ต่อคะ จากบล๊อกที่เเล้ว
http://ppantip.com/topic/31715006
หลังจากเข้าสู่วันที่ 2 ของการเดนทาง เช้านี้เราก็เลยจัดหนักคะ ทานอาหารท้องถิ่นของเกาะบาหลีที่โรงเเรมมีจัดเป็นบุฟเฟ่ไว้ให้คะ
อาหารต้องสอบถามกันดีๆคะ เพราะว่าเราไม่ทานเนื้อวัว เเล้วคนที่นี่ 90% เป็นชาวมุสสลิมคะ ดังนั้นเค้าก็ไม่ทานเนื้อหมู เราก็เลยต้องขอไก่อย่างเดียวคะ ทริปนี้กินไก่เยอะมาก 55555 ยังคะ ยังไม่ได้ลากไปกินในน้ำ เดี๋ยวมันครบสูตรเกินไป
ayam อ่านว่า อะยำ คะ เเปลเป็นไทยได้ว่า ไก่ คะ ! จำได้คำเดียว เผื่อไว้เวลากินคะ
อันนี้เป็นโจ๊กยามเช้า ค่อนข้างต่างจากเรานิดนึงคือน้ไจะใสไม่ข้น เเล้วมีการโรยพวกฝอยไก่ ถั่ว ผัก โอ๊ะ !!! อยากบอกว่าชอบมาก อร่อยเข้าตากรรมการคะ กรรมการเลยกินมันทุกวันเลยคะ เสียเเต่หาซื้อถุงไม่ได้ ว่าจะตักกลับมากินบ้านเสียหน่อย 5555 โฮะๆๆ
วันนี้ตั้งใจว่าจะต้องตื่นสัก 8 โมงเช้า เพื่อจะได้ไม่ร้อนเเละเผื่อเวลาเที่ยวได้เยอะๆ ปรากฎโน่นคะ 10 โมง ขนาดตั้งปลุกสามรอบ ไม่ช่วยอะไรเลย ครั้งหน้าคงต้องเอาหอระฆังใส่กระเป๋ามาด้วยเเล้วละ ถ้าจะตื่นกันยากเย็นขนาดนี้ 55555
เราติดต่อขอให้ทางโรงเเรมช่วยหามอเตอร์ไซด์เช้าให้หน่อย เพราะเมื่อวานเราไม่เห็นที่ขายทัวร์หรือให้เช่ารถเลย ก็คิดว่ายังไงเช้าโรงเเรมนี้เเล้วก็ให้โรงเเรมหาให้ด้วยเลย โรงเเรมก็โทรกริ๊งเดียวคะ มอไซด์มาเกย เพื่อนคู่คิดที่ไปด้วยก็ง๊องเเง๊งคะจะเอาพีซีเอ๊ก ซึ่งเค้าไม่เอาดรีมมาให้ขี่ก็บุญละ เป็นฮอนด้าคลิ๊กคะ สภาพก็ไม่ค่อยคลิ๊กกับเราคะ ขี่ไปหัวสั่นไป ไม่ใช่คนคะ รถคะ เเต่คนที่เอารถมาให้เช่านี่นิสัยดีมาก น่ารัก พูดจ้อเก่งมากคะ เป็นผู้ชายสีผิวเข้มๆเหมือนคนบ้านเรา เพื่อนคู่คิดของเรายังบอกเลยว่าถ้าฉันไม่ได้มากับเธอ ฉันคงคิดว่าเธอเป็นน้องสาวเขา ..... ดีมากกก ==!
ออกเดินทางละคะ เพ้อมาก ! เค้าให้เราเอารถไปเติมน้ำมันก่อน เเล้วมีการเน้น ถ้าขี่นานก็หยุดบ้างนะ รถมันไม่ค่อยดี อืมมมมมม 555555
รถขายกับข้าวคะ บ้านเราเป็นปิ๊กอัพ ที่นี่เป็นมอไซด์คะ ง่ายๆๆ เบิ๊ดๆๆ ตอนเเรกนึกว่ากรงจับนก เฮ่อ !
ป้าขายของ....คุยกับเราดิบดีเลยคะ !!! เเต่ป้าก็เงิบเลยยยคะ เพราะเราฟังไม่ออกสักคำ ยืนยิ้มต๊องอยู่ตรงนั้น 5555
เเวะเติมน้ำมันร้านป้านี่ละคะ อยากจะช๊อคกับราคาน้ำมัน.....น้ำมันเบรนซิลลลลลลล ลิตรละ 20 บาท อร๊ากกกก !
บ้านเราจะ 50 เเล้วคร้าาา คนไทยอยากขนน้ำมันกลับบ้านนนนนทันที ทันใด ถูกมากกก !!!
เจอเเล้วววทะเลเบื้องล่าง....งดงามเสียนี่กระไร ! ขับรถจาก เชงกีกิเลยมาเรื่อยๆก็จะเป็น Malimbu คะ ที่นี่เริ่มพอจะเห็นนักท่องเที่ยวบ้างเเล้วประปราย เพราะมีโรงเเรมระดับห้าดาวอู่เเถวนี้ด้วยคะ เดี๋ยวดาวขอเเวะค้นร้านของชำเเปปนะคะ เซ้นมันบอกว่าต้องเดินทางกันยาว เลยต้องตุนของกินคะ เพราะเราตั้งใจจะขับรถเที่ยวรอบเกาะเรื่อยๆ เเละก็ไม่ได้เอ๊ะใจเลยว่า เกาะมันไม่ได้เล็กๆนะย๊ะ ตอนเเรกกะว่าจะขี่ไปให้ถึงภูเขาไฟเลยย น๊านนนน !!! เเมนมาก คนอื่นเค้านั่งรถยนต์ใช้เวลา 2-3 ชม. เราผู้คิดน้อยไปนิด เอ๊าะ สงสัยมันคงไม่ไกลอะไรขนาดนั้น เค้าพูดไปงั้นเเหละ ไม่คะ ไม่ได้พูดไปงั้นๆเลย T_T
มาดูความงามของ Malimbu ดีกว่าคะ อะเย๊ !! สวยจริงๆๆ
จากเบื้องบน ดำดิ่งสู่เบื้องล่าง เขาเยอะคะ เดี๋ยวก็ขี่ขึ้นขี่ลง
ต่อคะ ขับตรงมาเรื่อยๆไม่ได้ใช้เเผนที่อะไรเล้ยเพราะตั้งเเต่ขี่มามันยังไม่มีทางให้เลี้ยวเลยคะ ถ้าไม่ใช่ซอยเล็กๆเราก็บึ่งตรงมาเรื่อยๆ ก็มาถึงจุดชมวิวตรงนี้ ขอบอกว่า หน้าหาดไม่มีโรงเเรมเลยคะ เราสามารถขับลงไปได้เลย มีกระท่อมเล็กๆให้นั่งพัก เรียงรายพอสมควร ไม่มีใครมาไล่ ไม่มีใครมาเดินขายของ ได้ฟังเสียงคลื่น เสียงทะเล สงบมากจริงๆคะ
เเต่อันนี้เป็นรูปจากเบื้องบนคะ เพราะเราไม่ได้เเวะจุดนี้คะ เเวะมากเรากลัวจะสายซะก่อน ไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้
เป็นทางลงไปคะ เเต่มันจะเป็นเหลมนะคะ สามารถมองเห็นวิวทะเลได้จากเเหลมตรงนี้คะ
ร้อนมากคะ ! เเบบร้อนเเสบๆเเห้งๆอะคะ กันเเดดเอาไม่อยู่คะ เราก็เลยไม่กันเลย 55555 ท้าลมเเดดไปซะ เเต่ลุงเค้ายังไม่ท้ากับเรา ลองนึกดูคะว่าร้อนเเค่ไหน ตอนนี้เที่ยงๆเเล้วละคะ
วัวก็ร้อนคะ คนก็ร้อน....เกรียมคะ ทริปนี้ !
เบื้องล่างคะ เราขับรถเลยมาทางด้านหลังของเเหลมตรงนั้นเเล้วก็เเวะลงหน้าหาดซึ่งสวยคะ มีเรือเเบบนี้จอดอยู่เต็มเลยคะ เค้าไว้ใช้ทำการประมง ซึ่งเราไม่ทราบว่าเค้าเรียกว่าอะไรในภาษาเค้าอะ เเต่เห็นเยอะมากๆโดยเฉพาะหน้าโรงเเรมเรานี่เเหละ
เป็นกระต๊อบหลังเล็กๆคะ น่าจะเป็นของชาวประมงเเต่ไม่มีคนอยู่ ซึ่งเราก็เอนหลังเลยคะ ตากลมเเปป อากาศร้อนไปหน่อย
ไม่ยักกะมีคนลงเล่นเลยคะ ทั้งๆที่สวย น้ำใส
ระหว่างทางที่ข่มอไซด์ไป มีเเต่คนโบกไม้โบกมือให้คะ "Hello Hello" ตลอดทางเลยคะ เพื่อนคู่คิดเขาขาวนี่คะ เเอบป๊อปปูล่าเล็กๆๆ
เริ่มเข้าเมืองเเล้วคะ ดีมากๆๆเลยเพราะขี่มานานคะ ไม่เห็นร้านอาหารเลย ข้างขวาเป็นป่าข้างซ้ายเป็นทะเล เริ่มเอะใจเล็กน้อย เอ๊ะ เกาะนี้มันก้ไม่ได้เล็กๆนี่นา
วัดฮินดูเเห่งเเรกที่พบคะ เค้ากำลังบูรณะ พอดีเราเเต่งตัวไม่เรียบร้อยเค้าก็เลย ตะโกนอย่างดังอะคะ ให้ปเอาผ้าถุงมาใส่ก่อน ป้าที่ดูเเลเค้าหัวเสียใส่เราด้วยนะคะ ประมาณว่าเเกไม่รุ้รึไงเข้าวัดห้ามใส่สั้น T_T เเทบจะกราบขอโทษป้าคะ หนูเเค่จะถ่ายรูป งั้นถ่ายไกล๊ ไกลละกันเน๊าะ
ลำบากคะ....อ่านไม่ออก ไม่รู้อะไรยังไง น่าตาเป็นยังไง เเต่พ่อค้าพูดภาษาอังกฤษ ชัดเจนเลยคะ เลย อ่อ สั่งทุกอย่างที่เค้ามีอะคะ เอามาลองกัน
น้ำพริกคะ คล้ายน้ำพริกตาเเดง เเต่มันกว่ามาก เผ็ดเเบบพริกเม๊กซิโกอะคะ ไม่ใช่พริกป่นเเบบบ้านเรา
อ่อ ที่เขียนยาวๆทั้งหมด สรุปได้ว่าข้าวไก่ย่างนั้นเอง ไก่ออเเกนิคคะ พ่อค้าบอกเลี้ยงเอง เชือดเอง ต้มเอง ปรุงเอง คนกินก็นึกภาพตามสิคะ
เเพะ ! เเกงเเพะคะ ภริยาเจ้าของร้านเพิ่งต้มเสร็จ ตักมาให้เราถ้วยเเรก รสชาดจางๆเเบบน้ำเเกงจืดคะ เนื้อเเพะก็นิ่มๆๆ เพิ่งเคยทานเเพะเป้นครั้งเเรก อร่อยทีเดียว อ่อ ไม่ได้ถามว่าเป็นเเพะออเเกนิครึปล่าว ภาวนาอย่าให้เป็นเลยคะ !! ที่โซ้ยไปนี่ก็หลายชีวิตเเล้ว คนกินจะนอนไม่หลับเเล้ว T_T
ไก่สเต๊ะคะ ขายให้เห็นกันเยอะมากคะ อร่อยดีคะ น้ำที่ร้านจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม คิดว่าน่าจะมีถั่วอยู่ด้วย เพราะมันข้นเเล้วก็อร่อย คือใส่อะไรก็ไม่ค่อยได้สนใจเลยคะ ถึงเวลาก็กินอย่างเดียว
เป็นธุรกิจครอบครัวคะ ลูกค้าเป็นคนท้องถิ่น เรานั่งกินไปก็ตบเเมลงวันไปคะ เยอะมาก ! เพื่อนคู่คิดก็เกิดอาการเล็กน้อยเพราะไม่เคยกินอาหารท่ามกลางฝูงเเมลงวันเเบบนี้ คนเมืองหนาวก็เเบบนี้อะคะ เราไม่อยากให้เขารู้สึกเเย่ ก็เลยกินเเบ่งๆกับเเมลงวันกันไปคะ
ขอบอกว่าอร่อย เเละ เจ้าของน่ารักมาก ลดให้ด้วย เเต่คนเมืองหนาวเค้าเกิดตื้นตันเลยทิปค่าข้าวเกินราคาไปเกือบครึ่ง ==!
ร้านข้างๆขายผลไม้ตากเเห้งนี่เอง เราเลยต้องเเบ่งข้าวกับเเมลงวัน เหอๆๆ
เเวะเติมน้ำมันรอบที่ 2 คะ น้ำมันขวดป้าหมดไวมาก ราคาตกลิตรละ 21 บาทคะ ขนกลับบ้านได้ม๊าาาา?!
กลับโรงเเรมเเล้วคะ อันเนื่องมาจาก ตื่นสาย ตะวันเลยตกดินไว
ร้านขายข้าวโพดข้างทางคะ ข้าวโพดมีให้เบือกด้วยนะคะ เอาเผ็ดไหม? เผ็ดก็จะทาผงพริกให้ได้ เเต่เวลากินนี่ไม่ได้เผ็ดเเค่ในปากนะคะ หูเหอเเก้มอะไรนี่เเสบหมด ก็กินข้าวโพดอะ มันต้องเเทะนี่ เเล้วเราก็เน้นว่าเอาพริกเยอะๆ ดีเค้าไม่เทให้ทั้งกระป๋อง เผ็ดจี๊ดจิงๆๆ
เอาข้าวโพดกลับมาเเทะต่อที่โรงเเรม โรเเมนติกดีจัง ดูพระอาทิตย์ตกดินไปด้วยเเทะข้าวโพดไปด้วย
อาทิตย์อัสดงที่นี่ เป็นอะไรที่สงบเเละสวยเกินบรรยายคะ นึกถึงเเล้วยังอบอุ่นหัวใจจนถึงทุกวันนี้
จากจุดนี้มองเห็นภูเขาไฟด้วยคะ ลอยออกมาจากก้อนเมฆ ยังกับสวรรค์มันอยู่ตรงหน้าเราไม่มีผิด
ราตรีค่อยๆคลืบคลานมาเรื่อยๆ....ชีวิตหนอ มองจากตรงนี้ไปยังทะเลที่กว้างใหญ่ มีอะไรที่เรายังไม่ได้ทำ เเละทำไม่สำเร็จอีกเยอะ เราไม่ควรจะยอมเเพ้ เหมือนคลื่นทะเล ที่ซัดเข้าฝั่งอยุ่เรื่อยๆมันไม่เคยหยุดเเม้ว่าบางครั้งมันจะหมดพลังซัดเข้าฝั่งเบาๆ หรือจะบ้าคลั่งซัดถล่มฝั่งก็ตาม
ดินเเดนบาหลี....ตอน ต้องมนต์..เกาะลอมบอก Day 2
หลังจากเข้าสู่วันที่ 2 ของการเดนทาง เช้านี้เราก็เลยจัดหนักคะ ทานอาหารท้องถิ่นของเกาะบาหลีที่โรงเเรมมีจัดเป็นบุฟเฟ่ไว้ให้คะ
อาหารต้องสอบถามกันดีๆคะ เพราะว่าเราไม่ทานเนื้อวัว เเล้วคนที่นี่ 90% เป็นชาวมุสสลิมคะ ดังนั้นเค้าก็ไม่ทานเนื้อหมู เราก็เลยต้องขอไก่อย่างเดียวคะ ทริปนี้กินไก่เยอะมาก 55555 ยังคะ ยังไม่ได้ลากไปกินในน้ำ เดี๋ยวมันครบสูตรเกินไป
ayam อ่านว่า อะยำ คะ เเปลเป็นไทยได้ว่า ไก่ คะ ! จำได้คำเดียว เผื่อไว้เวลากินคะ
อันนี้เป็นโจ๊กยามเช้า ค่อนข้างต่างจากเรานิดนึงคือน้ไจะใสไม่ข้น เเล้วมีการโรยพวกฝอยไก่ ถั่ว ผัก โอ๊ะ !!! อยากบอกว่าชอบมาก อร่อยเข้าตากรรมการคะ กรรมการเลยกินมันทุกวันเลยคะ เสียเเต่หาซื้อถุงไม่ได้ ว่าจะตักกลับมากินบ้านเสียหน่อย 5555 โฮะๆๆ
วันนี้ตั้งใจว่าจะต้องตื่นสัก 8 โมงเช้า เพื่อจะได้ไม่ร้อนเเละเผื่อเวลาเที่ยวได้เยอะๆ ปรากฎโน่นคะ 10 โมง ขนาดตั้งปลุกสามรอบ ไม่ช่วยอะไรเลย ครั้งหน้าคงต้องเอาหอระฆังใส่กระเป๋ามาด้วยเเล้วละ ถ้าจะตื่นกันยากเย็นขนาดนี้ 55555
เราติดต่อขอให้ทางโรงเเรมช่วยหามอเตอร์ไซด์เช้าให้หน่อย เพราะเมื่อวานเราไม่เห็นที่ขายทัวร์หรือให้เช่ารถเลย ก็คิดว่ายังไงเช้าโรงเเรมนี้เเล้วก็ให้โรงเเรมหาให้ด้วยเลย โรงเเรมก็โทรกริ๊งเดียวคะ มอไซด์มาเกย เพื่อนคู่คิดที่ไปด้วยก็ง๊องเเง๊งคะจะเอาพีซีเอ๊ก ซึ่งเค้าไม่เอาดรีมมาให้ขี่ก็บุญละ เป็นฮอนด้าคลิ๊กคะ สภาพก็ไม่ค่อยคลิ๊กกับเราคะ ขี่ไปหัวสั่นไป ไม่ใช่คนคะ รถคะ เเต่คนที่เอารถมาให้เช่านี่นิสัยดีมาก น่ารัก พูดจ้อเก่งมากคะ เป็นผู้ชายสีผิวเข้มๆเหมือนคนบ้านเรา เพื่อนคู่คิดของเรายังบอกเลยว่าถ้าฉันไม่ได้มากับเธอ ฉันคงคิดว่าเธอเป็นน้องสาวเขา ..... ดีมากกก ==!
ออกเดินทางละคะ เพ้อมาก ! เค้าให้เราเอารถไปเติมน้ำมันก่อน เเล้วมีการเน้น ถ้าขี่นานก็หยุดบ้างนะ รถมันไม่ค่อยดี อืมมมมมม 555555
รถขายกับข้าวคะ บ้านเราเป็นปิ๊กอัพ ที่นี่เป็นมอไซด์คะ ง่ายๆๆ เบิ๊ดๆๆ ตอนเเรกนึกว่ากรงจับนก เฮ่อ !
ป้าขายของ....คุยกับเราดิบดีเลยคะ !!! เเต่ป้าก็เงิบเลยยยคะ เพราะเราฟังไม่ออกสักคำ ยืนยิ้มต๊องอยู่ตรงนั้น 5555
เเวะเติมน้ำมันร้านป้านี่ละคะ อยากจะช๊อคกับราคาน้ำมัน.....น้ำมันเบรนซิลลลลลลล ลิตรละ 20 บาท อร๊ากกกก !
บ้านเราจะ 50 เเล้วคร้าาา คนไทยอยากขนน้ำมันกลับบ้านนนนนทันที ทันใด ถูกมากกก !!!
เจอเเล้วววทะเลเบื้องล่าง....งดงามเสียนี่กระไร ! ขับรถจาก เชงกีกิเลยมาเรื่อยๆก็จะเป็น Malimbu คะ ที่นี่เริ่มพอจะเห็นนักท่องเที่ยวบ้างเเล้วประปราย เพราะมีโรงเเรมระดับห้าดาวอู่เเถวนี้ด้วยคะ เดี๋ยวดาวขอเเวะค้นร้านของชำเเปปนะคะ เซ้นมันบอกว่าต้องเดินทางกันยาว เลยต้องตุนของกินคะ เพราะเราตั้งใจจะขับรถเที่ยวรอบเกาะเรื่อยๆ เเละก็ไม่ได้เอ๊ะใจเลยว่า เกาะมันไม่ได้เล็กๆนะย๊ะ ตอนเเรกกะว่าจะขี่ไปให้ถึงภูเขาไฟเลยย น๊านนนน !!! เเมนมาก คนอื่นเค้านั่งรถยนต์ใช้เวลา 2-3 ชม. เราผู้คิดน้อยไปนิด เอ๊าะ สงสัยมันคงไม่ไกลอะไรขนาดนั้น เค้าพูดไปงั้นเเหละ ไม่คะ ไม่ได้พูดไปงั้นๆเลย T_T
มาดูความงามของ Malimbu ดีกว่าคะ อะเย๊ !! สวยจริงๆๆ
จากเบื้องบน ดำดิ่งสู่เบื้องล่าง เขาเยอะคะ เดี๋ยวก็ขี่ขึ้นขี่ลง
ต่อคะ ขับตรงมาเรื่อยๆไม่ได้ใช้เเผนที่อะไรเล้ยเพราะตั้งเเต่ขี่มามันยังไม่มีทางให้เลี้ยวเลยคะ ถ้าไม่ใช่ซอยเล็กๆเราก็บึ่งตรงมาเรื่อยๆ ก็มาถึงจุดชมวิวตรงนี้ ขอบอกว่า หน้าหาดไม่มีโรงเเรมเลยคะ เราสามารถขับลงไปได้เลย มีกระท่อมเล็กๆให้นั่งพัก เรียงรายพอสมควร ไม่มีใครมาไล่ ไม่มีใครมาเดินขายของ ได้ฟังเสียงคลื่น เสียงทะเล สงบมากจริงๆคะ
เเต่อันนี้เป็นรูปจากเบื้องบนคะ เพราะเราไม่ได้เเวะจุดนี้คะ เเวะมากเรากลัวจะสายซะก่อน ไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้
เป็นทางลงไปคะ เเต่มันจะเป็นเหลมนะคะ สามารถมองเห็นวิวทะเลได้จากเเหลมตรงนี้คะ
ร้อนมากคะ ! เเบบร้อนเเสบๆเเห้งๆอะคะ กันเเดดเอาไม่อยู่คะ เราก็เลยไม่กันเลย 55555 ท้าลมเเดดไปซะ เเต่ลุงเค้ายังไม่ท้ากับเรา ลองนึกดูคะว่าร้อนเเค่ไหน ตอนนี้เที่ยงๆเเล้วละคะ
วัวก็ร้อนคะ คนก็ร้อน....เกรียมคะ ทริปนี้ !
เบื้องล่างคะ เราขับรถเลยมาทางด้านหลังของเเหลมตรงนั้นเเล้วก็เเวะลงหน้าหาดซึ่งสวยคะ มีเรือเเบบนี้จอดอยู่เต็มเลยคะ เค้าไว้ใช้ทำการประมง ซึ่งเราไม่ทราบว่าเค้าเรียกว่าอะไรในภาษาเค้าอะ เเต่เห็นเยอะมากๆโดยเฉพาะหน้าโรงเเรมเรานี่เเหละ
เป็นกระต๊อบหลังเล็กๆคะ น่าจะเป็นของชาวประมงเเต่ไม่มีคนอยู่ ซึ่งเราก็เอนหลังเลยคะ ตากลมเเปป อากาศร้อนไปหน่อย
ไม่ยักกะมีคนลงเล่นเลยคะ ทั้งๆที่สวย น้ำใส
ระหว่างทางที่ข่มอไซด์ไป มีเเต่คนโบกไม้โบกมือให้คะ "Hello Hello" ตลอดทางเลยคะ เพื่อนคู่คิดเขาขาวนี่คะ เเอบป๊อปปูล่าเล็กๆๆ
เริ่มเข้าเมืองเเล้วคะ ดีมากๆๆเลยเพราะขี่มานานคะ ไม่เห็นร้านอาหารเลย ข้างขวาเป็นป่าข้างซ้ายเป็นทะเล เริ่มเอะใจเล็กน้อย เอ๊ะ เกาะนี้มันก้ไม่ได้เล็กๆนี่นา
วัดฮินดูเเห่งเเรกที่พบคะ เค้ากำลังบูรณะ พอดีเราเเต่งตัวไม่เรียบร้อยเค้าก็เลย ตะโกนอย่างดังอะคะ ให้ปเอาผ้าถุงมาใส่ก่อน ป้าที่ดูเเลเค้าหัวเสียใส่เราด้วยนะคะ ประมาณว่าเเกไม่รุ้รึไงเข้าวัดห้ามใส่สั้น T_T เเทบจะกราบขอโทษป้าคะ หนูเเค่จะถ่ายรูป งั้นถ่ายไกล๊ ไกลละกันเน๊าะ
ลำบากคะ....อ่านไม่ออก ไม่รู้อะไรยังไง น่าตาเป็นยังไง เเต่พ่อค้าพูดภาษาอังกฤษ ชัดเจนเลยคะ เลย อ่อ สั่งทุกอย่างที่เค้ามีอะคะ เอามาลองกัน
น้ำพริกคะ คล้ายน้ำพริกตาเเดง เเต่มันกว่ามาก เผ็ดเเบบพริกเม๊กซิโกอะคะ ไม่ใช่พริกป่นเเบบบ้านเรา
อ่อ ที่เขียนยาวๆทั้งหมด สรุปได้ว่าข้าวไก่ย่างนั้นเอง ไก่ออเเกนิคคะ พ่อค้าบอกเลี้ยงเอง เชือดเอง ต้มเอง ปรุงเอง คนกินก็นึกภาพตามสิคะ
เเพะ ! เเกงเเพะคะ ภริยาเจ้าของร้านเพิ่งต้มเสร็จ ตักมาให้เราถ้วยเเรก รสชาดจางๆเเบบน้ำเเกงจืดคะ เนื้อเเพะก็นิ่มๆๆ เพิ่งเคยทานเเพะเป้นครั้งเเรก อร่อยทีเดียว อ่อ ไม่ได้ถามว่าเป็นเเพะออเเกนิครึปล่าว ภาวนาอย่าให้เป็นเลยคะ !! ที่โซ้ยไปนี่ก็หลายชีวิตเเล้ว คนกินจะนอนไม่หลับเเล้ว T_T
ไก่สเต๊ะคะ ขายให้เห็นกันเยอะมากคะ อร่อยดีคะ น้ำที่ร้านจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม คิดว่าน่าจะมีถั่วอยู่ด้วย เพราะมันข้นเเล้วก็อร่อย คือใส่อะไรก็ไม่ค่อยได้สนใจเลยคะ ถึงเวลาก็กินอย่างเดียว
เป็นธุรกิจครอบครัวคะ ลูกค้าเป็นคนท้องถิ่น เรานั่งกินไปก็ตบเเมลงวันไปคะ เยอะมาก ! เพื่อนคู่คิดก็เกิดอาการเล็กน้อยเพราะไม่เคยกินอาหารท่ามกลางฝูงเเมลงวันเเบบนี้ คนเมืองหนาวก็เเบบนี้อะคะ เราไม่อยากให้เขารู้สึกเเย่ ก็เลยกินเเบ่งๆกับเเมลงวันกันไปคะ
ขอบอกว่าอร่อย เเละ เจ้าของน่ารักมาก ลดให้ด้วย เเต่คนเมืองหนาวเค้าเกิดตื้นตันเลยทิปค่าข้าวเกินราคาไปเกือบครึ่ง ==!
ร้านข้างๆขายผลไม้ตากเเห้งนี่เอง เราเลยต้องเเบ่งข้าวกับเเมลงวัน เหอๆๆ
เเวะเติมน้ำมันรอบที่ 2 คะ น้ำมันขวดป้าหมดไวมาก ราคาตกลิตรละ 21 บาทคะ ขนกลับบ้านได้ม๊าาาา?!
กลับโรงเเรมเเล้วคะ อันเนื่องมาจาก ตื่นสาย ตะวันเลยตกดินไว
ร้านขายข้าวโพดข้างทางคะ ข้าวโพดมีให้เบือกด้วยนะคะ เอาเผ็ดไหม? เผ็ดก็จะทาผงพริกให้ได้ เเต่เวลากินนี่ไม่ได้เผ็ดเเค่ในปากนะคะ หูเหอเเก้มอะไรนี่เเสบหมด ก็กินข้าวโพดอะ มันต้องเเทะนี่ เเล้วเราก็เน้นว่าเอาพริกเยอะๆ ดีเค้าไม่เทให้ทั้งกระป๋อง เผ็ดจี๊ดจิงๆๆ
เอาข้าวโพดกลับมาเเทะต่อที่โรงเเรม โรเเมนติกดีจัง ดูพระอาทิตย์ตกดินไปด้วยเเทะข้าวโพดไปด้วย
อาทิตย์อัสดงที่นี่ เป็นอะไรที่สงบเเละสวยเกินบรรยายคะ นึกถึงเเล้วยังอบอุ่นหัวใจจนถึงทุกวันนี้
จากจุดนี้มองเห็นภูเขาไฟด้วยคะ ลอยออกมาจากก้อนเมฆ ยังกับสวรรค์มันอยู่ตรงหน้าเราไม่มีผิด
ราตรีค่อยๆคลืบคลานมาเรื่อยๆ....ชีวิตหนอ มองจากตรงนี้ไปยังทะเลที่กว้างใหญ่ มีอะไรที่เรายังไม่ได้ทำ เเละทำไม่สำเร็จอีกเยอะ เราไม่ควรจะยอมเเพ้ เหมือนคลื่นทะเล ที่ซัดเข้าฝั่งอยุ่เรื่อยๆมันไม่เคยหยุดเเม้ว่าบางครั้งมันจะหมดพลังซัดเข้าฝั่งเบาๆ หรือจะบ้าคลั่งซัดถล่มฝั่งก็ตาม