ความขัดแย้งของสังคมไม่เพียงแค่ประเทศไทย แต่มันเกิดขึ้นแทบทุกภูมิภาคของโลก ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปกติ หรือว่ามันเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ
หากมันเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ ผมก็สงสัยว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆหรือ มันมีปัจจัยใดๆ ที่ก่อให้มันเกิดขึ้นมามั๊ย
จากการที่ต้องเฝ้าดูความขัดแย้งของสังคมที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ผมรู้สึกว่าสังคมของมนุษย์นั้นช่างเปราะบางและอ่อนแอเสียเหลือเกิน มันดูเป็นเรื่องง่ายๆ และดูเหมือนง่ายมาก ในการทำให้สังคมๆหนึ่งแตกแยก ผมยังมองไม่เห็นทางออกที่จะช่วยทำให้สังคมมนุษย์แข็งแกร่งขึ้นได้เลย
ในความคิดผมตอนนี้ ผมรู้สึกว่ามีปัจจัยต้องสงสัย ที่อาจจะเป็นตัวทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคมมนุษย์ครับ
ปัจจัยนั้นคือ Social Network
- การสื่อสารที่รวดเร็วและสะดวกสบาย ไม่ได้มีแต่เพียงข้อดีเสมอไป แต่มันก็เป็นช่องทางที่ง่ายและรวดเร็วในการแพร่กระจายข้อมูลที่ก่อให้เกิดความแตกแยก ซึ่งสิ่งนี้แหละที่เป็นตัวเร่งรัดให้เกิดความแตกแยก การบิดเบือนข้อมูลมันเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เปลี่ยนผิดเป็นถูก เปลี่ยนถูกเป็นผิด ดังนั้นกระแสความไม่พอใจ ความเกลียดชัง จะระบาดได้อย่างรวดเร็ว มันคล้ายๆ ไวรัสทางจิตใจที่ติดต่อผ่าน social network โดยผู้ที่รับสารและข้อมูลมักจะมีผู้คุ้มกันไม่สูงนัก เพราะภูมิคุ้มกัน(วิจารณญาณ) ถูกกดด้วยอารมณ์
- เทคโนโลยีในการสื่อสารพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วและเหมือนก้าวกระโดดในพริบตา มนุษย์ยังขาดภูมิคุ้มกัน จึงติดไวรัสSocial network ได้อย่างง่ายดาย ผมจึงสรุปว่า Social Network นี่ละตัวปัญหาครับ
ความเห็นส่วนตัวโปรดพิจารณา
ความขัดแย้งของสังคมมนุษย์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกตอนนี้ เป็นเรื่องบังเอิญ?
หากมันเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ ผมก็สงสัยว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆหรือ มันมีปัจจัยใดๆ ที่ก่อให้มันเกิดขึ้นมามั๊ย
จากการที่ต้องเฝ้าดูความขัดแย้งของสังคมที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ผมรู้สึกว่าสังคมของมนุษย์นั้นช่างเปราะบางและอ่อนแอเสียเหลือเกิน มันดูเป็นเรื่องง่ายๆ และดูเหมือนง่ายมาก ในการทำให้สังคมๆหนึ่งแตกแยก ผมยังมองไม่เห็นทางออกที่จะช่วยทำให้สังคมมนุษย์แข็งแกร่งขึ้นได้เลย
ในความคิดผมตอนนี้ ผมรู้สึกว่ามีปัจจัยต้องสงสัย ที่อาจจะเป็นตัวทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคมมนุษย์ครับ
ปัจจัยนั้นคือ Social Network
- การสื่อสารที่รวดเร็วและสะดวกสบาย ไม่ได้มีแต่เพียงข้อดีเสมอไป แต่มันก็เป็นช่องทางที่ง่ายและรวดเร็วในการแพร่กระจายข้อมูลที่ก่อให้เกิดความแตกแยก ซึ่งสิ่งนี้แหละที่เป็นตัวเร่งรัดให้เกิดความแตกแยก การบิดเบือนข้อมูลมันเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เปลี่ยนผิดเป็นถูก เปลี่ยนถูกเป็นผิด ดังนั้นกระแสความไม่พอใจ ความเกลียดชัง จะระบาดได้อย่างรวดเร็ว มันคล้ายๆ ไวรัสทางจิตใจที่ติดต่อผ่าน social network โดยผู้ที่รับสารและข้อมูลมักจะมีผู้คุ้มกันไม่สูงนัก เพราะภูมิคุ้มกัน(วิจารณญาณ) ถูกกดด้วยอารมณ์
- เทคโนโลยีในการสื่อสารพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วและเหมือนก้าวกระโดดในพริบตา มนุษย์ยังขาดภูมิคุ้มกัน จึงติดไวรัสSocial network ได้อย่างง่ายดาย ผมจึงสรุปว่า Social Network นี่ละตัวปัญหาครับ
ความเห็นส่วนตัวโปรดพิจารณา