มติชนออนไลน์ รายงานว่า วันที่ 28 พ.ย. ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ พระราชบัญญัติ เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่น ของประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประธานกรรมการและกรรมการการเลือกตั้ง ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินและผู้ตรวจการแผ่นดิน ประธานกรรมการและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และประธานกรรมการและกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2555
ทั้งนี้ เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมบัญชีอัตราเงินเดือน และเงินประจำตำแหน่งของประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประธานกรรมการและกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ประธานกรรมการและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และประธานกรรมการและกรรมการการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
โดยปรับอัตราเงินเดือนเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละสาม ร้อยละห้า ร้อยละสี่ และร้อยละห้า เพื่อให้สอดคล้องกับ การปรับเงินเดือนภาครัฐ และในกรณีที่มีการปรับอัตราเงินเดือนเพิ่มเป็นร้อยละเท่ากันทุกอัตราไม่เกินร้อยละสิบของอัตราที่ใช้บังคับอยู่ สมควรให้กระทำได้โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา รวมทั้งเปลี่ยนชื่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ของรัฐสภา เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐
จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
หากคำนวณ อัตราเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง
ประธานศาลรัฐธรรมนูญ 1 คน กับ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 8 ตน
ประธานกรรมการการเลือกตั้ง 1 คนกับ กรรมการการเลือกตั้ง 3 คน
ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน 1 คน ผู้ตรวจการแผ่นดิน 2 คน
ประธาน ป.ป.ช. 1 คน กับ กรรมการป.ป.ช. 8 คน
ประธานการตรวจเงินแผ่นดิน 1 คน กับกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน 9 คน(ยังไม่มี)
เบ็ดเสร็จแล้ว 1 ปี รัฐต้องจ่ายเงินให้บุคคลเหล่านี้
เท่ากับ 503,185,200 บาท
เปิดเงินเดือน/เงินประจำตำแหน่ง อัตราใหม่ "ศาลรธน.และองค์กรอิสระ รู้หรือไม่1ปีรัฐต้องควักจ่ายเท่าไร?
ทั้งนี้ เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมบัญชีอัตราเงินเดือน และเงินประจำตำแหน่งของประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประธานกรรมการและกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ประธานกรรมการและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และประธานกรรมการและกรรมการการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
โดยปรับอัตราเงินเดือนเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละสาม ร้อยละห้า ร้อยละสี่ และร้อยละห้า เพื่อให้สอดคล้องกับ การปรับเงินเดือนภาครัฐ และในกรณีที่มีการปรับอัตราเงินเดือนเพิ่มเป็นร้อยละเท่ากันทุกอัตราไม่เกินร้อยละสิบของอัตราที่ใช้บังคับอยู่ สมควรให้กระทำได้โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา รวมทั้งเปลี่ยนชื่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ของรัฐสภา เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐
จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
หากคำนวณ อัตราเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง
ประธานศาลรัฐธรรมนูญ 1 คน กับ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 8 ตน
ประธานกรรมการการเลือกตั้ง 1 คนกับ กรรมการการเลือกตั้ง 3 คน
ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน 1 คน ผู้ตรวจการแผ่นดิน 2 คน
ประธาน ป.ป.ช. 1 คน กับ กรรมการป.ป.ช. 8 คน
ประธานการตรวจเงินแผ่นดิน 1 คน กับกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน 9 คน(ยังไม่มี)
เบ็ดเสร็จแล้ว 1 ปี รัฐต้องจ่ายเงินให้บุคคลเหล่านี้
เท่ากับ 503,185,200 บาท