เล่ม 1 เล่ม 2
เล่ม 3 บทที่
1 2 3
บทนี้ยาวหน่อยนะครับ และ.....เธอคนนั้น...... มาแล้วครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทที่ 4 ชมรมการละครอันเป็นเอกเทศ
個性派演劇部
“นี่ยูตะ พักนี้รู้สึกว่าน่าเบื่อนะ––––––”
“พวกเราน่ะเหรอ!?”
จู่ๆ อย่าพูดเรื่องน่าเศร้าขึ้นมาจะได้มั้ยเนี่ย ทำเอาอยากรู้สึกร้องไห้ขึ้นมาแว่บนึงเลยนะ!
ที่รุ่นพี่อามานิจิพูดไว้เมื่อวาน ที่ว่าช่วงเวลาที่คบหากันประมาณ 3 เดือนถึงครึ่งปีนั้นเป็นช่วงที่อันตรายที่สุด หมายถึงแบบนี้เองเรอะ!?
ผมเองก็ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนก็เลยไม่รู้อะไรเท่าไร แต่นี่แปลว่ามีแค่ผมงั้นเหรอที่คิดไปเองว่าความสัมพันธ์มันเป็นไปอย่างราบรื่นน่ะ……..!?
หลังจากตอนนั้น
หรือก็คือเมื่อวาน ทันทีที่รุ่นพี่อามานิจิแซวผมเล่นอย่างหนักหน่วงจนสมใจแล้ว รุ่นพี่อามานิจิก็พูดออกมาว่า “ขอโทษด้วยนะที่อยู่นานถึงขนาดนี้น่ะ ต้องขอโทษจริงๆ! งั้นก็ ไว้เจอกันนะ!” แล้วก็รีบกลับไปอย่างเร่งรีบ
แต่ผมก็ยังต้องขอร้องให้กลับออกไปทางประตูหน้าน่ะนะ
แล้วก็มาถึงตอนนี้ ช่วงพักกลางวัน
อยู่ในระหว่างทานข้าวกลางวันกันตามลำพัง 2 คนบนดาดฟ้าอาคารเรียน
จะว่าไปแล้วที่ดาดฟ้านี่ –––––– ถึงจะมีโอกาสที่จะมีคนขึ้นมาด้วยเหมือนกันก็จริง แต่ดูเหมือนเพราะบนดาดฟ้ามันร้อนก็เลยไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น (พวกเราที่ขึ้นมานี่จะเรียกว่าเป็นพวกแปลกประหลาดก็คงได้แหละนะ) และก็ยังไม่เคยเจอใครคนอื่นที่ดาดฟ้านี่มาก่อนเลยด้วยเหมือนกัน
เพราะงั้น มันก็เลยพอจะเรียกว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัวได้น่ะนะ
ท้องฟ้าสีคราม –––––– หรือบางครั้งบางคราวก็อาจเรียกว่าเป็นท้องฟ้าในฤดูใบไม้ร่วงก็ได้
ถึงนี่จะเข้าเดือนกันยายนแล้ว แต่แสงแดดจากดวงอาทิตย์ก็ยังคงเจิดจ้าแผดเผาอยู่ไม่คลาย
เพื่อที่จะหลบเลี่ยงขุมนรกนั่นก็เลยมานั่งกินข้าวกล่องกันที่พื้นใต้ร่มเงา ขณะที่กำลังคุยเรื่อยเปื่อยสนุกสนานกันเหมือนอย่างทุกครั้ง จู่ๆ ริกกะก็ป่าวประกาศเรื่องน่าเศร้านั่นออกมา
บางทีผมอาจจะกำลังน้ำตาคลอเบ้าอยู่ก็ได้
“ไม่ใช่แบบนั้นซักหน่อย”
ริกกะซังโมโหจนหน้ามุ่ย
ถึงจะไม่ได้บอกมาว่าเพราะอะไร และเพราะพักนี้เธอใส่ผ้าปิดตามาตลอด พอเห็นตาแค่ข้างเดียวเลยบอกอะไรไม่ค่อยได้ก็จริง แต่ตาซ้ายนั่นก็จ้องเขม็งมาที่ผมอย่างดุดัน
แต่ว่าไม่ใช่แบบนั้นงั้นสินะ…….โล่งอกไปทีแฮะ…….
“ขอโทษด้วยนะ……..ที่ด่วนคิดไปเองน่ะ……..แล้วอะไรที่น่าเบื่องั้นเหรอ?”
“คู่มือลับสุดยอด ☆ การรุกรานจากต่างดาว เล่มล่าสุดน่ะ”
นั่นก็คือ เป็นเรื่องเกี่ยวกับนิตยสารที่ริกกะชอบอ่าน
ยูเมฮะเองก็เคยยืมไปครั้งนึง แล้วก็มีรบเร้ามาว่า ‘ไว้เอามาให้ยืมอีกน้า––’ ด้วย ผมเองก็เคยลองอ่านเล่มต่อๆ มาเหมือนกัน แต่เนื้อหามันก็ค่อนข้างจะซ้ำซากกันจนปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ [Note: อ้างอิงเล่ม 1 ที่ริกกะให้ยูเมฮะยืม]
ก็นะ เพราะเรื่องมนุษย์ต่างดาวน่ะ มีแต่เรื่องที่เรายังไม่รู้อยู่เต็มไปหมด เพราะงั้นก็พอจะเข้าใจอยู่ว่าเรื่องที่พอจะเขียนได้มันก็เลยหมดไปเรื่อยๆ ด้วยแหละนะ
“อยากให้นำเสนอมนุษย์ต่างดาวเผ่าพันธุ์ใหม่ๆ บ้างจังเลยนะ”
“มนุษย์ต่างดาวเผ่าพันธุ์ใหม่ๆ…….? ประมาณไหนล่ะ…….?”
“พักนี้ในอนิเมมีมนุษย์ต่างดาวมาที่ญี่ปุ่นเต็มไปหมดเลยล่ะ น่าจะเอามานำเสนอบ้างนะ”
“ถ้าจะนำเสนอพวกนั้นมันก็ต้องเป็นในนิตยสารอนิเมไม่ใช่เรอะ!?”
อย่าง Mega◯i Magazine ไง! ไม่งั้นก็ NyanT◯PE! ……..พวกมนุษย์ต่างดาวสาวสวยที่เก็บงำความลับเอาไว้อะไรแบบนั้นไง
“มีมนุษย์ต่างดาวสายพันธ์ใหม่ที่อยากเห็นอยู่เยอะแยะเลยล่ะ! นี่ยูตะ เอาอะไรออกมาหน่อยสิ?”
“อย่ามาพูดเหมือนกับชั้นจะเอาอุปกรณ์วิเศษอะไรออกมาให้ง่ายๆ แบบนั้นสิ! ไม่มีทางหรอกนะ!” [Note: ตรงที่แปลอุปกรณ์วิเศษ จริงๆ คือคำว่า ひみつ道具 ที่แปลว่าเครื่องมือ/อุปกรณ์ลับ เอาไปค้นก็คือเรื่องแมวอ้วนสีฟ้าครับ]
“บู่…..ช่วยไม่ได้นะ ยูตะ มาช่วยกันอัญเชิญเถอะ!”
“มนุษย์ต่างดาวนี่มันอัญเชิญได้ด้วยเหรอ!?”
พูดถึงมนุษย์ต่างดาวก็ต้องคิดกันแหละนะว่าจะมารุกรานหรือแค่ผ่านมาดูเฉยๆ แต่ถึงยังงั้นก็ไม่ได้เป็นพวกปีศาจซักหน่อยนะ……. เพราะงั้น มนุษย์ต่างดาวที่จะมาเพราะถูกอัญเชิญน่ะ ไม่น่าจะมีหรอก
นี่นับรวมไปถึงว่าสามารถสื่อสารกันรู้เรื่องแล้วด้วยนะ
“Eloim Essaim, Eloim Essaim” [Note: エロイムエッサイム, エロイムエッサイム]
“ไม่ต้องมาร่ายเวท Balanga Balanga เลยนะ! แถมนั่น มันสำหรับเรียกปีศาจต่างหาก!” [Note: ดูคลิปครับ และ 悪魔 Akuma แปลว่าปีศาจ]
“งืม นั่นสินะ งั้นยูตะ รีบเต้นระบำอัญเชิญซะสิ”
“ไม่ใช่ละ ก็รู้ไม่ใช่เหรอ? ว่าชั้นน่ะเต้นไม่เป็นเลยแม้แต่นิดเดียวน่ะ…….”
“นั่นสินะ……..ยูตะน่ะนอกจากวิทยุกายบริหารบทแรกแล้วก็เต้นอย่างอื่นไม่ได้เลยนี่นะ……..ทั้งที่เป็นราชาปีศาจแท้ๆ แย่จริงๆ…….” [Note: ラジオ体操 Rajio taisō วิทยุกายบริหาร]
……..ไม่อยากให้พูดด้วยเสียงซึมเซาแบบนั้นเลยจริงๆ นะ เพราะทำเอารู้สึกแย่สุดๆ ไปเลย
แล้วที่พูดนั่นมันก็ไม่ใช่เต้นระบำด้วยนี่ มันกายบริหารต่างหาก
และถ้าให้พูดละก็ พอจะทำบทที่ 2 ได้บ้างแล้วต่างหากล่ะ!
ถึงแม้ว่าจะยังทำท่าเหยียดแขนขึ้น-ลงช้าไปจังหวะนึงก็เถอะ [Note: หากันเองนะว่าท่าไหนในคลิป 2]
“แล้วถ้าเป็นเรื่องเต้นระบำละก็ ริกกะน่าจะทำได้ดีกว่านะ เพราะงั้นริกกะเป็นคนเต้นจะไม่ดีกว่าเหรอ? อ๊ะ จะว่าไปแล้วก็อยากจะให้ลองเต้นแบบที่จะใช้แสดงในงานวัฒนธรรมให้ดูด้วยน่ะนะ!”
พอผมพูดเสร็จ ตัวของริกกะก็สะดุ้งขึ้นมา แล้วก็หันมาทางผมพร้อมด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจเหมือนกับที่เห็นเป็นประจำ
จากนั้นก็วางข้าวกล่องที่กำลังทานอยู่ลง ทำตาเหมือนกับจะบอกว่าเดี๋ยวจะทำให้ดู จากนั้นก็ลุกพรวดขึ้น แล้วก็มายืนจังก้าอยู่ตรงหน้าผม
“ช่วยไม่ได้นะ ให้เป็นกรณีพิเศษแค่กับยูตะละกัน”
พูดเสร็จ เธอก็ขยับไปครึ่งก้าวแล้วก็ตัดสินใจตีลังกาให้ดู
แน่นอนว่าเป็นตีลังกาแบบไปทางด้านข้างนะ
กระโปรงเปิดขึ้นมาแว่บนึง –––––– แต่ก็น่าแปลกมากที่ที่ตรงนั้นไม่หลุดออกมาให้เห็นเลย แต่ถึงยังงั้นก็ยังทำให้ใจเต้นตูมตามอยู่ดี
และถึงแม้จะไม่มีดนตรีก็ตาม แต่ท่าทางการเต้นที่น่ารักที่เธอแสดงออกมาให้ดูนั้นมันช่างน่าหลงใหลจริงๆ
เป็นการแสดงที่ริกกะยึดเวทีเอาไว้เพียงคนเดียว ในความหมายตามตัวอักษรเลยน่ะนะ
ถึงจะไม่เคยรู้ก็จริง แต่ท่าทางจะเป็นคนที่มีปฎิกิริยาที่ดีมากจริงๆ ด้วยสินะ
รู้สึกว่าทำได้ไม่แพ้พวกชมรมเต้นเลยล่ะ แต่ว่า นั่นมันก็เป็นเพราะผมประเมินด้วยความเอนเอียงสุดๆ ด้วยน่ะนะ
หลังจากที่ริกกะเต้นออกมาให้ดูส่วนนึงจนจบแล้ว ก็ยิ้มออกมาโดยไม่มีท่าทีเหนื่อยหอบเลยซักนิด
ผมเองก็ปรบมือให้กับริกกะด้วย
“เป็นไงบ้าง? ระบำครึกโครมของชั้น” [Note: 狂喜乱舞 Kyōki ranbu เต้นอย่างครึกครื้น]
“เอ๊ะ…..นี่กำลังดีใจอยู่งั้นรึเปล่า…..?”
ถึงจะเหมือนว่าดีใจที่สามารถเต้นออกมาให้ดูได้ก็จริง แต่บางทีอาจจะแค่เพราะอยากใช้สำนวนสุดเท่ที่ประกอบด้วยตัวคันจิ 4 ตัวแค่นั้นมากกว่าซะละมั้งนะ………
ผมทำเป็นกระแอมออกมาครั้งนึง
“อะแฮ่ม อืม ยอดมากจริงๆ! นี่เรียนรู้การเต้นจนช่ำชองแล้วงั้นเหรอ?”
“แน่อยู่แล้ว! สมบูรณ์แบบเลยล่ะ ถ้าใช้พลังของจาโอชินกังแล้วละก็ ไม่ว่าอะไรก็สามารถเรียนรู้จนชำนาญได้อย่างรวดเร็วเลยล่ะ นอกจากนั้น จาโอชินกังยังมีพลังในการลอกเลียนความสามารถได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย สามารถขโมยความสามารถของฝ่ายตรงข้ามมาได้อย่างไร้ข้อจำกัด ฮ่าาาาาาา คลื่นแสงวิหคเพลิงมาร!” [Note: 魔凰炎閃波 Maō-en sen ha]
“ขโมยความสามารถของชิชิมิยะมาเรียบร้อยแล้วเหรอเนี่ย!?”
“ใช้อันนี้ได้ด้วยนะ เพลิงรัก!” [Note: 恋の炎 Koi no honō ที่ยูตะใช้สู้ชิชิมิยะในเล่ม 2]
“ชะ ช่วยอย่าใช้ไอ้นั่นออกมาง่ายๆ จะเป็นพระคุณมากเลยล่ะ…….”
อยากทำอะไรแบบไหนก็ได้ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ
เชื่อขนมกินได้เลยว่าจาโอชินกังจะต้องมีพลังอะไรอย่างอื่นอยู่อีกแน่ๆ ล่ะ……..
บางทีจาโอชินกังคงสามารถ –––––– ควบคุมธาตุทั้ง 5 ได้ ควบคุมแรงโน้มถ่วงได้ บงการสภาพจิตใจได้ กำหนดโชคชะตาได้ จะว่าไปแล้วเมื่อวานก็มีพูดเหมือนกับจะควบคุมเวลาได้ด้วยนี่นะ
และดูเหมือนจะสามารถสลายพลังที่ใช้สลายพลังได้ด้วยอีก (พูดไปผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าเป็นพลังแบบไหน) ที่ว่าสุดแกร่งนั้นไม่ได้มีเอาโชว์เฉยๆ เลย [Note: ความสามารถที่ว่าคือ 能力無効化無効能力 nōryokumukōka mukō nōryoku ครับ]
ยังไงก็เถอะ ดูเหมือนว่าการแสดงของห้อง –––––– การแสดงเต้นนั้นคงจะสมบูรณ์แบบแล้วสินะ
ถ้ามันดูจะเป็นภาระกับริกกะเกินไปละก็ คงต้องขอโทษและบอกปฏิเสธรุ่นพี่อามานิจิไปอยู่หรอก แต่ดูเหมือนว่าอาจจะไม่จำเป็นต้องกังวลถึงขนาดนั้นก็ได้
(Chuunibyou LN Vol 3) บทที่ 4 ชมรมการละครอันเป็นเอกเทศ
เล่ม 3 บทที่ 1 2 3
บทนี้ยาวหน่อยนะครับ และ.....เธอคนนั้น...... มาแล้วครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้