นับถอยหลังอีก 3 ตอนอวสาน
เรื่องราวต่อเนื่องจากความที่แล้ว
" สิ่งที่มานากะสูญเสียไปก็คือ ความรู้สึกรักใคร่ที่มอบให้แก่ใครสักคน มานากะไม่อาจที่จะมอบความรักให้แก่ใครได้อีกแล้ว "
นั้นอาจะเป็นลูกศรปักอก ชายหนุ่มอกสามศอกอย่าง ฮิคาริ เข้าให้อย่างจังเบอร์ เพราะหมายความว่า แม้ตัวเองจะรักมานากะไปเท่าไร มานากะก็ไม่อาจจะรักกับตัวเองหรือกับคนอื่นในความรู้สึกแบบอื่นได้อีกต่อไปแล้ว
วันต่อมา วันนี้เริ่มต้นด้วย ความสุขของ มานากะที่เล่นกับอากิระอย่างสนุกสนานตามประสาเด็ก แต่สำหรับฮิคาริ เรื่องวิธีแก้ให้มานากะกลับมาเป็นแบบเดิม แม้จะถามจากปากอุโรโกะโดยตรง แต่คำตอบก็คือ
อุ - ข้าเองก็ไม่รู้วิธีเช่นกัน
อุ - แต่หากถึงเวลามันก็อาจจะกลับมา หรือไม่ ก็ไม่มีวันกลับมาเลยก็เป็นได้
ถึงจะรู้สึกสิ้นหวังก็ตามที แต่มันจะหาทางช่วยยังไงละ ?
( ฮิคาริมีแอบน้ำตาเล็ด แต่พยายามไม่ให้ใครเห็น )
สุดท้ายมิอุนะได้โผล่ออกมาช่วยไว้ทันโดยบอกว่า คุณพ่ออยากพบด้วยเรียกให้ไปที่ สมาคมชาวประมงด้วย
เข้า OP
จบ OP
เริ่มต้นตอนกันวันนี้คือ
ฮิคาริงานนี้คงต้องมีกล่าวขอบคุณมิอุนะแล้วละที่ช่วยเป็นระฆังพักยกให้ตัวเอง ปลีกตัวออกมาจาก มานากะ ได้ก่อนที่ตัวเองจะรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้จนร้องไห้ออกมาเป็นเด็ก แน่นอน มิอุนะเองก็รู้สึกขำเล็กน้อยที่ฮิคาริ
พูดแบบนั้น จนแอบแซวว่า ฮิคาริร้องไห้เหมือนเด็กๆเลย ทั้งที่ตัวฮิคาริบอกว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว คุยกันไปพลางก็มีว่ากันถึง คำพูดที่มานากะตั้งใจจะบอกหลังจบงานล่องนภาว่าแต่ก็ไม่รู้สักทีว่ามันคืออะไร
ตัวฮิคาริคิดว่า " คงไม่พ้นเรื่องของสึมุกุแน่ๆ " แต่ตัวมิอุนะกลับพูดประมาณว่าคนที่มานากะจะสารภาพรักน่าจะเป็นฮิคาริมากกว่า
ลงเอ๋ยที่ว่าฮิคารินึกถึงเรื่องตอนที่ไปสารภาพกับมานากะตอนคืนก่อนเริ่มงานล่องนภา ว่า " มันคงไม่มีทางเกิดขึ้นอีกแล้วละ " แต่มิอุนะมีข้อเสนอแนะดีๆว่า ลองเอาเรื่องที่อุโรโกะพูดไปบอกทุกคนให้ลองหาวิธีกันดูดีรึเปล่า เพราะถ้าสมมุติว่า มิอุนะเป็นฮิคาริ ตัวเองก็อยากจะรู้เหมือนว่า " คำพูด " ที่มานากะอยากจะบอกมันคืออะไร
แต่ฮิคาริกลับรู้สึกแต่เพียงว่า
ฮิ - ถึงบอกไปมันไม่มีอะไรที่พวกเราสามารถทำได้หรอก
ณ บ้านของสึมุกุ หลังบอกเรื่องทุกอย่างไปจนหมดเปลือก ถึงฮิคาริจะบอกคิดหาวิธีช่วยมานากะให้ที แต่สึมุกุกลับพูดในสิ่งที่ตรงกันข้ามว่า แล้วจะให้คิดหาวิธีอะไรอีกละ พวกเราต่างก็เข้าใจความรู้สึกกัน ทั้งช่วยกัน
แต่รอบนี้อาจจะช่วยมานากะไม่ได้เพราะเรื่องของความรู้สึกมันไม่ได้เรียบง่ายเหมือนการหาหมู่บ้านหรือการปลุกมานากะอีกแล้ว
อีกคนที่กลับคิดในเรื่องตรงกันข้ามก็คือ คานาเมะ เจ้าตัวกลับคิดว่า การที่มานากะรักใครไม่ได้อีกแล้วทั้งเธอดูมีความสุขไม่ร้อนทุกข์แบบนั้นอาจไม่ใช่ปัญหาอะไรใหญ่โตก็ได้
หลังผ่านความเห็นมา 2 คน ฮิคาริก็ยิ่งจะอารมณ์เสียขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงตาของ จิซากิ ตัวเธอกลับคิดว่า
จิ - ตัวชั้น..รู้สึกโล่งใจ..ขึ้นมานิดหน่อยนะ
ความเห็นของทั้ง 3 คนกลับไม่มีใครเห็นพ้องถึงวิธีช่วยมานากะเลยสักนิด จนตอนนั้นเองซายุที่ทนฟังมานานก็ต้องมีปากเสียงขึ้นมาสักหน่อยแล้วว่า
ซา - เลิกพูดอะไรเห็นแก่ตัวได้แล้ว!!!
มิ - ซายุ ?!
ซา - เอาแต่พูดโน้นพูดนี้ว่าเรื่องที่ไม่อาจมอบความรักให้กันได้มันเป็นเรื่องที่ดีอย่างนั้นแหละ มันเห็นแก่ตัวกันชัดๆเลย!!!
ว่าแล้วก็น้ำตาคลอเบ้าและความรู้สึกที่อัดแน่นในอกก็ระเบิดออกมา ด่าสารพัดว่าไม่เข้าใจความรู้สึกของคุณมานากะกันบ้างเหรอ ยังไม่ได้แม้แต่จะเข้าไปถามเลยด้วยซ้ำ ถึงคานาเมะจะพูดเพื่อให้หยุดก็ตาม แต่คงยากที่จะหยุดซายุไว้ได้อีกแล้ว
ซา - เลิกทำตัวเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว!!! นายมันก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยันค่ำแหละ!!! บ้าที่สุด!!!
มาม่ารอบนี้ลงท้ายคือ ซายุ และ ฮิคาริ เสียความรู้สึกกับ 3 เพื่อนรักอย่างมาก จนขอแยกตัวออกไปก่อนจะมองด้วยหางตาอย่างเย็นชาคู่นั้นทิ้งท้ายไว้ให้ 3 คนรู้สึกแย่ตามไปด้วย
ภายในเมือง ซายุที่ยังอารมณ์ค้างไม่หยุด ด่าโน้นด่านี้ใส่สารพัด จนฮิคาริที่ตามที่มาด้วยไม่พ้นต้องมีด่าใส่คานาเมะสักหน่อย
ฮิ - วันนี้พอก่อนเถอะ...โธ่เว็ย..ไอ้เบื้อกคานาเมะเว็ย!!
ซา - อย่าว่าคานาเมะว่า ไอ้เบื้อก นะ!!!
ฮิ - หา ? เธอเองก็ว่าเค้าเหมือนกันนิ
ซา - ที่ชั้นด่ามันคนละอย่างกันต่างหากละ!!
สุดท้ายซายุอ้างว่ามีการบ้านต้องรีบไปทำเลยขอตัวลากันแค่นี้ก่อน แต่ฮิคาริก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ว่าตกลงยัยนี้มันคิดอะไรอยู่กันแน่ ?
( พอดีที่ มานากะและอากิระ มาตามถึงที่พอดีเลยพามาเดินเล่นกันเลย )
ขอข้ามเล็กน้อย
จู่ๆ มานากะกลับพบบางสิ่งบางอย่างที่สะท้อนแสงตรงบ้านพักชาวประมงเก่าเข้า ซึ่งพอฮิคาริไปเก็บมาก็พบว่ามันคือ หินสะท้อนแสงก้อนเล็กๆ เท่านั้นแต่ฮิคาริบอกว่า
ฮิ - ไอ้นี้มัน...สิ่งที่ได้จาก ทากทะเลสีน้ำเงินท้องสีแดง นิ
แน่นอนว่า มานากะกลับรู้สึกว่าตัวเองเคยพูดอะไรกับ ทากทะเลสีน้ำเงินท้องสีแดงมาก่อนด้วย แต่จำไม่ได้ว่าเคยพูดอะไรไป
( ตรงนี้ฮิคาริบอกว่า หากเราไปพูดความในใจให้กับทากทะเลสีน้ำเงินท้องสีแดง ซึ่งถ้ามันออกมาเป็นหินสีขาวใส แสดงว่าความรู้สึกในใจดังกล่าวมันจะเป็นความจริงขึ้นมาได้ )
สุดท้ายคือ หินก้อนนั้นยกให้มานากะไป ซึ่งหลังกลับไปบ้านฮิคาริบอกเสริมให้มิอุนะฟังอีกว่า หินก้อนนั้นเป็นของมานากะ โดยเหตุผลว่า ดูจากสีและรูปร่างของหินมันยังไม่ประสานสัมพันธ์ดีเท่าไร โดยตัวเองคิดว่า ที่มานากะลืมเรื่องที่ตั้งใจจะบอกหลังจบงานล่องนภา อาจเพราะตัวเองได้ไปพูดกับ ทากทะเลสีน้ำเงินท้องสีแดงไว้ก็ได้ ซึ่งคิดว่าเรื่องดังกล่าวคงเป็นเรื่องของสึมุกุแน่ๆ เหตุผลเพราะ
ฮิ - ถ้าความรู้สึกที่บอกกับทากทะเลมันหนักแน่นมุ่งมั่นมาก บางที การไปขอให้คนที่มานากะ (น่าจะ) เคยรัก (อาจเป็นสึมุกุ) ช่วยรื้อฟื้นความรู้สึกอาจจะจำเรื่องราวทุกอย่างก็ได้
ฮิ - สิ่งที่ช่วยเธอคือความรู้สึกรักใคร่ที่เธอมอบให้กับคนๆนั้นแน่ๆ
มิอุนะคงกลุ้มใจไม่น้อยเลยต้องมีพูดสักนิดว่า
มิ - ถ้าคุณมานากะได้ความรู้สึกอันรักใคร่ที่มอบให้แก่ใครสักคนกลับมาแล้ว...เธอ..
ฮิ - แล้ว ?
มิ - (ส่ายหัว) เปล่าๆ ชั้นแค่จะบอกว่าเรื่องที่คานาเมะกับจิซาจิพูดในตอนนั้น คือฉันเองก็พอจะเข้าใจอยู่เหมือนกัน..แค่นั้นแหละ
มิอุนะเขินเกินกว่าจะพูดได้ เลยพยายามแก้ตัวให้พูดไปในประเด็นอื่นแทน ซึ่งตัวฮิคาริตอนนี้ที่นึกถึงเรื่อง
บางอย่างออกมาได้ว่า
ฮิ - อ๋อ ไอ้นั้นสินะ "ถ้าไม่ได้รักใครสักคนมาตั้งแต่แรกก็คงจะไม่ต้องมารู้สึกเสียใจแบบนี้" น่ะ ?
มิ - เอ๋ ?
ฮิ - ก็เธอเคยพูดแบบนี้เมื่อ 5 ปีก่อนนิ
( เรื่องนี้มิอุนะเคยพูดไว้ตอนที่ตัวเองกำลังเศร้าเสียใจเพราะการจะได้อาคาริมาเป็นแม่ใหม่ตัวเอง )
ฮิ - จริงอยู่ที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นยังไง ..อาจจะเป็นอย่างที่คานาเมะกับจิซากิพูดก็ได้ว่าปล่อยไว้แบบนี้อาจจะง่ายกว่า
ฮิ - มันก็คงง่ายนะถ้าเธอจำมันไม่ได้นะ
ฮิ - แต่ว่านะ... พอได้เห็นพวกเธอแล้วฉันก็คิดว่ามันจะต้องไม่ใช่แบบนั้นแน่ ๆ เลยล่ะ
ฮิ - ตัวเธอก็แสดงให้ชั้นเห็นเองนิ
มิ - เอ๋ ?
ฮิ - ก็เรื่องที่เธอสามารถเปิดใจรักอาคาริได้ไงละ
ฮิ - ความสุขแบบที่เป็นอยู่นี้มันถึงได้เกิดขึ้นยังไงล่ะ เพราะฉะนั้นฉันเลยอยากให้ยัยนั้นนึกออก... ว่าความรู้สึกที่ได้รักใครซักคนมันเป็นยังไง
มิ - ฮิคาริ
จบ ครึ่งแรก
{{Nagi no Asukara}} Ep.23 สำหรับชั้นแล้วตัวเธอเปรียบได้ดั่งท้องทะเล
เรื่องราวต่อเนื่องจากความที่แล้ว
" สิ่งที่มานากะสูญเสียไปก็คือ ความรู้สึกรักใคร่ที่มอบให้แก่ใครสักคน มานากะไม่อาจที่จะมอบความรักให้แก่ใครได้อีกแล้ว "
นั้นอาจะเป็นลูกศรปักอก ชายหนุ่มอกสามศอกอย่าง ฮิคาริ เข้าให้อย่างจังเบอร์ เพราะหมายความว่า แม้ตัวเองจะรักมานากะไปเท่าไร มานากะก็ไม่อาจจะรักกับตัวเองหรือกับคนอื่นในความรู้สึกแบบอื่นได้อีกต่อไปแล้ว
วันต่อมา วันนี้เริ่มต้นด้วย ความสุขของ มานากะที่เล่นกับอากิระอย่างสนุกสนานตามประสาเด็ก แต่สำหรับฮิคาริ เรื่องวิธีแก้ให้มานากะกลับมาเป็นแบบเดิม แม้จะถามจากปากอุโรโกะโดยตรง แต่คำตอบก็คือ
อุ - ข้าเองก็ไม่รู้วิธีเช่นกัน
อุ - แต่หากถึงเวลามันก็อาจจะกลับมา หรือไม่ ก็ไม่มีวันกลับมาเลยก็เป็นได้
ถึงจะรู้สึกสิ้นหวังก็ตามที แต่มันจะหาทางช่วยยังไงละ ?
( ฮิคาริมีแอบน้ำตาเล็ด แต่พยายามไม่ให้ใครเห็น )
สุดท้ายมิอุนะได้โผล่ออกมาช่วยไว้ทันโดยบอกว่า คุณพ่ออยากพบด้วยเรียกให้ไปที่ สมาคมชาวประมงด้วย
เข้า OP
จบ OP
เริ่มต้นตอนกันวันนี้คือ
ฮิคาริงานนี้คงต้องมีกล่าวขอบคุณมิอุนะแล้วละที่ช่วยเป็นระฆังพักยกให้ตัวเอง ปลีกตัวออกมาจาก มานากะ ได้ก่อนที่ตัวเองจะรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้จนร้องไห้ออกมาเป็นเด็ก แน่นอน มิอุนะเองก็รู้สึกขำเล็กน้อยที่ฮิคาริ
พูดแบบนั้น จนแอบแซวว่า ฮิคาริร้องไห้เหมือนเด็กๆเลย ทั้งที่ตัวฮิคาริบอกว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว คุยกันไปพลางก็มีว่ากันถึง คำพูดที่มานากะตั้งใจจะบอกหลังจบงานล่องนภาว่าแต่ก็ไม่รู้สักทีว่ามันคืออะไร
ตัวฮิคาริคิดว่า " คงไม่พ้นเรื่องของสึมุกุแน่ๆ " แต่ตัวมิอุนะกลับพูดประมาณว่าคนที่มานากะจะสารภาพรักน่าจะเป็นฮิคาริมากกว่า
ลงเอ๋ยที่ว่าฮิคารินึกถึงเรื่องตอนที่ไปสารภาพกับมานากะตอนคืนก่อนเริ่มงานล่องนภา ว่า " มันคงไม่มีทางเกิดขึ้นอีกแล้วละ " แต่มิอุนะมีข้อเสนอแนะดีๆว่า ลองเอาเรื่องที่อุโรโกะพูดไปบอกทุกคนให้ลองหาวิธีกันดูดีรึเปล่า เพราะถ้าสมมุติว่า มิอุนะเป็นฮิคาริ ตัวเองก็อยากจะรู้เหมือนว่า " คำพูด " ที่มานากะอยากจะบอกมันคืออะไร
แต่ฮิคาริกลับรู้สึกแต่เพียงว่า
ฮิ - ถึงบอกไปมันไม่มีอะไรที่พวกเราสามารถทำได้หรอก
ณ บ้านของสึมุกุ หลังบอกเรื่องทุกอย่างไปจนหมดเปลือก ถึงฮิคาริจะบอกคิดหาวิธีช่วยมานากะให้ที แต่สึมุกุกลับพูดในสิ่งที่ตรงกันข้ามว่า แล้วจะให้คิดหาวิธีอะไรอีกละ พวกเราต่างก็เข้าใจความรู้สึกกัน ทั้งช่วยกัน
แต่รอบนี้อาจจะช่วยมานากะไม่ได้เพราะเรื่องของความรู้สึกมันไม่ได้เรียบง่ายเหมือนการหาหมู่บ้านหรือการปลุกมานากะอีกแล้ว
อีกคนที่กลับคิดในเรื่องตรงกันข้ามก็คือ คานาเมะ เจ้าตัวกลับคิดว่า การที่มานากะรักใครไม่ได้อีกแล้วทั้งเธอดูมีความสุขไม่ร้อนทุกข์แบบนั้นอาจไม่ใช่ปัญหาอะไรใหญ่โตก็ได้
หลังผ่านความเห็นมา 2 คน ฮิคาริก็ยิ่งจะอารมณ์เสียขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงตาของ จิซากิ ตัวเธอกลับคิดว่า
จิ - ตัวชั้น..รู้สึกโล่งใจ..ขึ้นมานิดหน่อยนะ
ความเห็นของทั้ง 3 คนกลับไม่มีใครเห็นพ้องถึงวิธีช่วยมานากะเลยสักนิด จนตอนนั้นเองซายุที่ทนฟังมานานก็ต้องมีปากเสียงขึ้นมาสักหน่อยแล้วว่า
ซา - เลิกพูดอะไรเห็นแก่ตัวได้แล้ว!!!
มิ - ซายุ ?!
ซา - เอาแต่พูดโน้นพูดนี้ว่าเรื่องที่ไม่อาจมอบความรักให้กันได้มันเป็นเรื่องที่ดีอย่างนั้นแหละ มันเห็นแก่ตัวกันชัดๆเลย!!!
ว่าแล้วก็น้ำตาคลอเบ้าและความรู้สึกที่อัดแน่นในอกก็ระเบิดออกมา ด่าสารพัดว่าไม่เข้าใจความรู้สึกของคุณมานากะกันบ้างเหรอ ยังไม่ได้แม้แต่จะเข้าไปถามเลยด้วยซ้ำ ถึงคานาเมะจะพูดเพื่อให้หยุดก็ตาม แต่คงยากที่จะหยุดซายุไว้ได้อีกแล้ว
ซา - เลิกทำตัวเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว!!! นายมันก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยันค่ำแหละ!!! บ้าที่สุด!!!
มาม่ารอบนี้ลงท้ายคือ ซายุ และ ฮิคาริ เสียความรู้สึกกับ 3 เพื่อนรักอย่างมาก จนขอแยกตัวออกไปก่อนจะมองด้วยหางตาอย่างเย็นชาคู่นั้นทิ้งท้ายไว้ให้ 3 คนรู้สึกแย่ตามไปด้วย
ภายในเมือง ซายุที่ยังอารมณ์ค้างไม่หยุด ด่าโน้นด่านี้ใส่สารพัด จนฮิคาริที่ตามที่มาด้วยไม่พ้นต้องมีด่าใส่คานาเมะสักหน่อย
ฮิ - วันนี้พอก่อนเถอะ...โธ่เว็ย..ไอ้เบื้อกคานาเมะเว็ย!!
ซา - อย่าว่าคานาเมะว่า ไอ้เบื้อก นะ!!!
ฮิ - หา ? เธอเองก็ว่าเค้าเหมือนกันนิ
ซา - ที่ชั้นด่ามันคนละอย่างกันต่างหากละ!!
สุดท้ายซายุอ้างว่ามีการบ้านต้องรีบไปทำเลยขอตัวลากันแค่นี้ก่อน แต่ฮิคาริก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ว่าตกลงยัยนี้มันคิดอะไรอยู่กันแน่ ?
( พอดีที่ มานากะและอากิระ มาตามถึงที่พอดีเลยพามาเดินเล่นกันเลย )
ขอข้ามเล็กน้อย
จู่ๆ มานากะกลับพบบางสิ่งบางอย่างที่สะท้อนแสงตรงบ้านพักชาวประมงเก่าเข้า ซึ่งพอฮิคาริไปเก็บมาก็พบว่ามันคือ หินสะท้อนแสงก้อนเล็กๆ เท่านั้นแต่ฮิคาริบอกว่า
ฮิ - ไอ้นี้มัน...สิ่งที่ได้จาก ทากทะเลสีน้ำเงินท้องสีแดง นิ
แน่นอนว่า มานากะกลับรู้สึกว่าตัวเองเคยพูดอะไรกับ ทากทะเลสีน้ำเงินท้องสีแดงมาก่อนด้วย แต่จำไม่ได้ว่าเคยพูดอะไรไป
( ตรงนี้ฮิคาริบอกว่า หากเราไปพูดความในใจให้กับทากทะเลสีน้ำเงินท้องสีแดง ซึ่งถ้ามันออกมาเป็นหินสีขาวใส แสดงว่าความรู้สึกในใจดังกล่าวมันจะเป็นความจริงขึ้นมาได้ )
สุดท้ายคือ หินก้อนนั้นยกให้มานากะไป ซึ่งหลังกลับไปบ้านฮิคาริบอกเสริมให้มิอุนะฟังอีกว่า หินก้อนนั้นเป็นของมานากะ โดยเหตุผลว่า ดูจากสีและรูปร่างของหินมันยังไม่ประสานสัมพันธ์ดีเท่าไร โดยตัวเองคิดว่า ที่มานากะลืมเรื่องที่ตั้งใจจะบอกหลังจบงานล่องนภา อาจเพราะตัวเองได้ไปพูดกับ ทากทะเลสีน้ำเงินท้องสีแดงไว้ก็ได้ ซึ่งคิดว่าเรื่องดังกล่าวคงเป็นเรื่องของสึมุกุแน่ๆ เหตุผลเพราะ
ฮิ - ถ้าความรู้สึกที่บอกกับทากทะเลมันหนักแน่นมุ่งมั่นมาก บางที การไปขอให้คนที่มานากะ (น่าจะ) เคยรัก (อาจเป็นสึมุกุ) ช่วยรื้อฟื้นความรู้สึกอาจจะจำเรื่องราวทุกอย่างก็ได้
ฮิ - สิ่งที่ช่วยเธอคือความรู้สึกรักใคร่ที่เธอมอบให้กับคนๆนั้นแน่ๆ
มิอุนะคงกลุ้มใจไม่น้อยเลยต้องมีพูดสักนิดว่า
มิ - ถ้าคุณมานากะได้ความรู้สึกอันรักใคร่ที่มอบให้แก่ใครสักคนกลับมาแล้ว...เธอ..
ฮิ - แล้ว ?
มิ - (ส่ายหัว) เปล่าๆ ชั้นแค่จะบอกว่าเรื่องที่คานาเมะกับจิซาจิพูดในตอนนั้น คือฉันเองก็พอจะเข้าใจอยู่เหมือนกัน..แค่นั้นแหละ
มิอุนะเขินเกินกว่าจะพูดได้ เลยพยายามแก้ตัวให้พูดไปในประเด็นอื่นแทน ซึ่งตัวฮิคาริตอนนี้ที่นึกถึงเรื่อง
บางอย่างออกมาได้ว่า
ฮิ - อ๋อ ไอ้นั้นสินะ "ถ้าไม่ได้รักใครสักคนมาตั้งแต่แรกก็คงจะไม่ต้องมารู้สึกเสียใจแบบนี้" น่ะ ?
มิ - เอ๋ ?
ฮิ - ก็เธอเคยพูดแบบนี้เมื่อ 5 ปีก่อนนิ
( เรื่องนี้มิอุนะเคยพูดไว้ตอนที่ตัวเองกำลังเศร้าเสียใจเพราะการจะได้อาคาริมาเป็นแม่ใหม่ตัวเอง )
ฮิ - จริงอยู่ที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นยังไง ..อาจจะเป็นอย่างที่คานาเมะกับจิซากิพูดก็ได้ว่าปล่อยไว้แบบนี้อาจจะง่ายกว่า
ฮิ - มันก็คงง่ายนะถ้าเธอจำมันไม่ได้นะ
ฮิ - แต่ว่านะ... พอได้เห็นพวกเธอแล้วฉันก็คิดว่ามันจะต้องไม่ใช่แบบนั้นแน่ ๆ เลยล่ะ
ฮิ - ตัวเธอก็แสดงให้ชั้นเห็นเองนิ
มิ - เอ๋ ?
ฮิ - ก็เรื่องที่เธอสามารถเปิดใจรักอาคาริได้ไงละ
ฮิ - ความสุขแบบที่เป็นอยู่นี้มันถึงได้เกิดขึ้นยังไงล่ะ เพราะฉะนั้นฉันเลยอยากให้ยัยนั้นนึกออก... ว่าความรู้สึกที่ได้รักใครซักคนมันเป็นยังไง
มิ - ฮิคาริ
จบ ครึ่งแรก