เห็นมีกระทู้หนึ่ง บอกว่าดูรูปอสุภะแล้ว เฉยๆ(รู้สึกสงสาร)....
http://ppantip.com/topic/32005257
มีผู้เข้ามาแนะนำครับว่า ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะ เขามีราคะจริตน้อย...ผมเห็นว่ามันจะไปกันใหญ่
คนที่พูดว่า ดูรูปอสุภะแล้ว เฉยๆ(รู้สึกสงสาร) นี่ผมว่าแกเข้าใจผิดแล้วน่ะ
แต่ไอ้คนที่เข้ามาแนะนำนี่ซิหนักว่าคนแรกเสียอีก........ดันบอกมาได้ว่า เพราะมีราคะจริตน้อย จึงทำให้รู้สึกเฉยๆและสงสาร
ลองคิดดูซิครับ ถ้าเรามองรูปอสุภะที่น่าเกลียดน่ากลัว แล้วเกิดราคะจริตไม่มากก็น้อย
ผมว่าไอ้คนๆนั้น มันน่ากลัวกว่ารูปอสุภะที่กำลังดูก็ได้
กรรมฐานท่านมีไว้แก้กิเลสนิวรณ์ที่กำลังเข้ามาครอบง้ำจิตใจ นี้หมายถึงในขณะที่กำลังมีนิวรณ์
เราจำเป็นต้องหาธรรมหรือกรรมฐานที่ตรงข้ามกันเพื่อมาดับนิวรณ์ตัวนั้นๆ
การหลงรูปคือกามฉันทะเป็นนิวรณ์ รูปที่ว่าไม่ใช่รูปกายของเรา แต่มันหมายถึงรูปภายนอกที่มากระทบ
เช่นเห็นหญิงสวย เห็นผู้ชายมีซิกแผคก็เก็บเอามาคิด นี้แหล่ะเขาเรียกนิวรณ์มันเป็นตัวทำลายสมาธิ
ถ้าเราต้องการดับนิวรณ์ที่กำลังเล่นงานเราอยู่ ดังนั้นตามที่บอกเราต้องเอากรรมฐานหรือธรรมใดธรรมหนึ่งมาดับนิวรณ์นั้น
ถ้าเป็นเรื่องนี้ ก็จำเป็นอยู่เองที่จะใช้อสุภะกรรมฐานมาดับ
สรุปในตอนนี้ก่อนว่า ท่านให้เอารูปอสุภะมาดับรูปราคะที่มันมารบกวนจิตใจในขณะนั้น
ไม่ใช่ให้ดูรูปอสุภะแล้วเอาไปปรุงแต่ง
ความเข้าใจผิด เรื่องอสุภะ ...ตองเก้า
มีผู้เข้ามาแนะนำครับว่า ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะ เขามีราคะจริตน้อย...ผมเห็นว่ามันจะไปกันใหญ่
คนที่พูดว่า ดูรูปอสุภะแล้ว เฉยๆ(รู้สึกสงสาร) นี่ผมว่าแกเข้าใจผิดแล้วน่ะ
แต่ไอ้คนที่เข้ามาแนะนำนี่ซิหนักว่าคนแรกเสียอีก........ดันบอกมาได้ว่า เพราะมีราคะจริตน้อย จึงทำให้รู้สึกเฉยๆและสงสาร
ลองคิดดูซิครับ ถ้าเรามองรูปอสุภะที่น่าเกลียดน่ากลัว แล้วเกิดราคะจริตไม่มากก็น้อย
ผมว่าไอ้คนๆนั้น มันน่ากลัวกว่ารูปอสุภะที่กำลังดูก็ได้
กรรมฐานท่านมีไว้แก้กิเลสนิวรณ์ที่กำลังเข้ามาครอบง้ำจิตใจ นี้หมายถึงในขณะที่กำลังมีนิวรณ์
เราจำเป็นต้องหาธรรมหรือกรรมฐานที่ตรงข้ามกันเพื่อมาดับนิวรณ์ตัวนั้นๆ
การหลงรูปคือกามฉันทะเป็นนิวรณ์ รูปที่ว่าไม่ใช่รูปกายของเรา แต่มันหมายถึงรูปภายนอกที่มากระทบ
เช่นเห็นหญิงสวย เห็นผู้ชายมีซิกแผคก็เก็บเอามาคิด นี้แหล่ะเขาเรียกนิวรณ์มันเป็นตัวทำลายสมาธิ
ถ้าเราต้องการดับนิวรณ์ที่กำลังเล่นงานเราอยู่ ดังนั้นตามที่บอกเราต้องเอากรรมฐานหรือธรรมใดธรรมหนึ่งมาดับนิวรณ์นั้น
ถ้าเป็นเรื่องนี้ ก็จำเป็นอยู่เองที่จะใช้อสุภะกรรมฐานมาดับ
สรุปในตอนนี้ก่อนว่า ท่านให้เอารูปอสุภะมาดับรูปราคะที่มันมารบกวนจิตใจในขณะนั้น
ไม่ใช่ให้ดูรูปอสุภะแล้วเอาไปปรุงแต่ง