เล่ม 1
เล่ม 2
บทนำ
บทที่
1
ตอนนี้ยาวหน่อย ส่วนนึงเอาไปทำอนิเมตอนที่ 2 ครับ เป็นบทที่ใจจริงอยากให้เอามาทำแบบเต็มๆ เลย
ระหว่างอ่าน ขอให้เอาหมอนมาไว้ใกล้ๆ ตัวด้วย 1 ใบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทที่ 2 เดทครั้งแรก ฉลองครบรอบ 1 เดือน
1ヶ月記念な初デート
“Ohayō Water Dragon!” [Note: おはよウォータードラゴン!]
วันอาทิตย์ที่นัดเดทกัน ผมมารอเจอกับริกกะที่หน้าบ้านของเธอตอน 10 โมงเช้า
พอริกกะเห็นผมก็รีบวิ่งมาหาทันที รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอนั้นทำให้รู้สึกว่าน่ารักกว่าปกติถึง 3 เท่าเลย แล้วเธอก็พูดคาถาอะไรซักอย่างที่ผมไม่รู้ความหมายนั่นทักทายกับผม
“ดูเท่ดีแปลกๆ นะ!? แต่เดี๋ยวสิ Water Dragon จริงๆ แล้วมันดูเหมือนอิกัวน่านะ….ใช่มั้ย?”
การทักทายกันตอนเช้ากลายเป็นการรับส่งมุกกันไปแล้ว เอาเถอะ นี่ก็เป็นบรรยากาศปกติ เป็นการพูดคุยกันตามปกติอยู่แล้วนี่นะ
“ทำให้รอรึเปล่า?”
“เปล่านี่ ไม่ได้รอนานอะไรเลยซักนิด”
ผมโกหกไปนิดหน่อย นี่ก็เพื่อรักษาน้ำใจด้วยน่ะนะ เพราะเป็นเดทครั้งแรกทั้งที จะให้มาสายนี่ไม่สมควรอย่างยิ่งเลย
“เอ่อ คือ วันนี้ก็ดูเจ๋งดีนะ! เสื้อนั่นน่ะ”
ด้วยความอายผมเลยไม่กล้ามองหน้าพูดชมเธอ สายตาตอนนี้ล่องลอยไปทั่วเลย
“อืม! ก็พยายามเต็มที่นี่นา!”
ริกกะดูเหมือนจะดีใจกับคำชมที่ไม่เป็นเรื่องเป็นราวของผม
ผมยิ้มให้เธออย่างเขินๆ
ชุดของริกกะในวันนี้นั้น จะเรียกว่าเป็นชุดสำหรับเดทก็ได้ ดูประณีตงดงาม แต่ก็ยังมีจุดที่ดูหยาบๆ อยู่หน่อยเหมือนกัน ถึงผมจะให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอก แต่ว่าถ้าชุดนั้นของเธอมันทำให้เคลื่อนไหวได้สะดวกก็ดีแล้วล่ะ เจ้ามินิสเกิร์ตลายตารางสีดำนั่นก็น่ะ ยังไงก็ตาม แม้ว่ามันจะดูทั้งน่ารักและดูเท่ในเวลาเดียวกันดีก็จริง แต่มันก็ทำให้ผมอยากถามเหมือนกันว่า ถ้าแบบนั้นแล้วใส่ Pants Look ไปเลยไม่ดีกว่ารึไงนะ เอ้อ จะยังไงก็ช่างมันละกัน [Note : パンツルック Pants Look กางเกงแฟชั่นขายาวของผู้หญิง]
เหนือขึ้นมาช่วงบน ก็เป็นชุดที่เน้นสีดำที่เธอชอบเป็นหลัก เสื้อเชิ้ตสีดำ แล้วยังกระเป๋าพาดไหล่สีดำนั่นยิ่งทำให้ดูมีแต่สีดำเข้าไปใหญ่เลย แต่มันก็ดูเข้ากันดีกับเธอแหละนะ
ส่วนแขนซ้ายเธอก็ยังคงพันผ้าพันแผลไว้เหมือนทุกครั้ง แต่วันนี้ไม่มีผ้าคาดตา เผยให้เห็นจาโอชินกังชัดเจน
พูดถึงสิ่งที่ดูแปลกไปอีกอย่างคือ เธอผูกริบบิ้น 2 อัน หรือก็คือตอนนี้เธออยู่ในทรงทวินเทล ความน่ารักนั่นมากเกินกว่าที่ผมจะหาคำอะไรมาอธิบายได้เลย
ถ้าให้พูดแบบไม่อายล่ะก็ ––– น่ารักที่สุดในโลกเลยล่ะ!
“ว่าแต่ว่ายูตะ วันนี้จะยังไงต่อดีล่ะ?”
ไม่มีคำขอบคุณที่พูดชมอะไรเลยแฮะ….ถึงจะกะไว้แล้วก็เถอะ แต่ก็รู้สึกเสียดายหน่อยๆ เหมือนกัน
“เอ๊ะ เอ่อ นั่นขอเก็บเป็นความลับจนกว่าจะไปถึงที่ละกัน แล้วก็นะ ชั้นคิดว่าจะไปกันด้วยจักรยานน่ะนะ พอจะซ้อนท้ายไปได้รึเปล่า ?”
พูดเสร็จผมก็ชี้ไปที่จักรยาน เป็นจักรยานแม่บ้านธรรมดาๆ
แต่พูดจริงๆ คือมีดัดแปลงนิดหน่อย เพราะผมติดเบาะรองนั่งเพิ่มไว้ข้างหลังเพื่อวันนี้เลย
เพื่อให้มันกลายเป็น 2 ที่นั่งยังไงล่ะ
ริกกะพอมองเห็นแล้วก็ชี้นิ้วไปทางจักรยานแม่บ้านนั่นด้วยท่าทางตกตะลึงแบบสุดๆ
“อุ นั่นมันมังกรพาหนะของยูตะ! มีนามว่าอะไรงั้นเหรอ?”
“ยังไม่มีชื่อน่ะ กำลังคิดอยู่”
“งั้นให้ชั้นเอง –––”
ก็นะ เพราะคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าริกกะจะต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ ผมเลยแกล้งพูดแบบเมื่อกี้ขึ้นมา
ต้องเอาใจใส่กับการเดทให้มากเข้าไว้ เคยได้ยินมาว่าอย่างนั้นน่ะนะ
“เรื่องชื่อน่ะ อยากจะให้รอเอาไว้ทีหลังซักหน่อยนะ”
ริกกะที่ไม่คิดว่าจะโดนขัดจังหวะในทันทีแบบนี้ ส่งสายตาสงสัยมาทางผม
“ทำไมล่ะ?”
“อันนั้นก็เอาไว้คุยกันทีหลังนะ พอถึงตอนนั้นแล้ว จะคุยเรื่องอะไรกันก็ได้ รวมถึงเรื่องนี้ด้วย แต่ตอนนี้รีบไปกันก่อนเถอะนะ”
“ถ้ายูตะพูดแบบนั้นล่ะก็ ตกลงตามนั้น”
พูดเสร็จ เธอก็ไปนั่งที่เบาะหลังจักรยาน ทำตัวนิ่งเงียบราวกับเป็นตุ๊กตา แล้วก็ส่งสายตามาเหมือนกับจะบอกว่า “เร็วๆ เข้าสิ ––”
แล้วผมก็ขึ้นจักรยาน เอากระเป๋าที่สะพายไว้ใส่ตะกร้าข้างหน้า เตรียมพร้อมที่จะออกเดินทาง
“เอาล่ะ ไปล่ะนะ”
“ปลดปล่อยระบบขับเคลื่อนพญามาร เตรียมการฝ่าวงล้อมเสร็จสิ้น ยูตะ All green, Go !” [Note: 魔王術式解放。出撃準備完了。勇太、オールグリーン。ゴー。]
“………..”
เธอเล่นทำให้มันดูเหมือนกับกำลังอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดซะจริงจังจนผมตบมุกกลับไม่ได้เลย อีแบบนี้มันตบมุกกลับยากจริงๆ แฮะ แถมแบบนี้มันเหมือนกับว่าจะต้องเจอสัญญาณไฟสีเหลืองเป็นอันถัดไปแน่ๆ เลย
พอริกกะให้สัญญาณเสร็จ เธอก็เอามือโอบกอดรอบเอวผมเอาไว้แน่น ทำให้ผมรู้สึกได้ถึงน้ำหนักตัวที่ต่างไปจากตอนที่ขี่ซ้อนกัน 2 คนก่อนหน้านี้เลย เรื่องน้ำหนักน่ะคงไม่ต่างอะไรกันนักหรอก แต่ความรู้สึกน่ะมันต่างกันลิบเลย [Note: ในเล่มแรก ที่ซ้อนท้ายกัน ริกกะไม่ได้กอดยูตะไว้]
รู้สึกมีความสุขตามที่คิดไว้ –– ไม่สิ สุขเหลือล้นเลยล่ะ
แต่พอเราดูเหมือนคู่รักกันแบบนี้แล้ว มันก็ทำให้ความตึงเครียดพุ่งขึ้นพรวดเลยเหมือนกัน
“เอาล่ะ ลุยกันเลย!”
ผมเริ่มถีบจักรยานเต็มแรง ไม่นานจักรยานก็แล่นฉิวไปเลย แต่ก็มีเสียงร้องเพลงที่ทำเอาผมหมดแรงดังมาจากข้างหลัง
“Go–Go–Heaven–♪”
นั่นทำเอาผมเกือบล้มไปเลย อารมณ์สนุกสนานที่ไม่คาดคิดนั่นกลายเป็นทำให้ผมต้องระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้นมาทันที
“ไม่ต้องห่วง เราไม่ได้ไปที่นั่นกันหรอกนะ”
“? Go–Go–Inferno–♪”
“ไหงไปเลือกอะไรที่มันฟังไม่รื่นหูล่ะเนี่ย!?”
ที่จริงเธอควรจะเลือกว่า Hell สิถึงจะถูก ไม่ใช่ละ ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่อยากจะไปนรกเด็ดขาดเลย [Note: เข้าใจว่ายูตะมันเล่นมุก Heaven へぶん, กับ Hell へル ขึ้นด้วย へ เหมือนกัน 2 พยางค์เหมือนกัน]
แต่เอาเถอะ จากที่ได้ยินเธอฮัมเพลงออกมาแบบนี้ ท่าทางริกกะคงจะอารมณ์ดีน่าดู นั่นทำให้ผมรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน
“จะว่าไปนะ เอ่อ…. นั่งตรงนั้นน่ะ เจ็บรึเปล่า?”
“ไม่มีปัญหา เข็มขัดนิรภัยใช้ได้ดี แต่ทัศนวิสัยไม่ดีเลย”
“ช่วยทนเรื่องการมองเห็นไปก่อนนะ แล้วก็ไม่ต้องห่วงอะไรหรอกนะ ชั้นเน้นเรื่องขับขี่ปลอดภัยเป็นหลักอยู่แล้วล่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก เพราะความตายของยูตะก็คือความตายของชั้นเหมือนกัน”
……อื๋อ?
เหมือนกำลังพูดอยู่กับคาซาริจังเลย แถมวันนี้ความตึงเครียดมันพุ่งขึ้นสูงจนผมไม่สามารถจะตบมุกได้เลย จะให้ตอบอะไรกลับดีล่ะเนี่ย ถึงที่เธอพูดมาเหมือนจะเป็นเรื่องดีก็จริง แต่ก็เป็นบทสนทนาที่ดีใจไม่ลงเหมือนกันแฮะ หลังจากลังเลอยู่พักนึง ผมก็ตอบไปว่า
“ฮึ ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ชั้นจะเป็นคนปกป้องริกกะเอง! แม้ว่าจะมีราชาปีศาจโผล่มา ชั้นก็จะกำจัดมันให้ดู!”
ผมตัดสินใจพูดให้มันดูเท่ พยายามทำให้มันไม่ดูร่าเริงจนเกินไปจนน่าหัวเราะ
ผมคิดว่าจะได้ยินริกกะตอบกลับมาว่า “สมแล้วที่เป็นยูตะ คู่ทำสัญญาของชั้น!” อะไรแบบนั้น แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ดังมาจากข้างหลังเลย
ไม่มีเสียงพูดคุยหรืออะไรทั้งสิ้นเลย เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ……?
ตอนนี้ผมไม่สามารถมองเห็นหน้าเธอได้เลย
“เอ่อ ริกกะซัง?”
“….อืม ช่วยปกป้องชั้นด้วย”
หลังจากพูดด้วยเสียงอันแผ่วเบาแล้ว ริกกะก็เอาหน้าผากแนบเข้ากับหลังของผม
อืมม เป็นการตอบกลับต่างจากที่คิดไว้จนรู้สึกอายเลยจริงๆ……
ถึงจะรู้สึกดีที่ได้ยินคำพูดน่าอายนั่น แต่มันก็ทำให้เราทั้งคู่ นิ่งเงียบกันไปเลย ในระหว่างที่เงียบกันอยู่นั้น ผมก็เพิ่มความเร็วจักรยานขึ้น แต่ขณะที่ผมกำลังคิดว่าความเร็วเพิ่มจนได้ที่แล้ว สัญญาณไฟตรงหน้าผมมันก็ดันเปลี่ยนเป็นสีแดงซะนี่
ผมก็เลยหยุดปั่น
แล้วริกกะก็เป็นคนที่พูดเพื่อทำลายความเงียบเชียบนี้
“แต่ว่า ยูตะน่ะเป็นราชาปีศาจนะ เพราะฉะนั้นศัตรูต้องเป็นพวกผู้กล้าไม่ก็สาวน้อยเวทมนตร์สิ หรือศัตรูก็คือผู้กล้าสาวน้อยเวทมนตร์ไงล่ะ” [Note: 魔法勇者少女 Mahou Yuusha Shoujo]
ขณะที่ผมกำลังจะพูดอะไรกลับ สัญญาณไฟก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวพอดี
ผมถีบเต็มแรง แล้วก็ขี่จักรยานต่อไป จากนั้นก็กลับมาตอบริกกะ
“สุดท้ายก็จับเอามารวมกันซะงั้นนะ….ฮะฮะ ถ้ามีผู้กล้าเป็นศัตรูนี่คงเป็นอะไรที่แปลกใหม่น่าดูเลย แต่ว่านะ ถ้าหากเป็นเกมทั่วไปละก็ ชั้นก็ต้องโดนกำจัดแน่นอนเลยล่ะ”
“จะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นหรอก เพราะยูตะมีชั้นอยู่ด้วย จึงแข็งแกร่งที่สุด ไม่มีทางแพ้หรอก”
“ฮะฮะฮะ นั่นสินะ มีริกกะอยู่ทั้งคน ไม่มีทางรู้สึกว่าจะแพ้เลย”
“แน่นอน เพราะชั้นเองก็แข็งแกร่งที่สุดไงล่ะ”
ริกกะพูดออกมาอย่างเด็ดขาดสุดๆ
ถึงจะมองไม่เห็นก็เถอะ แต่ก็พอจะจินตนาการใบหน้าเธอในตอนนี้ออกเลยว่าคงกำลังเคลิ้มจนลืมตัวอยู่แน่ๆ
“เอ้อ พอมานึกๆ ดูแล้ว ช่วงนี้ไม่เห็นใช้งานจาโอชินกังเลยนี่ ถึงจะเปิดตา 2 ข้างไว้ตลอดแบบนั้นก็เถอะนะ มีเหตุผลอะไรรึเปล่า?”
“นั่นไม่เป็นความจริงเลย เพราะพลังของจาโอชินกังนั้นถูกปลดปล่อยอยู่ตลอดเวลาเป็นปกติอยู่แล้ว อย่างตอนนี้ที่จริงแล้วชั้นก็ยังแอบอ่านใจของยูตะได้อยู่เลย”
“พึ่งจะเคยได้ยินพลังนั่นเป็นครั้งแรกเลยนะ! แถมเป็นพลังที่ไม่น่าพิสมัยเท่าไรเลยนะนั่น!”
“ยูตะกำลังคิดจะพูดว่า <โอ้ววววววววววว! ชั้นกำลังจะข้ามพ้นความเร็วเสียงแล้ว แน่ล่ะนะ ก็เพราะชื่อของมันคือ เคล็ดวิชาแห่งข้า อสนีบาตสลาตันฟ้าคำรณ>” [Note: 俺式疾風雷電光石火 Ore Shiki Shippu Jinrai Denkou Sekka]
“มันเหมือนสภาพอากาศมากเกินไปจนน่าหงุดหงิดเลยนะนั่น นี่ถ้าชื่อท่าเป็นแบบพวก เคล็ดวิชาแห่งข้า Final Heaven ละก็ มันจะยิ่งดูเหมือนเซ้นส์ตั้งชื่อท่าของชั้นซะจนน่าหงุดหงิดมากเข้าไปอีกเลย แต่ชั้นไม่ได้จะพูดอะไรแบบนั้นซะหน่อย! ไม่ได้คิดเลยด้วย!”
“<ทะ ทำไมถึงรู้ได้กัน!? นี่จาโอชินกังนั้นแข็งแกร่งที่สุดจริงๆ หรือนี่!?>”
“มาต้องมาพูดทำเหมือนกับกำลังอ่านใจชั้นเลยนะ!”
แถมมีเนียนพูดว่าตัวเองแข็งแกร่งที่สุดได้อีกแน่ะ
เป็นคนที่ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือเลยจริงๆ
“ฟู่ว พลังนี้เป็นพลังต้องห้ามที่ปกติจะไม่ได้ใช้ เพราะงั้นวางใจได้เลย แต่เพราะยูตะพูดมาว่าชั้นไม่ได้ใช้พลังอยู่ ก็เลยลองใช้ให้ดูเท่านั้นเอง”
“เหมือนได้รู้ในสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องรู้ไปซะแล้วแฮะ…..”
“<แย่จริงๆ แฮะ แข็งแกร่งสุดๆ เลย…..!>”
“อ๊า ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ดีนี่นา…..”
(Chunibyou LN Vol 2) บทที่ 2 เดทครั้งแรก ฉลองครบรอบ 1 เดือน
เล่ม 2
บทนำ
บทที่ 1
ตอนนี้ยาวหน่อย ส่วนนึงเอาไปทำอนิเมตอนที่ 2 ครับ เป็นบทที่ใจจริงอยากให้เอามาทำแบบเต็มๆ เลย
ระหว่างอ่าน ขอให้เอาหมอนมาไว้ใกล้ๆ ตัวด้วย 1 ใบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้