พูดถึงของป่า หลาย ๆ ท่านอาจจะคิดว่าเป็นของผิดกฎหมาย แต่ไม่ใช่ครับมันเป็นเพียง
ผลไม้ชนิดหนึ่ง ถ้าทางบ้านสล่าปู่เขาจะนำมาจากต้นที่ขึ้นในป่า ทางเหนือถิ่นสล่าปู่เรียก
"บะหนัง" หน้าตาเป็นอย่างนี้ครับ
เป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวมากถึงมากที่สุด และหาข้อมูลได้ยากมาก นิยมนำผลแก่มาซอย
ตากแห้ง ชงกินกับน้ำร้อนหรืออาจเก็บไว้ใส่ต้ม ใส่แกง อาศัยความเปรี้ยวแทนมะนาวยาม
ขาดแคลน หรือมีราคาแพงมาก ๆ
ชาวบ้านเข้าไปเก็บมาจากต้นในป่าครับ ทั้งหมดที่เห็นหนัก 7 ก.ก. ผลสดราคาก.ก.ละ 40 บาท
280 บาท ได้เท่านี้ครับ
"บะหนัง" ขออนุญาตทับศัพท์ไปพลาง ๆ ก่อน เผื่อเดี๋ยวมีพี่น้องภาคอื่นมาช่วยแลกเปลี่ยน
ว่าแต่ละที่ ละแห่ง เขาเรียกอะไร ชื่อเรียกกลาง ๆ ว่าอะไร
ยิ่งในปัจจุบันมีเสียงลือเสียงเล่าอ้าง ว่ากินแล้วสามารถป้องกันมะเร็งได้ ก็เลยเกิดกระแสขึ้นมา
7 ก.ก. กะเอามาซอยตากแห้งเก็บไว้ก่อน เรื่องอื่นพูดกันทีหลัง
ผ่าครึ่งให้ชมข้างในครับ
ผมจะไม่มานั่งซอยมือเด็ดขาด เพราะดูแล้วถ้าซอยมือน่าจะกินเวลาครึ่งค่อนวัน เอาเครื่อง
บด สับ ซอย มาลองว่าน่าจะใช้ได้นะ
จัดการผ่าออกเป็นชิ้น ๆ แคะเมล็ดข้างในออก 1 ผล มีเมล็ดต้องทิ้งเท่าที่เห็น
เตรียมซอย
ตรวจผลงาน ทั้งขนาด และความหนาบาง ได้ตามต้องการเลย
จัดการ ฟืด ๆ ไม่ถึง 2 นาที สำหรับการซอย 1 ผล
ใส่กระด้ง วางกลางแดดจัด
โล่งใจที่เหลือ ไม่งั้นหลังแข็ง มือพองแน่ ๆ จัดการชุดใหญ่ ทั้งผ่า ทั้งซอย แคะเมล็ด
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เรียบร้อย
หนึ่งบ่ายผ่านไป
ผมเคยซื้อที่เขาขายตามตลาดนัด แบบตากแห้งบรรจุถุงขายเพื่อเอามาชิม ถุงละ 50 บาท
แทบจะนับชิ้นได้ หวังว่าที่ทำนี้คงจะพอกินทั้งปี
ฝากด้วยนะครับ ท่านที่รู้จักหรือเคยเห็น ภาคหรือท้องถิ่นอื่น ๆ เขาเรียก "บะหนัง" นี้ว่าอะไรกันบ้าง
เดี๋ยวจะมีของกินได้เป็นผลไม้บ้าน ๆ แต่ก็หากินยากพอสมควรมาเสนอให้ชมอีก 1 อย่างนะครับ
มีทั้งของป่าและของบ้าน มาแบ่งปันและแลกเปลี่ยนกับพี่น้องภาคอื่นครับ
ผลไม้ชนิดหนึ่ง ถ้าทางบ้านสล่าปู่เขาจะนำมาจากต้นที่ขึ้นในป่า ทางเหนือถิ่นสล่าปู่เรียก
"บะหนัง" หน้าตาเป็นอย่างนี้ครับ
เป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวมากถึงมากที่สุด และหาข้อมูลได้ยากมาก นิยมนำผลแก่มาซอย
ตากแห้ง ชงกินกับน้ำร้อนหรืออาจเก็บไว้ใส่ต้ม ใส่แกง อาศัยความเปรี้ยวแทนมะนาวยาม
ขาดแคลน หรือมีราคาแพงมาก ๆ
ชาวบ้านเข้าไปเก็บมาจากต้นในป่าครับ ทั้งหมดที่เห็นหนัก 7 ก.ก. ผลสดราคาก.ก.ละ 40 บาท
280 บาท ได้เท่านี้ครับ
"บะหนัง" ขออนุญาตทับศัพท์ไปพลาง ๆ ก่อน เผื่อเดี๋ยวมีพี่น้องภาคอื่นมาช่วยแลกเปลี่ยน
ว่าแต่ละที่ ละแห่ง เขาเรียกอะไร ชื่อเรียกกลาง ๆ ว่าอะไร
ยิ่งในปัจจุบันมีเสียงลือเสียงเล่าอ้าง ว่ากินแล้วสามารถป้องกันมะเร็งได้ ก็เลยเกิดกระแสขึ้นมา
7 ก.ก. กะเอามาซอยตากแห้งเก็บไว้ก่อน เรื่องอื่นพูดกันทีหลัง
ผ่าครึ่งให้ชมข้างในครับ
ผมจะไม่มานั่งซอยมือเด็ดขาด เพราะดูแล้วถ้าซอยมือน่าจะกินเวลาครึ่งค่อนวัน เอาเครื่อง
บด สับ ซอย มาลองว่าน่าจะใช้ได้นะ
จัดการผ่าออกเป็นชิ้น ๆ แคะเมล็ดข้างในออก 1 ผล มีเมล็ดต้องทิ้งเท่าที่เห็น
เตรียมซอย
ตรวจผลงาน ทั้งขนาด และความหนาบาง ได้ตามต้องการเลย
จัดการ ฟืด ๆ ไม่ถึง 2 นาที สำหรับการซอย 1 ผล
ใส่กระด้ง วางกลางแดดจัด
โล่งใจที่เหลือ ไม่งั้นหลังแข็ง มือพองแน่ ๆ จัดการชุดใหญ่ ทั้งผ่า ทั้งซอย แคะเมล็ด
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เรียบร้อย
หนึ่งบ่ายผ่านไป
ผมเคยซื้อที่เขาขายตามตลาดนัด แบบตากแห้งบรรจุถุงขายเพื่อเอามาชิม ถุงละ 50 บาท
แทบจะนับชิ้นได้ หวังว่าที่ทำนี้คงจะพอกินทั้งปี
ฝากด้วยนะครับ ท่านที่รู้จักหรือเคยเห็น ภาคหรือท้องถิ่นอื่น ๆ เขาเรียก "บะหนัง" นี้ว่าอะไรกันบ้าง
เดี๋ยวจะมีของกินได้เป็นผลไม้บ้าน ๆ แต่ก็หากินยากพอสมควรมาเสนอให้ชมอีก 1 อย่างนะครับ