลังกายยังไง ความคิดเห็นที่ 123
แชร์ประสบการณ์ลดความอ้วน 120+ เหลือ 66 ทุกคนทำได้ถ้าเริ่มวันนี้
เอาละมาเข้าเรื่องกันก่อนครับ ก่อนอื่นบอกไว้เลยว่าแรกเริ่มเดิมที ผมน้ำหนักอยู่ที่ราวๆ 120+ มีพลัสด้วยแสดงว่าไม่ธรรมดา ฮ่าๆ เหตุผลจริงๆที่ลดความอ้วนก็เพราะตอนที่อ้วนนั้นเป็นความดันโลหิตสูงครับ ตายละครับอายุไม่เท่าไหร่เป็นความดันโลหิตสูง ในใจตอนนั้นคิดว่าถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ตลอดไป อีกหน่อยตายก่อนแก่แน่ๆ นี่จึงเป็นเหตุผลเริ่มแรกที่ผมตั้งใจจริง และแน่วแน่มากครับในการลดความอ้วน
*** มาดูรูปก่อนที่จะเริ่มกัน หึ่บ หึ่บ ฮ่าๆ
เป็นไงละครับ อ้วน อุบาท เหอะๆ เกินคำบรรยาย
ก่อนจะเริ่มลดน้ำหนักผมศึกษาเรื่องการลดน้ำหนักอย่างมาก อ่าน แล้วก็อ่าน อ่านทุกอย่างที่เป็นความรู้เรื่องการออกกำลังกาย การลดน้ำหนัก และอย่างนึงที่ผมได้จากการอ่านคือ การเข้าใจร่างกายของมนุษย์มากขึ้น ....เอ๊ะ ยังไงละ มาฟังกันครับ
เคยได้ยินโหมดการเอาตัวรอดของคนมั้ยครับ หรือที่ฝรั่งเค้าเรียกกันว่า Starvation mode นี่เป็นความรู้พื้นฐานเลยในการลดน้ำหนัก หลายต่อหลายคนเข้าใจการลดน้ำหนักผิดมาตลอด คือ ...งดอาหารเย็น ไม่กินอาหารเย็นเลย งดข้าว กินน้ำผลไม้แทน ซึ่งนั้นมันก็ดีครับในการกินผักผลไม้ แต่กลับกัน ร่างกายไม่ได้คิดแบบเราคิดครับ ในขณะที่เราอดอาหารเย็น 2 สัปดาห์แรกน้ำหนักจะลง หวบๆเลยครับ เป็นเพราะร่างกายขาดสารอาหาร แต่พอเข้าสัปดาห์ที่ 3 ร่างกายจะเปิดกลไกการป้องกันตนเองเพื่อให้ร่างกายอยู่รอด จะเกิดขึ้นเมื่อเราอดอาหาร ทำให้ร่างกายของเราก็จะไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ซึ่งทำให้ร่างกายเราเข้าใจว่า "เราอยู่ในภาวะการขาดสารอาหาร"
แล้วพอตกอยู่ในสภาวะไกล้ตาย ฮ่าๆ ร่างกายก็จะปรับตัวโดยการ ลดการหลั่งฮอร์โมนไทร็อกซินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย เพื่อจะได้มีพลังงานเก็บเอาไว้ใช้ และเพิ่มการสะสมไขมันให้มากขึ้นเพื่อจะได้สะสมในร่างกายง่ายขึ้น พอกลับมาทานอาหารตามปกติ ร่างกายที่เคยเผาผลาญพลังงานต่ำมาก กลับได้รับพลังงานเพียบ ก็ยิ่งสะสมไขมันมากกว่าเดิม สิ่งที่ตามมาก็คือ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือ ที่เรียกว่า "โยโย่ เอฟเฟค"
ซวยแล้วสิครับ จากผอมลงมา กลายเป็นมาอ้วนกว่าเดิม แล้วช้านนควรจะทำยังไง
- สิ่งแรกที่ควรปรับคือ ลดปริมาณการกินในแต่ละมื้อให้น้อยลง จาก 4 ส่วน เหลือลดลงเหลือ 2/4 หรือ 3/4 ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ทนได้มากก็ปรับเหลือ 2/4 แต่รู้สึกไม่ไหวปรับเหลือ 3/4 แบบนี้รับรอง ยังไงก็ลงครับ
***เอาละ นี้คือรูปหลังจากผมเริ่มลดความอ้วนได้สักระยะนึง อั่นแน่ แอบมีซากซิกแพ็คให้เห็นนิดๆ ฮ่าๆ
แล้วหลังจากนี้แหละครับเป็นจุดเปลี่ยน ที่ผมคิดว่า เห้ยย เราลดความอ้วนมาได้ระดับนึงละ จากที่เคยคิดว่าแค่อยากผอมลงมาหน่อย ตอนนี้ความคิดไปไกลครับ อยากมีกล้ามด้วย นั้นก็ทำให้อ่านแล้วก็อ่านอีกละครับ ข้อมูลทุกอย่างที่หาได้ จากแรกเริ่มเดิมทีลดความอ้วนด้วยการคุมอาหารเพียงอย่างเดียว ***คุมอาหารอย่างเดียวนะครับ*** แต่พอลดมาได้ระดับนึงเริ่มมีการออกกำลังกายพ่วงไปด้วย เพราะจะให้ไปวิ่งตอนน้ำหนักเป็นร้อยคงจะไม่ไหวมั่ง เข่าจะพังซะก่อน กลายเป็นว่าตอนนี้ผมติดวิ่งไปโดยปริยาย วิ่งทุกเช้า ครั้งละประมาณ 10 กิโล บางวันก็เช้าเย็นไปเลย แต่ตอนนี้ผมจะเล่นเวทไปด้วย แต่สไตล์การเล่นเวทของผมไม่ได้เน้นใหญ่ บึกบัก ตัวยังกะ the Hulk แต่จะเน้นความถึก ความคล่องตัวเป็นหลัก ถ้าเป็นเกมส์ก็ไปทางสาย Agi+Vit ฮ่าๆ พูดมามากละไปดูรูปกันดีกว่า
*** ตอนนี้น้ำหนัก 72 ครับ ***
*** ส่วนสองรูปสุดท้ายรีดไขมันอยู่ครับ ตอนนี้น้ำหนัก ณ ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 66 ***
ความจริงมีอะไรอีกเยอะเกี่ยวกับข้อมูลการออกกำลังกาย แต่จะให้มานั่งพิมพ์ยาวๆหลายคนคงขี้เกียจอ่าน
***สุดท้ายก็เป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังคิดจะลดความอ้วน และกำลังพยายามอยู่ ไม่มีอะไรที่สายเกินไปครับ ทุกคนล้ม แต่สามารถลุกขึ้นมาใหม่ได้ ตอนนี้โรคความดันที่เคยเป็นมันกระเด็นไปไหนไม่รู้แล้วครับ สุขภาพแข็งแรงดี ความดันก็ปกติ จากที่เคยกินยาความดันคุมมาตลอด ตอนนี้เลิกกินไปหลายปีละครับ ***มีอะไรอยากปรึกษาเรื่องการลดน้ำหนัก หรืออยากคุยเรื่องการออกกำลังกาย ฟิตเน็ต มาคุยกันได้ครับผม ยินดีตอบคำถามให้ครับ ***
มาอัพเดทให้ครับ รูปปัจจุบัน xx/08/57
อัพเดท : กินยังไง ความคิดเห็นที่ 103 ครับ
อัพเดท : ออกกำลังกายยังไง ความคิดเห็นที่ 123