เรื่องเต็มน่ารัก ตอนที่ 2/4-2/5 วันพุทธที่ 30/04/2557

กระทู้สนทนา



ไม่นานต่อมา แนวหน้าเดินถือถุงห้างใส่การ์ดวาเลนไทน์ที่ซื้อมาแล้ว เดินลิ่วๆ ไปเจอเข้ากับกลุ่มแฟนคลับไผท ที่ขวางทางจะลงบันไดเลื่อนอยู่เต็ม แนวหน้าพยายามหาทางจะไป แต่ไม่มีใครสน หลีกให้
       “โอ๊ย อะไรเนี่ย คนจะรีบ” พลางยกนาฬิกาขึ้นมาดู “เดี๋ยวไม่ทัน...พี่น้องครับ เอ่อ..เดินกันเร็วๆ หน่อยนะครับ”
       ไม่มีใครสน เอาแต่กรี๊ดๆๆ ส่งเสียงเซ็งแซ่ “ว้ายๆ นั่นๆ ใช่ไหม” / “ใช่ๆ ใช่จริงด้วย” / “ว้าย หล่ออ่ะ ตัวจริงล้อหล่อ” / “อ๊ายๆๆ”
       แนวชักฉุน “นี่ น้องครับ หลีกทางนิสส พี่แนวขอ...”
       แฟนคลับฮือ กรี๊ดๆๆ ดังขึ้นอีก “อ๊ายย...พี่ไผทๆ”
       แนวหน้าถึงกับหยุด สะดุดกึก ก่อนจะรีบชะเง้อมองผ่านฝูงคนไปรำพึงเบาๆ “ไผท!”
       แนวหน้าตะลึงนิ่งอยู่กับที่ มองไผทในชุดสูทขาวหล่อเนี้ยบ เดินยิ้มหวาน ตาเป็นประกาย โบกไม้โบกมือให้บรรดาสาวกที่มาอออยู่หน้าบันไดเลื่อนเพื่อจะเดินลงบันไดมาร่วมงานเปิดตัวหนังเรื่องหนึ่ง
       เสียงพิธีกรดังขึ้น “ขอเชิญท่านได้พบกับพระเอกวัยรุ่นสุด น้องไผท ไพศาลีครับ”
       แฟนคลับร้องวี้ด ร้องกรี๊ดๆๆๆ / “พี่ไผทขา แต่งงานกะหนูนะ” / “พี่ไผท ไอเลิฟยู”
       แนวหน้ายืนกลืนน้ำลายเอื้อก พึมพำ “มันดังขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย”
       
       ที่สุดแนวหน้าหลุดออกจากห้างได้ รีบวิ่งลนลาน แซงคนที่เดินขึ้นลงบันไดสถานีรถไฟฟ้าจ้าละหวั่น บ่นกับตัวเอง เบาๆ
       “เบื๊อกเอ้ย ทำกูช้า..ซวยละ”
       แนวหน้าลิ่วลงมาถึงใต้สถานี ยกนาฬิกาขึ้นดู เหงื่อโทรม มองหาแท็กซี่ กัดฟัน
       “ไม่ทันแล้วโว้ยๆ บ้าเอ้ย..แท๊ก...”
       แนวหน้าโบกรถแท็กซี่คันหนึ่งที่แล่นผ่านมา แต่ไม่จอด เลยหันมองตาม
       “เฮ้ย”
       รถแท็กซี่อีกคันแล่นตรงมาจะจอดเทียบ แนวยิ้มเตรียมตัวขึ้นเ แต่กลับเป็นผู้หญิงสาวผมยาว ขาว หมวย เดินมาโบกตัดหน้า
       “อ้าว...นี่คุณ”
       หญิงคนนั้นหันมา “เอ่อ...คุณโบกเหรอคะ”
       แนวหน้าตะลึง เสียงอ่อนไปทันตา “ก็..ไม่เป็นไร เชิญก่อนครับ” พร้อมกับยิ้มหวาน
       “ขอบคุณค่ะ”
       หญิงสาวขึ้นรถไป แนวหน้ายืนยิ้มมองตาม ก่อนหันมองหาแท็กซี่ต่อ พลันเสียงแตรรถยุโรปคันหนึ่งดังลั่น แนวหน้ามองหา เห็นรถยุโรปยี่ห้อดังจอดเทียบตรงหน้า กระจกรถลดลง ไผทในชุดขาวหล่อชุดเดิมโผล่หน้ามาทักอย่างตื่นเต้น
       “พี่...พี่แนว...ใช่ด้วย”
       แนวหน้าที่เบื้องแรก งงๆ มองจนจำได้ “ผะ..ไผท”
       “ผมคิดแล้วว่าใช่พี่แน่ ไม่ได้เจอซะนานนะครับ พี่เพิ่งเลิกงานหรือครับ”
       “เอ่อ..อืม..ทำไม”
       “นี่พี่จำผมได้หรือเปล่า...ผม ไผท ที่เคยจะมาเล่นละครให้ชมรมพี่เมื่อสองปีก่อน แล้วพี่บอกว่าผมเล่นไม่ได้เรื่องน่ะ”
       “อ๋อ...อ้อ...อ๋อ...จำได้”
       “พอหลังจากพี่ด่าผมวันนั้น ผมก็ได้เป็นดาราอ่ะพี่ พี่เคยดูหนังที่ผมเล่นรึเปล่า...แล้วนี่พี่จะไปไหนครับ ผมจะกลับเข้ามหา’ลัย”
       “เอ้อๆ กะ..กลับบ้านสิ”
       “เอ่อ...งั้นโชคดีนะครับพี่”
       “เค...เออ ไปเหอะ”
       ไผทส่งยิ้มก่อนปิดกระจกลง แล้วออกรถไป แนวหน้าไม่มองตามเบะหน้า บ่นบ้ากับตัวเอง
       “หึ้ย จำผมได้มั้ย...ทำไมต้องจำ...ดังตายละ ไปเป็นดาราได้เพราะหล่อล่ะวะ ไม่ใช่เพราะฝีมือหรอก”
       ป้าคนหนึ่งเดินเข้ามายืนข้างๆ “หล่อนะ เป็นดาราใช่มั้ย”
       แนวหน้าหันขวับไปมอง เขินเล็กๆ “อ้อ...ขอบคุณครับ ไม่ใช่ครับ คือผมไม่ใช่”
       “แต่ป้าจำได้นะ ว่าเป็นดารา ชื่อไผท ไพศาลี ที่ดังๆนั่น ที่ขับรถไปเมื่อกี้...ใช่ๆ ป้าว่าใช่...ใช่มั้ย”
       ป้าเดินบ่นไปยิ้มไป แนวหน้ากลืนน้ำลายเอื้อก
       
       อีกเหตุการณ์ ที่โต๊ะวงเหล้าผับข้างถนนหลังมหา’ลัย ค่ำคืนหนึ่ง แก้วถูกยกชนกัน เป็นกลุ่มก๊วนนักศึกษามหาวิทยาลัยปีสุดท้าย 3-4 คน ในชุดนักเที่ยวราตรีกำลังอ้อแอ้ได้ที่ ร้องเพลงเสียงดัง
       “อกหัก อกหัก อกหักมาพักบ้านนี้..กูเป็นคนดีทำไมอกหัก” แล้วชนแก้วกันอีก
       “เย้ ให้ไอ้ผ่อง” / “เพื่อผ่องเว้ย” / “เลยผ่อง”
       “ดื่มให้วันขมขื่นในวันวาเลนไทน์” นักศึกษา 1 ในก๊วนบอก
       ทุกคนร้องเย้ ชนแก้วอีก
       แนวหน้าเดินลิ่วๆ ผ่านมาพร้อมดอกกุหลาบดอกหนึ่งในมือ
       “เฮ้ยๆ” นักศึกษา 1 เรียกดังลั่น “พี่แนวหน้า...พี่แนว”
       แนวหน้าหันมา “อ้าว...ว่าไง เอ้อ ไอ้ผ่องไอ้ป๋อมไอ้...”
       ทุกคนสวนออกมา “พี่แนวหวัดดีค้าบ”
       นักศึกษา 1 แซว “แหม จบไปนับวันยิ่งหล่อบาดใจสาวจุงเบยนะพี่นะ ผ่องขอฟันธง! มาพร้อมดอกไม้ ในวันแห่ฟามรัก นัดสาวชัวร์!..สาวคนไหนใครรู้บ้าง”
       “รู้เดะ” ทุกคนร้องซะดัง
       แนวหน้าสะดุ้ง “พอๆ ไม่ต้องๆ พี่ไปก่อนนะ...พี่รีบ”
       “รีบไปเลยพี่...คนมีความรักไม่เหมาะกับร้านนี้” นักศึกษา 1 บอก
       “เออ...” แนวหน้าเดินลิ่วๆ ไป
       “อกหัก อกหัก อกหักมาพักบ้านนี้..หน้าตาดี๊ดีก็ยังอกหัก”
       
       ก๊วนหนุ่มอกหักแหกปากร้องเสียงดัง

ทางด้านขิงเดินออกมาหน้าตึกคณะพร้อมเพื่อน นักศึกษาหญิง 2-3 คนที่ในมือมีดอกไม้กันคนดอกสองดอกเพื่อน 1 เอ่ยขึ้นเรื่องแนวหน้า
       
       “นี่ตกลงปู่แนวแกจะไม่มารับแกเหรอวันนี้”
       เพื่อน 2 ว่า “ใจดำอ่ะ”
       “แหม พี่เขาบอกติดงานด่วนมาไม่ทัน” ขิงบอก
       เพื่อน 3 แซว “ขิงแกก็ไม่ได้ดอกไม้วาเลนไทน์ปีนี้เลยอ่ะดิ”
       ขิงออกอาการเขินๆ “บ้าน่า..พี่แนวเขาไม่ได้คิดอะไรกับเราซักหน่อย
       ขณะที่เพื่อนๆ ฮากันอยู่ รถไผทแล่นมาจอดเทียบ ไผทก้าวลงมา มาดอย่างหล่อ
       “เฮ้ สาวๆ นิเทศ ไปไหนกันจ๊ะ”
       เพื่อน 2 กรี๊ดล้อกันเล่น “อ๊าย...ดารา!”
       ขิงทัก “ไผท...นี่เพิ่งเข้ามา หรือจะกลับน่ะ”
       “เพิ่งทำงานเสร็จ เลยแวะเอางานมาส่งที่คณะ แล้วก็กำลังจะกลับ”
       เพื่อน 1 บอก “เหรอ งั้นดีเลย ฝากเพื่อนไปคนสิ ติดรถดาราไปลงรถไฟฟ้า ได้ป่ะ”
       “ได้ มาเลย หลายคนก็ได้ ไผทยินดีบริการ”
       เพื่อนๆ กรี๊ด “หล่อแล้วยังนิสัยดีอีก”
       
       อีกเหตุการณ์ แนวหน้าเดินกึ่งวิ่งมาในมือถือพร้อมดอกไม้ ที่ควักออกมาจากกระเป๋าพร้อมการ์ดที่เพิ่งซื้อมา แล้วหยุดซ้อมลองเสียง
       “น้อง..ฮะแอ้ม น้อง..โอเค น้องขิง น้องขิงครับ..อึ้ย ขนลุก” แนวหน้าออกเดินไปอย่างมั่นใจ
       ขิงและเพื่อนนักศึกษาหญิงยืนอยู่หน้ารถไผทแล้ว
       เพื่อน 1 บอก “ไปขิง แกนั่นละ”
       ขิงงงๆ “อะ อ้าว”
       เพื่อน 2    บอก “ก็รถไอ้ยิ้มไม่ได้ผ่านรถไฟนี่หว่าแก ก็ต้องฝากแกไปกับคันของพระเอกชื่อดังสิ”
       ขิงอิดออด “เฮ่ย...จะดีเหรอ”
       “โอเค มาเลยขิง เราไปส่ง ถึงไหนถึงนั่น” ไผทผลักประตูเปิดให้ “เดี๋ยวนะ ของรก...”
       ไผทเอี้ยวตัวมาเก็บของเบาะข้างคนขับโยนไปหลังรถ มีดอกไม้หลายช่อวางอยู่บนที่นั่งข้างๆ คนขับเต็ม และด้านหลังก็มีทั้งตุ๊กตาหมีและดอกไม้
       “โอ้โห...ดอกไม้เต็มเลยนะ”
       “ก็ ได้มาจากพวกแฟนคลับน่ะ..เอาไว้ไหนดีนะ” ไผทมองเบาะหลังอย่างหมดปัญญาเพราะเต็มเอี๊ยด
       “ขิงถือไว้ให้ก็ได้ ข้างหลังเต็มแล้ว มา...”
       ไผทยิ้มแล้วส่งดอกไม้ให้
       
       ฟากแนวหน้าเดินพ้นมุมถนนมาเห็นเข้าพอดี ชะงัก ตะลึง เห็นเป็นขิงกำลังรับช่อดอกไม้จากไผทซุปตาร์หนุ่มหล่อชื่อเสียงโด่งดัง แถมมองอย่างชื่นชม ก่อนเข้าไปนั่งในรถ คุยหัวเราะสดใส มีเพื่อนๆ โบกไม้โบกมือลา
       ของในมือทั้งหมดของแนวหน้าตกลงพื้น ทุกอย่างตรงหน้า พร่าเลือน หัวใจแตกสลาย
       “ขิง...น้องขิง”
       
       รถของไผทออกตัวแล่นตามถนนมา
       ทันใดนั้นแนวหน้าวิ่งพรวดตัดหน้ารถไผทที่กลางถนน ไผทเหยียบเบรคเอี๊ยดกระชากทันที
       “ว้าย” ขิงหน้าคะมำ
       “พี่แนวหน้า” ไผทตกใจปนงง
       แนวหน้ายืนขวางจังก้าหน้ารถไผท
       “พี่แนวหน้า!” ไผทเปิดประตูออกมา “เป็นอะไรรึเปล่าพี่”
       แนวหน้ากระชากคอเสื้อไผท “ไอ้ไผท...แก...ชั้นดูคนไม่ผิดจริงๆ”
       แนวเหวี่ยงหมัดใส่หน้าไผทจนหงายหลังล้มลงพื้น ขิงตกใจ ตะลึง
       “พี่แนว” ขิงเปิดประตูออกมา
       “เอ้ยพี่...นี่มันอะไรกัน” ไผทงงหนัก
       “แกคิดว่าแกดังนักใช่ไหม ถึงมาใช้ความดังมาล่อลวงใครต่อใครตามใจชอบแบบนี้”
       ขิงตกใจรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร “พี่แนว...ทำไมพูดแบบนั้น”
       “ไม่ใช่แล้วพี่ ผมเปล่า...ผมไม่ได้ล่อลวงใคร”
       “โธ่เอ้ย..เป็นดารานึกว่าเด่นดังกว่าใครล่ะสิ จะบอกให้นะ คนอย่างนายมีแค่หน้าตาอย่างเดียวที่ขายได้ ส่วนฝีมือน่ะไม่เป็นสับปะรดหมาเลย บอกตรงๆ”
       ขิงตะลึงนึกโกรธ “พอได้แล้ว พี่แนว!”
       ไผทกำหมัดแน่น แล้วต่อยแนวหน้าเต็มแรง!! แนวหน้าไม่ทันระวังทรุดฮวบ ไผทมีหน้าตาเจ็บช้ำน้ำใจมาก เดินกลับขึ้นรถ ขิงมองไผทด้วยความเห็นใจแล้ววิ่งตาม
       “ไผท...ไผทคะ รอก่อน”
       รถไผทออกไปอย่างแรง มีขิงนั่งไปด้วย ทิ้งแนวหน้าให้นั่งจมฝุ่นอยู่ที่เดิมกับความหึงหวงที่ยังพลุ่งพล่านอยู่ทั่วกาย พึมพำออกมาเบาๆ
       “ขิง...อย่าไป”

แนวหน้านั่งจ่อมจมขมขื่นเจ็บปวดอยู่กับอดีตในร้านอาหาร
       “แนว...ไอ้แนว” เสียงคุ้นหูของนายดังขึ้น
       แนวหน้าได้สติ เงยหน้ามอง เห็นนายและจีจี้ที่ยืนมองอย่างเป็นห่วง
       “อ้าวเฮีย...รู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่นี่”
       “ยังกับแถวนี้มันมีร้านเยอะนักนี่” จีจี้-ดัน
       “กลับเข้าวังได้แล้ว นายจะไปไหนมาไหนตามใจชอบแบบนี้ไม่ได้นะเว้ย”
       นายดึงแขนแนวหน้าให้ลุก จับตัวไว้
       “ผมไม่ทำนะเฮีย”
       นายชะงักไปนิดหนึ่ง แล้วดึงต่อ
       “เอาไว้พูดทีหลัง...ลุกขึ้นกลับเข้าวังก่อน”
       แนวลุกขึ้นยืนโงนเงน
       “เป็นตายยังไงผมก็ไม่ทำงานชิ้นนี้ ผมเกลียดมัน ไอ้ไผท”
       แนวหน้าพูดจบก็โงนเงนทรงกายไม่อยู่ ล้มคว่ำลงทันทีหมดสติไป ผู้คนตกใจ จีจี้กับนายเข้าประคอง
       
       ประตูห้องพักรับรองในวังหลวงเปิดออก นายและจีจี้ช่วยกันแบกแนวที่เมาหมดสติเข้ามา แล้วทิ้งแนวลงบนเตียง แนวหน้าหลับกรนคร่อกอย่างไร้สติ
       จีจี้กับนาย เหนื่อย มองร่างหมดสภาพของแนวหน้าอย่างหมดปัญญา
       “คุณอย่ามาทำท่าปลงอย่างนี้สิ คุณต้องคุย ออกลูกบังคับ จะขู่หรืออะไรก็ได้ให้มันทำต่อให้ได้”
       “เข็นครกขึ้นดอยน่าจะง่ายกว่า ไอ้นี่มันดื้อจะตาย แล้วท่าทางมันจะเกลียดนายไผทซุปตาร์นั่นจริงๆ”
       “แต่นี่คืองาน และงาน หมายถึงเงิน ชื่อเสียง เกียรติยศ คุณเข้าใจมั้ย เรื่องส่วนตัวอะไรยังไงไม่เกี่ยว เรื่องไผท จีจี้จัดการเองไม่ยาก โชคดีเป็นของเรา ที่ยายฟินมันเป็นผู้จัดการส่วนตัวของไผท ฉะนั้นฉันสามารถล็อคคอมันได้..ส่วนคุณ..แค่บังคับให้ไอ้แนวมันทำงานไปตามนโยบายของเราเท่านั้น”
       “บริษัทนี้ผมเป็นคนก่อตั้ง เจาะกลุ่มลูกค้าผมก็เป็นคนวิ่ง เสนอขายงานผมก็ต้องทำ เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวก็ยังต้องเป็นผมอีกเหรอ” นายชักยั๊ว
       จีจี้ของขึ้น “อ้าว..ทำไมพูดอย่างนี้ล่ะฉันก็วิ่งซกๆๆๆ ไปขายงานจนได้มาแล้วไง เพราะเวลาคุณไปเอง..ก็มีแต่การทะเลาะกับลูกค้า แล้วก็ทำให้เราต้องสูญงานไปทุกที...คุณไม่เคยต่อรอง หรือลดราวาศอกอะไรได้เลย ฉันต่างหากที่กอบกู้งานพวกนั้นคืนมาตลอดๆ”
       กลายเป็นสองคนต้องทะเลาะกัน นายเสียงแข็ง “กอบกู้เหรอ...จะบอกให้นะงานที่คุณเอามาให้ แต่ละงานที่คุณหามามีแต่ลูกค้าห่วยแตก คุณก็มาบีบให้พวกผมต้องยอมมัน”
       “ใช่สิ...ก็เพราะแบบนี้ไง บริษัทเราถึงมีวันนี้ เพราะถ้าไม่ยอมใครแบบคุณ ก็ปิดบริษัทไปได้ตั้งแต่วันแรกแล้ว”
       นายโกรธประชดส่ง “อ้อ..งั้นเหรอ..ความดีทั้งหมด คงเป็นของคุณสินะ”    
       จีจี้เริ่มขึ้นเสียงบ้าง “แน่น้อน...ไอ้งานสารคดีฮวาซานี่ก็ด้วย ฉันเป็นคนคิดว่าต้องนำเสนอแบบนี้ ให้เจ้าหญิงโลลิต้าเข้ามามีส่วนร่วม เห็นมั้ยล่ะ ทางนั้นชอบอกชอบใจใหญ่เลย แล้วเราก็จะได้ทั้งเงิน ทั้งกล่อง และการพีอาร์ตัวเองไปในโลกกว้าง ถ้าเราได้งานนี้ เพราะฉะนั้น เราต้องได้ทำ ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรก็ตาม”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่