ปปช.เงื่อนไขความขัดแย้งตัวใหม่

กระทู้สนทนา
เมื่อ ปปช.มีมติชี้มูลความผิด นายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว..มองในแง่ดีเราพบว่า
1.แสดงความรวดเร็วของการทำงาน ความเอาใจใส่ในการทำงาน
2.เป็นการดำเนินการอย่างจริงจังตามกรอบอำนาจหน้าที่
3.เป็นความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาของชาติที่เกี่ยวกับการคอรัปชั่นให้ปรากฎชัดแจ้ง

แต่หากมองในอีกแง่หนึ่งกลับกลายเป็นว่าเราเห็นความไม่ชอบมาพากลของการดำเนินงานครั้งนี้คือ
1.เป็นการดำเนินงานที่รวบรัดเกินไปหรือไม่ เพราะคดีที่ยื่นฟ้อง ปปช. ในกรณีจำนำข้าวของรัฐบาลอภิสิทธิ์เวลาผ่านมา 4 ปี ยังไม่คืบหน้า คดีทุจริตสถานีตำรวจ200กว่าสถานีหายไปไหน คดีเครื่องตรวจจับระเบิด ซีทีเอ็กซ์ลวงโลกหายไปไหน และอีกหลายคดีที่รัฐบาลชุดนายกอภิสิทธิ์โดนฟ้องร้องไม่มีความคืบหน้าเลย  หากเปรียบเทียบกับคดีของรัฐบาลนี้ซึ่งรวดเร็วและแซงหน้าคดีอื่นขึ้นมาทันที
2.การตัดสินชี้มูลแบบข้ามขั้นตอนเช่น แสดงให้เห็นชัดว่า ปปช. เป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างไ่ต้องสงสัย การกระทำเช่นนี้ย่อมทำให้ฝ่ายหนึ่งมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ความขัดแย้งยิ่งเพิ่มขึ้นเข้าสู่ขั้นแตกหักเร็วขึ้น
3.บทบาท ปปช. เองไม่สามารถแสดงถึงความชอบธรรมของตนเองต่อไปได้และไม่น่าเชื่อถือ ไม่น่าไว้วางใจในสายตาประชาชนอีกต่อไป โดยไม่มีข้ออ้างใด ๆ ผมทายว่าอีกไม่นานจะมีแรงกระทบโดยการใช้กำลังต่อ ปปช. แน่นอน

องค์กรอิสระบทบาทหลักคือความเป็นกลาง ถ้าท่านไม่กลางก็เท่ากับท่านสร้างความแตกแยกในสังคม..ปปช. กำลังแสดงออกซึ่งบทบาทนั้นอีกครั้งหนึ่ง..

สังคมไทยตอนนี้มันแตกแยก..ปัจจัยของความแตกแยกที่สำคัญคือ องค์กรกลางต่าง ๆ นี่เองที่ไม่แสดงบทบาทความเป็นกลาง..ท่านว่าจริงไหม..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่