ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร.... หวังว่าตอนจบจะสวยงาม...

กระทู้สนทนา
ดิฉันขอแชร์เรื่องชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร....ของดิฉันให้อ่านแบบย่อๆนะคะ
         ดิฉันเกิดในครอบครัวที่เรียกได้ว่าไม่มีความอบอุ่นเลยก็ว่าได้ค่ะ ดิฉันเรียนจบ ม.3 เคยเรียนต่อ ม.4-5 ก็ต้องออกกลางคันคือไม่มีเงินไปโรงเรียน  ดิฉันออกจากบ้านมาตั้งแต่อายุ 17 ปี ทำงานส่งตัวเองเรียนโดยไม่เคยขอเงินพ่อแม่ซักบาท จนเรียนจบปวช. ตอนนี้ทำงานบริษัท เงินเดือนก็ไม่ได้มากมายไรมากค่ะแต่ก็ พอเลี้ยงตัวเองได้ กำลังเก็บเงิน เรียนต่อ ป.ตรี ความฝันของดิฉันคือ เป็นครูค่ะ (ต้องเป็นให้ได้!)
         คนที่น่าสงสารสุดคือน้องชายดิฉัน น้องเรียนจบแค่ ป. 6 ค่ะ ต้องมาทำงานหาเลี้ยงตัวเองตั้งแต่อายุ 12 ปี น้องทำงานเป็นลูกจ้างร้านโทสับ จนตอนนี้ อายุ 20 ปี แตต่ตอนนี้เป็นเถ่าแก่แล้วค่ะ มีร้านเป็นของตัวเอง แวะไปใช้บริการได้ค่ะ ที่ บขส.ลพบุรี ชื่อร้านสิงห์เทเลโฟน์ ค่ะ
#พอพ่อกะแม่แยกทาง ปัญหามันไม่ได้จบแค่นั้นค่ะ  ทั้งพ่อแม่ติดเหล้าทั้ง 2 คนค่ะ
        แม่ก็ไปมีแฟนใหม่รักแฟนใหม่มากยิ่งกว่าลูกทำให้หมดทุกอย่าง ให้ได้หมดทุกอย่างทั้งเงินทอง ตอนนี้แม่อายุ 42 ค่ะ แกเป็นโรคประสาทเอาง่ายๆเลยค่ะ เพราะแกเป็นคนเครียดบ่อย แกก็ต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยค่ะ เงินทองเหมารถ ไปเยี่ยมจะใครล่ะค่ะ ถ้าไม่ใช่ดิฉัน อีกอย่างแกใช้เงินเก่งมาก จริงๆแกเป็นโรคประสาทชนิด 1เรียกว่า โรคไบโพล่าร์ Bipolar คนสองบุคลิก เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย  ทะเลอะกับยายประจำร่วมทั้งชาวบ้านข้างเคียง ถึงกะจะฆ่ากันเลยค่ะ จริงๆแกไม่ถึงกับบ้ามากขนาดนั้น เป็นช่วงๆค่ะ แกรู้หมดค่ะ รู้เรื่องทึกอย่าง ความจำเป็นเลิศ แต่พูดง่ายๆก็เหมือนคนไม่ค่อยเต็มล่ะค่ะ ตอนนี้ก็เบาลงหน่อยแกไปยุกะแฟนแกที่ ชัยภูมิ ยายหรือชาวบ้านอาจจะดูๆมีความสุขบ้าง ปัญหาที่แกสร้างไว้ให้ดิฉันก็สุดๆค่ะ เอาที่นาไปจำ 50,000 บาทเอาเงินมาใช้เล่น แจกคนไปทั่ว 3 วันใช้หมดค่ะ ติดหนี้ตามร้านค้าหมู่บ้านต่างๆร่วมก็หลายหมื่นค่ะ ทั้งค่าปุ๋ย ค่ารถ โน้นนี้นั้นที่แก ติดเค้าไว้ เยอะอ่ะ ขอพักเรื่องแม่ไว้ก่อนค่ะค่ะ
        มาเล่าถึงพ่อบ้าง  พ่อติดเหล้ามากค่ะ กินจึงประสาทเสียเหมือนกัน ต้องเข้าจิตเวช เป็น 10 กว่าครั้งค่ะ ไปเยี่ยม เงินค่ารถ จะใครค่ะ ดิฉันอีกตามเคย ตอนนี้แกอายุ 46 ค่ะ อาจ...นะค่ะ จะหายดี เลิกเหล้าแล้วเพราะดีหน่อยแกมีเมียใหม่ แล้วเมียใหม่ดูจะรักแกดี

*อย่าหาว่าดิฉันเ่อาพ่อแม่มาประจานนะค่ะ ดิฉันไม่ได้ว่าพ่อแม่ไม่ดีเลยค่ะ แต่สิ่งที่ท่านทั้ง 2ทำลงไปท่านอาจจะมีเหตุผลของท่านยุซึ่งเราเองก็ไม่รู้
เศร้า
บางที่ดิฉันก็น้อยเนื้อต่ำใจค่ะ ที่ตัวเองไม่มีครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนครอบครัวคนอื่นเค้า บางคนมีพ่อแม่จ้างมาเรียนเราก็ ทำไมน่าาาา เราไม่มีพ่อแม่จ้างมาเรียนเหมือนเค้าบ้าง อยากได้ไรก็แบมือของเงินพ่อแม่อย่างเีดียว บางทีเหนี่อยหรือไม่ไหว เจอเรื่องราวมากมาย ร้องไห้คนเดียวบ่อยค่ะ เพราะไม่ที่ปรึกษา แต่ก็พยายามเข้มแข็งทำไรจะมีสติ คิดถึงหน้ายาย เอาไว้ค่ะ เป้าหมายของชีวิตของฉันไม่ต้องการไรมากมายค่ะ ของแค่มีงานทำ มีเงิน ส่งเสียเลี้ยงดูยาย พ่อแม่ให้กินอยู่สะบายแค่นี้ดิฉันก็ดีใจแล้ว ขอแค่นี้จริงๆค่ะ
       ไม่ว่าจะเป็นยังไงดิฉันคิดว่าพ่อแม่คือผู้ให้กำเนิดเราค่ะ ถ้าเราไม่มีพ่อแม่เราก็ไม่ได้เกิดแน่นอนค่ะ ไม่ว่าพ่อแม่จะทำไรเราต้องรับผิดชอบทุกอย่าง แน่อนเลยค่ะ ถ้าเราพอจะทำได้เราก็ต้องทำค่ะ หน้าของพ่อแม่ท่านอาจจะทำไม่ดี หรือไม่ดีเลย แต่เีราเป็นลูกค่ะ เราต้องหน้าที่เราคือเลี้ยงดูพ่อแม่ แค่ใช้หนี้ให้พ่อแม่เป็นเงินทอง กับบุญคุณที่แกให้กำเนิดเรามันยังทดแทนไม่พอเลยค่ะ กตัญญูกตเวทีคือเครื่องหมายของคนดีค่ะ เยี่ยมเราทำบุญ 10 วัด 9 วัดก็ไม่เท่าทำดีกับ พ่อแม่น่ะค่ะ เราทำดีกะพ่อแม่ แน่นอนค่ะ ผลบุญนั้นยิ่งใหญ่หนัก ไม่ว่าจะทำไรเราก็เจริญ รุ่งเรือง เห็นผลไม่ช้าไม่ชาตินี้ ชาติหน้าเราต้องได้เกิดในที่ภพภูมิดีๆแน่นอนค่ะ
        หลายครั้ง พ่อเข้าโรงพยาบาล ดิฉันต้องลางานไปเฝ้าพ่อ เป็นอาทิด ทั้งเช็ดตัว ป้อนเข้า ทำทุกอย่าง พ่อหายดีหลับมาำทำงาน เลยซื้อหวยเล่นๆถูกหวยอย่างไม่น่าเชื่อ โดนไป หมื่นกว่าบาท 555+ ลองสังเกตูตัวเองดูอ่ะค่ะเวลาไปดูแลพ่อหรือยายมักโชคดีตลอด ถ้าช่วงหยุดยาวกลับบ้านทีต้องอาบน้ำให้ยายตลอดค่ะ ยายก็จะอวยพรให้เป็นสิริแก่ตัวเองจริงๆค่ะ ชีวิตของดิฉันก็ถือว่าดีน่ะค่ะ ทำไรก็ดีถึงตกทุกข์ได้ยาก ลำบากไรก็จะมีคนยื่นมือเข้ามาช่วยตลอดค่ะ
         ดิฉันบอกกับตัวเองทุกวันค่ะ จะไม่คิดคิดมาก ถึงแม้ชีวิตคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะใช้ชีวิตในแบบของเราได้ ถ้าเราเลือกไม่ได้ เราก็ควรที่จะต่อสู้กับมันให้ถึงที่สุดไปเลยค่ะ...
เม่าบัลเล่ต์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่