ตองขอมาขึ้นกระทู้ใหม่นะคะ เพราะมีแฟนๆบ่นมาว่า กระทู้เก่าโหลดรูปยากแล้ว เพราะมันยาวมาก...
เอาเป็นว่าเราเว้นเรื่องอาหารสักแผ๊บแล้วกันนะคะ จะมาเล่าเรื่องการเรียนบ้าง...
เพราะช่วงนี้เรียนหนักเอาการค่ะ...วันละหกชั่วโมง...แบบว่าต้องเว้นภาษาฝรั่งเศสล้วนๆเพราะมาดามครูไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้เลย
หัวข้อว่า....
เป็นนักเรียนโค่ง....แต่ยังมีโค่งกว่า...!!
มารายงานผลของการเรียน เริ่มตั้งแต่ที่ไปเรียนเป็นวันแรกเมื่อสามอาทิตย์ที่แล้วค่ะ...
ตื่นแต่เช้า...ที่ต้องทานอาหารรองท้องไปบ้างไม่งั้นกลัวท้องไปร้องจ๊อก จ๊อก ให้เป็นที่น่าอับอาย...
แล้วก็จัดกระเป๋า...ที่มีสมุด ปากกา ดินสอ น้ำขวด แล้วก็ไอผอดอันเป็นอาวุธประจำกาย...
คุณสามีขับรถไปส่งตอน 8 โมงครึ่ง พร้อมกับอวยพรให้เรียนดีมีความสุข..แล้วเธอก็จากไปตีกอล์ฟ...
ดิฉันเดินขึ้นไปในสถาบันที่เรียน...ไปนั่งที่ห้องรับแขก เพราะเชื่อว่ายังเช้าอยู่ ยังไม่ถึงเวลาทำงาน...
จนได้เวลา...ผู้คนเดินเข้ามามากหน้าหลายตา...แต่ดูเหมือนเขาทราบอยู่แล้วว่าจะไปที่ห้องไหน...
ดิฉันจึงเข้าไปที่ออฟฟิซ เพื่อบอกให้เขาทราบว่า...ดิฉันได้เข้ามาเรียนวันแรก จะให้ไปที่ไหน?
ฝ่ายเลขาจึงถามชื่อ และดูเอกสารบนโต๊ะ...แล้วก็ให้ผู้ช่วยพาไปยังห้องเรียนหมายเลข 3 ที่มีโต๊ะยาวตั้งอยู่ พร้อมกับเก้าอี้สองฝั่ง
ฝั่งทางหัวและท้ายโต๊ะเป็นกระดานสอน...มีโทรทัศน์ตั้งอยู่เครื่องหนึ่ง และโต๊ะทำงานเล็กๆของครูผู้สอน...
เมื่อดิฉันเข้าไป...ได้มีคนอื่นๆนั่งอยู่แล้วประมาณ 10 คน...ชายหญิงจำนวนเท่าๆกัน...อายุก็อยู่ในวัยกลางคนเป็นส่วนใหญ่
ห้าคนเป็นพวกยูโรเปี้ยนฝั่งตะวันออก อีกสามหรือสี่คนเป็นมุสลิม...คนหนึ่งผิวดำ...
ดิฉันเป็นเอเชี่ยนอยู่คนเดียว...
ดูเหมือนพวกเขาจะเรียนกันมาหลายชั่วโมงพอสมควรแล้ว...(ยังงงว่า...ทำไมเขาถึงให้ดิฉันมาเริ่มเรียนกับกลุ่มนี้..)
แต่พอเขาแจกกระดาษแบบชีทแบบฝึกหัดมาให้...ก็ร้องอ๋อ...เพราะทุกคนเหมือนกันหมด...น่าจะเป็นพวกที่เรียน 300 ชั่วโมงนั่นเอง
ดิฉันได้เรียนแค่เกือบสองร้อยชั่วโมง...จึงมาทันกันตรงนี้...
ผู้ที่เข้าเรียนทุกคนจะเขียนป้ายชื่อของตัวเองในกระดาษและทำเป็นแผ่นพับ ตั้งไว้ข้างหน้า เพื่อที่ครูจะได้เรียกชื่อถูก...
ในกระดาษการสอนที่แจกมานั้น...เริ่มต้นด้วยการให้เขียน ชื่อ นามสกุล....ต่อมาคือ อายุ (แหม...มีแอบหงุดหงิดนะว้อยยย...)
และคำถามต่างๆ เกี่ยวกับเมืองทีเราอยู่นี้...และ เมืองสำคัญอะไรที่อยู่ถัดไปจากเรา...
ถามว่า...เราทำอะไรในเวลาว่าง
ถามว่า...เราอยู่ในราศีอะไร
ถามว่า...มีสัตว์เลี้ยงที่บ้านหรือไม่
และให้อธิบายถึงครอบครัว สมาชิกภายในบ้านทั้งหมด...
ถามว่า...ชอบวิชาอะไร (ในการเรียนที่ผ่านมา) มากที่สุด
และต่อด้วยว่า...ไม่ชอบอะไรมากที่สุด ทั้งหมดนี้...ต้องให้เหตุผลด้วย..
ต้องเขียนตอบเป็นภาษาฝรั่งเศสทั้งหมดค่ะ....จนดิฉันชักงงๆ ว่า...นี่ตรูมาเรียนหรือมาสอบชิงทุน Erasmus กันฟะเนี่ยยย...?
แต่ก็เอาเถอะ...ทั้งหมดนี้ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงเท่าไหร่นัก เพราะมีดิคชันนารีอยู่กับตัว...และทำตามที่คุณสามีเตือน...นั่นคือ ตอบทุกอย่างให้เป็นอย่างธรรมดา ภาษาง่ายๆเข้าไว้ ไม่ต้องไปทำสำบัดสำนวน...
ครูให้เวลานานพอสมควรค่ะ ประมาณเกือบ 45 นาทีได้มัง...จึงเดินมาตรวจดูคำตอบ...ที่ได้รับคำชมเชยพอสมควร...
ไม่ใช่แค่ในการตอบลงบนกระดาษเท่านั้น...เราทุกคนถูกเรียกเรียงตัวให้ตอบปากเปล่าทุกข้อ ตามข้อความที่เราเขียน...เหมือนกับครูกำลังชวนเราคุย...แต่ไม่ใช่ในคราวเดียวกัน
แล้วแต่ว่าครูจะเรียกตรงจุดนั่งตรงไหนก่อน...ในแต่ละข้อ...แล้วก็เรียงมาถึงเรา...
ในการตอบนั้น มีผิด มีพลาด ที่ครูจะช่วยแก้ให้ พร้อมทั้งอธิบายว่า ทำไม...และ อย่างไร....รวมทั้งขยายความในเรื่องอื่นๆด้วย (เป็นภาษาฝรั่งเศสล้วนๆ)
ตอนที่ประกาศชื่อเสร็จ...ต่อด้วยอายุ...(
มาถึงดิฉัน ที่เป็น soixante trois ans ไม่เห็นมีคนแปลกใจอะไร ทุกคนกลับเฉยๆ อาจเป็นเพราะมีวัยห้าสิบเศษหลายคนเหมือนกัน...
จนกระทั่งพอสายหน่อย...มีนักเรียนเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง (ประเภทมาสาย..เพราะมีเหตุจำเป็น) ดิฉันก็ถึงบางอ้อ...เพราะคนนี้เป็นรุ่นเก๋ากึ๊กที่นี่ เรียนมานานแล้ว แต่ยังไปไม่ถึงไหนเพราะภรรยาที่บ้านป่วย
เขาอายุ 72 เป็นชาวโปล์
นั่นคือช่วงเช้า....แล้วเราได้หยุดพักเที่ยง สองชั่วโมงที่ดิฉันกลับมาทานข้าวที่บ้าน มีสารถีไปคอยรับหน้าโรงเรียน ยังเล่าให้คุณสามีฟังว่า...เรียนสบายๆ ดิฉันต้องพูดให้เยอะกว่านี้จะได้ชิน
ตกบ่าย....กลับไปเข้าคลาสในเวลาบ่ายสองโมง....คราวนี้ของจริง...
แผ่นชีทมายาวเหยียดไปด้วยคำถาม...ถามอะไรแปลกๆ...เช่น..
มีแปลนจะทำอะไรหลังจากเลิกเรียนในวันนี้
มีความคิดที่จะประกอบอาชีพอะไรในวันข้างหน้า...
รสชาติของอาหาร...ชอบอะไรมากที่สุด และไม่ชอบอะไรมากที่สุด เพราะเหตุใด?
รสนิยมทางดนตรี...ชอบอะไร นักร้อง หรือ วงดนตรี และ ให้บอกชื่อ และเหตุผลที่ชอบ
รสนิยมทางนักแสดง....โปรดปรานดาราหญิง ชาย... คนไหนมากที่สุด
รสนิยมทางภาพยนตร์...ชอบภาพยนตร์ชนิดไหน...
รสนิยมทางโทรทัศน์....ชอบรายการอะไรมากที่สุด...ขอให้บอกเหตุผลด้วย...
เหมือนเดิม...คือต้องตอบทั้งหมด พร้อมเหตุผล...และรู้แล้วว่าจะต้องเรียกถามรายตัว..จึงต้องเขียนให้ค่อนข้างละเอียด...เพราะไม่งั้นเธอจะซักไซร้จนกว่าจะพอใจ...
ดิฉันในฐานะที่อยู่ในสายงานที่ถามพอดี ในเรื่องอาหาร...จึงตอบได้เยอะพอควร...จนดูเหมือนจะตอบอยู่คนเดียว
ทุกคนขำ...ที่ดิฉันตอบอย่างภาคภูมิใจว่า..
"J'aime toutes les nourritures sauf l'escarcot".
อ้าว...ก็ตรูไม่ชอบหอยทากนี่หว่า....อย่าว่าแต่หอยทากฝรั่งเศสเลย หอยขม หอมโข่ง ไม่เอาทั้งนั้น....
ก่อนเลิกเรียน...มีการให้ทุกคนเขียนลงในกระดาษชิ้นเล็กๆ..ถึงความเห็นในเรื่องการเรียน การสอน....
แล้วครูเอามาอ่านเรียงใบอีกด้วย...
กลับมาที่บ้าน...ก็ยุ่งจนมือเป็นระวิง...ไม่ได้เขียนเล่าเมื่อวาน เพราะตอนที่คุยกันกับเพื่อนร่วมชั้น ในเรื่องการทำอาหารทั้งอเมริกันและไทย...
เลยต้องทำมากาฮงไปแจกให้ชิมห้าสิบกว่าอันแน่ะ....
คุณสามีขับรถวันละสามรอบไปกลับ...จนต้องบอกว่า...กลางวันไม่ต้องไปรับก็ได้ เพราะเอาแซนวิชไปทานที่โรงเรียนก็ได้ จะได้นั่งอ่านหนังสือด้วย...
เขาว่า...ไม่ได้หรอก...เราจะทำอย่างนั้นกับหมากับแมวได้ยังไง...คุณไม่อยู่เจ้าอิปโป้มันไปนั่งเฝ้าอย่างกระวนกระวายอยู่ตรงประตูอยู่นั่นแล้ว...แว่บไปแว่บมาอย่างนี้ดีกว่า พวกมันจะได้สบายใจ...
อ้าววว....นึกว่าห่วงเรา...กลับกลายเป็นห่วงหมาห่วงแมวซะนี่....
กระทู้ที่แล้วค่ะ....
http://ppantip.com/topic/31635470
ปฏิทินแม่บ้านปัจฉิมวัย....ในฝรั่งเศส!! ตอนสอง
เอาเป็นว่าเราเว้นเรื่องอาหารสักแผ๊บแล้วกันนะคะ จะมาเล่าเรื่องการเรียนบ้าง...
เพราะช่วงนี้เรียนหนักเอาการค่ะ...วันละหกชั่วโมง...แบบว่าต้องเว้นภาษาฝรั่งเศสล้วนๆเพราะมาดามครูไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้เลย
หัวข้อว่า....
เป็นนักเรียนโค่ง....แต่ยังมีโค่งกว่า...!!
มารายงานผลของการเรียน เริ่มตั้งแต่ที่ไปเรียนเป็นวันแรกเมื่อสามอาทิตย์ที่แล้วค่ะ...
ตื่นแต่เช้า...ที่ต้องทานอาหารรองท้องไปบ้างไม่งั้นกลัวท้องไปร้องจ๊อก จ๊อก ให้เป็นที่น่าอับอาย...
แล้วก็จัดกระเป๋า...ที่มีสมุด ปากกา ดินสอ น้ำขวด แล้วก็ไอผอดอันเป็นอาวุธประจำกาย...
คุณสามีขับรถไปส่งตอน 8 โมงครึ่ง พร้อมกับอวยพรให้เรียนดีมีความสุข..แล้วเธอก็จากไปตีกอล์ฟ...
ดิฉันเดินขึ้นไปในสถาบันที่เรียน...ไปนั่งที่ห้องรับแขก เพราะเชื่อว่ายังเช้าอยู่ ยังไม่ถึงเวลาทำงาน...
จนได้เวลา...ผู้คนเดินเข้ามามากหน้าหลายตา...แต่ดูเหมือนเขาทราบอยู่แล้วว่าจะไปที่ห้องไหน...
ดิฉันจึงเข้าไปที่ออฟฟิซ เพื่อบอกให้เขาทราบว่า...ดิฉันได้เข้ามาเรียนวันแรก จะให้ไปที่ไหน?
ฝ่ายเลขาจึงถามชื่อ และดูเอกสารบนโต๊ะ...แล้วก็ให้ผู้ช่วยพาไปยังห้องเรียนหมายเลข 3 ที่มีโต๊ะยาวตั้งอยู่ พร้อมกับเก้าอี้สองฝั่ง
ฝั่งทางหัวและท้ายโต๊ะเป็นกระดานสอน...มีโทรทัศน์ตั้งอยู่เครื่องหนึ่ง และโต๊ะทำงานเล็กๆของครูผู้สอน...
เมื่อดิฉันเข้าไป...ได้มีคนอื่นๆนั่งอยู่แล้วประมาณ 10 คน...ชายหญิงจำนวนเท่าๆกัน...อายุก็อยู่ในวัยกลางคนเป็นส่วนใหญ่
ห้าคนเป็นพวกยูโรเปี้ยนฝั่งตะวันออก อีกสามหรือสี่คนเป็นมุสลิม...คนหนึ่งผิวดำ...
ดิฉันเป็นเอเชี่ยนอยู่คนเดียว...
ดูเหมือนพวกเขาจะเรียนกันมาหลายชั่วโมงพอสมควรแล้ว...(ยังงงว่า...ทำไมเขาถึงให้ดิฉันมาเริ่มเรียนกับกลุ่มนี้..)
แต่พอเขาแจกกระดาษแบบชีทแบบฝึกหัดมาให้...ก็ร้องอ๋อ...เพราะทุกคนเหมือนกันหมด...น่าจะเป็นพวกที่เรียน 300 ชั่วโมงนั่นเอง
ดิฉันได้เรียนแค่เกือบสองร้อยชั่วโมง...จึงมาทันกันตรงนี้...
ผู้ที่เข้าเรียนทุกคนจะเขียนป้ายชื่อของตัวเองในกระดาษและทำเป็นแผ่นพับ ตั้งไว้ข้างหน้า เพื่อที่ครูจะได้เรียกชื่อถูก...
ในกระดาษการสอนที่แจกมานั้น...เริ่มต้นด้วยการให้เขียน ชื่อ นามสกุล....ต่อมาคือ อายุ (แหม...มีแอบหงุดหงิดนะว้อยยย...)
และคำถามต่างๆ เกี่ยวกับเมืองทีเราอยู่นี้...และ เมืองสำคัญอะไรที่อยู่ถัดไปจากเรา...
ถามว่า...เราทำอะไรในเวลาว่าง
ถามว่า...เราอยู่ในราศีอะไร
ถามว่า...มีสัตว์เลี้ยงที่บ้านหรือไม่
และให้อธิบายถึงครอบครัว สมาชิกภายในบ้านทั้งหมด...
ถามว่า...ชอบวิชาอะไร (ในการเรียนที่ผ่านมา) มากที่สุด
และต่อด้วยว่า...ไม่ชอบอะไรมากที่สุด ทั้งหมดนี้...ต้องให้เหตุผลด้วย..
ต้องเขียนตอบเป็นภาษาฝรั่งเศสทั้งหมดค่ะ....จนดิฉันชักงงๆ ว่า...นี่ตรูมาเรียนหรือมาสอบชิงทุน Erasmus กันฟะเนี่ยยย...?
แต่ก็เอาเถอะ...ทั้งหมดนี้ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงเท่าไหร่นัก เพราะมีดิคชันนารีอยู่กับตัว...และทำตามที่คุณสามีเตือน...นั่นคือ ตอบทุกอย่างให้เป็นอย่างธรรมดา ภาษาง่ายๆเข้าไว้ ไม่ต้องไปทำสำบัดสำนวน...
ครูให้เวลานานพอสมควรค่ะ ประมาณเกือบ 45 นาทีได้มัง...จึงเดินมาตรวจดูคำตอบ...ที่ได้รับคำชมเชยพอสมควร...
ไม่ใช่แค่ในการตอบลงบนกระดาษเท่านั้น...เราทุกคนถูกเรียกเรียงตัวให้ตอบปากเปล่าทุกข้อ ตามข้อความที่เราเขียน...เหมือนกับครูกำลังชวนเราคุย...แต่ไม่ใช่ในคราวเดียวกัน
แล้วแต่ว่าครูจะเรียกตรงจุดนั่งตรงไหนก่อน...ในแต่ละข้อ...แล้วก็เรียงมาถึงเรา...
ในการตอบนั้น มีผิด มีพลาด ที่ครูจะช่วยแก้ให้ พร้อมทั้งอธิบายว่า ทำไม...และ อย่างไร....รวมทั้งขยายความในเรื่องอื่นๆด้วย (เป็นภาษาฝรั่งเศสล้วนๆ)
ตอนที่ประกาศชื่อเสร็จ...ต่อด้วยอายุ...(
มาถึงดิฉัน ที่เป็น soixante trois ans ไม่เห็นมีคนแปลกใจอะไร ทุกคนกลับเฉยๆ อาจเป็นเพราะมีวัยห้าสิบเศษหลายคนเหมือนกัน...
จนกระทั่งพอสายหน่อย...มีนักเรียนเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง (ประเภทมาสาย..เพราะมีเหตุจำเป็น) ดิฉันก็ถึงบางอ้อ...เพราะคนนี้เป็นรุ่นเก๋ากึ๊กที่นี่ เรียนมานานแล้ว แต่ยังไปไม่ถึงไหนเพราะภรรยาที่บ้านป่วย
เขาอายุ 72 เป็นชาวโปล์
นั่นคือช่วงเช้า....แล้วเราได้หยุดพักเที่ยง สองชั่วโมงที่ดิฉันกลับมาทานข้าวที่บ้าน มีสารถีไปคอยรับหน้าโรงเรียน ยังเล่าให้คุณสามีฟังว่า...เรียนสบายๆ ดิฉันต้องพูดให้เยอะกว่านี้จะได้ชิน
ตกบ่าย....กลับไปเข้าคลาสในเวลาบ่ายสองโมง....คราวนี้ของจริง...
แผ่นชีทมายาวเหยียดไปด้วยคำถาม...ถามอะไรแปลกๆ...เช่น..
มีแปลนจะทำอะไรหลังจากเลิกเรียนในวันนี้
มีความคิดที่จะประกอบอาชีพอะไรในวันข้างหน้า...
รสชาติของอาหาร...ชอบอะไรมากที่สุด และไม่ชอบอะไรมากที่สุด เพราะเหตุใด?
รสนิยมทางดนตรี...ชอบอะไร นักร้อง หรือ วงดนตรี และ ให้บอกชื่อ และเหตุผลที่ชอบ
รสนิยมทางนักแสดง....โปรดปรานดาราหญิง ชาย... คนไหนมากที่สุด
รสนิยมทางภาพยนตร์...ชอบภาพยนตร์ชนิดไหน...
รสนิยมทางโทรทัศน์....ชอบรายการอะไรมากที่สุด...ขอให้บอกเหตุผลด้วย...
เหมือนเดิม...คือต้องตอบทั้งหมด พร้อมเหตุผล...และรู้แล้วว่าจะต้องเรียกถามรายตัว..จึงต้องเขียนให้ค่อนข้างละเอียด...เพราะไม่งั้นเธอจะซักไซร้จนกว่าจะพอใจ...
ดิฉันในฐานะที่อยู่ในสายงานที่ถามพอดี ในเรื่องอาหาร...จึงตอบได้เยอะพอควร...จนดูเหมือนจะตอบอยู่คนเดียว
ทุกคนขำ...ที่ดิฉันตอบอย่างภาคภูมิใจว่า..
"J'aime toutes les nourritures sauf l'escarcot".
อ้าว...ก็ตรูไม่ชอบหอยทากนี่หว่า....อย่าว่าแต่หอยทากฝรั่งเศสเลย หอยขม หอมโข่ง ไม่เอาทั้งนั้น....
ก่อนเลิกเรียน...มีการให้ทุกคนเขียนลงในกระดาษชิ้นเล็กๆ..ถึงความเห็นในเรื่องการเรียน การสอน....
แล้วครูเอามาอ่านเรียงใบอีกด้วย...
กลับมาที่บ้าน...ก็ยุ่งจนมือเป็นระวิง...ไม่ได้เขียนเล่าเมื่อวาน เพราะตอนที่คุยกันกับเพื่อนร่วมชั้น ในเรื่องการทำอาหารทั้งอเมริกันและไทย...
เลยต้องทำมากาฮงไปแจกให้ชิมห้าสิบกว่าอันแน่ะ....
คุณสามีขับรถวันละสามรอบไปกลับ...จนต้องบอกว่า...กลางวันไม่ต้องไปรับก็ได้ เพราะเอาแซนวิชไปทานที่โรงเรียนก็ได้ จะได้นั่งอ่านหนังสือด้วย...
เขาว่า...ไม่ได้หรอก...เราจะทำอย่างนั้นกับหมากับแมวได้ยังไง...คุณไม่อยู่เจ้าอิปโป้มันไปนั่งเฝ้าอย่างกระวนกระวายอยู่ตรงประตูอยู่นั่นแล้ว...แว่บไปแว่บมาอย่างนี้ดีกว่า พวกมันจะได้สบายใจ...
อ้าววว....นึกว่าห่วงเรา...กลับกลายเป็นห่วงหมาห่วงแมวซะนี่....
กระทู้ที่แล้วค่ะ.... http://ppantip.com/topic/31635470