เวลาผ่านไปอีกสักระยะ ไผทคุยมือถือกับขิงไปด้วยขณะเดินอยู่ในห้องพักคอนโด
“ขอบใจมากขิง เธอไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนเราหรอก เราอยู่คนเดียวได้”
ขิงยังอยู่ที่ร้าน ขณะกำลังคุยมือถือกับไผท
“ถ้าไผทมีอะไรโทร.หาขิงได้ตลอด 24 ชั่งโมงเลยนะ หรือจะมาหลบที่ร้านเราก็ได้ เดี๋ยวเราเคลียร์ร้านให้”
“ขอบใจมากนะขิง แค่รู้ว่าเรายังมีขิงที่พร้อมจะรับฟัง เราก็ดีใจมากแล้ว”
แนวหน้าอยู่ในนั้นด้วย มองไผทอย่างหมั่นไส้แล้วบ่นพึมพำ
“ไหนว่าไม่ใช่แฟน ทำไมห่วงกันจัง...เอ้อ ไผท แบตพี่จะหมดแล้ว”
ไผทเอามือถือมาดู “ยัง 60 เปอร์เซ็นต์อยู่เลยนะพี่”
“แบตโทสับพี่เสื่อม” แนวหน้าคว้ามือถือจากไผทมาพูด “ขิงแค่นี้ก่อนนะ ไว้มีอะไรแล้วพี่โทรหา” แล้ววางสายทันที
ไผทหันมามองแนวหน้าอย่างชื่นชมราวกับเขาเป็นซูเปอร์ฮีโร่ “เมื่อกี้พี่คิดได้ไง สวมรอยเป็นแฟนก้อย.. สมแล้วที่เคยเป็นประธานชมรมละคร เล่นละครกะล่อนน่าดู”
“อ้าว นี่แกด่าชั้นเหรอ”
“เปล่าครับ ผมจะชมว่าพี่หัวไวต่างหาก ผมไม่มีทางคิดอะไรแบบนี้ได้เด็ดขาด”
“ขอบใจ แต่ก็ยังรู้สึกว่าโดนด่าอยู่ดีว่ะ”
“แล้วพี่ไปบอกนักข่าวอย่างนั้น พี่ไม่กลัวนักข่าวเล่นข่าวพี่ไม่หยุดเหรอ?”
“ชั้นมันพวกโลว์โปรไฟล์ ไม่ใช่ดาราดังเหมือนแก ใครเค้าจะสนใจ” แนวหน้าบอก
“ขอบคุณพี่อีกครั้งนะครับที่ช่วยผม ถ้าเมื่อกี้ไม่ได้พี่ ผมไม่รอดแน่”
“แกคิดว่าฉันจะช่วยแกฟรีๆ เหรอ”
ไผทอึ้ง “อ้าว!”
“แกจำสารคดีที่ชั้นบอกแกได้มั้ย...ทางฮวาซาเค้ารีเควสมาว่าต้องเป็นแกคนเดียวเท่านั้น ยังไงแกก็ต้องไปฮวาซาใต้กับฉัน”
ไผทชะงัก ลังเล คิดว่าจะไปดีมั้ย? แนวหน้าเริ่มหว่านล้อมต่อ
“หรือแกจะไม่ไปก็ได้นะ ก็คอยหลบนักข่าวอยู่ที่นี่ไปเรื่อยๆ ถ้าเค้าสืบรู้ว่าชั้นก็โกหก นักข่าวเค้าก็จะวุ่นวายกับแกอีก แกต้องหนีหัวซุกหัวซุนแน่ๆ”
ไผทชักหวั่นไหว ระหว่างนั้นเองโทรศัพท์มือถือของแนวหน้าก็ดังขึ้น
แนวหน้าเอามือถือขึ้นมาดูเห็นว่าเป็นขิงโทร.เข้ามา แอบเซ็งว่าขิงนี่แหละที่จะไปเป็นเพื่อนไผท
“ฮัลโหล ว่าไงขิง?”
“เปิดทีวีเร็วพี่แนว!” ขิงบอกน้ำเสียงร้อนรนมาก
“ทำไม มีอะไร”
แนวหน้ารีบคว้ารีโมทมากดเปิดทีวีทันที เห็นข่าวในทีวีเป็นรายการ สองสาวเล่าเรื่อง กำลังรายงานข่าวไผท
พิธีกร 1 เปิดเรื่องเล่า “ฉาวไม่หยุด อีกแล้วค่ะคุณ ทั้งเรื่องถูกฉีกสัญญาเพราะคลิปที่ถูกปล่อยออกมา ล่าสุดน้องไผทหลบหน้าจนไม่ไปทำงาน ปิดโทรศัพท์หนีเลยจ้า ทั้งๆ ที่มีคิวงานเยอะแยะ ทั้งละคร ทั้งถ่ายแบบ ทั้งโชว์ตัว งานอีว้งอีเว้นท์อีกเพียบ ล่าสุดพี่ป้อมผู้กำกับถึงกับปรี๊ดแตกเลยทีเดียว”
พิธีกร 2 เสริมส่งกันไป “จะปรี๊ดแตกขนาดไหน เรามีภาพสัมภาษณ์มาให้ชมกันค่ะ”
ไผทหน้าตาตื่นตกใจมาก มองจ้องทีวี
ภาพจากสตูดิโอ เป็นภาพการสัมภาษณ์ผู้กำกับในกองถ่าย มีไมค์รวมของนักข่าวช่องนู่นนี่นั่น หัวไมค์เท่าฝาหม้อจากช่องบันเทิงยื่นใส่หน้าอยู่นับไม่ถ้วน
“เค้าแอบแว้บไปรับงานนอกทั้งๆ ที่ เรากำลังถ่ายอยู่ครับ วันนั้นที่กองต้องเบรครอเค้าคนเดียวอยู่ 3 ชั่วโมง... แล้ววันนี้มีถ่ายเค้าก็ไม่รับโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้เลย”
นักข่าวซัก “แล้วผู้จัดการส่วนตัวของไผทว่าไงบ้างคะ”
“ก็แก้ตัวไปตามเรื่อง ผมเบื่อกับคำแก้ตัวเขาเต็มทีแล้วครับ!...แล้วมันไม่ใช่ครั้งแรก มันเป็นอย่างนี้มาตลอด ผมเลยปรึกษากับผู้จัดว่าเราจะเปลี่ยนตัวพระเอกดีกว่า ที่ถ่ายไปแล้วก็ถ่ายใหม่ เสียเงินดีกว่าเสียเวลากับดาราที่ไม่มีความรับผิดชอบ...ถ้าไผทดูอยู่ พี่บอกไว้ตรงนี้เลยนะว่า วงการนี้มันแคบ หน้าตาดีอย่างเดียวมันอยู่ได้ไม่นานหรอก!! จำเอาไว้” ผู้กำกับคู่ปรับฟินบอกตามเนื้อผ้า
ไผทช็อก แนวหน้าชักสงสารขึ้นมาหน่อย เอารีโมทมาปิดโทรทัศน์
“พี่ว่าเขาโกรธผมมากไหม?”
แนวหน้าแอบเซ็งว่า เมริงยังจะถามโง่ๆ อีก! แต่จำต้องพูดดีเพราะหวังเกลี้ยกล่อมไผท
“เค้าอาจจะกำลังโมโหก็ได้ อย่าเพิ่งคิดมาก รอให้พี่เขาเย็นลงกว่านี้เราค่อยเข้าไปขอโทษเขาดีกว่า ระหว่างนี้เราก็หายไปสักพักรอให้เรื่องเงียบค่อยว่ากันใหม่”
“แต่ผมหายไปไม่ได้หรอก”
แนวหน้าเซ็ง เผลอหลุดปากหมา “แล้วแกจะอยู่ไปทำไมวะ?! จะไปทานตอนนี้ได้ยังไง เค้าด่าขนาดนี้แล้วยังจะต้องแคร์อะไรอีก แล้วอีกอย่าเค้าก็คงหาพระเอกมาแทนแกได้ไม่ยากหรอก ดาราสมัยนี้หล่อๆถามเถไป”
ไผทมองแนวหน้าอย่างน้อยใจที่ไม่เคยให้เครดิตกันเลย ไผทเดินไปหยิบเอกสารขึ้นมาฉบับหนึ่งก่อนจะมาส่งให้แนวหน้า
ไผทท่าทางโกรธสุดขีด “ที่ผมบอกว่าผมไปไหนไม่ได้ เพราะผมติดไอ้นี่ต่างหาก สัญญาของผมกับพี่ฟิน ผมไปไหนไม่ได้ถ้าไม่ได้รับความเห็นชอบจากพี่ฟิน”
แนวหน้าอึ้ง หยิบมาดู
รถตู้จอดเทียบหน้าสตูดิโอ ฟินเดินหน้ามุ่ยออกมาจากสตูฯ จะขึ้นรถตู้ คนขับมารอปิดประตูให้
ฟินสั่งการแค้นๆ “รีบไปคอนโดไผทเดี๋ยวนี้เลย!”
รถอีกคันหนึ่งขับปราดเข้ามาจอดต่อท้ายรถตู้ แล้วบีบแตรเหมือนทัก ฟินชะงักหันไป เห็นจีจี้ลงจากรถมาทักทายเสียงหวาน
“เจ๊ฟินคะ...เจ๊ฟินคนสวย”
ฟินหน้าบึ้งตึงเปรี๊ยะ แหวใส่ “มาทำไม? บอกแล้วไงว่าเราไม่เคยรู้จักกัน”
“เจ๊...อย่าโกรธขนาดนี้สิ ฟังหนูอธิบายก่อน”
“ไม่ใช่แค่ชั้นคนเดียวนะนังจี้ที่เดือดร้อนเพราะแก ตอนนี้ทุกคนในบริษัทชั้นรวมทั้งเด็กคนอื่นๆ ในสังกัดก็กำลังจะพังเพราะแก!”
ฟินขึ้นรถตู้ แล้วปิดประตูอย่างฉุนเฉียว รถตู้ขับออกไป จีจี้รีบกลับไปที่รถแล้วขับรถตามไป
ไผทออกจากประตูพร้อมกระเป๋าใบโต เห็นแนวหน้ายืนเซ็งอยู่ มีกระเป๋าใบใหญ่อีกใบวางอยู่ข้างๆ
“เรียบร้อยแล้วใช่ไหมจะได้ไปกันซักที” แนวหน้าจะช่วยเข็นกระเป๋า
“เดี๋ยวพี่!” แนวหน้าชะงัก หันมาเซ็งๆ “ยังมีกระเป๋าอีกใบครับ”
ไผทเดินเข้าห้องนอนไปเข็นกระเป๋าเดินทางใบเล็กออกมาอีกใบ
“เรียบร้อยครับ”
“นี่แกจะย้ายบ้านเหรอเนี่ย”
แนวหน้าทำหน้าไม่อยากจะเชื่อว่าไผท จะขนอะไรไปมากมายขนาดนี้
รถตู้ฟินมาจอดเทียบหน้าคอนโด รถของจีจี้ขับตามมาติดๆ
“นี่แกจะตามมาทำไมเนี่ย!”
“หนูจะตามจนกว่าเจ๊จะยอมฟังเรื่องทั้งหมดเมื่อวานนี้”
ฟินหงุดหงิดขี้เกียจทะเลาะ เดินเข้าคอนโดไปทันที จีจี้เดินตามฟินไปไม่ลดละ
ฟินกับจีจี้กดลิฟต์ ลิฟต์เปิดออก แนวหน้ากับไผทกำลังออกมา สองคนผงะเพราะเห็นฟินกับจีจี้ยืนอยู่
แนวหน้าร้อง “เฮ้ย!”
ฟิน กะจีจี้อุทาน “ไผท!”
ฟินพุ่งเข้ามาหาไผททันที
“ไผท! ปิดโทรศัพท์ทำไม แล้วทำไมไม่ติดต่อพี่?” เห็นกระเป๋าเดินทางไผทเลยงง “แล้วนี่จะไปไหน”
ไผทอึกอักไม่รู้จะตอบยังไง
แนวหน้าช่วยกู้สถานการณ์ “จะไปไหนก็ช่าง เพราะไผทไม่ใช่เด็กในสังกัดคุณอีกต่อไป”
ฟินเม้งมองตาเขียว “นี่นายเป็นใครถึงมาพูดจาแบบนี้ !!! ไผทเป็นเด็กของชั้น ใครๆ ก็รู้”
แนวหน้าต่อปาก “แต่คงไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว”
“นี่...ทำไมพูดจาน่าตบปากยังงี้หา!”
ไผทหน้าเสีย “คือ...พี่ฟินฮะ สัญญาที่พี่ให้น้ากล้วยเอามาให้...ผมยังไม่ได้เซ็นครับ”
ฟินตะลึง “อะไรนะ!”
แนวหน้ากวนโทสะสุดขีด “นอกจากจะไม่ได้ต่อสัญญาแล้ว ผมก็ยังฉีกสัญญาพี่ทิ้งไปแล้วด้วยครับ”
“ใจร้ายเกินไปแล้วแนว แกจะมาฉกตัวไผทไปแบบนี้ไม่ได้นะ! ไผทมากับพวกพี่” จีจี้โมโห
“จะไปไหน ไผทมากับพี่”
ฟินลืมความโกรธ มาชวยจีจี้ดึงไผท
“พี่จะไม่ปล่อยไผทไปกับคนอื่นเด็ดขาด”
จีจี้ลากตัวไผทออกไป แนวหน้าดึงมือไผทอีกข้างไว้ ฟินเข้ามาช่วยฝั่งจีจี้ ทั้งสามคนยื้อไผทไปมา
“โอ๊ย หยุด”
ไผทสะบัดมือทั้งสองข้างจนหลุดจากการยื้อแย่งของทั้งสองฝ่าย
“ผมเป็นคนนะ ไม่ใช่ตุ๊กตา จะได้มาแย่งกันแบบนี้”
แนวหน้าเหลือบมองไปทางประตูบันไดหนีไฟแล้วคิดได้
“ไผทมาทางนี้”
แนวหน้าดึงไผทจนเสียหลักมาทางหน้าบันไดหนีไฟ
“แกจะหนีไปไหน”
จีจี้เข้าไปดึงแนวหน้าไว้แทน ฟินก็รีบเข้ามาดึงไผท สองคู่ 4 คน ยื้อยุดกันวุ่นวาน
“ไผท เหวี่ยงเข้าไปเลย” แนวหน้าสั่ง
ทุกคนหันมามองแนวหน้างงๆ แนวหน้าผลักประตูบันไดหนีไฟแล้วเหวี่ยงจีจี้เข้าไปก่อน ไผทยืนตะลึง แนวหน้ารีบผลักเจ๊ฟินตามไปติดๆ
จีจี้กับฟินจะเปิดประตูกลับเข้ามาในตึกแต่เปิดไม่ได้
“แนว เปิดประตู” / “ไผทเปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ”
แนวหน้าตะโกนไปที่ประตูอย่างสะใจ “เกมของเรามันจบแล้วเจ๊ และผมกับพี่นายก็คือผู้ชนะ ฮ่าๆๆๆ!” แนวหน้าบอกกับไผท “ไปเหอะ”
ไผทชักเห็นใจฟิน “แต่...ทำอย่างนี้จะดีเหรอพี่แนว”
“ไม่มีเวลามานั่งสงสารคนอื่นแล้ว รีบไปกันเถอะ”
แนวหน้ารีบหยิบเป้แล้วลากกระเป๋าใบใหญ่ของไผทไป ไผทหยิบเป้ตัวเองแล้วลากกระเป๋าอีกใบตามแนวหน้าไปอย่างลังเล
ฝ่ายจีจี้กับฟินทุบประตูบันไดหนีไฟ พัลวัน จีจี้แหกปากร้องลั่น
“แนว! แนว! เปิดให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ ทำไมมันเปิดไม่ได้ล่ะ”
ฟินทั้งโกรธทั้งเหนื่อย หันมาโวยวายใส่จีจี้ “นังจี้ แกรู้จักผู้ชายคนนั้นใช่มั้ย มันเป็นใคร”
“เค้าเป็นน้องชายแฟน เอ๊ย! แฟนเก่าหนูเอง แต่หนูเลิกกับมันไปเรียบร้อยแล้ว ไอ้แนวมันคงจะมาแย่งไผทไปจากหนู ตามคำสั่งพี่ชายของเค้า”
ฟินมองจีจี้ตาขวาง
“แสดงว่า...เรื่องทั้งหมดนี่...เกิดขึ้นเพราะแกอีกแล้ว” ฟินแค้นโผเข้าบีบคอจีจี้ “ตายซะเถอะ!”
จีจี้ดิ้นรน สะบัดจนหลุด “ปล่อยหนู หนูไม่รู้เรื่องนะเจ๊”
“แกต้องเอาไผทคืนมาให้ได้ ไม่อย่างนั้น ชั้นจะเชือดแกทีละชิ้นๆ แล้วเอาน้ำเกลือราด”
“ก็หนูกำลังหาทางช่วยเจ๊อยู่นี่ไง!” จีจี้คิดปราด “มันฉกตัวไผทได้ เราก็ฉกกลับสิ”
“แล้วแกรู้เหรอว่ามันจะพาไผทไปไหน?”
“หนูไม่รู้หรอกว่ามันสองคนจะไปหลบที่ไหน แต่หนูรู้ว่ามันกำลังจะไปที่ไหนกัน!”
จีจี้เสียงกร้าวตาวาววับ มุ่งมั่นสุดพลัง ไม่มีทางที่หล่อนจะยอมแพ้นายและแนวหน้าเด็ดขาด
เรื่องเต็มน่ารักตอนที่ 6/1 วันพุธ 14/05/2557
เวลาผ่านไปอีกสักระยะ ไผทคุยมือถือกับขิงไปด้วยขณะเดินอยู่ในห้องพักคอนโด
“ขอบใจมากขิง เธอไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนเราหรอก เราอยู่คนเดียวได้”
ขิงยังอยู่ที่ร้าน ขณะกำลังคุยมือถือกับไผท
“ถ้าไผทมีอะไรโทร.หาขิงได้ตลอด 24 ชั่งโมงเลยนะ หรือจะมาหลบที่ร้านเราก็ได้ เดี๋ยวเราเคลียร์ร้านให้”
“ขอบใจมากนะขิง แค่รู้ว่าเรายังมีขิงที่พร้อมจะรับฟัง เราก็ดีใจมากแล้ว”
แนวหน้าอยู่ในนั้นด้วย มองไผทอย่างหมั่นไส้แล้วบ่นพึมพำ
“ไหนว่าไม่ใช่แฟน ทำไมห่วงกันจัง...เอ้อ ไผท แบตพี่จะหมดแล้ว”
ไผทเอามือถือมาดู “ยัง 60 เปอร์เซ็นต์อยู่เลยนะพี่”
“แบตโทสับพี่เสื่อม” แนวหน้าคว้ามือถือจากไผทมาพูด “ขิงแค่นี้ก่อนนะ ไว้มีอะไรแล้วพี่โทรหา” แล้ววางสายทันที
ไผทหันมามองแนวหน้าอย่างชื่นชมราวกับเขาเป็นซูเปอร์ฮีโร่ “เมื่อกี้พี่คิดได้ไง สวมรอยเป็นแฟนก้อย.. สมแล้วที่เคยเป็นประธานชมรมละคร เล่นละครกะล่อนน่าดู”
“อ้าว นี่แกด่าชั้นเหรอ”
“เปล่าครับ ผมจะชมว่าพี่หัวไวต่างหาก ผมไม่มีทางคิดอะไรแบบนี้ได้เด็ดขาด”
“ขอบใจ แต่ก็ยังรู้สึกว่าโดนด่าอยู่ดีว่ะ”
“แล้วพี่ไปบอกนักข่าวอย่างนั้น พี่ไม่กลัวนักข่าวเล่นข่าวพี่ไม่หยุดเหรอ?”
“ชั้นมันพวกโลว์โปรไฟล์ ไม่ใช่ดาราดังเหมือนแก ใครเค้าจะสนใจ” แนวหน้าบอก
“ขอบคุณพี่อีกครั้งนะครับที่ช่วยผม ถ้าเมื่อกี้ไม่ได้พี่ ผมไม่รอดแน่”
“แกคิดว่าฉันจะช่วยแกฟรีๆ เหรอ”
ไผทอึ้ง “อ้าว!”
“แกจำสารคดีที่ชั้นบอกแกได้มั้ย...ทางฮวาซาเค้ารีเควสมาว่าต้องเป็นแกคนเดียวเท่านั้น ยังไงแกก็ต้องไปฮวาซาใต้กับฉัน”
ไผทชะงัก ลังเล คิดว่าจะไปดีมั้ย? แนวหน้าเริ่มหว่านล้อมต่อ
“หรือแกจะไม่ไปก็ได้นะ ก็คอยหลบนักข่าวอยู่ที่นี่ไปเรื่อยๆ ถ้าเค้าสืบรู้ว่าชั้นก็โกหก นักข่าวเค้าก็จะวุ่นวายกับแกอีก แกต้องหนีหัวซุกหัวซุนแน่ๆ”
ไผทชักหวั่นไหว ระหว่างนั้นเองโทรศัพท์มือถือของแนวหน้าก็ดังขึ้น
แนวหน้าเอามือถือขึ้นมาดูเห็นว่าเป็นขิงโทร.เข้ามา แอบเซ็งว่าขิงนี่แหละที่จะไปเป็นเพื่อนไผท
“ฮัลโหล ว่าไงขิง?”
“เปิดทีวีเร็วพี่แนว!” ขิงบอกน้ำเสียงร้อนรนมาก
“ทำไม มีอะไร”
แนวหน้ารีบคว้ารีโมทมากดเปิดทีวีทันที เห็นข่าวในทีวีเป็นรายการ สองสาวเล่าเรื่อง กำลังรายงานข่าวไผท
พิธีกร 1 เปิดเรื่องเล่า “ฉาวไม่หยุด อีกแล้วค่ะคุณ ทั้งเรื่องถูกฉีกสัญญาเพราะคลิปที่ถูกปล่อยออกมา ล่าสุดน้องไผทหลบหน้าจนไม่ไปทำงาน ปิดโทรศัพท์หนีเลยจ้า ทั้งๆ ที่มีคิวงานเยอะแยะ ทั้งละคร ทั้งถ่ายแบบ ทั้งโชว์ตัว งานอีว้งอีเว้นท์อีกเพียบ ล่าสุดพี่ป้อมผู้กำกับถึงกับปรี๊ดแตกเลยทีเดียว”
พิธีกร 2 เสริมส่งกันไป “จะปรี๊ดแตกขนาดไหน เรามีภาพสัมภาษณ์มาให้ชมกันค่ะ”
ไผทหน้าตาตื่นตกใจมาก มองจ้องทีวี
ภาพจากสตูดิโอ เป็นภาพการสัมภาษณ์ผู้กำกับในกองถ่าย มีไมค์รวมของนักข่าวช่องนู่นนี่นั่น หัวไมค์เท่าฝาหม้อจากช่องบันเทิงยื่นใส่หน้าอยู่นับไม่ถ้วน
“เค้าแอบแว้บไปรับงานนอกทั้งๆ ที่ เรากำลังถ่ายอยู่ครับ วันนั้นที่กองต้องเบรครอเค้าคนเดียวอยู่ 3 ชั่วโมง... แล้ววันนี้มีถ่ายเค้าก็ไม่รับโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้เลย”
นักข่าวซัก “แล้วผู้จัดการส่วนตัวของไผทว่าไงบ้างคะ”
“ก็แก้ตัวไปตามเรื่อง ผมเบื่อกับคำแก้ตัวเขาเต็มทีแล้วครับ!...แล้วมันไม่ใช่ครั้งแรก มันเป็นอย่างนี้มาตลอด ผมเลยปรึกษากับผู้จัดว่าเราจะเปลี่ยนตัวพระเอกดีกว่า ที่ถ่ายไปแล้วก็ถ่ายใหม่ เสียเงินดีกว่าเสียเวลากับดาราที่ไม่มีความรับผิดชอบ...ถ้าไผทดูอยู่ พี่บอกไว้ตรงนี้เลยนะว่า วงการนี้มันแคบ หน้าตาดีอย่างเดียวมันอยู่ได้ไม่นานหรอก!! จำเอาไว้” ผู้กำกับคู่ปรับฟินบอกตามเนื้อผ้า
ไผทช็อก แนวหน้าชักสงสารขึ้นมาหน่อย เอารีโมทมาปิดโทรทัศน์
“พี่ว่าเขาโกรธผมมากไหม?”
แนวหน้าแอบเซ็งว่า เมริงยังจะถามโง่ๆ อีก! แต่จำต้องพูดดีเพราะหวังเกลี้ยกล่อมไผท
“เค้าอาจจะกำลังโมโหก็ได้ อย่าเพิ่งคิดมาก รอให้พี่เขาเย็นลงกว่านี้เราค่อยเข้าไปขอโทษเขาดีกว่า ระหว่างนี้เราก็หายไปสักพักรอให้เรื่องเงียบค่อยว่ากันใหม่”
“แต่ผมหายไปไม่ได้หรอก”
แนวหน้าเซ็ง เผลอหลุดปากหมา “แล้วแกจะอยู่ไปทำไมวะ?! จะไปทานตอนนี้ได้ยังไง เค้าด่าขนาดนี้แล้วยังจะต้องแคร์อะไรอีก แล้วอีกอย่าเค้าก็คงหาพระเอกมาแทนแกได้ไม่ยากหรอก ดาราสมัยนี้หล่อๆถามเถไป”
ไผทมองแนวหน้าอย่างน้อยใจที่ไม่เคยให้เครดิตกันเลย ไผทเดินไปหยิบเอกสารขึ้นมาฉบับหนึ่งก่อนจะมาส่งให้แนวหน้า
ไผทท่าทางโกรธสุดขีด “ที่ผมบอกว่าผมไปไหนไม่ได้ เพราะผมติดไอ้นี่ต่างหาก สัญญาของผมกับพี่ฟิน ผมไปไหนไม่ได้ถ้าไม่ได้รับความเห็นชอบจากพี่ฟิน”
แนวหน้าอึ้ง หยิบมาดู
รถตู้จอดเทียบหน้าสตูดิโอ ฟินเดินหน้ามุ่ยออกมาจากสตูฯ จะขึ้นรถตู้ คนขับมารอปิดประตูให้
ฟินสั่งการแค้นๆ “รีบไปคอนโดไผทเดี๋ยวนี้เลย!”
รถอีกคันหนึ่งขับปราดเข้ามาจอดต่อท้ายรถตู้ แล้วบีบแตรเหมือนทัก ฟินชะงักหันไป เห็นจีจี้ลงจากรถมาทักทายเสียงหวาน
“เจ๊ฟินคะ...เจ๊ฟินคนสวย”
ฟินหน้าบึ้งตึงเปรี๊ยะ แหวใส่ “มาทำไม? บอกแล้วไงว่าเราไม่เคยรู้จักกัน”
“เจ๊...อย่าโกรธขนาดนี้สิ ฟังหนูอธิบายก่อน”
“ไม่ใช่แค่ชั้นคนเดียวนะนังจี้ที่เดือดร้อนเพราะแก ตอนนี้ทุกคนในบริษัทชั้นรวมทั้งเด็กคนอื่นๆ ในสังกัดก็กำลังจะพังเพราะแก!”
ฟินขึ้นรถตู้ แล้วปิดประตูอย่างฉุนเฉียว รถตู้ขับออกไป จีจี้รีบกลับไปที่รถแล้วขับรถตามไป
ไผทออกจากประตูพร้อมกระเป๋าใบโต เห็นแนวหน้ายืนเซ็งอยู่ มีกระเป๋าใบใหญ่อีกใบวางอยู่ข้างๆ
“เรียบร้อยแล้วใช่ไหมจะได้ไปกันซักที” แนวหน้าจะช่วยเข็นกระเป๋า
“เดี๋ยวพี่!” แนวหน้าชะงัก หันมาเซ็งๆ “ยังมีกระเป๋าอีกใบครับ”
ไผทเดินเข้าห้องนอนไปเข็นกระเป๋าเดินทางใบเล็กออกมาอีกใบ
“เรียบร้อยครับ”
“นี่แกจะย้ายบ้านเหรอเนี่ย”
แนวหน้าทำหน้าไม่อยากจะเชื่อว่าไผท จะขนอะไรไปมากมายขนาดนี้
รถตู้ฟินมาจอดเทียบหน้าคอนโด รถของจีจี้ขับตามมาติดๆ
“นี่แกจะตามมาทำไมเนี่ย!”
“หนูจะตามจนกว่าเจ๊จะยอมฟังเรื่องทั้งหมดเมื่อวานนี้”
ฟินหงุดหงิดขี้เกียจทะเลาะ เดินเข้าคอนโดไปทันที จีจี้เดินตามฟินไปไม่ลดละ
ฟินกับจีจี้กดลิฟต์ ลิฟต์เปิดออก แนวหน้ากับไผทกำลังออกมา สองคนผงะเพราะเห็นฟินกับจีจี้ยืนอยู่
แนวหน้าร้อง “เฮ้ย!”
ฟิน กะจีจี้อุทาน “ไผท!”
ฟินพุ่งเข้ามาหาไผททันที
“ไผท! ปิดโทรศัพท์ทำไม แล้วทำไมไม่ติดต่อพี่?” เห็นกระเป๋าเดินทางไผทเลยงง “แล้วนี่จะไปไหน”
ไผทอึกอักไม่รู้จะตอบยังไง
แนวหน้าช่วยกู้สถานการณ์ “จะไปไหนก็ช่าง เพราะไผทไม่ใช่เด็กในสังกัดคุณอีกต่อไป”
ฟินเม้งมองตาเขียว “นี่นายเป็นใครถึงมาพูดจาแบบนี้ !!! ไผทเป็นเด็กของชั้น ใครๆ ก็รู้”
แนวหน้าต่อปาก “แต่คงไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว”
“นี่...ทำไมพูดจาน่าตบปากยังงี้หา!”
ไผทหน้าเสีย “คือ...พี่ฟินฮะ สัญญาที่พี่ให้น้ากล้วยเอามาให้...ผมยังไม่ได้เซ็นครับ”
ฟินตะลึง “อะไรนะ!”
แนวหน้ากวนโทสะสุดขีด “นอกจากจะไม่ได้ต่อสัญญาแล้ว ผมก็ยังฉีกสัญญาพี่ทิ้งไปแล้วด้วยครับ”
“ใจร้ายเกินไปแล้วแนว แกจะมาฉกตัวไผทไปแบบนี้ไม่ได้นะ! ไผทมากับพวกพี่” จีจี้โมโห
“จะไปไหน ไผทมากับพี่”
ฟินลืมความโกรธ มาชวยจีจี้ดึงไผท
“พี่จะไม่ปล่อยไผทไปกับคนอื่นเด็ดขาด”
จีจี้ลากตัวไผทออกไป แนวหน้าดึงมือไผทอีกข้างไว้ ฟินเข้ามาช่วยฝั่งจีจี้ ทั้งสามคนยื้อไผทไปมา
“โอ๊ย หยุด”
ไผทสะบัดมือทั้งสองข้างจนหลุดจากการยื้อแย่งของทั้งสองฝ่าย
“ผมเป็นคนนะ ไม่ใช่ตุ๊กตา จะได้มาแย่งกันแบบนี้”
แนวหน้าเหลือบมองไปทางประตูบันไดหนีไฟแล้วคิดได้
“ไผทมาทางนี้”
แนวหน้าดึงไผทจนเสียหลักมาทางหน้าบันไดหนีไฟ
“แกจะหนีไปไหน”
จีจี้เข้าไปดึงแนวหน้าไว้แทน ฟินก็รีบเข้ามาดึงไผท สองคู่ 4 คน ยื้อยุดกันวุ่นวาน
“ไผท เหวี่ยงเข้าไปเลย” แนวหน้าสั่ง
ทุกคนหันมามองแนวหน้างงๆ แนวหน้าผลักประตูบันไดหนีไฟแล้วเหวี่ยงจีจี้เข้าไปก่อน ไผทยืนตะลึง แนวหน้ารีบผลักเจ๊ฟินตามไปติดๆ
จีจี้กับฟินจะเปิดประตูกลับเข้ามาในตึกแต่เปิดไม่ได้
“แนว เปิดประตู” / “ไผทเปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ”
แนวหน้าตะโกนไปที่ประตูอย่างสะใจ “เกมของเรามันจบแล้วเจ๊ และผมกับพี่นายก็คือผู้ชนะ ฮ่าๆๆๆ!” แนวหน้าบอกกับไผท “ไปเหอะ”
ไผทชักเห็นใจฟิน “แต่...ทำอย่างนี้จะดีเหรอพี่แนว”
“ไม่มีเวลามานั่งสงสารคนอื่นแล้ว รีบไปกันเถอะ”
แนวหน้ารีบหยิบเป้แล้วลากกระเป๋าใบใหญ่ของไผทไป ไผทหยิบเป้ตัวเองแล้วลากกระเป๋าอีกใบตามแนวหน้าไปอย่างลังเล
ฝ่ายจีจี้กับฟินทุบประตูบันไดหนีไฟ พัลวัน จีจี้แหกปากร้องลั่น
“แนว! แนว! เปิดให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ ทำไมมันเปิดไม่ได้ล่ะ”
ฟินทั้งโกรธทั้งเหนื่อย หันมาโวยวายใส่จีจี้ “นังจี้ แกรู้จักผู้ชายคนนั้นใช่มั้ย มันเป็นใคร”
“เค้าเป็นน้องชายแฟน เอ๊ย! แฟนเก่าหนูเอง แต่หนูเลิกกับมันไปเรียบร้อยแล้ว ไอ้แนวมันคงจะมาแย่งไผทไปจากหนู ตามคำสั่งพี่ชายของเค้า”
ฟินมองจีจี้ตาขวาง
“แสดงว่า...เรื่องทั้งหมดนี่...เกิดขึ้นเพราะแกอีกแล้ว” ฟินแค้นโผเข้าบีบคอจีจี้ “ตายซะเถอะ!”
จีจี้ดิ้นรน สะบัดจนหลุด “ปล่อยหนู หนูไม่รู้เรื่องนะเจ๊”
“แกต้องเอาไผทคืนมาให้ได้ ไม่อย่างนั้น ชั้นจะเชือดแกทีละชิ้นๆ แล้วเอาน้ำเกลือราด”
“ก็หนูกำลังหาทางช่วยเจ๊อยู่นี่ไง!” จีจี้คิดปราด “มันฉกตัวไผทได้ เราก็ฉกกลับสิ”
“แล้วแกรู้เหรอว่ามันจะพาไผทไปไหน?”
“หนูไม่รู้หรอกว่ามันสองคนจะไปหลบที่ไหน แต่หนูรู้ว่ามันกำลังจะไปที่ไหนกัน!”
จีจี้เสียงกร้าวตาวาววับ มุ่งมั่นสุดพลัง ไม่มีทางที่หล่อนจะยอมแพ้นายและแนวหน้าเด็ดขาด